ผู้ที่เดินทางต่างประเทศในยุคนี้คงใช้บัตรทราเวลการ์ด (travel card) กันเป็นปกติแล้ว เนื่องจากมักให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีและไม่เสียค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% โดยล่าสุดบัตร YouTrip จากสิงคโปร์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ประกาศรองรับการผูกบัตรเข้ากับ Google Wallet แล้ว นับเป็นผู้ให้บริการรายที่ 6 และเป็นบัตรทราเวลการ์ดใบแรกของประเทศไทยที่รองรับการผูกบัตรกับ Google Wallet
นายณัฐพล ลือพร้อมชัย รองผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ เจนนี่ เชง รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Google Wallet ประกาศเปิดให้บริการผูกบัตรเครดิตวีซ่ากสิกรไทยเข้ากับ Google Pay ในแอปพลิเคชัน Google Wallet รองรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android เวอร์ชัน 7.0 ขึ้นไป
วิธีการผูกบัตรเครดิตวีซ่ากสิกรไทยเข้ากับ Google Wallet ทำได้ดังนี้
เมื่อกดยืนยันเสร็จก็พร้อมใช้บริการได้ทันที โดยผู้ใช้สามารถใช้สมาร์ทโฟนแตะจ่ายได้ทุกร้านที่มีสัญลักษณ์ Google Pay หรือ Contactless ได้ทั่วโลก
Google เปิดบริการ Google Wallet ในไทยมาได้ปีนิดๆ แต่ยังมีธนาคารไทยที่เข้าร่วมเพียง 2 รายคือธนาคารกรุงเทพ และกรุงไทย (KTC) หลังจากนั้น TrueMoney Mastercard ก็เข้าร่วมและไม่มีธนาคารรายใดเข้าร่วมเพิ่มอีกเลยมาเกือบปี
ล่าสุดวันนี้ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ttb ได้รองรับการใช้งาน Google Wallet แล้ว ผู้ถือบัตรเครดิต ttb Visa สามารถเพิ่มบัตรเข้า Google Wallet ได้เลย ถือเป็นธนาคารไทยรายที่ 3 ที่เข้าร่วม
เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2022 กูเกิลได้เปิดใช้งาน Google Wallet ในประเทศไทย โดยรองรับบัตรเครดิตจากสองธนาคารคือ กรุงเทพ (BBL) และกรุงไทย (KTC) โดยระบุตอนเปิดตัวว่าจะรองรับบัตร TrueMoney Mastercard เพิ่มเติม
ล่าสุดแอพ Google Wallet รองรับการเพิ่มบัตร TrueMoney Mastercard แบบเติมเงินแล้ว ผู้ที่ใช้บัตรดังกล่าวสามารถเพิ่มบัตรเข้าแอพแล้วนำมือถือ Android หรือนาฬิกาที่รัน Wear OS ไปแตะจ่ายที่ร้านค้าต่างๆ ที่รองรับ contactless ได้ทันทีแทนการใช้บัตรจริง
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าธนาคารอื่นในประเทศไทยมีแผนรองรับ Google Wallet กันเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ข่าวสั้นส่งท้ายปี โดย Binance ประกาศว่าผู้ใช้งานสามารถซื้อเงินคริปโตบนแพลตฟอร์มได้ โดยชำระเงินผ่าน Apple Pay หรือ Google Pay ได้แล้ว ทำให้แพลตฟอร์มรองรับช่องทางการชำระเงินที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากเพิ่มอีกช่องทาง
Binance เองก็พูดถึงประเด็นนี้ในทวีตว่า การรองรับช่องทางชำระเงินเพิ่มเติมนี้ ช่วยให้การซื้อคริปโตง่ายมากขึ้น
จำนวนผู้ใช้งาน Apple Pay มีอยู่มากกว่า 40 ล้านบัญชี ส่วน Google Pay มีมากกว่า 25 ล้านบัญชี
ดีแทคประกาศเปิดบริการช่องทางชำระเงินผ่าน Google Pay หลังจากที่ Google Pay สามารถใช้ได้แล้วในประเทศไทย โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มบัตรเครดิตไปที่ Google Wallet บนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และสามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน dtac ได้เลย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีวันนี้ วันที่ Google Pay ใช้งานในประเทศไทยได้อย่างเป็นทางการ ไม่ต้อง VPN ไม่ต้องเปลี่ยน region ไม่ต้องขวนขวายหาบัตรเครดิตของต่างประเทศมาใช้ สามารถยกมือถือขึ้นมาปลดล็อคแล้วแตะจ่ายที่เครื่อง EDC เสมือนการใช้บัตรเครดิตทั่วไปแบบแตะจ่ายได้ทันที
จากเอกสารอย่างเป็นทางการของกูเกิล ระบุว่าขณะนี้ Google Pay ในประเทศไทยรองรับบัตรจาก 2 ธนาคารคือธนาคารกรุงเทพ (BBL) และกรุงไทย (KTC) โดยใช้งานได้ทั้ง Visa และ Mastercard แบบเครดิต (ไม่ได้ระบุว่าเดบิตใช้ได้หรือไม่) ส่วนบัตร TrueMoney Mastercard จะรองรับเร็วๆ นี้
Fitbit เริ่มรีแบรนด์ตัวเองเป็น "Fitbit by Google" พร้อมประกาศแนวทางใหม่หลังเข้ามาเป็นบริษัทลูกของกูเกิลตั้งแต่ปี 2021
ในอดีตอันไกลโพ้น กูเกิลมีแอพ Google Wallet ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 และนำไปรวมร่างกับ Android Pay ในปี 2018 เปลี่ยนชื่อมาเป็น Google Pay
ข้ามเวลามาถึงปี 2022 กูเกิลเปิดตัวแอพกระเป๋าเงินตัวใหม่ ด้วยชื่อที่ทุกคนเดากันได้ว่า... Google Wallet
ธนาคารกลางรัสเซียออกแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า บัตรที่ออกโดยธนาคารรัสเซียหลายแห่งไม่สามารถใช้งานผ่าน Apple Pay หรือ Google Pay ได้แล้ว เนื่องจากมาตรการแบนของฝั่งชาติตะวันตก
สำหรับสถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจากการแบนครั้งนี้ มีทั้ง VTB Group, Sovcombank, Novikombank, Promsvyazbank และ Otkritie FC Bank โดยจะมีผลทำให้ลูกค้าไม่สามารถทำธุรกรรมในประเทศที่ออกมาตรการแบนรัสเซียได้ ทั้งออนไลน์และการใช้บัตรในต่างประเทศ ซึ่งการใช้งาน Apple Pay หรือ Google Pay อยู่ในหมวดนี้ แต่ลูกค้ายังคงใช้บัตรในประเทศรัสเซียได้ตามปกติ รวมถึงการใช้งาน contactless ผ่านตัวบัตรก็จะยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
เมื่อปีที่แล้ว กูเกิลได้เปิดตัว Plex บัญชีเงินฝากที่ผู้ใช้งานสามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ผ่านแอป Google Pay โดยเบื้องต้นร่วมมือกับธนาคาร Citi และ Stanford Federal Credit Union ซึ่งมีจุดเด่นคือการไม่มีค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และยังขอออกบัตรเดบิตเพิ่มได้ด้วย แต่ล่าสุดโครงการนี้ได้พับไปแล้ว
โดย The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวว่าหัวหน้าทีมใน Google Pay ที่ดูแลโครงการนี้ได้ลาออกจากกูเกิลแล้ว ส่งผลให้โครงการนี้ไม่มีความคืบหน้า กูเกิลจึงตัดสินใจยกเลิกการพัฒนา Plex นี้ ซึ่งกูเกิลก็ได้ยืนยันข่าวดังกล่าวว่าโครงการ Plex ยกเลิกจริง แต่ปฏิเสธจะให้ความเห็นประเด็นผู้บริหารลาออก
Google Pay บริการจ่ายเงินของกูเกิล มีฟีเจอร์ Pass สำหรับบัตรสะสมแต้ม บอร์ดดิ้งพาส ตั๋วยานพาหนะต่างๆ มาได้สักพักแล้ว (ข่าวเก่า, แน่นอนว่าไม่มีไทย)
ล่าสุดกูเกิลปรับ Passes API ให้เก็บเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน (vaccination card) ได้ด้วย ฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้กับสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก และจะรองรับในประเทศอื่นๆ ตามมาต่อไป
Google Pay เพิ่มช่องทางโอนเงินจากสหรัฐฯไปอินเดียและสิงคโปร์ โดยเชื่อเครือข่ายกับ Wise และ Western Union เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย กูเกิลจึงไม่เก็บค่าธรรมเนียมไปจนถึงวันที่ 16 มิ.ย. สำหรับการโอนผ่าน Western Union แต่ถ้าโอนผ่าน Wise จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมหากโอนมากกว่า 500 ดอลลาร์
จนถึงตอนนี้ยังโอนไปยังประเทศปลายทางได้สองประเทศ โดยจะขยายให้ครบคลุมทั่วโลกในอนาคต
Google ประกาศรีแบรนด์ Google Pay ใหม่ เปลี่ยนทั้งโลโก้และดีไซน์ตัวแอป พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ที่ช่วยให้การโอนเงินให้เพื่อนหรือจ่ายเงินให้ร้านค้าประจำทำได้ง่ายขึ้น หรือการสร้างกลุ่มเพื่อน สำหรับบันทึกค่าใช้จ่ายและหารเงินเพื่อจ่ายในภายหลัง
นอกจากนี้ Google Pay ยังทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินมากขึ้น ด้วยการเก็บบัตรสะสมแต้มหรือคูปองส่วนลดต่าง ๆ และสรุปบัญชีการใช้จ่ายของเจ้าของแอปให้ด้วย
วันนี้ คณะกรรมการด้านการแข่งขันของอินเดียหรือ CCI ประกาศเปิดการสอบสวนพฤติกรรมผูกขาดของบริษัท Google เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าทางบริษัทมีพฤติกรรมผูกขาดหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องระบบชำระเงิน
ผู้ร้องเรียนที่ไม่เปิดเผยตัวตนยกตัวอย่างในเรื่องการผูกขาดของ Google ไม่ว่าจะเป็น Editor’s Choice Apps, User Choice Apps หรือ Top Free apps ที่จัดอันดับค่อนข้างลำเอียง โดยให้คะแนนแอปของ Google มากกว่าแอปอื่น, ปรับอัลกอริทึมในการค้นหาให้อันดับแอปที่ใช้ Google Pay ดีกว่า รวมถึงติดตั้ง Google Pay บน Android มาเป็นค่าเริ่มต้น
ฝั่ง Google ระบุว่า Android เองนั้นยังไม่ได้มีอำนาจครอบครองตลาดในอินเดีย และยังคงมีการแข่งขันจากระบบปฏิบัติการฟีเจอร์โฟนจำนวนมาก
Google Pay ในสิงคโปร์อัพเดตใหม่ ขยายการใช้งาน PayNow หรือการจ่ายโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ไปยังลูกค้าธนาคารอื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจาก OCBC คือ DBS Paylah! และ Standard Chartered Bank สามารถโอนเงินไปยังปลายทางโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ได้ โดยที่ปลายทางไม่จำเป็นต้องมีแอป Google Pay และยังสามารถใช้ Google Pay สแกนจ่ายตามจุดรับจ่ายที่มีป้าย PayNow QR ด้วย
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถจัดกลุ่มการใช้จ่าย เช่น กลุ่มคนที่โอนเงินให้, กลุ่มธุรกิจที่โอนเงินซื้อของให้บ่อยๆ จัดระเบียบการชำระเงินได้จากในแอป โดยสิงคโปร์เป็นที่แรกที่ Google Pay เปิดใช้งานนี้
Flutter เป็นเฟรมเวิร์คเขียน UI แบบข้ามแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่สนใจนำ Flutter มาใช้งานอาจสงสัยว่ามีแอพดังๆ ตัวไหนบ้างที่นำมาใช้
ในฐานะผู้สร้าง กูเกิลย่อมเป็นองค์กรที่นำ Flutter มาใช้งานอย่างแพร่หลาย ล่าสุดกูเกิลเขียนบล็อกอธิบายการพัฒนาแอพจ่ายเงิน Google Pay เวอร์ชันใหม่ ที่เขียนใหม่ด้วย Flutter เพื่อให้รองรับกับฐานผู้ใช้จำนวนมากขึ้น
TechCrunch รายงานว่าช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) Play Store ในอินเดีย ถอดแอป Paytm บริการการเงินคู่แข่งของ Google Pay ที่ได้รับความนิยมในอินเดียออก เนื่องจากแอปละเมิดกฎของแพลตฟอร์มว่าด้วยเรื่องการพนัน แต่ในอีก 8 ชั่วโมงต่อมา แอป Paytm ก็กลับเข้ามาอยู่ใน Play Store ตามเดิม เรื่องนี้ทำให้เกิดความกังวลเรื่องการผูกขาดและกีดกันแอปพลิเคชั่นอื่น เหมือนกรณี Apple และ Epic
Paytm เขียนบล็อกพูดถึงเบื้องหลังการที่ Google ถอดแอปออกจาก Play Store ว่า ตอนเย็นของวันที่ 11 กันยายน Paytm เปิดตัวแคมเปญที่ผู้ใช้สามารถสะสมสติกเกอร์เกมกีฬาคริกเก็ต และการ์ดขูดจากการทำธุรกรรมตามปกติ เพื่อรับ UPI cashback หรือเงินคืนเข้ามาที่วอลเล็ตของ Paytm
Google Maps เปิดตัวความสามารถใหม่ สามารถจ่ายค่าที่จอดรถได้ในแอป โดยใช้ช่องทางชำระผ่าน Google Pay เริ่มใช้งานที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ใช้งานได้ทั้งแอปแอนดรอยด์และ iOS และเว็บแอป pay.google.com/parking
วิธีการทำงานคือ เมื่อคนขับเข้าใกล้จุดหมาย Google Maps จะแจ้งให้จ่ายค่าจอดรถ เมื่อผู้ใช้งานกด Start a new session ระบบจะให้ป้อนหมายเลขโซนจอดรถในพื้นที่ใกล้เคียง สามารถกดบันทึกรถของตัวเองด้วยการกรอกหมายเลขทะเบียนรถได้ และบันทึกลงในบัญชีกูเกิลของตัวเองได้ด้วยเพื่อความรวดเร็วในการใช้งานครั้งต่อไป
เว็บไซต์ TechCrunch ได้รับข้อมูลหลุดภาพ Google Card ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บัตรเดบิตจาก Google พร้อมรายละเอียดส่วนหนึ่งเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกหลายประการ ซึ่งตอนนี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
แหล่งข่าวของ TechCrunch ระบุว่า บัตรเดบิตของ Google หรือ Google Card จะมีให้ทั้งบัตรจริงและบัตรเสมือนสำหรับใช้งานในแอป ตัวบัตรจะผูกกับบัญชีเงินฝากและใช้ซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือหรือออนไลน์ พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับแอปที่ให้ผู้ใช้ทำรายการเบื้องต้น เช่น ตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลัง, เช็คยอดเงินคงเหลือ หรือล็อกบัญชีได้
Sensor Tower เผยข้อมูล คนอเมริกันดาวน์โหลดแอปสตรีมมิ่ง Disney+ กันมากที่สุดในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2019 คือมีการดาวน์โหลดไป 30 ล้านครั้ง โดยเป็นการดาวน์โหลดผ่าน App Store 18 ล้านครั้ง และผ่าน Google Play 12 ล้านครั้ง
ในแง่รายได้ Disney+ ทำรายได้มากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ใน 30 วันแรก เอาชนะคู่แข่งอื่นๆ เช่น HBO NOW และ Showtime และเมื่อรวมทั้งไตรมาส พบว่ารายได้ Disney+ มีส่วนแบ่งรายได้ 16% ของตลาด SVOD ทั้งหมดในสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่ Disney+ เพิ่งจะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2019 โดยมีรายได้มากกว่า Netflix ในช่วงเวลาเดียวกัน (Netflix มีส่วนแบ่งรายได้ 15%)
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นรายได้ที่นับเฉพาะผ่านช่องทางดาวน์โหลดแอปผ่าน App Store และ Google Play เท่านั้น ไม่รวมรายได้จากการชำระเงินช่องทางอื่น
eMarketer ได้ออกผลสำรวจวิเคราะห์แพลตฟอร์มจ่ายเงินบนมือถือของสหรัฐฯ โดยจากข้อมูลระบุว่าตอนนี้ Apple Pay ได้แซง Starbucks ขึ้นเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ แล้ว
Starbucks ถือเป็นรายแรก ๆ ที่พัฒนาระบบจ่ายเงินด้วยมือถือ เพราะมีฟีเจอร์นี้ในแอปตั้งแต่ปี 2011 แต่ในช่วงหลัง Apple Pay และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เติบโตขึ้นมาก จึงเริ่มไล่ตาม Starbucks เข้ามาแล้ว
จากข้อมูลของ eMarketer ระบุว่า Apple Pay จะมีจำนวนผู้ใช้ถึง 30.3 ล้านคนภายในปี 2019 ตามมาด้วย Starbucks 25.2 ล้านคน, Google Pay 12.1 ล้านคน และ Samsung Pay 10.8 ล้านคน
บริการจ่ายเงิน Google Pay ของกูเกิลอาจไม่ประสบความสำเร็จมากนักในประเทศแม่อย่างสหรัฐอเมริกา แต่ในงานแถลงข่าวของกูเกิลที่อินเดียสัปดาห์ที่ผ่านมา กูเกิลก็เปิดเผยตัวเลขผู้ใช้ Google Pay ในอินเดียที่จำนวน 67 ล้านคน
ตัวเลข 67 ล้านคนคือผู้ใช้งานจริงต่อเดือน (monthly active users) โดยมียอดใช้จ่ายผ่าน Google Pay รวมกันมากกว่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี (นับรอบ 12 เดือนล่าสุด) โดยใช้ทั้งการจ่ายเงินแบบออนไลน์และออฟไลน์
กูเกิลเปิดตัว Google Pay for Business เป็นแอพแยกในอินเดีย ให้ธุรกิจในอินเดียสร้างโปรไฟล์ ข้อมูลร้านของตัวเองลงในแอพ Google Pay ได้นอกเหนือจากการเป็นช่องทางรับจ่ายค่าสินค้าและบริการ และช่วยให้การบริการง่ายขึ้น
ตัวอย่างเช่น สามารถสั่งอาหารจาก Eat.Fit ได้โดยตรงภายใน Google Pay เป็นต้น ที่สามารถทำเช่นนี้ได้ เพราะมีซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า Spot ที่ให้ร้านค้าสร้างโปรไฟล์ ปรับแต่งฟอนต์บนแอพ โดยในช่วงแรกมีร้านค้าและบริการในอินเดียที่เข้าร่วมแล้วคือ UrbanClap, Goibibo, MakeMyTrip, RedBus และ Eat.Fit
Chrome ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่เชื่อมโยงกับบริการจ่ายเงิน Google Pay ของกูเกิลเอง ให้เราสามารถกดจ่ายเงินได้เพียงแค่กรอกเลข CVC หลังบัตรเครดิตเท่านั้น
ฟีเจอร์นี้ต่างไปจากฟีเจอร์จำเลขบัตรเครดิตที่ Chrome มีอยู่แล้ว ซึ่งต้องเปิดใช้งาน Chrome Sync ก่อน โดยฟีเจอร์ใหม่ทำงานได้ทันที ขอเพียงแค่เราล็อกอินบัญชี Google Account กับ Chrome เท่านั้น (โดยไม่ต้องเปิดซิงก์)
เมื่อเจอหน้าจ่ายเงินที่รองรับ Google Pay หน้าเว็บกรอกฟอร์มจะมีปุ่มแสดงข้อมูลบัตรเครดิตที่เราเซฟไว้ในบัญชี Google Account ขึ้นมา ถ้ากดแล้ว Chrome จะกรอกข้อมูลทุกอย่างให้ทันที เรามีหน้าที่กรอกเลข CVC เพื่อยืนยันการจ่ายเงินเท่านั้น