หลังจากที่อเมซอนประกาศหยุดการจำหน่าย Kindle Touch ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพื่อเปิดทางให้ Kindle Paperwhite ใหม่ไปไม่นาน ทางอเมซอนก็ไม่ทอดทิ้งซะทีเดียว ไม่กี่วันที่ผ่านมาทางอเมซอนก็ปล่อยอัพเดต 5.3.2 ออกมาอัพเดตความสามารถกันแล้วครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นความสามารถที่มีอยู่ใน Paperwhite
รายละเอียดของการอัพเดตมีดังนี้
เนื่องจากเพื่อนผมซื้อ Kindle Paperwhite (PW) มาแล้ว และตัวผมก็แสดงความสนใจเจ้าเครื่องนี้จนออกนอกหน้า เพื่อนตัวดีก็ใจดีให้ผมยืมไปลองเล่นเผื่อว่าจะหาเพื่อนร่วมทางได้อีกคน ผมก็เลยถือวิสาสะจับมาทดสอบการใช้งานและพร้อมกับแชร์ให้เพื่อนๆให้ได้รับทราบกัน
ในฐานะที่ผมใช้งานเครื่อง Kindle 2, Kindle 3 และ Kindle DX Graphite มาด้วย และประกอบกับทาง Blognone เองมีรีวิว Kindle 3 โดยคุณ pittaya และ รีวิว Kindle Touch โดยคุณ mk ผมคงจะเน้นส่วนประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างมากกว่ารีวิวเจาะไปในทุกฟีเจอร์ละกันครับ
ฮาร์ดแวร์
ถ้าใครอยากได้ Kindle หน้าจอสัมผัสแบบไม่มีไฟ ขอแสดงความเสียใจด้วย ตอนนี้อเมซอนเลิกขาย Kindle Touch ที่เปิดตัวเมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยตัดออกจากหน้าอุปกรณ์ Kindle ถ้าคุณยังหา Kindle Touch ในเว็บอเมซอน จะขึ้นว่า ไม่มีของเหลือ โดยแนะนำให้ไปซื้อ Kindle Paperwhite แทน
นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอเมซอนมักเลิกขาย Kindle รุ่นเก่าเมื่อเปิดตัวรุ่นใหม่ ซึ่งทาง The Verge ทราบตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้วว่าอเมซอนลดกำลังการผลิต Kindle Touch
ที่มา - The Verge
จากข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว Amazon ใกล้ปลดระวาง Kindle DX มาบัดนี้อเมซอนเริ่มปฏิบัติการปลดระวางแล้ว โดยตอนนี้ในหน้าเว็บไซต์ Kindle DX Graphite ไม่มีการขายเครื่องมือทั้งเครื่องใหม่และเครื่อง refurbish อีกต่อไปโดยเหลือแต่ของมือสองเท่านั้น
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ BBC ยอมรับว่า Kindle รุ่นล่าสุดอย่าง Kindle Fire HD และ Kindle Paperwhite ไม่ได้กำไรจากค่าฮาร์ดแวร์เลย
Bezos บอกว่าความสำเร็จของ Kindle ขึ้นกับว่าลูกค้าซื้ออีบุ๊กและสื่อมัลติมีเดียจาก Amazon มากแค่ไหน ไม่ใช่ขึ้นกับว่าลูกค้าซื้อตัวฮาร์ดแวร์มากเท่าไร เขาอธิบายว่ายุทธศาสตร์นี้มีฐานคิดว่า ลูกค้าต้องการบริโภคสื่อมากขึ้นเมื่อเป็นเจ้าของ Kindle อย่างน้อยหนึ่งรุ่น และสถิติของ Amazon เองก็พบว่าลูกค้าที่ซื้อ Kindle อ่านหนังสือมากกว่าเดิม 4 เท่า แถมยังซื้อหนังสือกระดาษเช่นเดิม
Amazon พยายามสร้างมูลค่าเพิ่มให้แพลตฟอร์มของตัวเอง โดยผูกบริการเข้ากับ Amazon Prime และบริการยืมอีบุ๊กฟรีอย่าง Kindle Lending Library
Amazon เริ่มส่งเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นล่าสุด Kindle Paperwhite ให้คนที่สั่งซื้อล่วงหน้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ Amazon ขึ้นข้อความว่า "ของหมด" บนหน้าเว็บแล้ว และถ้าจะสั่งตอนนี้ต้องรออีก 4-6 สัปดาห์ กว่าจะได้ของต้องรอถึงเดือนพฤศจิกายน
Kindle Paperwhite ขายหมดทุกเวอร์ชันไม่ว่าจะเป็นรุ่น Wi-Fi หรือ 3G ทั้งแบบมีและไม่มีโฆษณาด้วย
คนแถวนี้ที่คิดจะสั่ง (หรือสั่งไปแล้ว) ก็คงต้องรอกันอีกนานหน่อยครับ ของเค้าขายดี
ที่มา - GigaOm
Barnes & Noble หั่นราคา Nook Simple Touch with GlowLight (รีวิวโดยคุณ polaromonas) ที่เดิมเปิดตัวด้วยราคา 139 ดอลลาร์เมื่อต้นปีนี้ ลงมาเหลือที่ 119 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,700 บาท)
การลดราคารอบนี้ชัดเจนว่า Barnes & Noble ต้องการปรับราคาของ Nook GlowLight ลงมาเหลือ 119 ดอลลาร์ เท่ากับ Kindle Paperwhite ของ Amazon ซึ่งเป็นเครื่องอ่านอีบุ๊กแบบจอมีไฟสว่างเช่นกัน (แต่ Nook ไม่มีโฆษณาแบบ Kindle)
ที่มา - CNET
David Risher ชื่นชอบ และหลงใหลการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เขาจำความได้ เพราะหนังสือเป็นช่องทางเดียวที่ทำให้เขาได้ผจญภัยไปยังสถานที่ต่างๆ และได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ตั้งแต่วัยเด็ก หนังสือเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มการศึกษาให้กับเขา และเป็นสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจ ย้ายชีวิตการทำงานจาก Microsoft มาที่ Amazon.com
ในระหว่างที่เขาอยู่กับ Amazon.com เขาเป็นคนสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างก้าวกระโดด จาก 16 ล้านเหรียญ สู่ 4 พันล้านเหรียญ จนได้รับตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโสของ Amazon.com ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายของเขา ก่อนที่เขาจะตัดสินใจลาออกในปี 2545 เพื่อเข้าสู่สายอาชีพการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และอาสาสมัครต่อไป
หลังจากที่ Amazon เปิดตัว Kindle รุ่นเก๋ายอดนิยมอย่าง Kindle Keyboard มากว่าสองปี
ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Kindle มาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Kindle (รุ่นที่ ๔ : Kindle เลิกเรียกชื่อรุ่นมานับตั้งแต่รุ่นที่ ๔ นี้ โดย Kindle 3 ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Kindle Keyboard), Kindle Touch รวมถึงตระกูลจอ LCD อย่าง Kindle Fire อีกหลายรุ่น และล่าสุดก็พึ่งเปิดตัว Kindle Paperwhite ที่มีแสงส่องหน้าจอมาในตัวอีก
แต่แม้ว่าจะแก่และเก่า แต่ด้วยความเก๋า (ทางยอดขาย?) ทำให้มันยังไม่ถูกทอดทิ้ง ล่าสุดมีอัพเดต ๓.๔ พร้อมส่งถึงเครื่องออกมาให้ใจชื้น ต่ออายุกันอีกระลอก
Jay Marine ผู้บริหารของ Amazon ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Verge ในงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูล Kindle รุ่นใหม่ พูดถึงผลิตภัณฑ์ที่ถูกดองมานานอย่าง Kindle DX ว่า "เราคงไม่ทำอะไรกับมันต่อแล้ว" (we are pretty much done with it)
Marine บอกว่าในอนาคตอาจยังผลิต Kindle DX เพิ่มเติมและยังขายผ่านหน้าเว็บต่อไปอีกหน่อย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ชี้ชัดว่า Kindle DX จะเลิกขายอย่างเป็นทางการเมื่อไรกันแน่
ปัจจุบัน Kindle DX ยังขายในราคาที่ถือว่าสูงมากคือ 379 ดอลลาร์ ในระยะยาวแล้ว เครื่องอ่านอีบุ๊กจอ E Ink ของ Amazon คงไม่มีขนาดใหญ่เท่ากับ Kindle DX อีกแล้ว ถ้าต้องการจอใหญ่หน่อยคงต้องไปเลือก Kindle Fire 8.9" แทน
หลังจากเคยมีข่าวลือว่า Amazon จะเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นใหม่ที่ไฟช่วยอ่านในชื่อ Kindle Paperwhite ตอนนี้ในงานได้เปิดตัวเครื่องรุ่นที่ว่าอย่างเป็นทางการแล้ว
ผู้เล่นในตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กอีกรายอย่าง Kobo เปิดตัวเครื่องอ่านรุ่นใหม่เพิ่มอีกสามซีรีส์รวด โดยแต่ละซีรีส์มีฟีเจอร์ต่างๆ กันไป ดังนี้ครับ
Kobo Mini
เริ่มต้นด้วยน้องเล็ก Kobo Mini เครื่องอ่านอีบุ๊กหน้าจอขนาด 5" น้ำหนักเพียง 134 กรัม ตัวเครื่องมีหน่วยความจำ 2GB และใช้ซีพียู 800MHz
Kobo บอกว่ารุ่นนี้อยู่ได้นานถึงสองสัปดาห์ (ปิด Wi-Fi) เปิดราคาที่ 79.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีสองสี ขาว และดำ เปลี่ยนฝาหลังได้
Kobo Glo
เครื่องอ่านอีบุ๊กพร้อมหน้าจอมีไฟ ขนาด 6" ความละเอียด 1024x768 พิกเซล แสดงผลสีเทาได้ 16 ระดับ หน่วยความจำภายใน 2GB (ใส่ micro SD เพิ่มได้) ใช้ซีพียูของ Freescale ความถี่ 1GHz
ปล่อยให้คู่แข่งเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นมีไฟ Nook Simple Touch™ with GlowLight™ ไปก่อนหลายเดือน ล่าสุดมีข้อมูล และภาพตัวเครื่อง Kindle รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟสำหรับช่วยอ่านหนังสือ ในชื่อ Kindle Paperwhite มาแล้ว
หน้าตาของตัวเครื่องแทบไม่ต่างจาก Kindle Touch รุ่นก่อนหน้า แต่ปุ่มโฮมที่ด้านล่างตัวเครื่องหายไป กลายเป็นโลโก้ของ Kindle ที่ย้ายมาอยู่ด้านล่างแทน สีของตัวเครื่องเปลี่ยนจากสีเทาอ่อน เป็นเทาเข้ม ส่วนตำแหน่งพอร์ตอยู่ที่เดิม
จากภาพที่หลุดมา Kindle รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Paperwhite หรือไฟแบคไลท์สำหรับช่วยอ่านในที่มืดนี้ จะมาพร้อมกับหน้าจอใหม่ที่ความละเอียดสูงขึ้น คอนทราสต์จัดขึ้น และใช้งานได้ยาวนานแปดสัปดาห์
สัญญาณจากค่ายคู่แข่งเริ่มชัดเจน ทางฝั่ง Amazon ก็มีความเคลื่อนไหวด้วยเหมือนกัน
หลังจากเห็นคุณ mk ลง advertorial review เครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle Touch ผมก็เกิดอาการคันไม้คันมืออยากจะรีวิวเจ้า Nook Simple Touch with GlowLight บ้าง และพอดีว่าเพื่อนร่วมห้องผมมีเจ้า Kindle Touch อยู่ด้วย รีวิวคราวนี้จึงจะมีการเปรียบเทียบบ้าง แต่จะเน้นหนักไปทาง Nook นะครับ ส่วนของ Kindle นั้นสามารถอ่านรีวิวแบบละเอียดจาก รีวิว Kindle Touch และ รีวิว Kindle 3 ที่ผ่านมาครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรก ฝากด้วยแล้วกันครับ
ถ้าพูดถึงเครื่องอ่านอีบุ๊กในยุคนี้ คงเลี่ยงการพูดถึงเครื่องอ่านตระกูล Kindle ของ Amazon ที่เป็นผู้บุกเบิกการใช้จอภาพ E Ink ในวงกว้างได้ยาก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าววงในว่า Amazon เตรียมเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle และแท็บเล็ต Kindle Fire รุ่นใหม่ในเดือนกรกฎาคมนี้
สำหรับ Kindle ที่ใช้หน้าจอ E Ink จะเพิ่มไฟช่วยส่องสว่างด้านหน้า (front light) ซึ่งคู่แข่งอย่าง Barnes & Noble ชิงตัดหน้าเปิดตัว Nook Simple Touch with GlowLight ไปตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว
นักวิเคราะห์ประเมินว่า Kindle รุ่นมีไฟส่องไม่ได้ทำยากอะไรนัก และมีต้นทุนเพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีกประมาณ 10 ดอลลาร์ต่อเครื่อง โดย Amazon น่าจะคงราคาให้เท่ากับ Kindle รุ่นก่อนๆ หรือไม่ก็เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
ส่วนแท็บเล็ต Kindle Fire รุ่นใหม่มีข่าวลือว่ามันจะใช้หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 8.9" ครับ
William Lynch ซีอีโอของ Barnes & Noble ให้สัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับ Fortune หลังข่าว ไมโครซอฟท์ร่วมลงทุนใน Nook ประเด็นที่น่าสนใจมีดังนี้
เพียงแค่สัปดาห์เดียวหลังจากนักข่าวของ TechCrunch รายงานว่าได้จับเครื่องต้นแบบ eBook Reader ของ Amazon รุ่นมีที่ไฟช่วยอ่านในที่มืด
มาวันนี้ทาง Barnes & Noble ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงชิงเปิดตัว Nook Simple Touch™ with GlowLight™ รุ่นมีไฟช่วยอ่านในที่มืดพร้อมเปิดให้สั่งจองได้ที่ราคา 139$ และจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป
ปัญหาของเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เรื่องหนึ่งที่ยังแก้ไม่ได้ในตอนนี้คือ ไม่สามารถอ่านในที่มืดได้ เนื่องจากหน้าจอ E Ink สามารถแสดงผลได้โดยไม่ต้องใช้แบคไลท์ช่วย
แต่ในอนาคตอันใกล้นี้คนที่ชอบอ่านหนังสือในที่มืดคงเตรียมได้เสียเงินอีกรอบ หลังจากที่ TechCrunch รายงานว่าได้ลองจับเครื่องต้นแบบของ Kindle รุ่นใหม่ที่มีแผงไฟด้านหน้า ซึ่งส่องสว่างเพียงเล็กน้อย ช่วยให้สามารถอ่านหนังสือในที่แสงน้อยได้
เทคโนโลยีดังกล่าวอเมซอนได้มาจากการเข้าซื้อบริษัทชื่อว่า Modilis เมื่อปี 2010 ส่วนวันวางขายของเครื่อง Kindle รุ่นใหม่ที่มีไฟด้านหน้านั้น TechCrunch คาดว่าน่าจะขายภายในปีนี้
ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ เพราะ Barnes & Noble เปิดตัวแท็บเล็ต Nook Tablet รุ่นความจุ 8GB ราคา 199 ดอลลาร์ ออกมาชนกับ Kindle Fire โดยตรง (ที่ราคาและความจุเท่ากัน)
Nook Tablet 8GB ยังจะลดขนาดของแรมลงมา จากเดิมรุ่น 16GB ใช้แรม 1GB พอมาเป็นรุ่น 8GB จะลดเหลือ 512MB อย่างอื่นยังเหมือนกันทุกประการ (รุ่น 16GB ยังขายที่ราคา 249 ดอลลาร์)
หลายคงคงรอเครื่องอ่านอีบุ๊กจอสีแบบ E Ink กันมานาน เพราะที่ผ่านมานั้นจอ E Ink แบบสียังทำได้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ และหน้าจอแบบอื่นก็ให้อารมณ์การอ่านได้ไม่สบายตาเหมือนกับจอแบบ E Ink
ตอนนี้สิงห์นักอ่านอีบุ๊กอาจมีเฮ เมื่อเว็บ DigiTimes ได้รายงานข่าวว่าทางผู้ผลิตหน้าจอ E Ink ได้เตรียมการจัดส่งชิ้นส่วนของหน้าจอของเครื่องอ่านอีบุ๊กจอสีแบบสัมผัสขนาด 6 นิ้ว ให้กับทาง Amazon ในเดือนมีนาคมนี้ถึงสามล้านหน่วยเลยทีเดียว
นอกจากนี้แล้ว ยังมีข่าวอีกว่า Foxconn Electronics นั้นได้รับคำสั่งผลิต Kindle Fire ขนาดหน้าจอ 10 นิ้วจาก Amazon และจะเริ่มจัดส่งสินค้าให้ในไตรมาสสองของปีนี้อีกด้วย
Kindle รุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวปีที่แล้ว มีข้อจำกัดตรงที่เกือบทุกตัวยังขายในสหรัฐเท่านั้น แต่ล่าสุด Amazon เปลี่ยนนโยบาย หันมาขาย Kindle Touch (เฉพาะรุ่น Wi-Fi) นอกสหรัฐแล้ว
เก็บตกผลิตภัณฑ์น่าสนใจในงาน CES 2012 ครับ หลายคนคงจำจอภาพ Mirasol ของบริษัท Qualcomm กันได้ และปีที่แล้วเราก็เห็นเครื่องอ่านอีบุ๊กตัวแรกที่ใช้จอตัวนี้ (Kyobo ของเกาหลีใต้) กันไปแล้ว
โซนี่เริ่มลดราคา Sony Reader Wi-Fi เครื่องอ่านอีบุ๊กจอสัมผัสของตัวเอง จากเดิม 149.99 ดอลลาร์ ลงมาเหลือ 129.99 ดอลลาร์