จอภาพแห่งอนาคตอีกตัวหนึ่งที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องจอสัมผัส ความเป็นจอสี (ที่ E Ink ยังทำได้ไม่ดี) และการประหยัดพลังงาน คือจอ Mirasol ของ Qualcomm เพียงแต่ปัญหาคือยังไม่มีอุปกรณ์จริงวางขายเท่าไรนัก
ล่าสุด Qualcomm ประกาศเครื่องอ่านอีบุ๊กตัวแรกที่ใช้จอ Mirasol แล้ว โดยร่วมกับ Kyobo ร้านขายหนังสือรายใหญ่ของเกาหลีใต้ เปิดตัว Kyobo e-Reader ไปแล้วที่เกาหลีใต้
Kyobo e-Reader ใช้จอ Mirasol ขนาด 5.7" ความละเอียด 1024x768 (223 ppi) และใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon S2 1GHz, ระบบปฏิบัติการเป็น Android 2.3 รุ่นปรับแต่ง, ซื้ออีบุ๊กจากเครือ Kyobo ที่มีให้เลือกกว่า 9,000 เล่ม
Kobo ผู้ผลิตเครื่องอ่านอีบุ๊กอีกราย (เพิ่งถูก Rakuten ซื้อกิจการไป) เด
นักวิเคราะห์ของ Digitimes Research ประเมินว่าการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดแท็บเล็ต จะส่งผลให้ ราคาเฉลี่ย ของแท็บเล็ตที่วางขายในปีหน้า 2012 ลดราคาลง
Digitimes ยังคาดว่า Amazon จะลดราคา Kindle Fire จากเดิม 199 มาเหลือ 149 ดอลลาร์ และลดราคาเครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle รุ่นล่างสุดมาอยู่ที่ 49 ดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Barnes & Noble และ Kobo ต้องลดราคาสู้ด้วย
ตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กก็ยังมีอนาคตที่สดใส คาดว่าปี 2012 จะเติบโต 31.4% มียอดขายรวม 28.9 ล้านเครื่อง
Barnes & Noble เปิดตัวแท็บเล็ต Nook รุ่นใหม่ และลดราคา Nook รุ่นเก่า ซึ่งตรงตามข่าวหลุดทุกประการ
นอกจากแท็บเล็ต Kindle Fire ที่เป็น "พระเอก" ของงานแถลงข่าว Amazon ครั้งนี้ เรายังได้เห็น Kindle รุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอยอีก 2 รุ่น
Kindle 4
Amazon เรียกมันว่า "Kindle" เฉยๆ ไม่มีชื่อรุ่นห้อยท้าย (หรือ New Latest Generation Kindle ซึ่งตอนออก Kindle 3 ก็เรียกแบบนี้) แต่เพื่อป้องกันความสับสน ผมขอเรียกมันเป็น Kindle 4 ตามลำดับชั้นของมันนะครับ
ข่าวต่อหลังจากที่มีข่าวหลุดของแท็บเล็ต Kindle Fire ออกมาก่อนงานแถลงข่าวจะเริ่มขึ้นจริงเล็กน้อยนะครับ
ขณะที่เขียนข่าวนี้เป็นช่วงที่เปิดให้สื่อได้ทดลองใช้งานอุปกรณ์จริงๆ (hands-on) ซึ่งวันนี้อเมซอนไม่ได้เปิดตัวสินค้าเพียงชิ้นเดียว แต่เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ถึง 4 ชิ้นด้วยกัน พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อีก 1 ตัว ขอแจกแจงเป็นรายการโดยมีข้อมูลพอสังเขปดังนี้ (อ่านต่อพร้อมวิดีโอเปิดตัวด้านใน)
บริษัทวิเคราะห์ตลาด IDC ประเมินยอดขายของแท็บเล็ตไตรมาสที่สองของปี 2011 พบว่าสูงขึ้นจากไตรมาสที่แล้วที่ออกมาน้อยกว่าคาด โดยมีจำนวนสุทธิ 13.6 ล้านเครื่องในไตรมาสนี้ และปรับเพิ่มตัวเลขยอดขายตลอดปีนี้จากเดิม 53.5 ล้านเครื่องเป็น 62.5 ล้านเครื่อง
ในงาน Moscow International Book Fair ทางบริษัท Ectaco ได้นำ Jetbook Color เครื่องอ่านอีบุ๊กจอ E Ink Color สำหรับเจาะกลุ่มตลาดนักเรียนนักศึกษาตัวจริง มาโชว์ในงานหลังเปิดจำหน่ายไปแล้วเงียบๆ ซึ่งตัวเครื่องมีรายละเอียดดังนี้
ที่งาน IFA อีกเช่นกัน โซนี่เปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นใหม่ Sony Reader Wi-Fi (รหัสรุ่น PRS-T1) ใช้หน้าจอ E Ink Pearl ทัชสกรีนขนาด 6”
โซนี่เคยออกเครื่องอ่านอีบุ๊กที่เป็น E Ink ทัชสกรีน 6" มาก่อนแล้ว แต่รุ่นนี้เพิ่ม Wi-Fi เข้ามา (ซื้ออีบุ๊กจากร้านของโซนี่ได้เลยถ้าต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi ได้) และมีจุดขายที่น้ำหนักเบาเพียง 168 กรัม ซึ่งโซนี่โฆษณาว่าเป็นเครื่องอ่านขนาด 6" ที่เบาที่สุดในโลก (Kindle 3 Wi-Fi หนัก 241 กรัม)
เครื่องอ่านอีบุ๊กถือเป็นอุปกรณ์อีกประเภทที่ได้รับความนิยมแบบเงียบๆ ในบ้านเรา ถึงแม้จะไม่โด่งดังขนาดแท็บเล็ตพีซี แต่ก็มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เริ่มซื้อหาเครื่องอ่านอีบุ๊กมาใช้งาน นอกจาก Kindle ที่เป็นอุปกรณ์ยอดนิยมแล้ว ยังมีเครื่องอ่านยี่ห้ออื่นๆ อีกไม่น้อย เช่น NOOK หรือ Sony Reader
แต่ปัญหาสำคัญของเครื่องอ่านอีบุ๊กเหล่านี้คือการรองรับภาษาไทย ทั้งเรื่องฟอนต์และการตัดคำ ซึ่งตอนนี้ยังเรียกได้ว่าห่างไกลกับ "อ่านไทยได้สมบูรณ์" อยู่มาก
ช่องว่างทางการตลาดตรงนี้จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย และผมได้รับการติดต่อจาก ห้างหุ้นส่วน ฟิวเจอร์ โซลูชั่นส์ ส่งเครื่องอ่านอีบุ๊กจอ E Ink ที่พัฒนาให้รองรับภาษาไทยชื่อ iReed มาให้ลองเล่น เลยเป็นที่มาของรีวิวชิ้นนี้ครับ
กูเกิลนั้นเปิดแพลตฟอร์ม eBooks ของตัวเองแบบเงียบๆ ในชื่อ Google eBooks ถึงแม้จะไม่หวือหวาและเป็นข่าวมากเท่า Kindle แต่ก็มีแอพให้โหลดไปใช้บน Android, iOS, Nook, Sony Reader (เมืองไทยยังซื้อหนังสือจาก Google eBooks ไม่ได้)
ที่ผ่านมา Google eBooks ทำตัวเหมือนตลาดค้าส่งอีบุ๊ก เน้นเป็นสื่อกลางระหว่างเจ้าของหนังสือกับผู้ที่อยากเปิดร้าน eBooks เฉพาะทาง (เช่น พวกแอพอ่านอีบุ๊กบนอุปกรณ์ต่างๆ) มากกว่าจะขายให้ลูกค้าโดยตรง แต่ล่าสุดกูเกิลจับมือกับ iriver บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากเกาหลีใต้ ออกเครื่องอ่านรุ่นใหม่ iriver Story HD ที่สามารถโหลด-ซื้อหนังสือได้จาก Google eBooks ได้ในตัว
บริษัทวิเคราะห์ตลาด IDC ประเมินยอดขายของแท็บเล็ตทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2011 พบว่ายอดขายต่ำกว่าไตรมาสที่สี่ของปี 2010 (ซึ่งเป็นเทศกาลซื้อของของฝรั่ง) ประมาณ 28% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขนี้อาจแปลว่าตลาดแท็บเล็ตไม่ได้พุ่งแรงตามกระแสข่าวเท่าไรนัก
IDC ประเมินว่าปัญหาอย่างหนึ่งของแท็บเล็ตคือวิธีการขายที่นิยมไปผูกกับโอเปอเรเตอร์ ในขณะที่ลูกค้าไม่ต้องการเครื่องแบบติดสัญญาเท่าไรนัก อย่างไรก็ตาม IDC เองก็ปรับตัวเลขยอดขายแท็บเล็ตตลอดปี 2011 ขึ้นอีกเล็กน้อย จากเดิม 50.4 ล้านเครื่องเป็น 53.5 ล้านเครื่อง
แชมป์ของโลกแท็บเล็ตยังเป็น iPad แต่ Android ก็เริ่มแรงขึ้นมา โดยชิงส่วนแบ่งตลาดได้ 34% แล้ว
ข่าวนี้อาจทำให้ใครที่ลังเลระหว่าง Nook กับ Kindle ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เมื่อแฮกเกอร์จาก XDA Forum ได้ประสบความสำเร็จในการแฮก Nook Touch ตัวใหม่ ให้สามารถใช้งานโปรแกรม Kindle ได้แล้ว ซึ่งนั้นหมายความว่า Nook Touch ตัวนี้จะสามารถอ่านหนังสือที่ซื้อจาก Amazon ได้นั่นเอง
Barnes & Noble เครือร้านจำหน่ายหนังสือชื่อดังในสหรัฐได้ประกาศเปิดตัว Nook อีบุ๊ครีดเดอร์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Infrared touch layer ทำให้จอภาพ E-ink กลายเป็นจอสัมผัสได้
Nook รุ่นนี้มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานติดต่อกันถึงสองเดือน จอภาพ Pearl E Ink ที่ "แฟลช" ภาพบนหน้าจอน้อยลงกว่าเดิม 80 เปอร์เซ็นต์เมื่อทำการพลิกหน้าอ่านหนังสือ นอกจากนี้ยังได้ทำการเปลี่ยนแปลงหน้าจอ Home Screen ใหม่ทั้งหมด โดยมีระบบปฏิบัติการ Android 2.1 ทำงานอยู่เบื้องหลัง น่าเสียดายที่ Nook รุ่นนี้รองรับเฉพาะ Wi-Fi เท่านั้น
Nook รุ่นนี้จะวางขายที่ราคา 139 ดอลลาร์ Barnes & Noble ยังออกมาอวดอีกว่า Nook มีปุ่มน้อยกว่า Kindle 3 ถึง 37 ปุ่ม!
เมื่อ Amazon เพิ่งออกมาบอกว่า Kindle 3 กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของตน คู่แข่งในธุรกิจจำหน่ายหนังสืออย่าง Barnes & Noble ก็ออกมาบอกเช่นกันว่าอุปกรณ์อ่าน e-Book ของค่ายตนเองอย่าง Nook ได้กลายเป็นสินค้าขายดีที่สุดในรอบ 40 ปีแล้ว
บริษัทกล่าวว่า Nook Color เป็นสินค้าขายดีเหนือความคาดหมายอย่างมาก นอกจากนี้ความสำเร็จของ Nook ยังส่งผลให้ยอดจำหน่าย e-Book ทางเว็บสูงกว่าหนังสือแบบเป็นเล่มแล้ว (Amazon เคยพูดแบบนี้เมื่อกลางปี)
เมื่ออุปกรณ์อ่านขายดีขนาดนี้ ปีหน้าการแข่งขันของ e-Book น่าจะสนุกยิ่งขึ้น
หลังจากที่ข่าวลือทาง Barnes & Noble จะออก Nook จอสี ที่มีชื่อว่า Nook Color นั้น ล่าสุดได้มีการแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในวันนี้ที่ร้าน Union Square ในนิวยอร์ก
ข้อมูลโดยสรุปของตัว Nook Color มีดังนี้
สำหรับการรีวิวครั้งนี้ผมขอข้ามรายละเอียดทั่วไปนะครับ เพราะเกรงว่าจะทำให้คนอ่านเบื่อเพราะมีรีวิวออกมาสองชิ้นแล้ว (ของคุณ pittaya และของคุณ zybernav) เอาเป็นเขียนแนวอารมณ์ที่ได้ใช้งานว่ารู้สึกยังไงมากกว่า ไม่รอช้าเข้าเรื่องเลยดีกว่า
Kindle DX Graphite (ที่ในนี้หลังจากนี้ของเรียกย่อว่า Kindle DXG จะได้ดูไม่รกยาวไป) เปิดกล่องมาก็เป็นเช่นนี้ล่ะครับลองดูเทียบขนาดกับ Kindle 3 ดูบ้าง
เทียบกับขนาด Artbook ทั่วไป
เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสจับเจ้า Kindle 3rd gen ตัวเป็น ๆ หลังจากที่ได้ยินกิตติศัพท์มาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้วครับ
หลังจากที่ผมได้มีโอกาสจับแบบเต็ม ๆ และถ่ายรูป Kindle 3rd gen ตัวนี้ ได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็ปรากฏรีวิวฉบับเต็ม เป็นที่เรียบร้อย entry นี้ก็เลยเป็นการจับมามองเป็นบางมุม และเปรียบเทียบกับ BeBook mini 5 ที่ผมตัดสินใจเป็นเจ้าของก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน
Plastic Logic บริษัทผู้เชี่ยวชาญการผลิตจอภาพอิเล็กทรอนิกส์จากอังกฤษ ซึ่งเคยเปิดตัว QUE เครื่องอ่าน e-Book สุดบาง ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว พบปัญหา "โรคเลื่อน" หลายครั้ง จนสุดท้ายประกาศเลิกทำ QUE เสียแล้ว
เหตุผลสำคัญของยกเลิกคือราคาและสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป เพราะ QUE เปิดตัวที่ราคา 649 ดอลลาร์ หลังจากนั้น iPad ก็เปิดตัว และเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์รุ่นอื่นๆ ต่างก็เปิดศึกถล่มราคากัน จนลงมาต่ำกว่า 200 ดอลลาร์หมดแล้ว
ซีอีโอของ Plastic Logic ให้สัมภาษณ์ว่าสภาพตลาดเปลี่ยนไปมาก และผลของความล่าช้า ทำให้การวางขายเครื่อง QUE กลายเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลไปแล้ว อย่างไรก็ตามทางบริษัทยังจะพัฒนาเครื่องอ่านรุ่นถัดไป
ผมได้อ่าน eBook และเนื้อหาดิจิตอลต่าง ๆ มาตั้งแต่ใช้ PDA และ smartphone ต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ ด้วยความสะดวกในการพกพาติดไปกับตัวได้ตลอด แต่ก็มีข้อจำกัดของอุปกรณ์เหล่านี้ นั่นก็คือ หน้าจอของมันมีขนาด 3.2-3.5 นิ้ว ซึ่งถือว่าเล็กเมื่อเทียบกับการอ่านพ็อกเก็ตบุ๊คโดยทั่วไป
กระแสของ iPad และ tablet PC ทำให้พอจะความหวังที่จะได้อ่านเนื้อหาบนอุปกรณ์พกพาจอใหญ่ ๆ บ้าง แต่ก็ติดด้วยราคาและน้ำหนัก ทำให้ลองหันมามอง eReader ซึ่งราคาเริ่มลดลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ จนกระทั่งได้ตัดสินใจสั่ง BeBook Mini มาในที่สุด หลังจากใช้เวลากับมันมาประมาณ 1 เดือนแล้วก็ขอนำมาเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันครับ
ในงาน D:All Things Digital ครั้งที่ 8 มีการโชว์ดูอัลสกรีนแท็บเล็ตชื่อ Kno ที่มุ่งตอบสนองต่อความต้องการในการอ่านตำราของนักศึกษาที่อยากจะพกตำราไปอ่านได้หลายๆ เล่มโดยไม่ต้องแบกเล่มหนังสือไป แต่ยังคงความรู้สึกเสมือนการอ่านหนังสือจริงเอาไว้ เครื่อง Kno มีรายละเอียดดังนี้
นอกจากต้นแบบ Android แท็บเล็ต และเครื่องอ่านอีบุ๊ก LumiRead ที่ Acer โชว์ไปก่อนงาน Computex แล้ว ในงานดังกล่าว Acer ก็ได้นำต้นแบบเครื่องอ่านอีบุ๊กที่ใช้ซีพียู Qualcomm MSM7227 และใช้ระบบปฏิบัติการ Android มาโชว์ด้วย หน้าตาจะเป็นอย่างไรดูได้จากท้ายข่าว
ที่มา: Engadget