Initial Public Offering
หลังจาก Uber ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่ง S-1 เพื่อเตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น ล่าสุดเอกสารที่ Uber ได้ส่งเพื่อชี้แจงรายละเอียดราคาหุ้นเบื้องต้น ก็มีความน่าสนใจว่ามูลค่ากิจการที่ Uber ต้องการนั้น ออกมาน้อยกว่าที่คาด
โดยมูลค่ากิจการที่ Uber กำหนดช่วงไว้จากราคาไอพีโอ จะอยู่ราว 80,500 ล้านดอลลาร์ ถึง 91,500 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ 120,000 ล้านดอลลาร์ และราคานี้ก็ใกล้เคียงกับมูลค่ากิจการล่าสุดหลังการเพิ่มทุนคือ 76,000 ล้านดอลลาร์ ด้วย
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้น Uber น้อยกว่าคาด น่าจะมาจากราคาหุ้นของ Lyft บริการคู่แข่งของ Uber ในอเมริกา ที่ราคาหุ้นลดลงจากราคาไอพีโอมาแล้วกว่า 20%
Slack ได้ยื่นเอกสาร S-1 ต่อ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ เพื่อเตรียมเข้าตลาดหุ้นเรียบร้อยแล้ว โดย Slack จะใช้วิธีการเข้าตลาดหุ้นแบบ direct listing เหมือนกับ Spotify โดยหุ้นของ Slack จะเข้าเทรดในตลาด NYSE โดยใช้สัญลักษณ์การซื้อขายว่า SK
ส่วนข้อมูลทางการเงินของ Slack ระบุว่าในปี 2018 (ซึ่งตามปีงบประมาณของ Slack จะสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2019) ทางบริษัทมีรายได้ 400.6 ล้านดอลลาร์ และมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 138.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าที่บริษัทมีรายได้ 220.5 ล้านดอลลาร์และมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 140.1 ล้านดอลลาร์ ก็จะพบว่าในส่วนของรายได้นั้นเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ผลขาดทุนไม่ได้ลดลงมากนัก
Douyu บริการแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิ่งเกมลักษณะเดียวกับ Twitch ในประเทศจีนได้ยื่นเอกสารต่อ SEC หรือ ก.ล.ต. สหรัฐฯ เพื่อเตรียมเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ แล้ว โดยมีแผนระดมทุน 500 ล้านดอลลาร์ และจะนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กหรือ NYSE
Douyu เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านไลฟ์สตรีมมิ่งโดยเน้นด้านเกมจากประเทศจีน บริษัทนี้มีผู้ลงทุนรายใหญ่คือ Tencent และมีคู่แข่งในประเทศที่ให้บริการลักษณะเดียวกันคือ Huya ซึ่งมี Tencent เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่เช่นกัน โดย Huya ได้ระดมทุน 180 ล้านดอลลาร์และเข้าตลาดหุ้น NYSE ไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
ในวันเดียวกับที่ Pinterest นำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กวันแรก ที่ตลาดหุ้นแนสแด็กก็มีบริษัทเทคโนโลยีอีกแห่งเข้าซื้อขายวันแรกเช่นกันนั่นคือ Zoom (ตัวย่อ ZM) ผู้ให้บริการระบบประชุมผ่านวิดีโอบนคลาวด์ ที่รวมบริการสนทนาผ่านวิดีโอ, ประชุมออนไลน์, แชท และระบบนัดหมายทางมือถือเข้าไว้ด้วยกัน
ราคาหุ้นของ Zoom วันแรก ปิดการซื้อขายที่ 62 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 72% จากราคาไอพีโอ และทำให้บริษัทมีมูลค่ากิจการถึง 15,900 ล้านดอลลาร์ มากกว่ามูลค่ากิจการของ Pinterest เสียอีก แต่เรื่องที่น่าสนใจมากกว่าคือประวัติผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นชาวจีน
Pinterest โซเชียลเน็ตเวิร์คที่หลายคนนิยมไว้ค้นหาไอเดียใหม่ ๆ ได้ไอพีโอเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กไปเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนนี้ โดยราคาซื้อขายวันแรกปิดที่ 24.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากราคาไอพีโอ 28.42% ทำให้มูลค่ากิจการอยู่ที่เกือบ 13,000 ล้านดอลลาร์
ราคาหุ้นของ Pinterest ที่ปรับตัวสูงตั้งแต่วันแรกของการซื้อขาย ช่วยสะท้อนความเชื่อมั่นและส่งสัญญาณที่ดีต่อไปสำหรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีแผนจะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นอีกหลายรายในปีนี้
Lyft บริการเรียกรถแท็กซี่เบอร์สองในอเมริกา คู่แข่ง Uber นำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้นไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยจากราคาหุ้นไอพีโอที่ 72 ดอลลาร์ต่อหุ้น และราคาวันแรกก็ปรับเพิ่มถึง 21% ทุกอย่างนั้นดูสวยดี แต่ราคาหุ้นล่าสุดนั้นร่วงลงมาอยู่ที่ 59.51 ดอลลาร์ หรือลดลงถึง 17% ก็มีคนที่ไม่ถูกใจกับสิ่งนี้
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Uber เตรียมยื่นเอกสารเพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นภายในสัปดาห์นี้ โดยจะขายหุ้นเพิ่มทุนคิดเป็นมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 317,000 ล้านบาท ทำให้มูลค่ากิจการอยู่ประมาณ 90,000-100,000 ล้านดอลลาร์ และจะทำให้เป็นไอพีโอหุ้นเทคโนโลยีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ Alibaba ในปี 2014
ทั้งนี้มูลค่ากิจการของ Uber จากการเพิ่มทุนรอบล่าสุดอยู่ราว 76,000 ล้านดอลลาร์
ตามแผน Uber คาดว่าจะนำหุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ที่มา: Reuters
หลังจากผ่านขั้นตอนการระดมทุนมาสักระยะ วันนี้หุ้นของ Lyft บริษัทเรียกรถผ่านแอปคู่แข่ง Uber ในสหรัฐฯ ก็ได้เข้าเทรดในตลาดหุ้น Nasdaq เป็นครั้งแรกแล้ว โดยใช้สัญลักษณ์ซื้อขาย LYFT
ราคาหุ้น Lyft ตอนเปิดตลาดอยู่ที่ 87.24 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 21% จากราคาตั้งต้นที่ 72 ดอลลาร์ต่อหุ้น
Lyft ได้ระดมทุนจากนักลงทุน 2.34 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ราว 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่ง Lyft ตั้งราคาไอพีโอไว้ที่ 70-72 ดอลลาร์ ซึ่งมียอดการจองหุ้นจากนักลงทุนจำนวนมากจึงทำให้ขายหุ้นไอพีโอได้ที่ราคาสูงสุด
Bitmain ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สำหรับทำเหมืองขุดเงินคริปโตรายใหญ่ ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งเพื่อเตรียมไอพีโอนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ล่าสุด Bitmain ตัดสินใจปล่อยให้เอกสารไฟลิ่งหมดอายุตามกำหนด 6 เดือน จึงไม่สามารถไอพีโอเข้าตลาดหุ้นได้ในตอนนี้
โดย Bitmain อธิบายในเว็บไซต์ว่าอุตสาหกรรมคริปโตและบล็อกเชนนั้นมีโอกาสมหาศาลรออยู่ แต่เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นก็ยังเล็กมากโดยเฉพาะการพิสูจน์มูลค่า ซึ่ง Bitmain จะยื่นไฟลิ่งใหม่อีกครั้งหนึ่งเมื่อได้เวลาที่เหมาะสมในอนาคต
Zoom บริษัทซอฟต์แวร์วิดีโอคอนเฟอเรนซ์สำหรับตลาดองค์กร ยื่นเอกสารเตรียมขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq แล้ว
Zoom เป็นสตาร์ตอัพที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2011 โดย Eric Yuan อดีตพนักงานจากทีม WebEx เดิม (ปัจจุบันเป็นของ Cisco) และได้รับความนิยมมาอย่างเงียบๆ ในตลาดองค์กร ในปีการเงินที่ผ่านมา Zoom มีรายได้ 330 ล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 2 เท่าจากปีก่อน แถมมีกำไรประมาณ 7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าหาได้ยากสำหรับสตาร์ตอัพในรุ่นเดียวกัน
Pinterest โซเชียลเน็ตเวิร์คที่หลายคนนิยมไว้ค้นหาไอเดียใหม่ ๆ ได้ยื่นเอกสารเพื่อเตรียมไอพีโอนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กแล้ว หลังจากมีข่าวก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าหุ้นจะเริ่มทำการซื้อขายได้ในเดือนหน้า โดยใช้ตัวย่อในการซื้อขาย PINS
ตัวเลขผลการดำเนินงานของ Pinterest ที่ปี 2018 ที่ผ่านมา มีรายได้กว่า 750 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนลดลงเหลือ 75 ล้านดอลลาร์ โดย Pinterest บอกว่าบริษัทเริ่มมีกำไรแล้วตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้หลักของ Pinterest มาจากโฆษณาบนแพลตฟอร์ม
มีรายงานจาก The Well Street Journal ระบุว่า Lyft แอปเรียกรถแท็กซี่คู่แข่งหลักของ Uber ในอเมริกา ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นภายในครึ่งแรกของปีนี้ ล่าสุดข้อมูลบอกว่า Lyft อาจนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น Nasdaq เร็วที่สุดในสัปดาห์หน้าเลย
หุ้นไอพีโอที่ขายเพิ่มของ Lyft นั้นคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการที่ราคาไอพีโออยู่ที่ 23,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมาจากมูลค่ากิจการในการเพิ่มทุนครั้งล่าสุดในปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 15,100 ล้านดอลลาร์ ส่วนผลประกอบการในปี 2018 นั้น รายได้โตมากกว่าเท่าตัวเป็น 2,200 ล้านดอลลาร์ แต่สุทธิแล้วขาดทุน 911 ล้านดอลลาร์
เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้ Slack แพลตฟอร์มสำหรับคุยงานตามงาน ได้ยื่นเอกสารเพื่อเตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นแล้ว โดยเป็นเอกสารแบบ Confidentially ที่ไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดทางการเงินต่อสาธารณะ จนกว่าจะถึง 15 วัน ก่อนนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น (Dropbox ก็ทำแบบนี้) ซึ่งวิธีการนี้จะไม่มีการเพิ่มทุนออกหุ้นใหม่ แต่เป็นการนำหุ้นเดิมทั้งหมดเข้าตลาดฯ โดยตรง
สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า Pinterest เจ้าของเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คกำลังเตรียมตัวไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว โดยมีแผนจะเข้าตลาดให้ได้เร็วที่สุดในเดือนเมษายนปีหน้า โดยคาดว่าบริษัทจะมีมูลค่าถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัท 360 Finance แพลตฟอร์มปล่อยกู้ออนไลน์ของจีนได้ไอพีโอเข้าตลาดหุ้น Nasdaq แล้ว โดยบริษัทมีแผนระดมทุนทั้งหมด 51 ล้านดอลลาร์ผ่านการจำหน่าย American Depositary Shares ทั้งหมด 3.1 ล้านหน่วย มีราคาขายหน่วยละ 16.50 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดจากช่วงที่คาดการณ์ไว้ตอนแรกคือ 16.50-18.50 ดอลลาร์
สำหรับงบการเงินของ 360 Finance ในปี 2017 บริษัทมีรายได้ 309 ล้านหยวน เติบโตจากปีก่อนหน้านี้ที่มีรายได้ 60 ล้านหยวน และบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิในครึ่งแรกของปีนี้ 572 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ขาดทุนอยู่ 67 ล้านหยวน
The Wall Street Journal รายงานว่า Uber ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่ง S-1 เพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นแล้ว ซึ่งน่าสนใจว่าการยื่นเอกสารของ Uber นั้น เกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากมีข่าวว่า Lyft บริการคู่แข่งในตลาดอเมริกาได้ยื่นเอกสารไอพีโอไป ทั้งนี้ Lyft มีเข้าตลาดหุ้นในช่วงครึ่งปีแรกของ 2019 เช่นเดียวกับเอกสารของ Uber ที่ระบุกรอบเวลาว่าจะเป็นช่วงต้นปี 2019
แหล่งข่าวบอกว่าโครงการนำ Uber ไอพีโอเข้าตลาดหุ้นนั้น มีโค้ดเนมเรียกกันภายในว่า Project Liberty (โครงการแห่งเสรีภาพ) ซึ่งน่าจะหมายถึงเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนและพนักงานที่ได้หุ้น จะสามารถขายหุ้นเพื่อทำกำไรได้ในที่สุด
จากที่ลือกันเรื่อง Lyft เตรียมยื่นเอกสารเข้า IPO ล่าสุด Lyft แถลงว่ายื่นเอกสารไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เพื่อเตรียมการขายหุ้น IPO แล้ว
รายละเอียดของการ IPO ไม่ว่าจะเป็นจำนวนหุ้น ราคา รวมถึงกำหนดเวลา ยังไม่ได้ประกาศในตอนนี้ แต่แหล่งข่าวของ Reuters ก็ระบุกว้างๆ ว่าเป็นช่วงครึ่งแรกของปี 2019
Lyft เป็นสตาร์ตอัพที่ถูกจับตาเรื่อง IPO มานาน เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่าง Uber ที่มีข่าวว่าจะขายหุ้น IPO ช่วงต้นปี 2019 เหมือนกัน และ Airbnb ที่กำหนดเวลาคร่าวๆ เป็นปี 2019-2020
กลุ่ม SoftBank เตรียมนำส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการในประเทศญี่ปุ่น (ชื่อ SoftBank Corp.) ไอพีโอเข้าตลาดหุ้นโตเกียว โดยหุ้นจะเริ่มซื้อขายในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ และถือเป็นไอพีโอที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น
โดย SoftBank Corp. จะขายหุ้นเพิ่มทุน 1,600 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1,500 เยน รวมเพิ่มทุน 2.4 ล้านล้านเยน (2.1 หมื่นล้านดอลลาร์, 7 แสนล้านบาท) คิดเป็นเงินไอพีโอสูงสุดนับตั้งแต่หุ้น Nippon Telegraph & Telephone เมื่อปี 1987
สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า Lyft ผู้ให้บริการเรียกรถในสหรัฐฯ คู่แข่ง Uber ได้ว่าจ้าง JPMorgan Chase & Co. เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (lead underwriter) พร้อมทั้ง Credit Suisse Group และ Jefferies Group เพื่อเตรียมการไอพีโอเข้าตลาดหุ้นแล้ว
แหล่งข่าวจาก WSJ ที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้รายงานว่า Lyft จะยื่นเอกสารขอไอพีโอในต้นปีหน้า ซึ่งการเลือกผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์นั้นก็ถือเป็นหนึ่งในความคืบหน้าสำคัญ Lyft โดย Lyft ระดมทุนรอบล่าสุดเมื่อเดือนมถุนายนที่ผ่านมาใน Series I มูลค่าราว 600 ล้านดอลลาร์ นำโดย Fidelity Management & Research Company ซึ่งทำให้มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ราว 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่าหลังไอพีโอมูลค่าจะพุ่งสูงกว่านี้อีก
มีรายงานว่า Uber ได้เริ่มพูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน ถึงแผนการนำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้น ตามกำหนดเวลาประมาณต้นปีหน้า 2019 แล้ว ซึ่ง Goldman Sachs และ Morgan Stanley เป็นที่ปรึกษา
ที่น่าสนใจคือมูลค่ากิจการที่ Uber ต้องการในการเข้าตลาดหุ้นอยู่ราว 120,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าปัจจุบันหลังการเพิ่มทุนล่าสุดถึง 66%
หาก Uber สามารถเข้าตลาดหุ้นได้ตามมูลค่านี้ จะกลายเป็นหุ้นเทคโนโลยีที่ไอพีโอด้วยมูลค่าสูงมากที่สุดตัวหนึ่งในประวัติศาสตร์ เทียบกับ Facebook ในปี 2012 ที่ 1.04 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนกูเกิลเข้าตลาดหุ้นปี 2004 ที่ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ที่มา: Business Insider
Tencent Music Entertainment บริษัทในเครือ Tencent ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ต ได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นในอเมริกา (ยังไม่ระบุว่าจะเข้าตลาดใด) โดยมีแผนระดมทุนเพิ่มราว 1 พันล้านดอลลาร์ จากมูลค่ากิจการปัจจุบันราว 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์
บริการของ Tencent Music มีอยู่ 4 แอป ได้แก่ QQ Music, Kugou Music, Kuwo Music และ WeSing ซึ่งทั้งหมดทำตลาดเฉพาะในประเทศจีน ประเมินส่วนแบ่งการตลาดรวมอยู่ราว 75% ของแพลตฟอร์มฟังเพลงทั้งหมดในจีน และ Tencent ก็ระบุว่าจำนวนผู้ใช้งานรวมกันทั้งหมดมีราว 800 ล้านคน
วันนี้ หุ้นของบริษัท Elastic สตาร์ทอัพจากเนเธอร์แลนด์ได้เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเป็นวันแรก โดยราคาหุ้นในตอนเปิดตลาดปรับขึ้นไปอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ หรือ 94% จากราคาไอพีโอที่ 36 ดอลลาร์ ซึ่งบริษัท Elastic ใช้สัญลักษณ์ในการเทรดว่า ESTC
Elastic ได้ระดมทุนจากการไอพีโอครั้งนี้ 252 ล้านดอลลาร์ จึงทำให้หลังไอพีโอแล้วบริษัทมีมูลค่าราว 2.5 พันล้านดอลลาร์
WSJ รายงานอ้างแหล่งข่าวภายในว่า Slack แพลตฟอร์มสำหรับคุยงานตามงาน เตรียมนำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้นภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 และอาจเร็วที่สุดในไตรมาสที่ 1/2019 เลย
มูลค่ากิจการที่บริษัทประเมินไว้หลังขายไอพีโออยู่ราว 7,000 ล้านดอลลาร์ แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเวลานั้น ซึ่งจะทำให้ Slack กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เข้าตลาดหุ้นด้วยมูลค่าสูงสุด ถัดจาก Snap เมื่อปี 2017 (24,000 ล้านดอลลาร์)
ปัจจุบัน Slack มีผู้ใช้งานราว 8 ล้านคน และเป็นผู้ใช้งานแบบเสียเงิน 3 ล้านคน
Slack เพิ่มทุนครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว นำโดยกลุ่ม SoftBank มีมูลค่ากิจการราว 5,100 ล้านดอลลาร์
ถึงแม้สถานการณ์ตลาดเงินคริปโตอาจจะผันผวนสักหน่อยช่วงนี้ แต่ธุรกิจต้นน้ำอย่างเหมืองขุดเงินก็ยังทำเงินได้ดี โดยล่าสุด Bitmain บริษัทเหมืองขุดเงินคริปโตรายใหญ่ของจีน และผู้จำหน่ายอุปกรณ์ขุด Antminer ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งเพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงแล้ว
รายได้หลักของ Bitmain มาจากการจำหน่ายฮาร์ดแวร์ชุด Antminer ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาคิดเป็นรายได้ 94% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก็เติบโตสูงมาก ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,068.9 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจาก 6 เดือนในปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ 99.0 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 742.7 ล้านดอลลาร์