Dropbox เปิดตัวแอพจัดการรหัสผ่าน Dropbox Passwords อย่างเป็นทางการ หลังเปิดทดสอบในกลุ่มปิดเมื่อต้นเดือน

Dropbox บอกว่าภารกิจขององค์กรคือ "จัดระเบียบชีวิต" (keep life organized) จึงออกเครื่องมือจัดการรหัสผ่านมาเพิ่ม อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ Dropbox ที่เก็บทุกอย่างในชีวิตลง Dropbox อยู่แล้ว ไม่ต้องไปใช้งานแอพตัวอื่นแยกต่างหาก

Dropbox Passwords ใช้งานได้บน 4 ระบบปฏิบัติการคือ Windows, Mac, iOS, Android โดยยังเปิดให้ใช้เฉพาะลูกค้า Dropbox Plus แบบเสียเงินเท่านั้น

Dropbox ลุยเข้ามายังตลาดแอพจัดการรหัสผ่านแบบเงียบๆ ด้วย Dropbox Passwords ที่ตอนนี้ยังทดสอบแบบ Beta เฉพาะบนแอนดรอยด์ จำกัดการใช้งานเฉพาะผู้ได้รับเชิญ และยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากบริษัท

ในแง่ฟีเจอร์คงไม่ต่างอะไรจาก password manager ตัวอื่นๆ ทั้งการเก็บรหัสผ่าน การซิงก์ข้อมูล การสร้างรหัสผ่านแบบสุ่ม และช่วยเติมรหัสผ่านให้อัตโนมัติ

ที่มา - Play Store, Android Police

Dropbox รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 455.0 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 39.3 ล้านดอลลาร์

Drew Houston ซีอีโอ Dropbox กล่าวว่าผลงานในไตรมาสนี้สะท้อนการเติบโตที่ดี และบริษัทก็บันทึกผลกำไรได้เป็นไตรมาสแรก

Dropbox มีลูกค้าที่จ่ายเงินใช้บริการ 14.6 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 13.2 ล้านบัญชี รายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าต่อปีก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 126.30 ดอลลาร์

ที่มา: Dropbox

Dropbox รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 มีรายได้รวม 446.0 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 6.6 ล้านดอลลาร์

จำนวนผู้ใช้งาน Dropbox แบบเสียเงินมี 14.3 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจาก 12.7 ล้านบัญชี ของไตรมาสเดียวกันในปีก่อน รายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าต่อปีก็เพิ่มเป็น 125 ดอลลาร์

ซีอีโอ Drew Houston กล่าวในช่วงแถลงผลประกอบการว่า บริษัทคาดว่าจะเริ่มมีกำไรภายในปี 2020 นี้ ซึ่งสะท้อนจากไตรมาสที่ผ่านมาขาดทุนลดลง

Facebook ประกาศแต่งตั้ง Drew Houston ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Dropbox เป็นกรรมการบอร์ดบริหารของบริษัท โดยมีผลทันที

จากประกาศนี้ทำให้ปัจจุบัน Facebook มีบอร์ดบริหารรวม 8 คน ได้แก่ Mark Zuckerberg (ซีอีโอ), Peggy Alford (รองประธานอาวุโส PayPal), Marc Andreessen (กองทุน Andreessen Horowitz), Kenneth Chenault (ประธาน General Catalyst), Sheryl Sandberg (ซีโอโอ), Peter Thiel (Founders Fund), Jeffrey Zients (ซีอีโอ Cranemere ) และ Drew Houston

Mark Zuckerberg กล่าวว่า Houston เป็นคนที่ความสามารถ เข้าใจว่าเทคโนโลยีเคลื่อนไปอย่างไร ทั้งยังมีวิธีจัดการวัฒนธรรมองค์กรให้สามารถสร้างสินค้าที่ใช้งานได้ดี

Dropbox ประกาศเปิดบริการส่งไฟล์ขนาดใหญ่ Dropbox Transfer ซึ่งเหมือนกับเว็บฝากไฟล์อื่นๆ ที่เรารู้จักกันดี

Dropbox ระบุว่าที่ผ่านมา คนใช้ Dropbox เพื่อแชร์ไฟล์ให้เพื่อนร่วมงานเป็นปกติ แต่มีการใช้งานบางกรณีที่เราอยากแชร์ไฟล์ให้คนอื่นดาวน์โหลดอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องมีสิทธิแก้ไขไฟล์ และไม่ต้องอัพเดตไฟล์นั้นอีกในอนาคต ซึ่งการส่งไฟล์ทางอีเมลไม่ตอบโจทย์ เพราะมักจำกัดขนาดไฟล์ที่ 25MB เท่านั้น

Guido van Rossum ผู้สร้างภาษา Python ประกาศลาออกจากงานปัจจุบันที่ Dropbox (ย้ายมาจากกูเกิลตั้งแต่ปี 2013) ด้วยเหตุผลว่าต้องการเกษียณอายุแล้ว (ปัจจุบันเขาอายุ 63 ปีแล้ว)

Dropbox ถือเป็นองค์กรที่ใช้ Python เยอะมากแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่ Drew Houston ผู้ก่อตั้งบริษัทเริ่มเขียนโค้ดบรรทัดแรกของ Dropbox ด้วยภาษา Python และหลังจากนั้นก็เชิญ Guido มาพูดที่บริษัทอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งชวน Guido ย้ายมาทำงานด้วย

Dropbox ประกาศอัพเกรดฟีเจอร์ด้านการแชร์ไฟล์ใหม่ ใช้ชื่อว่า Dropbox Spaces โดยมีของใหม่หลายอย่าง ดังนี้

• สามารถค้นหาภาพด้วยคีย์เวิร์ดตามวัตถุในภาพ เช่น clothing จะได้ภาพเสื้อผ้ามา
• พรีวิวไฟล์บางประเภท เช่น Illustrator หรือ AutoCAD ได้เลย แม้ไม่มีแอพติดตั้งอยู่
• เชื่อมต่อกับตัวแก้ไขเอกสาร Dropbox Paper
• รวมไฟล์หลายๆ ไฟล์ด้วยกันเป็นแฟ้ม ชื่อว่า Dropbox Binder
• ค้นหาคำในไฟล์เอกสารด้วยคีย์เวิร์ด และพรีวิวให้เห็นเลยว่าคำนั้นอยู่ตรงตำแหน่งไหน
• เชื่อมต่อกับบริการยอดนิยมอื่นๆ เช่น Trello ได้

Dropbox ประกาศขึ้นราคาแพ็กเกจรุ่นถูกที่สุดคือ Dropbox Plus จากเดิม 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน มาเป็น 11.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยเพิ่มพื้นที่จากเดิม 1TB มาเป็น 2TB

นอกจากพื้นที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวแล้ว ฟีเจอร์อื่นที่เพิ่มเข้ามาคือ Dropbox Smart Sync ที่ผู้ใช้มองเห็นไฟล์ทั้งหมดในไดรฟ์ Dropbox ของตัวเอง โดยที่ไม่ต้องเก็บไฟล์จริงๆ บนฮาร์ดดิสก์ให้เปลืองพื้นที่ และ Dropbox Rewind ที่ช่วยกู้คืนการแก้ไขไฟล์ล่าสุดในรอบ 30 วัน

ส่วน Dropbox Professional ซึ่งเป็นแพ็กเกจระดับใหญ่ขึ้น ยังคิดราคา 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่เพิ่มพื้นที่ให้เป็น 3TB (ของเดิม 2TB) และแพ็กเกจสำหรับลูกค้าธุรกิจ Dropbox Business เพิ่มพื้นที่จาก 3TB เป็น 5TB ในราคาเท่าเดิมเช่นกัน

Dropbox รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2019 มีรายได้รวม 385.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 7.7 ล้านดอลลาร์

จำนวนผู้ใช้งาน Dropbox แบบเสียเงินมี 13.2 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มี 11.5 ล้านบัญชี โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ 121.04 ดอลลาร์ต่อปี และได้ผู้ใช้เสียเงินเพิ่มอีกประมาณ 1 แสนบัญชี จากการซื้อกิจการ HelloSign เมื่อต้นปี

Drew Houston ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Dropbox กล่าวว่าผลการดำเนินงานนี้สะท้อนว่า Dropbox ยังเติบโตจากผู้ใช้งานแบบเสียเงิน ตลอดจนรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) ก็เติบโต จากการรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ต่อเนื่อง

ต่อเนื่องจากข่าว Dropbox จับมือกูเกิล เปิดไฟล์ Google Docs, Sheets, Slides ได้โดยตรง ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทยังไม่จบแค่นั้น ล่าสุดมีฟีเจอร์ฝั่งองค์กรที่เปิดให้แอดมินสร้าง/ลบบัญชีผู้ใช้ Dropbox จากหน้าจอฝั่งกูเกิลได้เลย

ก่อนหน้านี้ กูเกิลและ Dropbox ประกาศทำ Single Sign On (SSO) ข้ามระหว่างสองระบบกันได้อยู่แล้ว คราวนี้ กูเกิลเปิดให้ทำ provisioning (สร้าง/ลบ/แก้ไขบัญชีผู้ใช้) จากคอนโซลฝั่งกูเกิล (G Suite Admin หรือ Cloud Identity) ให้ไปโผล่ที่ฝั่งของ Dropbox โดยอัตโนมัติ

Dropbox กับ Google Drive อาจเป็นคู่แข่งโดยตรงซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้แปลว่าจะร่วมมือกันไม่ได้เสมอไป

ในงาน Google Cloud Next เมื่อคืนนี้ Dropbox ประกาศความร่วมมือกับกูเกิล เพื่อให้สร้างและแก้ไขไฟล์ Google Docs, Sheets, Slides ได้จากตัวแอพของ Dropbox โดยตรง

ผู้ใช้จำเป็นต้องล็อกอินทั้ง Dropbox และ Google ก่อน จากนั้นสามารถสร้างไฟล์ Google Docs, Sheets, Slides ได้เหมือนไฟล์ปกติ และเมื่อคลิกเพื่อเปิดไฟล์ ก็จะเปิดไฟล์นั้นผ่านเว็บเบราว์เซอร์อีกทีหนึ่ง สามารถค้นหาข้อมูลภายในไฟล์ Google Docs, Sheets, Slides จากระบบค้นหาของ Dropbox ได้ด้วย

ที่ผ่านมา Dropbox เน้นหารายได้จากองค์กรเป็นหลัก ทำให้งบการเงินของบริษัทดูดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ล่าสุด บริษัทออกมาตรการใหม่เพื่อบีบให้คนที่ใช้บัญชีแบบฟรีต้องเสียเงินมากขึ้น ด้วยการจำกัดเครื่องที่จะเชื่อมกับบัญชีแบบฟรีได้สูงสุดเพียง 3 เครื่องเท่านั้น

Dropbox ประกาศเข้าซื้อ HelloSign บริษัทพัฒนาบริการ eSignature และบริการช่วยจัดการเอกสารภาคองค์กรด้วยราคา 230 ล้านดอลลาร์

HelloSign เป็นสตาร์ทอัพจาก Bay Area เปิดตัวในปี 2011 ซึ่งตั้งแต่เปิดตัวมา HelloSign ระดมทุนไปเพียง 16 ล้านดอลลาร์เท่านั้น โดยโซลูชั่นที่ HelloSign พัฒนาจะเน้นจับกลุ่มตลาดบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ ดังนั้นการซื้อกิจการครั้งนี้จึงเป็นการเปิดตลาดให้ Dropbox เข้าถึงตลาดภาคองค์กรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ HelloWorks บริการเวิร์คโฟลวช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการเอกสาร เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Dropbox เข้าซื้อ HelloSign

Dropbox รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 3 ปี 2018 รายได้รวม 360.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีขาดทุนสุทธิ 5.8 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อนที่ 14.1 ล้านดอลลาร์

จำนวนผู้ใช้ Dropbox แบบเสียเงินมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 12.3 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ 10.4 ล้านคน

กลยุทธ์หนึ่งที่ Dropbox พยายามเปลี่ยนมา คือการเน้นกลุ่มลูกค้าระดับองค์กรให้มากขึ้นเหมือน Box ทำให้นอกจากจะมีลูกค้าเสียเงินเพิ่มขึ้นแล้ว รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 118.60 ดอลลาร์ต่อปีต่อคนด้วย

Dropbox เปิดตัว Extensions ส่วนขยายให้เราสามารถรันไฟล์ด้วยแอพภายนอกได้จากหน้าเว็บของ Dropbox เลย เสมือนว่าหน้าเว็บ Dropbox เป็น file manager ที่อยู่ในเครื่อง

ตัวอย่างการใช้งานได้แก่ เปิดไฟล์ PDF ด้วย Docusign เพื่อเซ็นเอกสารได้จากหน้า Dropbox โดยไม่ต้องสลับไปยังหน้าต่างอื่น, ตัดต่อวิดีโอบน Vimeo หรือแต่งภาพด้วย Pixlr เป็นต้น

Dropbox Extensions จะเปิดให้บริการในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ เบื้องต้นยังมีการเชื่อมต่อกับแอพภายนอกจำนวนหนึ่ง และจะค่อยๆ ขยายจำนวนพาร์ทเนอร์เพิ่มขึ้นในอนาคต

ที่มา - Dropbox

Dropbox เพิ่มฟีเจอร์ระบุข้อความในภาพอัตโนมัติ เพื่อนำมาใช้ค้นหาเอกสารที่เก็บเป็นรูปภาพ ซึ่งเอกสารเหล่านี้มักจะมาจากการถ่ายหรือสแกน

Dropbox ระบุว่าปัจจุบันมีไฟล์กว่า 2 หมื่นล้านไฟล์ที่เป็นภาพและ PDF ซึ่ง 10-20% จากทั้งหมดนี้เป็นภาพถ่ายหรือสแกนเอกสาร ซึ่งปัญหาคือเอกสารเหล่านี้ไม่สามารถค้นหาข้อความได้เหมือนกับ PDF หรือไฟล์เอกสารปกติที่มีการใช้ตัวอักษร

ทีมงานของ Dropbox จึงนำเทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังฟีเจอร์สแกนเอกสารด้วยกล้องมาใช้กับระบบค้นหาด้วย คือระบบจะสแกนข้อความออกมาจากเอกสารที่มีอยู่แล้วใน Dropbox ให้อัตโนมัติ เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ในรูปภาพ

Dropbox ประกาศเปิดตัว Nautilus ระบบเสิร์ชเอนจินที่ทีมวิศวกร Dropbox พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และนำมาใช้แทนระบบเสิร์ชเอนจินเดิมของ Dropbox

Dropbox อธิบายว่าทุกวันนี้ระบบค้นหาไฟล์เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะ Dropbox มีสเกลที่ใหญ่ ผู้ใช้แต่ละคนมีความต้องการและพฤติกรรมการค้นหาไฟล์ไม่เหมือนกัน ต่างกับระบบเสิร์ชเอนจินบนเว็บ จึงเป็นที่มาของโครงการ Nautilus เพื่อพัฒนาระบบค้นหาไฟล์แบบใหม่

ทีมพัฒนา Nautilus ใช้แพลตฟอร์ม machine intelligence เพื่อสเกลระบบ search rank และโมเดลการเข้าใจคอนเทนต์ โดย Dropbox ตั้งเป้าหมายโครงการนี้ไว้ว่า จะต้องมีประสิทธิภาพ, สเกลได้, เชื่อถือได้, วิศวกรปรับแต่ง indexing ได้ง่าย รวมถึงจะต้องปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วย

ในวันสองวันมานี้ ผู้ใช้ Dropbox บน Linux อาจได้รับคำเตือนว่า "Move Dropbox location. Dropbox will stop syncing in November." และสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

Dropbox ได้ออกมาชี้แจงว่า ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนเป็นต้นไป Dropbox จะเลิกสนับสนุน filesystem ที่ใช้กันน้อย โดยจะรองรับเพียง NTFS บน Windows, HFS+ หรือ APFS บน Mac, และ Ext4 บน Linux เท่านั้น

สำหรับเหตุผลที่ตัดสินใจเช่นนี้คือ Dropbox ต้องใช้ extended attributes (X-attrs) ในการซิงค์ไฟล์ แต่มีผู้ใช้ได้ตั้งข้อสังเกตว่า filesystem อีกหลายชนิดก็รองรับ X-attrs เช่นเดียวกัน เช่น Btrfs เป็นต้น และผู้ใช้ส่วนมากก็ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

Dropbox รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2018 รายได้เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 339.2 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 48.0 ล้านดอลลาร์ ส่วนจำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงินมี 11.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอยู่ 9.9 ล้านคน ส่วนจำนวนผู้ใช้รวมทั้งหมดมีมากกว่า 500 ล้านคน

ซีอีโอ Drew Houston กล่าวว่า ไตรมาสนี้ Dropbox ได้พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจผ่านตัวเลขที่ออกมา กระแสเงินสดอิสระที่เพิ่มขึ้น และมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกมาสำหรับผู้ใช้งานหลายอย่าง

Dropbox ประกาศเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำสำหรับบัญชีเสียเงิน ทั้งแบบ Professional และ Business Standard มีรายละเอียดดังนี้

• บัญชี Professional เพิ่มพื้นที่เป็น 2TB จากเดิม 1TB ราคา 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 199 ดอลลาร์ต่อปี
• บัญชี Business Standard เพิ่มพื้นที่เป็น 3TB จากเดิม 2TB ราคา 15 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อหนึ่งผู้ใช้

ส่วนแพ็คเกจ Dropbox Plus ยังคงพื้นที่หน่วยความจำ 1TB เท่าเดิม และผู้ใช้งานฟรีจำกัดที่ 2GB

Dropbox ประกาศร่วมมือกับ Google ไปตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดทั้งสองบริษัทก็เริ่มปล่อยฟีเจอร์ร่วมกันครั้งแรกแล้ว คือ add-on ของ Dropbox สำหรับ Gmail เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Dropbox ได้สะดวกขึ้น

ฟีเจอร์ของ Dropbox บน Gmail ที่น่าสนใจ มีดังนี้

Dropbox ปล่อยอัพเดตใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานร่วมกันของพนักงานในทีม เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขไฟล์ได้ผ่านสมาร์ทโฟนจากทุกที่ทุกเวลา

คุณสมบัติใหม่แรกเป็นการอัพเดต file activity ใครก็ตามที่แชร์ไฟล์ของคุณจะปรากฎให้คนอื่นในทีมเห็นด้วยว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งคุณสมบัตินี้มีอยู่เดิมแล้วในเวอร์ชันเว็บ แต่เป็นการเพิ่มความสามารถให้ใช้งานได้กับสมาร์ทโฟน ส่วนผู้ใช้แบบ Dropbox Professional กับ Business Advanced จะแสดง file history เพิ่มมาให้ด้วย

Dropbox รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2018 ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นไปเมื่อเดือนมีนาคม มีรายได้ 316.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 30.9 ล้านดอลลาร์ แต่หากรวมสวัสดิการหุ้นพนักงานจะขาดทุน 465.5 ล้านดอลลาร์

จำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงินมี 11.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมี 9.3 ล้านคน

ซีอีโอ Drew Houston ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า จำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงินนั้น 90% เป็นผู้ใช้ที่สมัครใช้งานด้วยตนเอง ส่วนที่เหลือเป็นการขายแบบลูกค้าองค์กรโดยมีฝ่ายขายของ Dropbox เข้าไปติดต่อ แต่ถึงอย่างนั้น Dropbox ก็ยังไม่มีขยายทีมฝ่ายขายมากขึ้นมากในตอนนี้

Dropbox ออกอัพเดตแอพบน iOS เวอร์ชัน 92.2 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ สำหรับผู้ใช้ iPad มีรายละเอียดดังนี้

• แสดงผลชื่อไฟล์แบบเต็มได้แล้ว มีประโยชน์สำหรับไฟล์ที่มีชื่อยาวมาก
• รองรับ Drag and Drop ไฟล์ข้ามแอพ สำหรับผู้ใช้ iOS 11
• ส่งการแจ้งเตือนให้เราอนุมัติได้ หากมีผู้ร้องขอเข้าถึงไฟล์
• ปรับปรุงการพรีวิวไฟล์ และรองรับการแก้ไขข้อความมากกว่า 120 ไฟล์ฟอร์แมต

ผู้ใช้ Dropbox บน iOS โดยเฉพาะ iPad สามารถอัพเดตได้ที่ App Store

ที่มา: Engadget