ก่อนหน้านี้ Dropbox ได้ออกเตือนผู้ใช้ให้เปลี่ยนรหัส ซึ่งตอนนี้ก็ทราบแล้วว่าสาเหตุที่ Dropbox ต้องให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านเกิดจากการที่ระบบถูกแฮกจริง และการแฮกนี้เกิดมาแล้วกว่า 4 ปี กระทบกับบัญชีกว่า 68 ล้านบัญชี

Motherboard เว็บไซต์ด้านไอทีได้รายงานข่าวจากแหล่งข่าวซึ่งใกล้ชิดกับชุมชนที่แลกเปลี่ยนฐานข้อมูลกัน ซึ่งเผยว่าได้รับไฟล์มาจำนวน 4 ไฟล์ มีขนาดรวม 5GB ซึ่งภายในนั้นมีที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านที่แฮชไว้แล้วกว่าของบัญชีผู้ใช้ Dropbox จำนวน 68,680,741 บัญชี

Dropbox ได้ประกาศว่าจะแจ้งเตือนให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนรหัสผ่านตั้งแต่ปี 2012 ให้เปลี่ยนรหัสผ่าน โดยผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนรหัสในครั้งถัดไปที่ล็อกอินเข้าสู่ระบบ เพื่อเป็นกาารรักษาความปลอดภัย

Dropbox เผยว่าการเปลี่ยนรหัสนี้เนื่องมาจากรหัสผ่านที่หลุดออกมาจากเว็บไซต์หลายเว็บตั้งแต่ปี 2012 ที่เปิดเผยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่เข้ารหัสไว้ แต่ยังไม่มีหลักฐานว่ามีใครที่สามารถถอดรหัสผ่านได้ และน่าจะยังไม่มีบัญชีใดที่ถูกเข้าถึงโดยวิธีดังกล่าว แต่เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนจึงให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่าน ซึ่งถ้าผู้ใช้ยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนก็สามารถกดข้ามไปได้

ที่มา - 9to5Mac

ปีที่แล้ว Dropbox เปิดตัว Paper ตัวแก้ไขเอกสารร่วมกัน เพื่อให้ผู้ใช้ Dropbox สามารถแก้ไขไฟล์เอกสารได้ทันที ไม่ต้องพึ่งพาแอพสำนักงานอีก

หลังจากทดสอบในวงปิดมานาน วันนี้ Dropbox Paper เปิดให้คนทั่วไปทดสอบแบบ Open Beta แล้ว แถมยังขยายจากเวอร์ชันเว็บ มาเป็นแอพบน Android และ iOS ด้วย ผู้สนใจทดสอบสามารถสมัครได้ที่ Dropbox Paper

Dropbox ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AdminX ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จัดการ Dropbox สำหรับเหล่าแอดมินไอทีของบริษัทที่ใช้งาน โดย AdminX นั้นได้เริ่มใช้งานกันภายใน Dropbox บ้างแล้ว โดยทาง Dropbox จะเปิดตัวฟีเจอร์ส่วนแรกของ AdminX ก่อน ได้แก่

ฟีเจอร์แรก team folder คือโฟลเดอร์ของงานที่เก็บไว้ในแต่ละทีม เพื่อความง่ายและสะดวกในการค้นหา หรือส่งต่อไฟล์ให้กับคนอื่น team folder สามารถกำหนดสิทธิ์ได้ว่าจะให้ใครเข้ามาใช้งานได้บ้าง, จัดการคอนเทนต์ได้จาก team folder manager และตั้งค่าได้ว่าจะให้โฟลเดอร์ไหนซิงค์อัตโนมัติ

ฟีเจอร์ team folder เปิดให้ใช้งานแบบเบต้าแล้ว แอดมินของบริษัทสามารถเข้าไปขอได้ที่ early access program

Dropbox ได้ประกาศโอเพ่นซอร์สอัลกอริทึมการบีบอัดรูปภาพที่ชื่อว่า Lepton ซึ่งเป็นอัลกอริทึมที่ทั้งสามารถบีบอัดและคลายไฟล์ได้ รวมถึงสามารถทำงานได้ในขณะสตรีมมิ่ง

Daniel Reiter Horn ซึ่งอยู่ฝ่ายสถาปัตยกรรมระบบซอฟต์แวร์ของ Dropbox บอกว่า Lepton ได้ใช้ทำการเข้ารหัสไฟล์ภาพ 16,000 ล้านไฟล์ที่บันทึกลง Dropbox ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ให้ Dropbox หลายเพตะไบต์

อัลกอริทึม Lepton ของ Dropbox นั้นส่วนใหญ่ถูกเขียนด้วยภาษา C++ โดย Reiter Horn บอกว่าอัลกอริทึมนี้สามารถลดขนาดไฟล์ JPEG ได้ถึง 22%

Dropbox ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ดังนี้

• แอพ Dropbox บนสมาร์ทโฟนรองรับการถ่ายภาพเอกสาร รูปวาด ฯลฯ ขึ้นบนคลาวด์ โดยลุกค้า Dropbox Business สามารถเสิร์ชหาข้อมูลที่สแกนได้
• รองรับการสร้างไฟล์ทั้ง Word, Powerpoint และ Excel จากแอพ Dropbox โดยตรงและซิงก์ขึ้นคลาวด์ให้อัตโนมัติ
• รองรับการจัดการรูปภาพบนคอมพิวเตอร์
• แชร์ไฟลหรือโฟลเดอร์ได้จากเดสก์ท้อป ไม่ต้องเข้าเว็บหรือคัดลองลิงก์

จากข่าวก่อนหน้านี้ว่า Dropbox ย้ายระบบจาก AWS มาใช้ศูนย์ข้อมูลของตนเอง ล่าสุด Dropbox เปิดเผยว่า Hewlett Packard Enterprise หรือ HPE คือพาร์ทเนอร์ที่ให้ความร่วมมือในการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์เพื่อการนี้

Drew Houston ซีอีโอ Dropbox ระบุว่าการได้ร่วมมือกับ HPE นี้ เป็นประโยชน์ต่อ Dropbox ในการเข้าสู่ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เพราะมี HPE ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบการดูแลข้อมูล ซึ่งทาง HPE เองก็เป็นลูกค้าแบบองค์กรของ Dropbox ด้วย

Houston ยังเผยว่าในการออกแบบฮาร์ดแวร์สำหรับใช้งานนั้น ทาง HPE ได้ช่วยปรับเซิร์ฟเวอร์ให้สามารถบรรจุดิสก์ต่อเครื่องเพิ่มมากขึ้น เพราะ Dropbox ต้องการประหยัดต้นทุนให้มากที่สุด

Dropbox เปิดตัวบริการ Dropbox Education สตอเรจสำหรับหน่วยงานการศึกษา ฟีเจอร์คล้ายกับ Dropbox Business แต่ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมากขึ้น รองรับมาตรฐานการเก็บรักษาข้อมูลของสถาบันการศึกษา (ในสหรัฐ) พร้อมสรรพ

Dropbox Education ต้องซื้อตามจำนวนผู้ใช้เยอะๆ ขั้นต่ำ 300 บัญชีขึ้นไป โดยให้พื้นที่บัญชีละ 15GB คิดราคาต่อหัวคนละ 49 ดอลลาร์ต่อปี (Dropbox Pro คิด 120 ดอลลาร์ต่อปี ให้พื้นที่ 1TB, Dropbox Business คิด 180 ดอลลาร์ต่อปี พื้นที่ไม่จำกัด)

เว็บไซต์ Business Insider รายงานว่าสตาร์ตอัพในสหรัฐอเมริกา เริ่มลดผลประโยชน์หลายอย่างของพนักงานลง เพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายของบริษัท เช่น

Dropbox ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้กำลังพัฒนาระบบที่สามารถดูไฟล์ที่ซิงค์อยู่ได้ทั้งหมด แม้ว่าไฟล์นั้นจะไม่ได้อยู่บนเครื่องก็ตาม โดยผู้ใช้ไม่ต้องเลือกว่าจะให้ซิงค์ไฟล์หรือโฟลเดอร์ไหน

โครงการพัฒนานี้ Dropbox เรียกว่า Project Infinite เพื่อช่วยผู้ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลบนตัวเครื่องไม่มากนัก ซึ่งจะรองรับบน Windows 7 หรือใหม่กว่า และ OS X 10.9 หรือใหม่กว่า โดยเมื่อติดตั้ง Dropbox ไปแล้วจะสามารถเห็นไฟล์ทั้งหมดได้ แม้ว่าจะไม่ได้ดาวน์โหลดลงเครื่องก็ตามที รวมถึงสามารถเปิดใช้งานได้ด้วย

Dropbox ประกาศหยุดสนับสนุน Windows XP แล้ว โดย 26 มิ.ย. เป็นต้นไปจะไม่สามารถดาวน์โหลดจากเว็บของบริษัท และไม่สามารถสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่หรือล็อกอินเข้าแอพได้ ส่วนผู้ใช้ที่ล็อกอินอยู่แล้วจะสามารถใช้งานได้จนถึง 29 ส.ค. หลังจากนั้นจะถูกล็อกเอาต์โดยอัตโนมัติ

Dropbox ให้เหตุผลว่า เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยให้แอพ ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่กว่า Windows XP

ที่มา: Dropbox

Facebook Messenger ยังเดินหน้าเปิดให้แอพและบริการออนไลน์อื่นมาต่อเชื่อมได้มากขึ้น ฟีเจอร์ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาน่าจะมีประโยชน์มากสำหรับผู้ใช้ นั่นคือเราสามารถกดแชร์ไฟล์ Dropbox ได้จากแอพ Messenger โดยตรง

วิธีการใช้งานคือเข้าหน้าแชทคุยกับเพื่อนตามปกติ แล้วกดปุ่ม More (...) เพื่อเลือกแอพอื่นๆ จะมีตัวเลือก Dropbox ขึ้นมาให้เลือก กดแล้วเราจะเห็นไฟล์ใน Dropbox ของเรา พร้อมส่งให้เพื่อนได้ทันที

การใช้งานจำเป็นต้องมีแอพ Facebook Messenger และ Dropbox ติดตั้งอยู่ในเครื่อง ใช้ได้ทั้งบน iOS และ Android ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดใช้งานแล้ววันนี้

Dropbox ได้ประกาศความร่วมมือกับ Facebook ว่าตอนนี้ผู้ใช้ Messenger สามารถส่งไฟล์ที่อยู่บน Dropbox ผ่าน Messenger ได้โดยตรง ไม่ต้องสลับแอพไปมา ซึ่งถ้าเป็นไฟล์ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว GIF ก็จะมีพรีวิวบนหน้าแชท และสามารถเปิดไฟล์ที่ส่งผ่านแอพ Dropbox ได้เลย

วิธีส่งไฟล์จาก Dropbox ผ่าน Messenger คือต้องติดตั้งแอพ Dropbox บนมือถือไว้ก่อน จากนั้นไปที่หน้าแชทที่ต้องการส่งไฟล์ > กดปุ่ม More หรือปุ่ม "..." > หา Dropbox ในเมนู จากนั้น Messenger จะเรียกแอพ Dropbox ขึ้นมาให้เลือกไฟล์ที่ต้องการ รอสร้างลิงก์สักพักและจะเด้งกลับมาที่แอพ Messenger เพื่อยืนยันอีกครั้ง กดปุ่ม Send Photo ก็เป็นที่เรียบร้อย

ช่วงหลังๆ มานี้ เรามักเห็นข่าวบริษัทหลายแห่งย้ายระบบจากศูนย์ข้อมูลเดิม มาใช้คลาวด์แทนแบบ 100% (เช่น Netflix และ Zynga ที่เช่า AWS ทั้งคู่)

แต่ในทางกลับกัน ก็มีบริษัทที่ต้องเปลี่ยนจากการเช่าคลาวด์ AWS มาทำศูนย์ข้อมูลของตัวเองแทน บริษัทนี้คือ Dropbox ที่ล่าสุดออกมาประกาศว่าย้ายลูกค้ากว่า 90% มาอยู่ในศูนย์ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว

Dropbox ออกมาประกาศความสำเร็จว่ามีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียน 500 ล้านคนแล้ว สถิติอื่นที่เปิดเผย คือมีการแชร์ไฟล์ 3.3 พันล้านแชร์ เติบโตถึง 50% ในปีที่แล้ว, จำนวนการเรียก Dropbox API 500 พันล้านครั้ง, ผู้ใช้ใหม่สัดส่วน 44% มาจากการแนะนำของผู้ใช้เดิม, ผู้ใช้ 75% มาจากนอกสหรัฐอเมริกา

Dropbox ยังบอกว่าตอนนี้มีองค์กรทั่วโลก 8 ล้านแห่งที่ใช้ Dropbox และมีองค์กรที่ใช้บริการแบบจ่ายเงิน 150,000 แห่ง

เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดโครงการ Cloud Storage Partner Program ช่วยให้เอกสาร Office ที่อยู่บนคลาวด์ยี่ห้ออื่น เช่น Dropbox, Box, Citrix สามารถเปิดบน Microsoft Office ได้โดยตรง (เฉพาะเวอร์ชันเว็บและ iOS)

วันนี้ไมโครซอฟท์เพิ่มความสามารถให้ Cloud Storage Partner Program โดยเอกสารที่เก็บอยู่บนคลาวด์ยี่ห้ออื่นจะสามารถแก้ไขพร้อมกันแบบเรียลไทม์ (real-time co-authoring) ได้ด้วย จากเดิมที่ต้องเก็บเอกสารบน OneDrive หรือ SharePoint เท่านั้น

แอพ Dropbox บริการพื้นที่เก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆ ออกเวอร์ชัน Windows 10 แล้ว มาพร้อมฟีเจอร์ ดังนี้

• ค้นหาไฟล์ในแอพได้ด้วยการพิมพ์ตรงๆ ไม่ต้องกดปุ่มค้นหา
• รองรับการปลดล็อคด้วย Windows Hello ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง การสแกนหน้า, รอยนิ้วมือ, ม่านตา
• สามารถเปิด jump list เพื่อดูไฟล์ที่เคยเปิดได้ในทาสก์บาร์
• สามารถตอบโต้การแจ้งเตือนได้
• สามารถลากไฟล์จากหน้า Windows Explorer เข้า Dropbox ได้เลย
• สามารถสนทนากันได้ในแอพ

ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพได้ที่ Windows Store ส่วนเวอร์ชัน Windows 10 Mobile จะมาในอนาคต

Dropbox ประกาศวันนี้ว่า Mailbox แอพอ่านอีเมลที่ซื้อกิจการมาเมื่อปี 2013 และแอพจัดการรูปภาพและวิดีโอ Carousel ที่พัฒนาขึ้นมาเอง จะปิดตัวลง โดย Mailbox จะปิดตัววันที่ 26 กุมภาพันธ์ปีหน้า ส่วน Carousel จะปิดตัววันที่ 31 มีนาคม

ซีอีโอ Drew Houston ระบุว่าการปิดตัวนี้เพื่อนำฟีเจอร์ทั้งหลายมาใส่รวมไว้ที่ Dropbox แอพเดียว เพื่อเป็นการสร้างระบบทำงานร่วมกันที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น

ที่มา: Dropbox

Dropbox พยายามขายบริการออกจากบริการเก็บไฟล์อย่างเดียวมาเป็นบริการในสำนักงานครบวงจรมากขึ้น บริการล่าสุดคือ Dropbox Paper บริการสำหรับการเขียนเอกสารหลายคนพร้อมกัน

ตอนนี้ Paper ยังใช้งานได้บนเว็บเท่านั้น แต่ทาง Dropbox ระบุว่าจะทำแอปสำหรับบนโทรศัพท์ในเร็วๆ นี้ ตัวแก้ไขเอกสารที่ออกมาค่อนข้างเรียบง่าย เปลี่ยนฟอนต์ไม่ได้ และปรับขนาดตัวอักษรได้เพียงสามระดับ พร้อมใส่ภาพในเอกสารได้

บริการยังจำกัดเฉพาะผู้ได้รับเชิญ สำหรับใครที่สนใจสามารถสมัครเข้าคิวรอรับเชิญได้

ที่มา - Engadget

ยังคงขยายความสามารถในการแก้ไขเอกสารได้สะดวกขึ้น ล่าสุดจับมือกับ Adobe เพื่อให้การทำงานร่วมกับไฟล์ PDF ทำได้สมบูรณ์ขึ้นไปอีก โดยมาในรูปแบบคล้ายกับที่จับมือกับไมโครซอฟท์

จากการร่วมมือในครั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้ใช้ Adobe Acrobat และ Reader จะสามารถเชื่อมบัญชีเข้ากับ Dropbox และเปิดไฟล์ที่เก็บไว้ใน Dropbox ได้จากในตัวแอพ และในเร็วๆ นี้ ผู้ใช้แอพเวอร์ชันอุปกรณ์พกพา จะสามารถเน้นคำ ใส่ความเห็น แล้วเก็บไว้ใน Dropbox ได้

เปิดฟีเจอร์ทำงานร่วมกันให้เฉพาะลูกค้าองค์กรมาพักใหญ่ วันนี้ Dropbox ขยายฟีเจอร์ที่ว่ามาให้ลูกค้าทั่วไปทั้งกลุ่มบัญชี Basic และ Pro บ้างแล้ว

ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาถูกเรียกว่า "Team" ออกแบบมาให้ใช้ทำงานร่วมกันในกลุ่มเล็กๆ โดยสามารถสร้างกลุ่มสำหรับใช้แชร์ไฟล์เฉพาะทีมที่ทำงานด้วยเข้ามา และมีโฟลเดอร์กลางที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงสามารถทำบัญชีแยกจากเดิมที่ใช้งานทั่วไปได้พร้อมๆ กัน โดยสามารถใช้งานฟีเจอร์ Team นี้ได้ทั้งบนเดสก์ท็อป อุปกรณ์พกพา และผ่านเว็บไซต์

ตัวฟีเจอร์ใหม่จะเริ่มปล่อยให้ใช้ภายในสัปดาห์หน้าครับ

ที่มา - Dropbox

Dropbox เพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนที่เก็บทุกอย่างในชีวิตลง Dropbox ไม่เว้นแม้แต่ bookmark

Dropbox เวอร์ชันใหม่ล่าสุด (ทั้งเว็บและแอพบนเดสก์ท็อป) รองรับการลาก URL จากเว็บเบราว์เซอร์มาเก็บไว้ใน Dropbox ได้เลย ไฟล์ที่ได้จะเป็นนามสกุล .url เพื่อเอาไว้เปิดดูเว็บเพจหน้านั้นบนอุปกรณ์อื่นที่เราซิงก์ผ่าน Dropbox ได้

ฟีเจอร์นี้อาจไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แต่ Dropbox ก็ยกตัวอย่างการใช้งานในกรณีแชร์โฟลเดอร์งานร่วมกันระหว่างเรากับลูกค้า แต่ละฝ่ายใช้วิธีเก็บเอกสารคนละแบบ ฝ่ายหนึ่งเก็บเป็น Word อีกฝ่ายหนึ่งบันทึกลงเว็บ ก็สามารถสร้างโฟลเดอร์กลางแล้วเก็บทั้งไฟล์ Word และไฟล์ .url ไว้ร่วมกันได้ในที่เดียว ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกันหมด

Dropbox ประกาศรองรับการใช้ USB key เป็นการยืนยันตัวตนสองชั้น (two factors authentication) นอกเหนือจากการใส่รหัส PIN จากมือถือแบบของเดิม วิธีใช้งานคือเสียบ USB key (เป็นอุปกรณ์เฉพาะ คนละอย่างกับไดรฟ์ USB ทั่วไป) ที่ลงทะเบียนไว้กับ Dropbox ค้างไว้ แล้วป้อนรหัสผ่านได้เลย

Dropbox บอกว่าการยืนยันตัวตนด้วยฮาร์ดแวร์นั้นปลอดภัยว่าการป้อน PIN เพราะในบางกรณี เราอาจโดนหลอกให้เข้าหน้าเว็บ Dropbox ปลอม เพื่อแฮ็กเกอร์จะได้รหัส PIN ของเราไปกรอกเข้าเว็บ Dropbox ของจริงอีกทีหนึ่ง แต่ถ้าเป็นการใช้ฮาร์ดแวร์ด้วยก็ไม่สามารถหลอกข้อมูลแบบนี้ได้

Dropbox ยังเดินหน้ายุทธศาสตร์สร้างโซลูชันด้านเอกสาร-การสื่อสารสำหรับองค์กรธุรกิจต่อไป ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือซื้อกิจการบริษัท Clementine ที่ทำระบบแชต-โทรศัพท์ประชุมสำหรับองค์กร

Clementine เปิดตัวในเดือนกันยายน 2014 ตั้งเป้าสร้างซอฟต์แวร์ด้านส่งข้อความ และการประชุมภายในองค์กร (แข่งกับโซลูชันที่มีอยู่ก่อนอย่าง Lync หรือ Cisco) แต่หลังจากเปิดกิจการได้ไม่ถึงปี ก็โดนซื้อซะแล้ว

บริการของ Clementine จะใช้งานได้ถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ จากนั้นทีมงานจะย้ายไปอยู่กับ Dropbox โดยนำเทคโนโลยีของบริษัทไปตอบโจทย์ลูกค้าของ Dropbox ต่อไป

Dropbox เป็นแอพตัวล่าสุดบนแอนดรอยด์ที่เปลี่ยนมาใช้ Material Design กับเขาแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือปุ่ม + สีฟ้าที่มุมขวาล่าง เมื่อกดแล้วจะมีตัวเลือกใหม่สำหรับการถ่ายภาพเพื่ออัพโหลดขึ้น Dropbox เพิ่มเข้ามาด้วย

หน้าตาของแอพ Dropbox เดิมทีก็ค่อนข้างเรียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวาอยู่แล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็ช่วยให้หน้าตาของแอพดูไปในทางเดียวกันกับระบบปฏิบัติการ และแอพรุ่นใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์มากขึ้นครับ

ที่มา - Dropbox