Initial Public Offering
วันนี้เป็นวันที่มีบริษัทด้านเทคโนโลยีองค์กรเข้าไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ถึงสองแห่ง คือ DocuSign และ Smartsheet
บริษัทแรกคือ DocuSign ผู้ให้บริการเซ็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้กำหนดราคาไอพีโออยู่ที่ 29 ดอลลาร์ต่อหุ้น สามารถระดมทุนได้ทั้งหมด 629 ล้านดอลลาร์ โดยหุ้นของบริษัทได้เข้าเทรดในตลาด Nasdaq อย่างเป็นทางการแล้ว ใช้สัญลักษณ์ DOCU มีราคาเปิดอยู่ที่ 37.75 ดอลลาร์ สูงกว่าราคาไอพีโอถึง 30%
Pivotal บริษัทด้านแพลตฟอร์มคลาวด์ ได้นำหุ้นบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กไปแล้วเมื่อคืน ตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้ ตัวย่อในการซื้อขายคือ PVTL โดยราคาหุ้นวันแรกปิดที่ 15.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากราคาไอพีโอ 15 ดอลลาร์ เล็กน้อย หรือประมาณ 5%
ผลิตภัณฑ์หลักของ Pivotal คือแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาแอพพลิเคชันบนคลาวด์ Pivotal Cloud Foundry นอกจากนี้ยังมีบริการวางแผนเชิงกลยุทธ์ Pivotal Labs ด้วย ซึ่งรายได้ของบริษัทมาจากสองส่วนนี้ใกล้เคียงกัน
ช่วงนี้สตาร์ทอัพกลุ่มหนึ่งที่มาแรงคือสายเทคโนโลยีการศึกษา หรือ EdTech โดยล่าสุด Pluralsight สตาร์ทอัพด้านนี้ก็ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งเพื่อเตรียมนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq แล้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม
ข้อมูลทางการเงินของ Pluralsight นั้นมีการเติบโตมาโดยตลอด ปี 2017 มีรายได้รวม 166.8 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปี 2016 ที่ 131.8 ล้านดอลลาร์ และปี 2015 ที่ 108.4 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามบรรทัดสุดท้ายยังคงขาดทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน ปี 2017 นั้นขาดทุนถึง 96.5 ล้านดอลลาร์
Pluralsight ให้บริการคอร์สการศึกษาออนไลน์ เน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ และศาสตร์อื่นที่เกี่ยวกับข้อง อาทิ ไอที, การจัดการข้อมูล และความปลอดภัย เน้นขายลูกค้าระดับองค์กรเป็นหลัก
หนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ากิจการสูงของโลก Xiaomi ในที่สุดก็เตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นแล้ว โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่าบริษัทได้เริ่มว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน และจะยื่นเอกสารไฟลิ่งเร็วที่สุดในเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
มูลค่ากิจการของ Xiaomi หลังไอพีโอยังไม่ชัดเจน โดยมีตัวเลขที่เป็นไปได้ตั้งแต่ 65,000 จนถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2-3 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นและปริมาณที่จะเสนอขาย
นักวิเคราะห์คาดว่า Xiaomi อาจเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ระดมทุนได้สูงสุดในการเข้าตลาดหุ้นนับตั้งแต่ Alibaba เมื่อปี 2014 ที่ระดมทุนไปกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อคืนนี้ Spotify ได้นำหุ้นบริษัทเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยตัวย่อ SPOT ซึ่ง Spotify ใช้วิธีนำหุ้นตลาดแบบโดยตรง (Direct Listing) ตามที่เคยรายงานก่อนหน้านี้ มีการตัดขั้นตอนการตั้งราคาไอพีโอหุ้น ทำให้ไม่มีเงื่อนไขต่างๆ แบบหุ้นอื่นเวลาเข้าตลาดหุ้น
ถ้าอธิบายง่ายๆ ให้เห็นภาพ แทนที่ Spotify จะออกหุ้นเพิ่มทุน นำหุ้นนั้นโรดโชว์จำหน่าย Spotify กลับเลือกเอาหุ้นทั้งหมดของบริษัท เข้าไปในตลาดหุ้น โดยไม่มีการเพิ่มทุนใดๆ เลย ผลคือผู้ถือหุ้นดั้งเดิมสามารถนำหุ้นออกมาขายได้ทันที ไม่ติด Silent Period
Baidu ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินของจีนได้นำบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง iQiyi เข้าไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย โดยระดมทุน 2.25 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นการระดมทุนใหญ่สุดในรอบสองปีของบริษัทไอทีจีน โดยหากนับบริษัทไอทีจีนทั้งหมดที่เข้าระดมทุนในอเมริกาแล้ว การระดมทุนครั้งนี้มีมูลค่าเป็นอันดับสองรองเพียง Alibaba ที่ระดมทุน 21.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2014
iQiyi เปิดให้บริการมา 8 ปี ซึ่งในปี 2017 นั้น Baidu เผยว่า iQiyi มีผู้ใช้บริการรวมแล้ว 487 ล้านคน มีรายได้ทั้งหมด 17.38 พันล้านหยวน สูงกว่าปีก่อนหน้า 55% และขาดทุนทั้งหมด 3.74 พันล้านหยวน การระดมทุนครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้ iQiyi สามารถแข่งขันกับรายใหญ่อย่าง Youku Tudou ซึ่งอยู่ภายใต้ Alibaba ได้ดียิ่งขึ้น
DocuSign บริการเซ็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-signature ได้ยื่นเอกสาร S-1 กับกลต.สหรัฐฯ เพื่อเตรียมไอพีโอเข้าสู่ตลาดหุ้นแล้ว โดยคาดว่าน่าจะเริ่มเข้าตลาดในช่วงเดือนเมษายนนี้ แต่ยังไม่ได้เผยราคาไอพีโอออกมาอย่างเป็นทางการ
สำหรับข้อมูลผลประกอบการของ DocuSign ในปีที่แล้วบริษัทมีรายได้ 381.5 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากปีก่อนหน้า 250.5 ล้านดอลลาร์ แต่ยังขาดทุนอยู่ 115.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 122.6 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันมี Sigma Partners เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทที่ 12.9% ตามมาด้วย Ignition Partners ที่ 11.7% และ Frazier Technology Ventures ที่ 7.2%
Pivotal บริษัทด้านแพลตฟอร์มคลาวด์ที่แยกตัวออกมาจาก Dell EMC และ VMware ยื่นเอกสารจดทะเบียนเพื่อเตรียมขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์แล้ว
เมื่อคืนนี้ Dropbox เข้าขายหุ้น IPO ในตลาด Nasdaq ตามที่เคยประกาศไว้ ถือเป็นความสำเร็จของบริษัทสตาร์ตอัพชื่อดังอีกราย ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์มานานหลายปีแล้ว
หุ้นของ Dropbox (ตัวย่อ DBX) ได้รับการตอบรับอย่างดีในการขายหุ้นวันแรก ราคาสูงสุดอยู่ที่ 31 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงจากราคาเปิดขาย 21 ดอลลาร์ถึง 48% ทำให้บริษัทมีมูลค่าตามราคาหุ้น (market cap) ที่ 11.9 พันล้านดอลลาร์
ปีที่แล้ว Dropbox มีรายได้ 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่ในภาพรวมยังขาดทุน บริษัทมีผู้ใช้งานทั้งหมด 500 ล้านบัญชี และมีบัญชีแบบจ่ายเงิน 11 ล้านบัญชี
Dropbox รายงานข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไอพีโอเพื่อเข้าตลาดหุ้นเพิ่มเติมในเอกสาร S-1 ที่ยื่นไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาของหุ้นไอพีโอ และการขายหุ้นให้ Salesforce
หุ้น Dropbox นั้นจะใช้ตัวย่อว่า DBX ซื้อขายในตลาด Nasdaq ซึ่งหุ้นเพิ่มทุนจะออกจำหน่ายในราคา 16-18 ดอลลาร์ต่อหุ้นทั้งหมด 36 ล้านหุ้น เพื่อระดมทุน 648 ล้านดอลลาร์ ซึ่งด้วยราคาไอพีโอนี้จะทำให้ Dropbox มีมูลค่าประมาณ 7-8 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นการไอพีโอหุ้นเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่การไอพีโอ Snap เมื่อปีที่แล้ว
Foxconn บริษัทรับจ้างผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ยื่นเอกสารไอพีโอเพื่อนำบริษัทลูกเข้าซื้อขายที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ของจีน ซึ่งเอกสารผ่านการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว
บริษัทลูกที่จะเข้าตลาดหุ้นนี้คือ Foxconn Industrial Internet ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, บริการคลาวด์ และหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ซึ่ง Foxconn ระบุว่าเงินเพิ่มทุนนี้จะนำไปใช้ลงทุนในโครงการใหม่ๆ อาทิ โรงงานอัจฉริยะ, บริการคลาวด์ และผลิตภัณฑ์ 5G
Foxconn Industrial Internet จะไอพีโอเพิ่มทุนราว 27,000 ล้านหยวน หรือ 4.3 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นไอพีโอที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี ของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้
Spotify บริการฟังเพลงสตรีมมิ่ง ได้เปิดเผยไฟลิ่งเพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กแล้ว ตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้ โดยจะใช้ตัวย่อในการซื้อขายคือ SPOT คาดว่าจะสามารถเพิ่มทุนได้อีก 1 พันล้านดอลลาร์จากการเข้าตลาดหุ้น
ปัจจุบัน Spotify มีผู้ถือหุ้นหลักได้แก่ ซีอีโอ Daniel Ek (25.7%), Tencent (7.5%), กองทุน Tiger Global (6.9%) และ Sony Music (5.7%) รายได้หลักของ Spotify มาจากภูมิภาคยุโรป (Spotify มาจากสวีเดน) ตอนนี้ให้บริการแล้วใน 61 ประเทศ มีผู้ใช้งาน 159 ล้านคน และเป็นผู้ใช้งานแบบเสียเงิน 71 ล้านคน การใช้งานเฉลี่ย 25 ชั่วโมงต่อเดือนต่อคน ปีที่ผ่านมารายได้รวม 5 พันล้านดอลลาร์ และขาดทุน 1.46 พันล้านดอลลาร์
มีข่าวมาหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุด Dropbox ก็เปิดเผยเอกสารไฟลิ่ง S-1 เพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยหุ้น Dropbox จะทำการซื้อขายในตลาด Nasdaq ด้วยตัวย่อ DBX มีการระดมทุนราว 500 ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่ได้เปิดเผยจำนวนหุ้นและราคาต่อหุ้น ทำให้ตอนนี้ยังไม่ทราบมูลค่ากิจการที่จะเข้าตลาดหุ้น
Huami บริษัทผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์ ได้นำหุ้นบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ด้วยตัวย่อ HMI ซึ่งเป็นการไอพีโอเพิ่มทุน 110 ล้านดอลลาร์ ในราคาหุ้นละ 11 ดอลลาร์ โดยวันแรกหุ้นปิดการซื้อขายที่ราคา 11.25 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากภาพรวมตลาดหุ้นอเมริกามีแรงขายค่อนข้างมาก
หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ Huami แต่บริษัทคือผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาและผลิตสินค้าอุปกรณ์สวมใส่ให้ Xiaomi โดยมีสินค้าเด่นอย่าง Amazfit Watch นาฬิกาอัจฉริยะของ Xiaomi และ Mi Band
Huami บอกว่าขายอุปกรณ์ไปแล้วรวมกว่า 45 ล้านชิ้น และจากการจัดอันดับของ IDC ก็ถือเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สวมใส่รายใหญ่ที่สุดของโลก (ภายใต้แบรนด์ Xiaomi)
Netgear บริษัทอุปกรณ์เครือข่ายชื่อดัง ประกาศแผนการแยกธุรกิจกล้องวงจรปิดแบรนด์ Arlo ออกมาเป็นอีกบริษัท และนำเข้าตลาดหลักทรัพย์
บริษัทใหม่จะมีชื่อว่า Arlo Technologies โดย Netgear จะถือหุ้นประมาณ 80% ส่วนอีก 20% จะขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO) เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ กระบวนการ IPO น่าจะเสร็จภายในครึ่งหลังของปี 2018
Arlo เป็นแบรนด์กล้องวงจรปิดยุคใหม่ที่ควบคุมด้วยแอพ และมีฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์ช่วยตรวจสอบผู้บุกรุก ช่วงหลัง Arlo ยังขยายสายผลิตภัณฑ์จากกล้อง มายังอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ สำหรับบ้านยุคสมาร์ทโฮมด้วย เช่น ไฟ Arlo Security Light ที่ติดไว้นอกบ้านเพื่อส่องไฟดูความเคลื่อนไหวผิดปกติ
ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าเดลล์กำลังพิจารณากลยุทธ์องค์กรครั้งสำคัญ ล่าสุด CNBC อ้างแหล่งข่าวเผยว่าเดลล์อาจใช้วิธีการควบรวมกิจการแบบย้อนศร โดยการให้ VMware เข้ามาซื้อกิจการเดลล์ทั้งหมด เพื่อเป็นการนำบริษัทกลับเข้าตลาดหุ้นทางอ้อม
ปัจจุบันเดลล์ถือหุ้น VMware อยู่ 80% ซึ่งได้มาจากตอนที่เดลล์ซื้อ EMC ขณะที่ตอนนี้มี VMware เพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่อยู่ในตลาดหุ้น วิธีการให้ VMware ซื้อบริษัทแม่ที่กล่าวมา โดยออกหุ้นใหม่แลกกับหุ้นเดลล์ จึงทำให้เดลล์ทั้งบริษัทสามารถกลับเข้าตลาดหุ้นได้ โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนไอพีโอแบบเดิมอีกครั้ง
มีรายงานว่า Xiaomi ได้เริ่มพูดคุยกับสถาบันการเงินหลัก อาทิ CLSA, Goldman Sachs และ Morgan Stanley เพื่อเตรียมนำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้น ในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 นี้ โดยมูลค่ากิจการอาจสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ และน่าจะเป็นไอพีโอบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของปีนี้
ยังไม่มีการยืนยันว่า Xiaomi จะนำหุ้นจดทะเบียนที่ตลาดหุ้นใด แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นตลาดหุ้นฮ่องกง
ช่วงปี 2015-2016 Xiaomi มีส่วนแบ่งตลาดและยอดขายที่ลดลง แต่เมื่อปีที่แล้วบริษัทกลับมายึดตลาดได้อีกครั้ง จากการปรับกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะการบุกตลาดขนาดใหญ่อย่างอินเดียที่ได้ผลดี
มีรายงานว่า Dropbox บริการเก็บและแชร์ไฟล์บนคลาวด์ ได้ยื่นเอกสารเพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นแล้ว โดยเป็นเอกสารแบบ Confidentially ทำให้ไม่ต้องรายงานงบการเงินสู่สาธารณะจนกว่าจะถึง 15 วัน ก่อนหุ้นเริ่มทำการซื้อขาย
ด้วยมูลค่ากิจการจากการเพิ่มทุนครั้งสุดท้ายในปี 2014 ซึ่งอยู่ราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หาก Dropbox ไอพีโอด้วยมูลค่าอย่างน้อยที่ราคานี้ ก็น่าจะทำให้ Dropbox เป็นไอพีโอบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ตัวหนึ่งของปี 2018
เมื่อปีที่แล้วผู้บริหาร Dropbox บอกว่ามีผู้ใช้งานอยู่ 500 ล้านคน และเป็นลูกค้าองค์กรถึง 2 แสนราย มีรายได้รวมเฉลี่ยต่อปี 1 พันล้านดอลลาร์
มีรายงานว่า Spotify ได้ยื่นเอกสารกับ SEC หรือ กลต. ของสหรัฐ เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว โดยคาดจะเริ่มนำหุ้นบริษัทซื้อขายได้ภายในไตรมาสปัจจุบัน 1/2018 หลังจากที่มีข่าวก่อนหน้านี้
Razer ได้นำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงวันนี้ ตามที่มีข่าวมาก่อนหน้า โดยราคาหุ้นวันแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 41% จากราคาไอพีโอ ซึ่ง Razer ได้เงินเพิ่มทุนจากไอพีโอรวม 4.1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง และกลายเป็นหุ้นร้อนแรงตัวหนึ่ง เนื่องจากมีคำสั่งจองซื้อมากกว่าจำนวนไอพีโอถึง 290 เท่า มีมูลค่ากิจการตามราคาไอพีโอราว 34,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
Razer มีผู้ลงทุนในบริษัทรุ่นแรกรายสำคัญได้แก่ กองทุนเพื่อความมั่งคั่งของสิงคโปร์ และมหาเศรษฐีฮ่องกง Li Ka-shing โดยตัวซีอีโอ Tan Min-Liang ยังคงถือหุ้นอยู่ราว 42% เมื่อเข้าตลาดหุ้น
Dara Khosrowshahi ซีอีโอคนใหม่ของ Uber ได้ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่ง ในงานสัมมนา DealBook ที่นิวยอร์ก โดยมีประเด็นน่าสนใจโดยเฉพาะการเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้น
เขายืนยันว่าการนำ Uber เข้าตลาดหุ้นเป็นส่วนหนึ่งในแผนงาน โดยกำหนดช่วงเวลาไว้ในปี 2019 ซึ่งการเข้าตลาดหุ้นจะช่วยให้ Uber แก้ข้อเสียหลายอย่างที่บริษัทมีอยู่ตอนนี้ได้ และแผนนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Travis Kalanick
แพลตฟอร์มเผยแพร่และจำหน่ายอีบุ๊กที่ใหญ่ที่สุดของจีน China Literature เตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง โดยคาดระดมทุนเพิ่มได้ราว 1.1 พันล้านดอลลาร์ โดยจะนำเงินทุนไปใช้ซื้อกิจการและขยายธุรกิจดิจิทัลเพิ่มเติม
ปัจจุบัน China Literature มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ Tencent ราว 62% และมีกองทุน VC อื่นๆ ร่วมลงทุนด้วย ซึ่งหากไอพีโอได้ตามเป้าหมาย มูลค่ากิจการจะอยู่ราว 6.4 พันล้านดอลลาร์
ธุรกิจ China Literature เปรียบเทียบได้ว่าคล้ายกับ Kindle Store ของ Amazon โดยมีผลงานเผยแพร่ในแพลตฟอร์มมากกว่า 9.6 ล้านชิ้นแล้ว
ที่มา: Reuters
หุ้นของ Sea หรือชื่อเดิมที่หลายคนคุ้นว่า Garena ได้ไอพีโอซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้เป็นวันแรก ตามที่บริษัทได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งเมื่อเดือนก่อน ที่ราคาหุ้นละ 15 ดอลลาร์ ได้เงินระดมทุนไปได้ 884 ล้านดอลลาร์ โดยราคาหุ้นวันแรกปิดการซื้อขายที่ 16.26 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.40% โดยใช้ตัวย่อ SE (เพราะ SEA มีคนบริษัทอื่นใช้แล้ว)
Tencent ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตของจีนเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ Sea ซึ่งเกมบนแพลตฟอร์ม Garena ก็มาจาก Tencent ส่วนผลประกอบการของ Sea ในครึ่งปีแรกมีรายได้ 195.5 ล้านดอลลาร์ และยังขาดทุน 165.2 ล้านดอลลาร์
MongoDB บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล เตรียมนำหุ้นไอพีโอเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น NASDAQ คืนนี้ด้วยตัวย่อ MDB (ตามที่มีข่าวก่อนหน้า) ที่ราคา 24 ดอลลาร์ต่อหุ้น ระดมทุนไปได้ 192 ล้านดอลลาร์ และมีมูลค่ากิจการ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินเบื้องต้นที่หุ้นละ 20-22 ดอลลาร์
รูปแบบรายได้ของ MongoDB นั้นคือการให้บริการฐานข้อมูลแบบโอเพ่นซอร์ส และหาเงินจากการขายเครื่องมือเสริมต่างๆ และบริการสนับสนุนสำหรับองค์กร ซึ่งรายได้และจำนวนลูกค้าของ MongoDB นั้นก็เติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยไตรมาสล่าสุดมีรายได้ราว 35 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานขาดทุนทุกไตรมาสเช่นกัน
Switch Inc ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายใหญ่อีกรายในสหรัฐ (เจ้าของศูนย์ข้อมูลแบรนด์ Supernap ที่มาเปิดในไทยด้วย) เตรียมขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว
Switch มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลาสเวกัส และมีศูนย์ข้อมูลหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ส่วนในต่างประเทศมีที่อิตาลีและไทย บริษัทมีลูกค้าอย่าง Amazon, eBay, PayPal และองค์กรขนาดใหญ่อื่นๆ มาเช่าใช้งาน Switch ยังประกาศว่าศูนย์ข้อมูลของตัวเองจะมีมาตรฐานระดับ Tier 5 ซึ่งเหนือกว่า Tier 4 ระดับสูงสุดในปัจจุบัน (Tier 5 ยังไม่มีมาตรฐานกลางที่ยอมรับร่วมกัน)
Switch จะขายหุ้นที่ราคา 17 ดอลลาร์ และระดมเงินเข้าบริษัท 531 ล้านดอลลาร์ บริษัทจะมีมูลค่าตามราคาหุ้นที่ 4.2 พันล้านดอลลาร์