เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Google Drive เพิ่มคุณสมบัติใหม่รองรับ Ctrl + C, Ctrl + V ล่าสุดกูเกิลประกาศเพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่อีกหนึ่งอย่าง นั่นคือการแสดง Location ของไฟล์
โดยเมื่อผู้ใช้ค้นหาไฟล์จากหน้า Search, Recent, Starred หรือ Trash ใน Google Drive บนเว็บ จะมีคอลัมน์ใหม่เพิ่มมาคือ Location ซึ่งอธิบายตำแหน่งของไฟล์นี้ว่าอยู่ที่ใด หรือถูกแชร์จากใคร
ประโยชน์ของคุณสมบัตินี้ ช่วยให้ผู้ใช้งานที่มีไฟล์ชื่อคล้ายกันหลาย ๆ ไฟล์ สามารถแยกความแตกต่าง และเลือกใช้งานไฟล์ที่ถูกต้องได้รวดเร็วขึ้น โดยกูเกิลจะเพิ่มการแสดงข้อมูลนี้สำหรับผู้ใช้งาน Google Workspace และ G Suite Basic กับ Business แบบเดิม
หลังจากประกาศยกเลิกบริการ G Suite Legacy ที่เป็นบริการฟรีโดยให้ย้ายไปใช้แพลนเสียเงินภายในวันที่ 1 กรกฎาคมแทนนั้น กูเกิลได้เปิดทางเลือกให้ใช้งานต่อได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหากเราแจ้งว่าเป็นการใช้งานส่วนตัว ไม่ได้นำไปใช้ในเชิงธุรกิจ
Google Docs ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ตามคอนเซปต์ Smart Canvas เพิ่มเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันให้สะดวกมากขึ้น มีรายละเอียดดังนี้
คู่แข่งรายสำคัญคือ Microsoft 365 ออกมาประกาศลดราคา 60% สำหรับลูกค้าที่จะย้ายระบบอีเมลมา Microsoft 365 Business Basic, Business Standard, Business Premium แทน พร้อมบริการช่วยย้ายข้อมูล Business Assist ให้ฟรีด้วย
ทางเลือกของผู้ใช้มีแค่ 2 ทางคือ ยอมจ่ายเงินเพื่อใช้ต่อ (โอนทุกอย่างไปบัญชี Google Workspace แบบเสียเงินได้ทันที) กับใช้งานอะไรไม่ได้เลยเมื่อถึงเส้นตาย 1 กรกฏาคม 2022 นั่นแปลว่าข้อมูลเก่าของบัญชี G Suite ไม่ว่าจะเป็นอีเมล ไฟล์เอกสาร หรือแม้แต่แอพ-หนัง-เกมบน Google Play ที่เคยซื้อไว้ด้วยบัญชี G Suite จะหายไปทั้งหมด (ต้องดูดข้อมูลเก่าออกมาทาง Google Takeout เท่านั้น ซึ่งก็นำมาใช้ต่อได้แค่บางอย่าง)
กูเกิลเตรียมบังคับผู้ใช้ G Suite ที่สมัครบัญชีฟรีมาตั้งแต่ก่อนปี 2012 ต้องปรับเป็นบัญชีจ่ายเงินภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ผู้ใช้ที่มีบัญชีฟรีอยู่เดิม จะถูกปรับไปเป็น Google Workspace ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม แต่ยังคงใช้งานได้ฟรีต่อไปอีกสองเดือน
บริการ Google Workspace หรือชื่อเดิมคือ Google Apps นับเป็นบริการระดับองค์กรตัวแรกๆ ของกูเกิล ช่วงแรกแทบจะเป็นบริการฟรีทั้งหมด (ใช้ฟรีได้ถึง 200 บัญชี) แล้วค่อยๆ ลดการให้บริการฟรีลงมาเรื่อยๆ จนมาปิดรับสมัครโดเมนใหม่แบบให้บริการฟรีตั้งแต่ปี 2012 แต่ก็ยังคงให้คนที่สมัครไปก่อนแล้วต่อเนื่อง
Google ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Smart Reply สำหรับ Google Docs เพื่อการตอบคอมเมนท์ในเอกสารโดยจะแนะนำคำตอบที่เหมาะสมให้
วิธีการทำงานของ Smart Reply บน Google Docs จะคล้ายกับฟีเจอร์เดียวกันบน Gmail คือ Google จะแนะนำคำตอบที่เหมาะสมปรากฏด้านล่างของกล่องข้อความ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ตอบแชทใน Google Docs ได้เร็วกว่าเดิม
กูเกิลประกาศฟีเจอร์ด้านการศึกษาชุดใหญ่ ทั้งใน Google Meet, Chrome, Google Classroom และมีการเปลี่ยนชื่อ G Suite for Education ใหม่เป็น Google Workspace for Education
Google Workspace ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Google Sheets เรียกว่า Smart Fill ซึ่งจะตรวจจับและเรียนรู้รูปแบบการกรอกข้อมูล จากนั้นก็ช่วยเดาและกรอกข้อมูลที่เหลือให้
ตัวอย่างที่กูเกิลอธิบาย เช่นมีคอลัมน์ตั้งต้นที่เป็นชื่อและนามสกุล หากเรากรอกข้อมูลในอีกคอลัมน์ที่เป็นเฉพาะชื่อจริง Google Sheets ก็จะเดาเซลล์ที่เหลือว่าเป็นชื่อจริงทั้งหมดให้ และสามารถใช้กรณีข้อมูลนั้นผูกกับสูตรได้ด้วย เช่นในตัวอย่างเป็นการเดาอีเมล หรือประโยคทักทาย
Smart Fill ยังสามารถใช้ข้อมูลจาก Knowledge Graph ในการเติมข้อมูลได้ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลเมือง กับประเทศนั้น ๆ
การรีแบรนด์ G Suite เป็น Google Workspace นอกจากประเด็นเรื่องการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ยังมีประเด็นเรื่องเบื้องหลังแนวคิดว่าทำไมต้องเปลี่ยนชื่อแบรนด์
เรื่องนี้ Javier Soltero ผู้บริหารของกูเกิลและหัวหน้าทีม G Suite/Workspace อธิบายว่าโปรแกรมออฟฟิศในปัจจุบันทั้ง G Suite และ Microsoft Office เกิดขึ้นในโลกยุคเก่าที่ "งานเกิดขึ้นในออฟฟิศ" แต่โลกยุคปัจจุบันโดยเฉพาะหลัง COVID-19 คนจำนวนมากย้ายมาทำงานที่บ้าน
ข่าวใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือ กูเกิลรีแบรนด์ G Suite เป็น Google Workspace และเปลี่ยนโลโก้ของแอพหลายตัวในชุด ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือ Gmail ที่เปลี่ยนจากตัว M สีแดงบนซองจดหมาย มาเป็นตัว M หลากสี และตัดซองจดหมายออกไป
Margaret Cyphers หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของกูเกิล อธิบายเบื้องหลังการออกแบบโลโก้ Gmail ใหม่กับ Fast Company ว่าทีมออกแบบต้องพยายามหาสมดุลระหว่าง Gmail ของเดิมที่คนรู้จักกันดี กับ "ความสดใหม่" ที่ต้องการเพิ่มเข้ามา
กูเกิลประกาศรีแบรนด์ G Suite เป็นชื่อใหม่ Google Workspace พร้อมเปลี่ยนไอคอนแอพในชุดทั้ง 5 ตัวได้แก่ Gmail, Google Calendar, Google Docs, Google Drive, Google Meet ให้เป็นดีไซน์ใหม่ทั้งหมด
นอกจากเรื่องการรีแบรนด์และไอคอนชุดใหม่แล้ว ภาพรวมของ Workspace ตัวใหม่เน้นที่การทำงานร่วมกัน (collaboration) ผ่านระบบของ Chat และ Meet เป็นหลัก (ที่กูเกิลเคยโชว์ไปก่อนหน้านี้) เราจะเห็นหน้าจอแชทถูกแทรกซึมเข้าไปในหน้า Gmail, หน้าจอ Meet แบบ picture-in-picture ลอยทับใน Google Docs, รวมถึงการแก้เอกสารผ่าน Google Docs ในหน้า Gmail ได้โดยตรง
Google Meet เพิ่มความสามารถ Q&A และทำโพลแสดงความคิดเห็น เฉพาะลูกค้าที่ใช้งานแบบเสียเงินหรือ G Suite Essentials, G Suite Business, G Suite Enterprise and G Suite Enterprise for Education เริ่มใช้งานได้ 8 ตุลาคมนี้
Google Meet บน G Suite รองรับการตัดเสียงรอบข้างบนอุปกรณ์มือถือทั้ง iOS และ Android ไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังตัดเสียงรบกวนก็ใช้งานได้ เพราะ Google ใช้พลัง AI ในการตัดเสียงรบกวน สามารถตัดเสียงอื่นๆ ที่ไม่สำคัญได้เช่น เสียงแป้นพิมพ์, เสียงปิดประตู แต่เสียงจากทีวี หรือเสียงคนพูดพร้อมกันนั้น ระบบยังไม่สามารถตัดออกได้
Google Meet ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และการควบคุมคนเข้าห้องประชุมได้ละเอียดกว่าเดิมมาก
เมื่อเดือนที่แล้ว เราเห็นข่าว แอพ Gmail บนมือถือเพิ่มแท็บ Meet เข้ามาด้านล่าง ซึ่งอาจดูแปลกๆ เพราะการเพิ่มแท็บเข้ามาถือว่าเปลืองพื้นที่แสดงผลในแนวตั้ง แต่กลับมีแค่ 2 แท็บคือ Mail กับ Meet เท่านั้น
วันนี้ปริศนาทั้งหมดไขกระจ่างแล้ว เพราะกูเกิลเผยโฉม Gmail (เวอร์ชัน G Suite) ร่างสมบูรณ์ที่มีทั้งหมด 4 แท็บ คือ Mail, Meet ของเดิม เพิ่มเข้ามาอีก 2 แท็บคือ Chat และ Rooms
Google Meet for G Suite for Education อัพเดตใหม่ ปิดไม่ให้คนที่ไม่ล็อกอินเข้าบัญชีกูเกิลเข้าร่วมประชุมเป็นค่าตั้งต้น ป้องกันการแชร์ลิงค์ประชุมไปสู่สาธารณะ หากแอดมินที่สร้างห้องประชุมต้องการปิดการใช้งานนี้ ต้องติดต่อไปที่ G Suite support เท่านั้น
Google เริ่มปล่อยอัปเดต Dark Theme ให้กับแอปในเครือ G Suite อย่าง Docs, Slides, Sheets บน Android เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่า Dark Theme ของแต่ละแอปได้ที่ Menu > Settings > Theme > Dark โดยหากตั้งค่าระบบเป็น Dark Mode อยู่แล้ว แอปจะเปลี่ยนเป็นโหมดมืดให้โดยอัตโนมัติ
Google Sheets ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลายอย่าง อย่างแรกคือ Sheets Smart Fill เป็นระบบ autocomplete ที่ช่วยอ่านใจเราว่าอยากเติมข้อมูลใดลงในชีท โดยเลียนแบบแพทเทิร์นการทำงานของเรา
ตัวอย่างที่กูเกิลนำมาโชว์คือมีคอลัมน์ที่ประกอบด้วยชื่อ+นามสกุล และคอลัมน์ที่กรอกคำว่า "Hi+ชื่อ" ซึ่ง Google Sheets จะเข้าใจว่าเราพยายามทำอะไร และกรอก "Hi+ชื่อ" ให้ครบทุกแถวโดยไม่ต้องใส่สูตรใดๆ (ดูภาพประกอบ)
หลังจากเปิดตัว Google Currents ไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ล่าสุด Google เผยว่า Google Currents สำหรับ G Suite จะเปิดให้ใช้งานในวันที่ 6 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
Google Currents สำหรับ G Suite จะมาพร้อมกับหน้าตาที่อัพเดทจากเดิม พร้อมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ให้สอดคล้องกับการใช้งานภายในองค์กรมากยิ่งขึ้น เช่น การสร้างโพล, การแชร์ไฟล์ผ่าน drive, การปักหมุดเนื้อหา,การค้นหาไฟล์ผ่านระบบ tags & streams เป็นต้น
Google ยังเผยอีกว่า บัญชีและเนื้อหาทั้งหมดที่อยู่เคยใน Google+ จะย้ายไปอยู่ใน Google Currents โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ แอป Google+ บน iOS และ Android ก็จะได้รับการอัพเดทให้เป็นแอป Google Currents เช่นเดียวกัน
กูเกิลประกาศเพิ่มความสามารถให้ G Suite โดยแอดมินขององค์กรสามารถใช้หน้า Admin Console ของ G Suite จัดการคอนฟิกฮาร์ดแวร์ที่เป็น Windows 10 ได้แล้ว (ก่อนหน้านี้ทำได้เฉพาะ Android, iOS, Chrome, Jamboard)
กูเกิลเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Enhanced desktop security for Windows โดยแอดมินสามารถสั่งลบข้อมูลในเครื่อง, อัพเดต Windows, ปรับแต่งคอนฟิกต่างๆ และลบบัญชี หรือปรับสิทธิการเข้าถึงของผู้ใช้งานได้จากระยะไกล
Google Meet ทยอยอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มหน้าจอพูดคุยตอนประชุม (tiled layout) เป็น 4x4 หรือ 16 คน ตามที่สัญญาไว้
ฟีเจอร์แสดงผู้ร่วมประชุมออนไลน์จำนวนมากๆ เป็นฟีเจอร์ของ Zoom ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง (Zoom ทำได้ 7x7 หรือ 49 คน) ทำให้ซอฟต์แวร์วิดีโอคอลล์ตัวอื่นๆ ต้องหันมาทำตาม เช่น Microsoft Teams ที่แสดงหน้าจอ 3x3 หรือ 9 คน หรือ Google Meet ในข่าวนี้ โดยกูเกิลบอกว่าจะขยายจำนวนเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
อัพเดตใหม่อื่นๆ ของ Google Meet รอบนี้คือ
ถัดจากการเปลี่ยนชื่อ Hangouts Meet เป็น Google Meet กูเกิลก็ทยอยเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์อีกตัวในตระกูล Hangouts คือ Hangouts Chat แอพแชทองค์กร มาเป็น Google Chat
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ตอนนี้ ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Hangouts เหลือแค่ Hangouts Classic ตัวต้นฉบับเพียงตัวเดียว (และในชุด G Suite ไม่มีผลิตภัณฑ์ชื่อ Hangouts อีกแล้ว) เรื่องนี้ กูเกิลก็เคยประกาศว่าจะย้ายผู้ใช้ Hangouts Classic ไปใช้ Meet/Chat
กูเกิลไม่ได้ประกาศข่าวการเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ แต่หน้าเว็บของ Hangouts Chat ก็เปลี่ยนชื่อเป็น Google Chat แล้ว (เทียบกับหน้าเว็บภาษาไทยที่ยังใช้คำว่า Hangouts Chat อยู่)
ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Google ปลดล็อกบริการ Hangouts Meet หรือชื่อใหม่คือ Google Meet ระดับ Enterprise ให้กับผู้ใช้ G Suite ทุกราย รวมถึง G Suite for Education ล่าสุด Google ขยายระยะเวลาให้ใช้งานไปยาวๆ ถึง 30 กันยายน
ฟีเจอร์ระดับ Enterprise ประกอบด้วย การปลดล็อกจะทำการประชุมสามารถมีผู้ร่วมได้ถึง 250 คน, สามารถเซฟวิดีโอการประชุมลง Google Drive ได้, และสามารถถ่ายทอดสดการประชุมออกไปผู้ชมอื่นๆ ได้ถึงแสนคน เป็นต้น
Javier Soltero ผู้บริหารของกูเกิลให้ข้อมูลกับ CNBC ว่ามีลูกค้า G Suite เพิ่มถึง 1 ล้านบริษัทในรอบปีที่ผ่านมา โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 G Suite มีลูกค้าองค์กร 5 ล้านราย ตัวเลขนี้เพิ่มมาเป็น 6 ล้านรายในเดือนมีนาคม 2020 อันเป็นผลมาจากกระแส Work from Home ทั่วโลก
Soltero ยอมรับว่า G Suite เติบโตเร็วในระดับที่เขาเองก็ยังตกใจ ข้อมูลอีกอย่างที่เขาเปิดเผยคือ Google Meet (ชื่อใหม่ของ Hangouts Meet) มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 25 เท่าจากเดือนมกราคม