Tags:
Node Thumbnail

หลังจากที่ The New York Times ตีพิมพ์เรื่องของลูกค้าที่ซื้อแว่นตา Lafont ผ่านเว็บโดยการค้นหาข้อมูลด้วยกูเกิล และสรุปความว่ายิ่งลูกค้าด่ามากเท่าไหร่เว็บก็ยิ่งขายดีนั้น ทางกูเกิลก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้ออกมาชี้แจงผ่านบลอกของกูเกิลว่า นี่เป็นปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้นและตอนนี้กูเกิลก็ได้ตั้งทีมมาดูแลปัญหานี้โดยเฉพาะ รวมถึงปรับปรุงอัลกอริธึมใหม่ที่จะป้องกันปัญหานี้

โดยตอนนี้ระบบใหม่เริ่มใช้งานแล้ว แนวทางที่ใช้หลักๆ มีดังนี้

Tags:
Node Thumbnail

David Segal นักข่าวของ The New York Times เขียนบทความเรื่อง "A Bully Finds a Pulpit on the Web" เกี่ยวผู้หญิงคนนึงที่โดนหลอกจากการซื้อของบนเน็ต ฟังดูก็เหมือนเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ที่มันไม่ธรรมดาคือบทความนี้กลายเป็น Top Trend บน Twitter, ถูกแชร์บนอินเทอร์เน็ตเป็นหมื่นครั้ง และมีบทความวิเคราะห์ถึงปัญหา ที่มาที่ไปกันอีกหลายรายการ

Tags:
Node Thumbnail

ออราเคิลยังเดินหน้าซื้อบริษัทต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดเข้าซื้อบริษัท ATG (Art Technology Group) ซึ่งเป็นยักษ์ด้านซอฟต์แวร์อีคอมเมิร์ซ และมีลูกค้าองค์กรชั้นนำมากมาย

การซื้อกิจการครั้งนี้มีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ แน่นอนว่า ATG จะเข้ามาเสริมทัพด้านซอฟต์แวร์องค์กรอื่นๆ ที่ออราเคิลมีอยู่แล้ว เช่น ERP, CRM หรือ supply chain

ที่มา - TechCrunch IT

Tags:
Node Thumbnail

ข่าวกูเกิลบุกตลาด social network เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะช่วงนี้ "ซื้อแหลก" เหลือเกิน (อ่านข่าวเก่า กูเกิลซื้อ Slide.com เสริมทัพก่อนบุกตลาด Social Network) ล่าสุดกูเกิลซื้อบริษัท Jambool ซึ่งเป็นเจ้าของระบบจ่ายเงินใน Social Network ชื่อว่า Social Gold ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Facebook Credit

การซื้อรอบนี้ถือว่าเป็นโชคหล่นทับของ Jambool เพราะเดิมทีบริษัทสร้างระบบ Social Gold มาใช้กับแอพและเกมส์ใน Facebook แต่ปรากฎว่าโดนแข่งโดย Facebook Credit เสียเอง ระหว่างที่กำลังแย่มาโดนกูเกิลซื้อกิจการเอาไปใช้งาน (ใน Google Me?)

อันนี้ต้องดูกันต่อไปว่า Social Gold จะนำไปรวมกับ Google Checkout หรือเปล่า

Tags:
Node Thumbnail

ในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ในประเทศเกาหลีใต้ มีข้อกำหนดทางกฎหมายว่าต้องมีการเข้ารหัสแบบ SEED ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยเกาหลีใต้เอง ทำให้เว็บซื้อขายทั้งหลายรวมทั้งธนาคารออนไลน์ที่ต้องการระบุตัวตนของผู้ใช้ จำเป็นต้องบังคับให้ผู้ใช้ลงปลั๊กอิน ActiveX เพื่อจัดการส่วนนี้ เนื่องจากในปี 1999 ตอนที่กฏหมายนี้ผ่านออกมา ไม่มีเว็บบราวเซอร์ไหนสนับสนุนการเข้ารหัสแบบ SEED (Firefox เพิ่งสนับสนุนความสามารถนี้ในเวอร์ชัน 3.5.6) ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ Internet Explorer ครองแชมป์สัดส่วนการใช้งานเว็บเบราเซอร์ในเกาหลีใต้แบบไร้คู่แข่ง (เพราะยี่ห้ออื่นลง ActiveX ไม่ได้)

Tags:
Node Thumbnail

เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องไกลตัวเราหน่อย แต่ผมเห็นว่ามันน่าสนใจดีเลยแปลเอามาให้อ่านกันครับ

หนึ่งในสมาชิกสภาล่างของสหรัฐพรรค Democrat ได้ออกเรียกร้องให้มีการสนับสนุนให้เก็บภาษีจากการซื้อขายของบนอินเทอร์เน็ตข้ามรัฐ โดยทุกวันนี้นั้นผู้ที่ทำการซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตจากผู้ค้าที่อยู่อีกรัฐหนึ่งนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเสียภาษีแต่อย่างใด ในขณะที่การจำหน่ายสินค้าออนไลน์นั้นเพิ่มมากขึ้นทุกที ทำให้รัฐหลาย ๆ รัฐเสียภาษีที่ควรจะได้เป็นมูลค่ามหาศาล

Tags:
Node Thumbnail

ถัดจาก social network และ microblogging เทคโนโลยีตัวถัดๆ ไปที่มีแนวโน้มว่าจะมาแรงได้แก่ location-based service (LBS) และ augmented reality

Blognone เคยเสนอข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีสองตัวนี้ไปแล้วหลายครั้ง (อ่านข่าวเก่าได้ตามลิงก์) และหลายๆ คนแถวนี้น่าจะเคยเล่นกันไปบ้างแล้ว ตัวอย่างที่นิยมก็อย่างเช่น Foursquare และ Layar ซึ่งมีในมือถือรุ่นใหม่ๆ หลายแพลตฟอร์ม

Tags:
Node Thumbnail

บริษัทวิจัยตลาด IDC รายงานว่า อุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนเติบโตขึ้นประมาณ 20% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งสวนกระแสการเสื่อมถอยของเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ

มูลค่าการค้าในภาพรวมของอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 1.951 ล้านล้านหยวน (CNY) หรือประมาณ 10.73 ล้านล้านบาท ในปี 2551 เพิ่มขึ้นจากมูลค่ารวม 1.608 ล้านล้านหยวนในปี 2550 ทั้งนี้จากตัวเลขรายได้ดังกล่าวในส่วนที่เป็นการใช้งานส่วนบุคคล ปรากฏว่าได้เพิ่มขึ้นกว่า 30%

รายงานระบุด้วยว่า อุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของจีน จะยังคงรักษาระดับการเพิ่มขึ้นของมูลค่าธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 5 ปี และคาดว่าในปี 2553 จะมีมูลค่าประมาณ 3.22 ล้านล้านหยวน

Tags:
Node Thumbnail

ตั้งแต่มีการซื้อขายสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตขึ้นมา ไม่มีซักครั้งที่ปีต่อปี ยอดขายจะลดลง แต่ปีนี้ ยอดขายสินค้าช่วงคริสต์มาสกลับลดลงถึง 3% หากเทียบกับเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

โดยยอดขายสินค้าช่วงคริสต์มาสหรือช่วงวันหยุดยาวของสหรัฐฯ จะนับตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายนจนถึง 23 ธันวาคมของแต่ละปี โดยปีนี้ยอดขายรวมนั้นสิ้นมีเพียงแค่ 2.55 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 2.63 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสาเหตุส่วนใหญ่เอง ก็หนีไม่พ้นพิษเศรษฐกิจนั่นเอง

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จำนวนการซื้อขายสินค้าออนไลน์อาจจะลดลง แต่ผู้ขายสินค้าบางรายพบกับจำนวนยอดขายที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน ๆ เช่น Amazon หรือ Cyber Monday ที่บอกว่ายอดขายสินค้านั้นสูงขึ้นกว่าปีก่อน ๆ

Pages