aCommerce ให้บริการสนับสนุนระบบหลังบ้านแก่บริษัทอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งให้บริการด้านโลจิสติกส์, fulfillment และบริการดิจิทัล แถลงยุทธศาสตร์ตั้งเป้าเป็น One platform, one stop service ให้แก่ลูกค้า และเตรียมลงทุนเพิ่มทุกด้านเพื่อบริการลูกค้าได้แบบ end-to-end

นายพอล ศรีวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท aCommerce ระบุว่า อีคอมเมิร์ซมีความซับซ้อน การซื้อขายเกิดขึ้นหลายช่องทางเช่น LINE, Marketplace, Facebook Messenger, เว็บไซต์ เป็นต้น ระบบภายในของแบรนด์ต้องตอบสนองลูกค้าได้ทุกช่องทาง นำมาสู่โมเดลธุรกิจของ aCommerce คือ รวมคอมเมิร์ซเข้าด้วยกัน (Unified Commerce) และสร้างบริการให้ลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบตั้งแต่ให้คำปรึกษาลูกค้า การทำการตลาดไปจนถึงระบบโลจิสติก (full service end-to-end) ด้วยเหตุนี้จึงต้องลงทุนทุกด้านทั้งบุคลากร, เทคโนโลยีคลาวด์ ระบบจัดการในฝ่ายงานปฏิบัติการ โกดัง การจัดซื้อ การขนส่ง

aCommerce สตาร์ทอัพที่ให้บริการสนับสนุนอีคอมเมิร์ซ ทั้งโลจิสติกส์, fulfillment และบริการดิจิทัล ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย ประกาศรับเงินลงทุนซีรี่ส์ B อีก 65 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,100 ล้านบาท จากกลุ่มนักลงทุนนำโดย Emerald Media

เมื่อสองปีที่แล้ว aCommerce ได้รับเงินลงทุนจาก DKSH ทำให้ตอนนี้มีเงินลงทุนรวมแล้ว 94 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบัน aCommerce ให้บริการอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ มีลูกค้ารายสำคัญอาทิ ซัมซุง, ยูนิลีเวอร์, เนสท์เล่ และลอรีอัล

สถิติของวันเทศกาลลดราคา 11 เดือน 11 ยังคงมีประกาศกันออกมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นของ Shopee ที่จัดกิจกรรม Shopee Super Sale ในวัน 11.11 เช่นกัน โดยภาพรวมของ Shopee ทั้งหมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวันนั้น มีจำนวนคำสั่งซื้อ 2.5 ล้านครั้ง ภายในเวลา 24 ชั่วโมง เพิ่มสูงขึ้น 4.5 เท่า จากเมื่อปี 2016 คิดเป็นจำนวนสินค้าที่ขายได้มากกว่า 7 ล้านชิ้น มีการแชตระหว่างการซื้อขายมากกว่า 13 ล้านครั้ง

ตัวเลขน่าสนใจของ Shopee เฉพาะในประเทศไทยมีดังนี้

Lazada ประเทศไทย เปิดเผยสถิติตัวเลขที่น่าสนใจ ของวันที่ 11 เดือน 11 ซึ่งมีการจัดมหกรรมลดราคาครั้งใหญ่ และเป็นปีแรกที่ Lazada มีรายการโทรทัศน์เพื่อจัดกิจกรรมถ่ายทอดสดการนับถอยหลังเข้าสู่วันที่ 11.11 ทางช่อง 3HD และลาซาด้าทีวี

• จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นรวมมากกว่า 10 ล้านครั้ง
• จำนวนการสั่งซื้อสินค้า สูงกว่าช่วงเวลาอื่น 10 เท่า
• ส่วนลดต่างๆ ช่วยให้ผู้ซื้อประหยัดเงินกว่า 870 ล้านบาท
• พื้นที่จัดส่งสูงสุดคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี และสมุทรปราการ

JD.com อีคอมเมิร์ซอันดับ 2 ของประเทศจีน ซึ่งจัดกิจกรรมลดราคาประจำปีวันคนโสดจีน 11 เดือน 11 มาต่อเนื่องหลายปีเช่นกัน แต่ไม่เคยเปิดเผยตัวเลขยอดขาย ปีนี้ตัดสินใจรายงานตัวเลขเป็นครั้งแรก ซึ่งออกมาน่าสนใจทีเดียว

โดยยอดขายสุทธิ (GMV) อยู่ที่ 1.27 แสนล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยราว 6.3 แสนล้านบาท (Alibaba ปีนี้ทำได้ 1.68 แสนล้านหยวน) ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่ายอดขายของ Alibaba เมื่อปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1.21 แสนล้านหยวน JD.com ยังเปิดเผยสถิติของสินค้าบางรายการที่น่าสนใจดังนี้

จบไปเรียบร้อยสำหรับเทศกาลลดราคาครั้งใหญ่ วันคนโสดจีน 11 เดือน 11 โดย Alibaba ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีนได้สรุปสถิติตลอด 24 ชั่วโมงของการขายประจำปี 2017 หลังจากมีการ รายงาน ตัวเลข ก่อนหน้านี้ออกมา รายละเอียดดังนี้

• ยอดขายสุทธิ (GMV) 168,269.6 ล้านหยวน หรือราว 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ถ้าคิดเป็นเงินก็มากกว่า 8 แสนล้านบาท
• ยอดขายนี้เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเป็นอัตราเติบโตที่สูงขึ้น (ปีก่อน +32%)
• ใช้เวลา 13 ชั่วโมง 9 นาที ในการทำยอดขายเท่ากับของปี 2016
• จำนวนการส่งสินค้า 812 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 23%
• คำสั่งซื้อเกิดขึ้นบนมือถือ 90% ของคำสั่งซื้อทั้งหมด
• การชำระเงินผ่าน Alipay เกิดขึ้น 1.5 พันล้านครั้ง

Alibaba ยังคงประกาศสถิติงานลดราคาประจำปีวันที่ 11 เดือน 11 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถึงตอนนี้ยังไม่จบหนึ่งวัน สถิติล่าสุดก็คือยอดขายผ่านไป 13 ชั่วโมง สามารถทำได้เท่ากับตัวเลขยอดขายตลอดวันของปีที่แล้ว

โดยเมื่อเวลา 13:09:49 ตามเวลาท้องถิ่น Alibaba ประกาศว่ายอดขายรวมได้ทำลายสถิติปีที่แล้ว 120,700 ล้านหยวน หรือราว 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อย ที่น่าสนใจคือยอดขายราว 7 พันล้านดอลลาร์นั้นเกิดขึ้นใน 30 นาทีแรกของการขายเลยทีเดียว

สถิติเดิมได้ถูกทำลายไปแล้ว ตอนนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจบหนึ่งวันยอดขายจะทำได้มากกว่าปีที่แล้วมากน้อยเพียงใด

Alibaba ประกาศสถิติของกิจกรรมโปรโมชันลดราคาวันคนโสดจีน 11 เดือน 11 ประจำปีนี้ ซึ่งยังไม่จบวัน แต่ผ่านไปหลายชั่วโมงของการขายก็มีตัวเลขที่น่าสนใจรายงานออกมาดังนี้

• ยอดการใช้จ่ายผ่าน Alipay 1 พันล้านดอลลาร์ (6.6 พันล้านหยวน) ใน 2 นาที 1 วินาทีแรก
• 2 ชั่วโมงแรก มียอดใช้จ่ายผ่าน Alipay 1.19 หมื่นล้านดอลลาร์ (7.88 หมื่นล้านหยวน) โดย 91% มาจากการซื้อผ่านมือถือ
• Alibaba Cloud ประมวลผลคำสั่งซื้อสูงสุด 325,000 ออเดอร์ต่อวินาที ในชั่วโมงแรก
• Alipay ประมวลผลการใช้จ่ายสูงสุด 256,000 รายการต่อวินาที ในชั่วโมงแรก
• มีมากกว่า 60 แบรนด์ใหญ่ ที่ทำยอดขายได้มากกว่า 15.1 ล้านดอลลาร์ (100 ล้านหยวน) ในชั่วโมงแรก อาทิ Apple, Estée Lauder, Gap, L’Oreal, Nike, Samsung, Uniqlo และ Zara

Facebook Marketplace ช่องทางประกาศซื้อขายสินค้าบน Facebook เปิดตัวในบางประเทศมาตั้งแต่ปี 2016 ล่าสุดเปิดให้ใช้ในประเทศไทยแล้วทั้งแอพพลิเคชั่นมือถือและเดสก์ทอป

ใน Facebook Marketplace ผู้ใช้สามารถเลือกดูสินค้าแบ่งตามหมวดหมู่ต่างๆ ภายในชุมชนที่อยู่ในระยะใกล้เคียงเพื่อความสะดวกในการซื้อขาย สามารถดูโปรไฟล์และรายละเอียดของผู้ซื้อและผู้ขายได้ ด้านหมวดหมู่สินค้ามีหลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้า ของใช้ ไปจนถึงรถยนต์และเช่าซื้อที่อยู่อาศัย

Amazon เพิ่มฟีเจอร์ AR View ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช้อปปิ้งด้วย AR ในแอพบน iOS โดยฟีเจอร์นี้สามารถพรีวิวสินค้าของ Amazon นับพันชิ้นในรูปแบบสามมิติ ตั้งแต่เครื่องครัว ไปจนถึงของเล่นและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (และแน่นอนรวมถึงสินค้าของ Amazon ด้วย)

ฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้กับ iPhone 6s เป็นต้นไป และตอนนี้ Amazon ยังไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์นี้บนแอพ Android แต่อย่างใด

ที่มา - Engadget

eBay Authenticate บริการรับรองว่าสินค้าว่าไม่ใช่ของปลอม ได้เปิดให้ทดลองใช้มาตั้งแต่ต้นปี และตอนนี้ eBay ก็พร้อมเปิดบริการ Authenticate ให้ใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว

สำหรับ eBay Authenticate นี้จะเน้นไปที่สินค้าระดับไฮเอนด์ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ซื้อสนใจซื้อสินค้าราคาแพงบนแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น โดยจะใช้เครือข่ายของผู้รับรองที่มีความเชี่ยวชาญ จะไปรับสินค้าจากผู้ขาย, ตรวจสอบ และถ่ายรูป, ลิสต์รายการ จากนั้นจึงส่งไปยังผู้ซื้อ

Amazon เปิดตัวระบบล็อกอินแยกสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี โดยสามารถเลือกซื้อสินค้าหรือสตรีมคอนเทนต์ได้ในบัญชีส่วนตัว ซึ่ง Amazon บอกว่าเพราะเด็กวัยรุ่นต้องความอิสระ ขณะเดียวกันพ่อแม่ก็อยากควบคุมดูแล จึงได้สร้างแนวทางที่เหมาะสมขึ้นมา

โดยผู้ใช้งานวัยรุ่นสามารถผูกบัญชีเข้ากับบัญชีครอบครัวของพ่อแม่ได้ และสามารถเปิดคำสั่งซื้อสินค้า โดยคำสั่งซื้อนี้จะแจ้งเตือนไปยังพ่อแม่เพื่อให้อนุมัติหรือปฏิเสธการซื้อ หรือสามารถตั้งเงื่อนไขให้อนุมัติอัตโนมัติได้หากราคาไม่เกินที่กำหนด และบัญชีแยกนี้ยังได้สิทธิ Prime ทั้ง Prime Shipping, Prime Video และ Twitch Prime ร่วมกับครอบครัวโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

กลุ่มเซ็นทรัลเปิดตัวแพลตฟอร์ม AVDM หรือ Aux Villies Du Monde เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นรวมข้อมูลท่องเที่ยวและสินค้าในห้างของกลุ่มเซนทรัลที่ตั้งอยู่ใน 8 เมืองในยุโรป พร้อมกันนี้ยังเปิดบริการซื้อสินค้าในห้างดังกล่าว โดยสื่อสารกับหน้าร้านผ่าน WhatsApp และการันตีจัดส่งสินค้าถึงบ้านภายใน 5 วัน

ปัจจุบัน eBay เปิดให้ผู้ใช้สอบถามร้านค้าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าได้ แต่ในบางครั้งการสอบถามจากผู้ขายสินค้าก็อาจได้ข้อมูลไม่เพียงพอ eBay จึงเปิดบริการให้ผู้ใช้สอบถามผู้ใช้ด้วยกันเองที่เคยซื้อสินค้ามาก่อนหน้านี้

ปกติแล้ว eBay นั้นเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ซื้อสินค้าแล้วกลับมารีวิวสินค้าได้ แต่การเปิดตัวฟีเจอร์ถามตอบระหว่างผู้ซื้อด้วยกันเองจะทำให้ผู้ซื้อได้ข้อมูลที่ดีกว่า เพราะสามารถสอบถามคำถามเฉพาะเจาะจงได้ ทำให้ผู้ใช้มีข้อมูลมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อสินค้า จะได้ลดโอกาสซื้อสินค้ามาแล้วไม่พอใจต้องรอทำเรื่องคืนเงิน

สำหรับฟีเจอร์นี้ eBay เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วทั้งบนเว็บมือถือและเดสก์ท็อป ส่วนบนแอพมือถือจะเพิ่มฟีเจอร์นี้อีกไม่นานนัก

ก่อนหน้านี้ JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนเพิ่งจะประกาศแผนลงทุนในไทย เตรียมใช้ไทยเป็นฮับไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ เช่น เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ แต่ยังไม่ระบุเม็ดเงินที่จะนำมาลงทุน ล่าสุด Tech In Asia รายงานว่า JD หารือกับเครือเซ็นทรัล เตรียมทำอีคอมเมิร์ซเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Ventures) ในไทยด้วยเงินทุน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Facebook ขยายแพลตฟอร์ม Marketplace เพิ่มขึ้นในอีกหลายประเทศในยุโรป เป็นอีกช่องทางโพสต์ของซื้อของขายโดยผู้ใช้ Facebook รูปแบบดังกล่าวค่อนข้างใกล้เคียงกับ Craigslist นอกจากนี้ยังมีท่าทีว่าจะเพิ่มหมวดหมู่สินค้ามากขึ้นด้วย

Deb Liu ผู้ดูแล Marketplace ให้สัมภาษณ์ Recode ระบุว่าบน Marketplace จะมีทางเลือกข้อเสนอพิเศษ หมวดสินค้าอื่น ตลาดหนึ่งที่เป็นที่นิยมคือ รถยนต์ Facebook จึงมีแผนจะนำรถยนต์จากตัวแทนขายมาลงใน Marketplace และมีแผนการทำนองเดียวกันในหมวดอสังหาริมทรัพย์ด้วย

Tokopedia เว็บอีคอมเมิร์ซของอินโดนีเซียประกาศรับเงินลงทุนเพิ่ม 1,100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 36,000 ล้านบาท จากนักลงทุนนำโดยกลุ่ม Alibaba ซึ่ง Tokopedia ระบุว่า Alibaba ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นด้วยแต่ไม่ใช่หุ้นส่วนใหญ่

Tokopedia ก่อตั้งในปี 2009 เคยได้รับเงินลงทุนจาก SoftBank ในปี 2014 ราว 100 ล้านดอลลาร์ และเป็น Marketplace รายใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย มีร้านค้าหลายล้านอยู่บนแพลตฟอร์ม

William Tanuwijaya ซีอีโอ Tokopedia กล่าวว่าความร่วมมือกับ Alibaba จะช่วยขยายสเกลและเพิ่มคุณภาพการบริการสำหรับลูกค้า รวมทั้งเปิดโอกาสใหม่ให้กับร้านค้าใน Tokopedia ด้วย

Facebook ประกาศเปิดตัว Marketplace เพิ่มอีก 17 ประเทศ หลังจากเปิดตัวไปใน 6 ประเทศก่อนหน้านี้ คือ ออสเตรเลีย, แคนาคา, ชิลี, เม็กซิโก, นิวซีแลนด์ และอังกฤษ

Marketplace ของ Facebook เปิดตัวครั้งแรกเดือนตุลาคมปี 2016 ผู้ใช้งานในพื้นที่ที่ใช้ได้จะเห็นว่าแท็บ Marketplace เพิ่มขึ้นมา สามารถเลือกดูหมวดสินค้าและประกาศขายสินค้าได้ จุดเด่นของฟีเจอร์อีกอย่างคือสามารถดูได้ว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่ขายอยู่ใกล้ๆ กับเรา (Items for Sale Near You) ทาง
Facebook ระบุว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีผู้ใช้โพสต์สินค้า 18 ล้านชิ้นแล้ว (ตัวเลขเฉพาะในสหรัฐฯ) และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

Amazon ยังคงขยายตลาดอีคอมเมิร์ซสู่ประเทศใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด TechCrunch รายงานว่า Amazon เตรียมเปิดตัวบริการในประเทศสิงคโปร์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรก

ในการเปิดตัวนี้ Amazon จะเปิดบริการ Amazon Prime และ Amazon Prime Now ไปพร้อมกันด้วย

แผนการตลาดของ Amazon ได้เริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว โดยทำการตลาดผ่านบัญชี Instagram ที่มีผู้ติดตามเยอะของสิงคโปร์ โพสต์ภาพบอกใบ้เป็นนัยว่า Amazon จะมาให้บริการในประเทศเร็วๆ นี้

เราจะเห็นโลกออนไลน์เข้ามา disrupt ธุรกิจแบบเดิมๆ เต็มไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่สะดวกมากกว่าเดิม คุณสามารถนอนเล่นอยู่ในคอนโด เลือกสินค้าที่มีขายตามห้างสรรพสินค้าได้ตามใจชอบ เพียงแค่สแกนบาร์โค้ดเท่านั้น

Nasket เป็นสตาร์ตอัพไทยรายล่าสุดที่แก้ปัญหาเรื่องประสบการณ์สั่งซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซที่ยังยุ่งยากและซับซ้อน ด้วยการสร้างฮาร์ดแวร์ที่มีหน้าจอและตัวสแกนบาร์โค้ด ช่วยให้กระบวนการสั่งซื้อง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ อยากได้อะไรก็เอาไปสแกนเพื่อสั่งซื้อได้ทันที

Blognone มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณผรินทร์ สงฆ์ประชา ซีอีโอของ Nasket เพื่อให้ข้อมูลละเอียดว่าตกลงแล้ว Nasket คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง

Amazon ประกาศความสำเร็จของงาน Prime Day มหกรรมลดราคาสินค้าประจำปี ซึ่งจัดปีนี้เป็นปีที่ 3 โดย Amazon ระบุว่ายอดขายนั้นทำได้สูงกว่าเทศกาลลดราคาอย่าง Black Friday และ Cyber Monday ในปีที่ผ่านมาเสียอีก

Amazon บอกว่ายอดขายในปีนี้สูงกว่าเมื่อปี 2016 ถึง 60% จากการจัดกิจกรรมขายใน 13 ประเทศ นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครสมาชิก Prime ในวันเดียวสูงเป็นประวัติศาสตร์ของบริษัทด้วย

อย่างไรก็ตาม Amazon ไม่ได้ให้ความเห็นถึงประเด็น Prime Day ปีนี้มีจำนวนประเทศที่เข้าร่วมมากขึ้น และมีระยะเวลาขายมากขึ้น (เดิม 24 ชั่วโมง เป็น 30 ชั่วโมง) ซึ่งย่อมส่งผลให้ยอดขายสูงขึ้นอยู่แล้ว

Alibaba ยักษ์อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน ประกาศลงทุนใน Lazada จากเดิมที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่แล้ว โดยลงทุนเพิ่มอีก 1 พันล้านดอลลาร์ ทำให้มีจำนวนหุ้นจากเดิม 51% เป็น 83% โดยเป็นไปตามยุทธศาสตร์เสริมความแข็งแกร่งในการลงทุนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ Alibaba จะใช้วิธีซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม โดยให้มูลค่ากิจการของ Lazada ที่ราว 3,150 ล้านดอลลาร์ ทำให้เงินลงทุนของ Alibaba ใน Lazada รวมเป็น 2 พันล้านดอลลาร์ (ปีที่แล้วซื้อหุ้นไป 1 พันล้านดอลลาร์)

ในสงครามอีคอมเมิร์ซที่รุนแรง eBay ก็ได้ประกาศโปรแกรมใหม่ชื่อว่า Price Match Guarantee โดยรับรองว่าสินค้าในดีลกว่า 50,000 รายการนั้นมีราคาต่ำที่สุดแน่นอน ซึ่งทำการเทียบราคาสินค้ากับคู่แข่งอย่าง Amazon ไปจนถึงร้านค้าปลีก Walmart

โดย eBay บอกว่าหากลูกค้าพบสินค้ารายการเดียวกับ และคู่แข่งรายอื่นจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่า สามารถขอคูปองเพื่อเป็นส่วนต่างไปลดราคาให้เท่ากันได้

โปรแกรม Price Match Guarantee นี้มีผลแล้วสำหรับลูกค้าในอเมริกา

ที่มา: Engadget

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า JD.com ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในประเทศจีน ประกาศแผนลงทุนในประเทศไทยภายในปีนี้ จากที่ปัจจุบันลงทุนในประเทศอินโดนีเซียอยู่แล้วในภูมิภาคนี้

Richard Liu ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ JD.com กล่าวว่าเขาต้องการใช้ประเทศไทยเป็นฮับในให้บริการยังประเทศอื่นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม และมาเลเซีย

อย่างไรก็ตามเขาปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลของขนาดเงินที่จะลงทุนในประเทศไทย

ที่มา: Reuters

Amazon เปิดศึกแข่งกับ Etsy เพิ่มพื้นที่ขายของแฮนด์เมดสำหรับงานแต่งงาน ในขณะที่ Etsy เจอความกดดันเรื่องยอดซื้อขายลดลง

Amazon มีแพลตฟอร์มของแฮนด์เมดหรือ Handmade at Amazon มาตั้งแต่ปี 2015 โดยล่าสุดเพิ่มการค้นหาเฉพาะเจาะจงมาที่ของแฮนด์เมดสำหรับงานแต่งงานโดยเฉพาะ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะอุตสาหกรรมการจัดงานแต่งมีมูลค่าสูงมาก ทาง Amazon เองก็ปรับปรุงระบบให้สามารถติดตามสินค้า มีนโยบายคืนสินค้าภายใน 180 วัน และมีร้านขายของบนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นด้วย