Pandora บริการวิทยุออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในสหรัฐ เคยประกาศตัวว่าจะทำ IPO ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว วันนี้รายละเอียดเริ่มชัดเจนขึ้น

Pandora จะขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ด้วยตัวย่อสั้นๆ ว่า "P" โดยราคาหุ้นเริ่มต้นระหว่าง 7-9 ดอลลาร์ต่อหุ้น และอาจระดมทุนได้สูงสุด 142 ล้านดอลลาร์ในการเปิดขายหุ้นครั้งนี้

Pandora เริ่มกิจการในปี 2000 ปัจจุบันมีสมาชิก 90 ล้านราย บริษัทมีรายได้ 51 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2011 แต่ก็ยังขาดทุนอยู่ที่ 6.7 ล้านดอลลาร์

เว็บขายดีลรายใหญ่ Groupon ที่ก่อนหน้านี้กูเกิลเคยขอซื้อแต่ปฏิเสธไป และมีข่าวว่าอาจเข้าตลาดหุ้น ล่าสุดบริษัทได้ยื่นเอกสารหรือทำไฟลิ่งเพื่อขอเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว โดยคาดว่าจะระดมทุนจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ได้เพิ่ม 750 ล้านดอลลาร์ และบริษัทอาจใช้ตัวย่อในการซื้อขายว่า GRPN

ถัดจาก LinkedIn ที่ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ และ Yandex ยักษ์ใหญ่จากรัสเซีย บริษัทที่ถูกคาดว่าจะตามเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นรายต่อๆ ไปคือ Zynga เจ้าพ่อแห่งเกมบนโลก social network

เว็บไซต์ AllThingsD รายงานข่าววงในว่า Zynga เตรียมยื่นเอกสารขอจดทะเบียนกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเป็นอย่างช้า

ปัจจุบัน Zynga มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้นที่ขายกันนอกตลาดที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าบริษัทจะตั้งราคาหุ้น IPO แพงกว่านั้น (LinkedIn มีมูลค่าบริษัทตามราคา IPO ที่ 9 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าก่อนเข้าตลาดเท่าตัว)

เมื่อคืนนี้หุ้นของบริษัท Yandex NV จากประเทศรัสเซียซึ่งเป็นเจ้าของเว็บเสิร์ชภาษารัสเซีย Yandex เริ่มซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq โดยมีราคาเริ่มต้นหรือ IPO 25 ดอลลาร์ และจบการซื้อขายวันแรกที่ราคา 38.84 ดอลลาร์ เพิ่มสูงขึ้นถึง 55%

ชื่อ Yandex ย่อมาจากคำว่า "Yet Another Index" ตัวเว็บได้รับความนิยมในรัสเซียมากจนได้ฉายาว่ากูเกิลแห่งรัสเซีย ปัจจุบันมี Arkady Volozh ดำรงตำแหน่งซีอีโอ โดยเขากล่าวว่าบริษัทมีรายได้หลักจากการโฆษณาเหมือนกับเสิร์ชรายอื่น เพียงแต่ตลาดของรัสเซียยังมีโอกาสเติบโตได้สูงและรวดเร็วอีกหลายเท่าตัว โดยปีที่แล้ว Yandex มีรายได้ 445 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิ 135 ล้านดอลลาร์

การเข้าตลาดหุ้นของ LinkedIn กลายเป็นประเด็นน่าจับตา เพราะเป็นบริษัทไฮเทครุ่นใหม่รายแรกๆ ที่เข้าตลาด ก่อนที่จะถึงคิวของบริษัทชื่อดังอื่นๆ

การขายหุ้นวันแรกเปิดที่ราคา 45 ดอลลาร์ตามข่าวเก่า จากนั้นหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ จนสูงสุดที่ 122.70 ดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดด้วยราคา 93.86 ดอลลาร์ (ขึ้นมาเท่าตัวนิดๆ)

งานนี้ LinkedIn ระดมทุนได้ 352 ล้านดอลลาร์ และมูลค่าของบริษัทตามราคาหุ้นปิดคือ 8.9 พันล้านดอลลาร์

ราคาวันแรกดีขนาดนี้ก็ถือว่า LinkedIn ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ก็ทำให้ประเด็นเรื่องฟองสบู่ดอทคอมรอบใหม่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเช่นกัน

เว็บเครือข่ายสังคมด้านการทำงานและอาชีพอย่าง LinkedIn ที่ก่อนหน้านี้เสนอราคาหุ้นเริ่มต้นไว้ที่ 32-35 ดอลลาร์ ล่าสุดราคาสุดท้ายที่ LinkedIn จำหน่ายก่อนหุ้นจะเข้าทำการซื้อขายคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45 ดอลลาร์

David Roberts ซีอีโอ PopCap ผู้ผลิตเกมฮิตอย่าง Bejeweled หรือ Plants vs Zombies กล่าวว่าบริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนเพื่อขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ทำ IPO) โดยคาดว่าหุ้นจะเริ่มซื้อขายได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ในตลาด Nasdaq

ปัจจุบัน PopCap เป็นผู้ผลิตเกมบน Facebook รายใหญ่ลำดับที่ 3 โดยมีผู้ใช้งาน 5 ล้านรายต่อวัน นอกจากนี้บริษัทก็เพิ่งเปิดตัวเกมบน Android และเปิดตัว Plants vs Zombies ในประเทศจีนผ่านเครือข่ายสังคม RenRen

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวบริษัทเกม Zynga ว่ามีแผนจะเข้าตลาดหุ้นอยู่เช่นกัน แต่ยังไม่ได้กำหนดช่วงเวลา

บริการ social network สำหรับอาชีพการงานอย่าง LinkedIn กำลังเตรียมตัวขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้

บริษัทจะใช้ตัวย่อในกระดานหลักทรัพย์ว่า LNKD (ชื่อ LINK ถูกคนอื่นใช้ไปแล้ว) โดยราคาหุ้นตั้งต้นจะอยู่ที่ 32-35 ดอลลาร์ การตั้งราคาระดับนี้จะทำให้บริษัทระดมทุนจากตลาดหุ้นครั้งนี้ได้ประมาณ 175 ล้านดอลลาร์ และตัวบริษัทจะมีมูลค่าตามราคาหุ้นที่ 3 พันล้านดอลลาร์

ยังคงมีข่าวบริษัทอินเทอร์เน็ทเตรียมเข้าตลาดหุ้นกันเรื่อยๆ ล่าสุด Yelp ซึ่งเป็นบริการรีวิวสถานที่และร้านอาหารในอเมริกาก็เตรียมตัวเข้าตลาดหุ้นอีกราย โดยในขั้นแรกนี้บริษัทกำลังหาซีเอฟโอที่มีคุณสมบัติตามระเบียบการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น หรือ IPO ก่อน

ปัจจุบัน Yelp มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ประมาณ 50 ล้านครั้งต่อเดือน รายได้หลักมาจากโฆษณาของร้านค้าในท้องถิ่น ขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขรายได้และกำไรของ Yelp รวมถึงมูลค่ากิจการที่ถูกประเมิน แต่ก่อนหน้านี้กูเกิลเคยขอซื้อ Yelp ที่ราคา 550 ล้านดอลลาร์ซึ่งถูกปฏิเสธไป

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเว็บประเภท Social Network ของอเมริกาเองเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (มีแค่ LinkedIn ที่กำลังจะเข้า) แต่ Renren ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Facebook สัญชาติจีนได้ยื่นขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อเมริกาแล้ว โดยจำหน่ายในรูปแบบใบสิทธิ ADS หรือ American Depository Shares ทั้งนี้ Renren เป็นเว็บของบริษัท Oak Pacific Interactive ซึ่งเป็นเจ้าของ Youku.com ที่ได้ชื่อว่าเป็น YouTube จีนอีกด้วย

เกริ่นนำก่อนสำหรับใครที่ไม่รู้จัก Warren Buffett นะครับ Buffett เป็นนักลงทุนที่มั่งคั่งและประสบความสำเร็จที่สุดในโลก ปัจจุบันเขาอายุ 80 ปีแล้ว ปีล่าสุดถูกจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ของโลก (ข่าวเก่า) เขาถูกยกย่องให้เป็นต้นแบบของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของกิจการที่เข้าไปลงทุน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Buffett ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางไปเยี่ยมชมกิจการหลายประเทศในเอเชีย โดยเขาให้มุมมองการลงทุนในกิจการเทคโนโลยีซึ่งกำลังร้อนแรงในขณะนี้ไว้ดังนี้ครับ

ยังคงเป็นปีที่บริษัทซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆต่างอยากเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น คราวนี้เป็นของ Rovio Mobile Oy บริษัทผู้สร้างเกมดัง Angry Birds ซึ่งซีอีโอ Mikael Hed กล่าวว่าบริษัทอาจจะเลือกจดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ ที่อเมริกาภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ถึงแม้บริษัทจะมาจากประเทศฟินแลนด์ เนื่องจากจะได้สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นที่ดีกว่า

คงเป็นปีของบรรดาเว็บไซต์ที่จะแห่กันจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นกันจริงๆ เริ่มด้วย LinkedIn เมื่อเดือนก่อน ล่าสุด Pandora เว็บให้บริการเพลงออนไลน์ในอเมริกาก็แต่งตัวเข้าตลาดหุ้นแล้ว

ในเอกสารที่ Pandora ทำเพื่อแจ้งต่อกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (SEC) อธิบายว่าบริษัทมีธุรกิจหลักคือสถานีวิทยุออนไลน์ผ่านเว็บและโทรศัพท์มือถือ โดยมีโครงการใหม่ๆที่จะทำอีกในอนาคต อาทิ เพิ่มรายได้ด้านโฆษณา ขยายกิจการออกไปยังต่างประเทศ การเข้าตลาดหุ้นนี้ Pandora หวังว่าจะเพิ่มทุนได้ราว 100 ล้านดอลลาร์

สิ่งที่น่าจะเป็นกระแสในปีนี้คือบรรดาเว็บไซต์ทั้งหลายจะจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หรือที่เรียกว่าทำ IPO ซึ่งล่าสุด Reuters ได้รายงานว่า LinkedIn ได้แจ้งขอทำ IPO แล้ว โดยปริมาณหลักทรัพย์และราคาเริ่มต้นยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มีการประเมินว่าทุนที่จะเพิ่มในการเข้าตลาดหลักทรัพย์นี้จะอยู่ที่ 151 ล้านเหรียญฯ

LinkedIn มีรายได้ในช่วง 9 เดือนของปี 2010 ที่ผ่านมา 161.4 ล้านเหรียญฯ โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ 1.85 ล้านเหรียญฯ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ 90 ล้านคน ตัวเลขนี้ค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับ Facebook จึงน่าสนใจว่านักลงทุนจะสนใจในบริษัทนี้มากน้อยแค่ไหน

หลังจาก Groupon ปฏิเสธข้อเสนอเพิ่มทุนจาก Google หรือแม้ก่อนหน้าจะปฏิเสธแผนเข้าตลาดหุ้นก็ตาม แต่ดูเหมือน Groupon เตรียมเข้าตลาดหุ้นแล้วจริงๆ

บริษัท Skype ได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก (initial public offering: IPO) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐแล้ว โดยคาดหวังที่จะระดมทุนได้ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

บริษัท Skype ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศลักเซมเบิร์ก จะเสนอขายหุ้นแบบ American Depositary Shares ซึ่งใช้สำหรับบริษัทต่างชาติในสหรัฐ และคาดว่าจะซื้อขายในตลาดหุ้นแนสแดก

ยังไม่มีการเปิดเผยราคาของหุ้น และวันที่จะเริ่มขายหุ้นแต่อย่างใด

ที่มา – BBC News

เส้นทางของบริษัทไอทีหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จก็คือการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น (ภาษาเทคนิคตลาดทุนเรียก IPO) ตัวอย่างบริษัทยุคหลังที่ผ่านช่วง IPO ได้แก่ยาฮูและกูเกิล

สำหรับบริษัทในยุคหลังที่น่าจับตามอง ย่อมหนีไม่พ้น Facebook และ Twitter ในฐานะที่ Facebook มาก่อนและมีผู้ใช้มากกว่ามาก จึงถูกถามเสมอว่าเมื่อไรจะทำ IPO เสียที ซึ่งนักวิเคราะห์คาดกันมาหลายปีแล้ว (และผิดทุกที) ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ปี 2011

บริษัท Citrix ซึ่งมีชื่อเสียงด้านซอฟต์แวร์สำหรับ thin client และ remote server เข้าซื้อกิจการ XenSource ซึ่งเป็นบริษัทของนักพัฒนา Xen เป็นมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์

การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสายผลิตภัณฑ์ของ Citrix มากขึ้น ในทางกลับกัน สายสัมพันธ์ที่ดีของ Citrix กับไมโครซอฟท์ จะช่วยให้ Xen ทำงานกับวินโดวส์ได้ดีขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ Citrix ยังแนบแน่นกับผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์อย่าง IBM และ HP อีกด้วย