หลังจากหลาย ๆ แหล่งข่าวไม่ค่อยน่าเชื่อถือต่างก็ได้กระหน่ำคุยกันถึงเรื่องความเป็นไปได้ที่แอปเปิลจะออกคอมพิวเตอร์พกพาขนาดจิ๋วนั้น ตอนนี้ Appleinsider แหล่งข่าวลือความน่าเชื่อถือสูง ได้ออกมาบอกว่าคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเบาและบางสุดยอด (Ultra-thin and lightweight notebook) ที่ใช้หน่วยความจำ NAND flash อาจจะมีการล่าช้าไปถึงปลายปี 2007 หรือปี 2008

เจ้าแล็ปท็อปขนาดจิ๋ว (ในที่นี้เรียกว่า ซับโน้ตบุ้ค - Subnotebook ) ของแอปเปิลตัวนี้คาดว่าจะใช้แพลตฟอร์มใหม่จาก Intel ที่มีโค๊ดเนมว่า Santa Rosa ซึ่งมีการทำงานที่ใช้ NAND-flash caching ทำให้เวลาในการบูตเครื่องน้อยลงมาก ในขณะเดียวใช้งานจากแบตเตอรี่ได้นานขึ้น

หนังสือพิมพ์ New York Time มีรายงานเกี่ยวกับข้อมูลที่นายไมเคิล เดล ประธานฝ่ายบริหารของบริษัท Dell ได้ส่งถึงพนักงานกว่า 80,000 คนว่าบริษัทอาจจะเปลี่ยนรูปแบบการขายเป็นการขายตรงแทน

การขายตรงในที่นี้คือการเปิดร้าน Retail Shop ของตัวเอง คล้าย ๆ กับแอปเปิล ที่สุดท้ายตัดสินใจขายตรงในปี 2001 ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอิเลกโทรนิกส์อยู่ในช่วงขาลง ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงมากของ Steve Jobs ที่เพิ่งกลับเข้ามาบริหารแอปเปิลอีกรอบ

เมื่อปี 1997 นั้นหลาย ๆ คนอาจจะจำได้ว่าไมเคิล เดลนั้นเคยพูดถึงวิธีการแก้ปัญหาขาดทุนของแอปเปิลไว้ว่า...

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าซีอีโอของแอปเปิล นาย Steve Jobs ได้ออกมาพูดถึงความเป็นไปได้ของการเปิดบริการให้เช่าเพลงเป็นรายเดือนบน iTunes Store

"ผมจะไม่พูดว่าไม่มีวัน แต่ว่าตอนนี้ลูกค้าดูเหมือนจะไม่สนใจในบริการนี้" - Steve Jobs

นี่ก็เป็นอีกข่าวที่เกิดจากการที่แอปเปิลกำลังต่อรองกับค่ายเพลงต่าง ๆ ในขณะนี้ ทั้งเรื่องความเป็นไปได้เกี่ยวกับการให้บริการเช่าเพลงเป็นรายเดือนและการขายเพลงที่ไม่มีระบบป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ (DRM)

สิ่งที่แน่นอนตอนนี้คือแอปเปิลพยายามที่จะกระตุ้นให้ค่ายเพลงหลาย ๆ ค่ายหันมาขายเพลงที่ไม่มี DRM แต่กลับไม่ค่อยสนใจที่จะให้บริการเช่าเพลงเท่าไรนัก

Engadget mobile ไปได้ข้อมูลใหม่จากเอกสารภายในสำหรับพนักงานของ AT&T เกี่ยวกับมือถือ iPhone ที่พอจะสรุปคร่าว ๆ ได้ดังนี้

ผมเพิ่งได้รับอีเมลล์จากเว็บมาสเตอร์ X-Ray Mobile ซึ่งเป็นเว็บที่โด่งดังในด้านการแฉวิธีการโกงและหลอกลวงของผู้ขายโทรศัพท์มือถือ และพวกแอบอ้างต่าง ๆ มาคราวนี้ทางเว็บเขายืนยันว่าเขาได้รับการคอนเฟิร์มโดยตรงจากแอปเปิลประเทศไทยว่า iPhone รุ่นที่จะวางขายในอเมริกานั้นจะไม่สามารถใช้ได้ในประเทศอื่น

มีสมาชิกเวบบอร์ดมือถือชื่อดัง ได้แจ้งว่า พบการจำหน่าย iPhone ปลอม ในเวบไซต์ของไทยแห่งหนึ่ง จึงนำมาแจ้งเตือนกันครับ

อย่างที่เคยเตือนกันไปหลายครั้ง ตั้งแต่ iPhone ออกมาใหม่ๆ กรณีมีคนฉวยโอกาสจากการออกมือถือ iPhone จาก Apple ด้วยการอ้างว่าหิ้วมาจากอเมริกา ขอยืนยันว่า ไม่สามารถนำมาใช้ในเมืองไทยได้นะครับ และอย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด

Times Online รายงานว่าอเมซอนกำลังเตรียมตัวเปิดร้านขายเพลงออนไลน์ใหม่ ต้องการส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจากแอปเปิล

ก่อนหน้านี้ อเมซอนพยายามติดต่อค่ายเพลงต่าง ๆ เกี่ยวกับการขายเพลงแบบไม่มีระบบป้องกันการละเมิดลิขสิทธิหรือ DRM แต่แหล่งข่าวไม่ได้คาดหวังอะไรมากกว่าไปกว่าความร่วมมือจาก EMI ที่เพิ่งตัดสินใจขายเพลงแบบไม่มี DRM ใน iTunes Store และค่ายเพลงอินดี้ต่าง ๆ ในขณะที่ค่ายเพลงดังอื่น ๆ ยัง "ไม่พร้อม" หรือ "ทำใจไม่ได้"

คาดว่าจะมี iPhone เพียงไม่กี่เครื่องเท่านั้นที่สามารถวางจำหน่ายจริง ๆ ได้ภายในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้

ปัญหาจริง ๆ แล้วจากการรายงานของ Arstechnica นั้นเกิดขึ้นเมื่อแอปเปิลไปตรวจเจอปัญหาเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ OS X เข้าในนาทีสุดท้ายก่อนที่จะเร่ิมสายการผลิต ทีมงานพัฒนาระบบปฏิบัติการของแอปเปิลกว่า 50 คนขณะนี้ถูกส่งไปไต้หวันเพื่อเตรียมรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม้่ให้มีการล่าช้าในการวางขาย iPhone

Ars ยังกล่าวอีกว่าการล่าช้าของ iPhone ในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับปัญหาเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่เหมือนที่สื่อต่าง ๆ เอาไปพูดแต่อย่างใด แอปเปิลได้ประกาศในเว็บไซต์แล้วว่า iPhone สามารถใช้แบตเตอรี่ได้ประมาณ​ 16 ชั่วโมงติดต่อกัน

การที่แอปเปิลออกมาประกาศการล่าช้าของ OS X ตัวใหม่ Leopard นั้นอาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกให้เรารู้ว่าแอปเปิลกำลังเจอ "ทางตัน" ในการพัฒนาซอฟท์แวร์ให้กับ iPhone โดยหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดคือการที่ iSuppli นั้นได้ทำการตรวจสอบผู้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ของ iPhone แล้วพบว่าผู้ผลิตทุกรายนั้นพร้อมที่จะส่งชิ้นส่วนกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้นปัญหาก็น่าจะอยู่ที่ตัวซอฟท์แวร์จากแอปเปิลนั่นเอง

มีการรายงานว่าแอปเปิลจะเลื่อนวันวางขายของ iPhone จากวันที่ 11 มิถุนายนมาเป็นปลายเดือนมิถุนายนเพื่อที่จะ play safe ไว้ก่อน

แอปเปิลอาจจะปล่อยไอพ็อดที่มีความสามารถทางด้าน Wi-Fi ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยที่ DigiTimes ได้อ้างว่ากลุ่มบริษัท Universal Scientific Industrial (USI) จะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนและบริษัท Foxconn แห่งไต้หวันจะเป็นผู้ประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน

ความเป็นไปได้ของไอพ็อดที่มีความสามารถทางด้านการส่งข้อมูลไร้สายต่าง ๆ นั้นได้ถูกถกเถียงกันมานานมากแล้ว แต่ก่อนผู้คนก็คิดว่าจะมีบลูทูธในไอพ็อด แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีวี่แววของการมาของไอพ็อดตัวต่อไปอย่างใดเลย รูปร่างหน้าตาของ iPhone ทำให้หลาย ๆ คนไม่สามารถนึกหน้าตาของไอพ็อดรุ่นต่อไปออก แอปเปิลจะทำอย่างไรไม่ให้ iPhone กับไอพ็อดไปตีตลาดกันเอง อันนี้เราก็ได้แต่รอชมของจริงครับ

หลังจากที่แอปเปิลประกาศการล่าช้าของ Leopard ได้ไม่นาน ก็มีคนเริ่มออกมาโพส screen shots ของ UI ที่เปลี่ยนไปของ Leopard Seed 9A410 โดยเท่าที่เห็นหลาย ๆ รูปจะสังเกตได้ว่าแอปเปิลเริ่มที่จะถอยห่างออกจากธีมแบบ Brushed Metal ที่แอปเปิลได้ใช้กับ Safari และ Finder และโปรแกรมอื่น ๆ และกลับมาทำธีมที่ดูเรียบ ๆ ขึ้นที่คล้าย ๆ กับ Mail.app และ iTunes รุ่นใหม่มากขึ้น

สำหรับ Screenshot ต่าง ๆ นั้นสามารถเข้าไปชมได้ที่ Flickr ครับ

แอปเปิลแถลงบนเว็บไซต์ตัวเองอย่างเป็นทางการว่าไม่สามารถออก Mac OS X 10.5 Leopard ได้ตามกำหนดเดิม ซึ่งจะเปิดตัวในงาน WWDC07 เดือนมิถุนายน

แอปเปิลให้เหตุผลว่าต้องแบ่งกำลังทีม Mac OS X ไปช่วยทำ iPhone แต่ในงาน WWDC นั้น ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับ Leopard รุ่นเบต้าที่มีฟีเจอร์ครบ (เหลือแค่แก้บั๊ก ตรวจคุณภาพ) อย่างแน่นอน

พวกรอ Leopard ออกแล้วค่อยซื้อเครื่องใหม่แบบผมก็เสียเส้นนิดหน่อย

ที่มา - Apple Insider

CNN Money Media Biz Blog รายงานว่าพวกเขา "ได้ยินมา" ว่าแอปเปิลมีแผนที่จะเปิดบริการ Subscription Service หรือบริการที่สามารถเช่าเพลง ภาพยนตร์และรายการทีวีไม่จำกัดจำนวนเป็นรายเดือนบน iTunes Store

Les Ottolenghi ผู้บริการสูงสุดของบริษัท INTENT MediaWorks อ้างว่าเขาได้มีประชุมกับแอปเปิลหลายครั้งและเชื่อว่าอีกไม่นานแอปเปิลคงจะเริ่มเปิดบริการนี้สำหรับโปรแกรม iTunes อย่างแน่นอน

"ผมคิดว่าแอปเปิลกำลังคิดหนักว่าจะเสนอบริการนี้ดีหรือไม่" Ottolenghi กล่าว

INTENT MediaWorks เป็นบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับด้านการกระจายข้อมูลดิจิตอลผ่านเครือข่าย P2P

แอปเปิล โซนี่ และนินเทนโดเป็นสามบริษัทที่สามารถขายสินค้าตระกูลเดียวได้มากกว่า 100 ล้านเครื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายยุค 80 จนถึงปัจจุบันโซนี่นั้นสามารถขายสินค้าตระกูล Walkman ได้กว่า 350 ล้านเครื่องทำให้ Walkman เป็นสินค้าอิเลคโทรนิคที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสินค้าอีกตัวของบริษัทที่มียอดขายเกินร้อยล้านเครื่องก็คือ PlayStation 2

สินค้าที่ขายได้เกินร้อยล้านเครื่องของนินเทนโดแน่นอนก็คือเครื่องเล่นเกมพกพา GameBoy (เกมบอย) นั้นเอง แต่กว่าจะขายได้ร้อยล้านเครื่องนั้นต้องใช้เวลาถึง 13 ปี

แอปเปิลประกาศผ่านสื่อว่าวันนี้แอปเปิลได้ขายไอพ็อดเครื่องที่ 100 ล้านแล้ว

แอปเปิลนั้นเปิดตัวเครื่องเล่น MP3 ที่ได้ใช้ Hard Drive ในตัวเมื่อห้าปีครึ่งที่ผ่านมาหรือเมื่อพฤศจิกายน ค.ศ. 2001 ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาแอปเปิลได้นำเสนอไอพ็อดรุ่นใหม่ ๆ ต่าง ๆ มากว่า 10 รุ่นแล้ว รวมเครื่องเล่นไอพ็อดตระกูลเมนสตรีมห้ารุ่น, สองรุ่นของไอพ็อด "มินิ" ที่เลิกวางขายไปแล้ว, สองรุ่นของตระกูลไอพ็อด "นาโน" และสองรุ่นของตระกูลไอพ็อด "ชัฟเฟิล"

สินค้าชิ้นนี้จากแอปเปิลได้สร้างกระแสอย่างมาก โดยถึงตอนนี้มีอุปกรณ์เสริมสำหรับไอพ็อดแล้วมากกว่า 4,000 ชนิด โดยส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ประเภทตกแต่งเช่นสกินจนไปถึงลำโพง กว่า 70 เปอร์เซ็นของรถยนต์ที่วางขายในปี 2007 ในสหรัฐตอนนี้สามารถเชื่อมต่อกับไอพ็อดได้แล้ว

AppleInsider รายงานว่าแอปเปิลได้ทำการจดสิทธิบัตรการใช้ไอคอนหลาย ๆ ขนาดในหน้าต่างเดียวกัน โดยขนาดไอคอนไหนจะเล็กใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับความสำคัญของไอคอนนั้น ๆ

ขณะนี้ผู้ใช้ Mac OS X สามารถเปลี่ยนขนาดของไอคอนได้ในโฟลเดอร์ไหนก็ได้ แต่ขนาดของทุก ๆ ไอคอนในโฟลเดอร์นั้น ๆ ต้องมีขนาดที่เท่ากัน โดยระบบใหม่ที่ได้ทำการจดสิทธิบัตรไปนั้นจะทำให้ผู้ใช้สามารถที่จะเปลี่ยนขนาดไอคอนได้ตามชอบใจ

แอปเปิลนั้นได้ทำการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีและไอเดียหลาย ๆ อย่าง แต่ว่าไอเดียนั้น ๆ กลับไม่ได้ถูกนำมาใช้แต่อย่างใด ยกเว้นกรณีของ multi-touch นั้นแอปเปิลทำการจดสิทธิบัตรไว้แล้วมาเป็นเวลานานมาก ๆ กว่าจะประกาศว่าจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับ iPhone

นอกจากการเปิดตัวของ Mac Pro 8-core แล้ววันนี้แอปเปิลก็ยังแอบลดราคาจอภาพ Cinema Display อีกด้วย โดยราคาใหม่มีดังต่อไปนี้

• $599 - 20 นิ้ว
• $899 - 23 นิ้ว
• $1799 - 30 นิ้ว

โดยลด $100 ในรุ่น 20 นิ้วและรุ่น 23 นิ้ว สำหรับรุ่น 30" นั้นราคาตกลงไปกว่า $200 เลยทีเดียว ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคมเมื่อปีที่แล้วนั้นแอปเปิลได้ประกาศลดราคา Cinema Display พร้อมกับเพิ่ม spec ไปแล้วครั้งนึง

ที่มา - MacRumors.com

เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาแอปเปิลได้เปิดตัว Mac Pro คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ตั้งเป้าหมายลูกค้าระดับโปรรุ่นที่ได้ตกเป็นข่าวลือมานาน แต่สำหรับรุ่นนี้นั้น ได้ใช้ Intel ตระกูล Xeon แบบ 8-core 3 Ghz เลยทีเดียว โดยต้องจ่ายเพิ่มจากรุ่นท็อปเดิม $1498

ที่น่าสนใจก็คือตอนนี้ Mac Pro ตัวนี้จะวางขายแค่เฉพาะในสหรัฐและแคนาดาเท่านั้น คาดว่าอาจจะเนื่องจากความล่าช้าในการอัพเดทเว็บแอปเปิลตามประเทศต่าง ๆ ก็เป็นไปได้

ที่มา - MacRumors.com

วันนี้ Google ประกาศแล้วว่าตอนนี้ชาว Mac จะสามารถดาวน์โหลด Google Desktop เวอร์ชั่นสำหรับคอมพิวเตอร์ Mac โดยโปรแกรมนั้นจะเป้น Universal Binary แล้วมีหน้าตาและความสามารถพิเศษที่ "เหมาะสม" สำหรับชาวแมคอีกด้วย

Rose Yao ผู้จัดการด้านสินค้าของ Google Desktop กล่าวว่า "เราดีไซน์ Google Desktop ให้สามารถทำงานคู่กับ Spotlight จากแอปเปิลได้ โดย Google Desktop จะรวมการค้นหาของ Spotlight เข้ากับ Web history และ Gmail"

เวลารัน Google Desktop จะมีความคล้าย ๆ กับการรัน Widget ผ่าน hot-key โดยไม่ต้องเข้าไปใช้ใน Dashboard คล้าย ๆ กับโปรแกรม Quicksilver

ThinkSecret เว็บเจ้าพ่อแห่งข่าวลือวงการแอปเปิลหลังจากที่เงียบไปนานตอนนี้ก็ได้ออกมาประกาศแล้วว่า Mac OS X 10.5 (Leopard) นั้นจะวางขายภายในเดือนมิถุนายนปีนี้แน่นอน ซึ่งตรงกับเวลาที่แอปเปิลเคยสัญญาไว้ว่าจะเปิดตัว Leopard ภายในช่วง Spring 2007

โดยเว็บนี้ก็ยังมีคำใบ้เล็ก ๆ น้อย ๆ ตามเคย โดยคราวนี้ได้อ้างว่า "Leopard นั้นตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และมันก็มีอะไรมากกว่าที่ชุดสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมได้ทดลองใช้ และมากกว่าที่แอปเปิลเคยประกาศไว้ด้วย" สิ่งเดียวที่เขียนไว้ควบคู่กับคำอ้างนี้คือ "จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้" ตามฉบับ

ไม่ต้องมาร้องขอแอปเปิลให้เสียเวลาเลยกับการเพิ่มความสามารถต่าง ๆ ให้กับ Apple TV เพราะว่าไม่ทันไรนั้นก็มีเว็บ AppleTVHacks.net ที่ได้ทำการติดตั้ง Mac OS X ทั้งตัวลงไปใน Apple TV ซะเรียบร้อยแล้ว สนใจละก็เข้ามาดูเลย

วิธีติดตั้งก็ง่าย ๆ ใช้วิธีการเอา Hard drive ออกมาจากตัว Apple TV แล้วทำการ Backup OS X จากเครื่องหลักมา (แต่ต้องเป็น OS X สำหรับ Intel Macs เท่านั้น) ทำการดัดแปลงแก้ไขตามขั้นตอนที่บอกไว้ในเว็บ แค่นั้นก็จะรู้สึกเหมือนมี Media Center เต็มตัวอีกเครื่องซะแล้ว แต่ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ว่ามันจะทำอะไรได้บ้างล่ะ ตัวเว็บเขาบอกว่าอันนัี้ยังเป็นแค่ขั้นแรกเท่านั้น ต่อ ๆ ไปมันทำอะไรได้มากกว่านี้แน่นอน

CNet Gadgets Blog อ้างว่า AT&T/Cingular ได้คอนเฟิร์มแล้วว่า Apple iPhone นั้นจะสามารถวางขายได้ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ โดยคนเขียนบล็อกนั้นก็ได้กล่าวว่าเขาได้ติดต่อกับผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าที่ Cingular ที่ Call Center เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ผู้จัดการคนนี้ก็"ไม่สามารถให้ข้อมูลมากกว่านี้ได้"

ZFS เป็นระบบไฟล์แบบ 128 บิตที่ซันใช้บน Solaris มีฟีเจอร์น่าสนใจหลายอย่าง และช่วงหลังมีข่าวลือออกมาตลอดว่าแอปเปิลกำลังจะนำไปใช้บน Mac OS X เช่น

• มีข้อความของโปรแกรมเมอร์คนนึงของ Apple บรรยายถึงความต้องการที่จะพอร์ตระบบไฟล์ ZFS ไปใช้บนระบบปฏิบัติการของ Mac เมื่อปีที่แล้ว
• ความสามารถที่ชื่อ Time Machine ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ระหว่าง ZFS กับ Mac OS X

และเร็วๆ นี้ มีคนไปสังเกตว่าในระบบรายงานบั๊กของทีม OpenSolaris มีร่องรอยที่น่าสนใจเกี่ยวกับข่าวลือนี้

แอปเปิลเปิดให้ดาวน์โหลด Boot Camp 1.2 ซึ่งมีการอัพเดทอะไรใหม่ ๆ และรวมไปถึงการสนับสนุนวิสต้าอย่างเป็นทางการ

ความสามารถใหม่

• สนับสนุนวิสต้า 32 บิต
• ไดรเวอร์ใหม่ ๆ รวมไปถึงแทร็คแพด, การซิงโครไนซ์เวลากับ Mac OS X, ระบบเสียง, ระบบการแสดงผล, โมเด็มและกล้อง iSight โดยโดรฟเวอร์เหล่านี้สามารถใช้กับวิสต้าได้แล้ว
• การสนับสนุน Apple Remote ที่สามารถใช้ได้กับ iTunes และ Windows Media Player บนวินโดวส์
• Apple Software Update สำหรับ XP และวิสต้า

ที่มา - Apple Boot Camp

Ars Technica รีวิว Apple TV สเปกเครื่องมีดังนี้: Pentium M Dothan 1.0GHz, แรมแบบ DDR2 256MB, การ์ดจอใช้ GeForce Go 7300, ฮาร์ดดิสก์ 40GB รัน Mac OS X 10.4.7 แบบตัดความสามารถลงไปเยอะ ราคาถูกหน่อย 299 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับ Mac mini ที่ราคา 599 ดอลลาร์

แต่เพราะราคาถูกหรือเปล่าไม่รู้ ฟีเจอร์ที่มีมาเลยน้อยและจำกัดมาก หน้าที่หลักของ Apple TV คือสตรีมวิดีโอ/เพลงจากคอมพิวเตอร์ที่มี iTunes ไปออกทีวี มีเพิ่มมาหน่อยตรงที่สามารถซิงค์ไฟล์มาลงฮาร์ดดิสก์ของ Apple TV เผื่อไปเล่นบ้านเพื่อนเท่านั้น มันไม่สามารถ:

Appleinsider เว็บข่าวลือแอปเปิลที่โด่งดังในด้านความแม่นยำของข่าวลือได้ออกมารายงานว่ารุ่นต่อไปของ iMac คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของแอปเปิลจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านดีไซน์ โดยจะเป็นดีไซน์แนวอุตสาหกรรม (Industrial Design แนวหยาบ ๆ เหมือนโรงงานอุตสาหกรรมน่ะครับ ถ้านึกภาพไม่ออก ใกล้ตัวที่สุดก็คือดีไซน์แบบสนามบินสุวรรณภูมินั่นล่ะ) ในข่าวนั้นได้ใช้การเล่นคำสองความหมายในการอธิบายว่า "เป้าหมายของดีไซน์ใหม่ก็คือทำให้คู่แข่งเหมือนโดนตบเต็ม ๆ และดึงดูดผู้ที่สนใจอย่างแรง" (aimed at leaving both competitors and onlookers smitten)