การชี้อนาคตของ Nano SIM ดูเหมือนจะต้องรอไปอีกหน่อย หลังจากที่การลงมติเลือกมาตรฐานดังกล่าวไม่มีการโหวตเลือกเกิดขึ้น และมีการถกเถียงทางด้านกฏหมายแทน โดยทั้งสองฝั่งที่เสนอมาตรฐาน (แอปเปิล และโนเกีย) ต่างออกแบบหน้าตาของ Nano SIM อิงกับสิทธิบัตรที่ตัวเองถืออยู่ และจากการที่ไม่สามารถโหวตได้ในครั้งนี้มีผลทำให้ต้องเลื่อนการลงมติออกไปอย่างน้อย 30 วัน
เพิ่มเติมในส่วนของหน้าตา Nano SIM ของฝั่งโนเกียที่คล้ายกับ micro SD ที่ใช้ในปัจจุบันมาก ซึ่งอาจมีบางส่วนอยู่ในสิทธบัตรที่มีในครอบครองของบริษัทผลิตเมมโมรี่เช่น SanDisk, Toshiba และ Panasonic ได้
ส่วนรูปคร่าวๆ ของ Nano SIM ทั้งฝั่งแอปเปิล และโนเกียสามารถดูได้จากข่าวเก่าครับ
มีคนไปเห็นว่าโนเกียได้จดสิทธิบัตรการออกแบบสมาร์ทโฟนและเพิ่งได้รับการอนุมัติเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ที่น่าประหลาดใจคือภาพร่างในสิทธิบัตรดันไปเกือบจะเหมือนกับภาพ Windows Phone ที่หลุดมาเมื่อ 10 ส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งวันที่หลุดออกมาก็เป็นวันที่โนเกียยื่นขอจดสิทธิบัตรดีไซน์สมาร์ทโฟนนี้อีกต่างหาก ลองดูความเหมือนของภาพร่างในสิทธิบัตรและภาพหลุดเมื่อปีที่แล้วได้ที่ท้ายข่าว
ไม่นานเกินรอหลังผลประกอบการที่ย่ำแย่ของ RIM ก็มีข่าวลือที่รายงานโดย Wall Street Journal ว่า ไมโครซอฟท์กับโนเกียจะจับมือแท็กทีมกันซื้อ RIM ด้วยกัน
ตามข่าวบอกว่า
ทั้งหมดยังเป็นแค่ข่าวลือ และในการซื้อจริงๆ ก็ไม่ง่ายเท่าไรนัก เพราะรัฐบาลแคนาดาน่าจะสกัดกั้นเต็มที่ในฐานะ "ผลประโยชน์ของชาติ"
มีข่าวลือว่าโนเกียกำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนสำหรับเจาะตลาดระดับล่าง 2 รุ่นที่มาพร้อมกับ MeeGo โดยผู้ให้ข้อมูลระบุว่าการพัฒนานี้อยู่ในโครงการ Next Billion Group ที่มีเป้าหมายเพื่อนำอินเทอร์เน็ตไปสู่ผู้คนนับพันล้านรายในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา
การทำเช่นนี้ได้ต้องอาศัยระบบปฎิบัติการโอเพนซอร์สอย่าง MeeGo ซึ่งมีการคาดกันว่าที่โนเกียไม่ใช้ Symbian ก็เพราะมันได้ถูกโอนไปให้ Accenture แล้ว ส่วน S40 นั้นก็รองรับการสัมผัสได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้มันไม่สามารถแข่งขันกับ Android ได้
Next Billion Group เกิดขึ้นหลังจากโนเกียประกาศเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ โดยโนเกียได้แบ่งหน่วยงานออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ Windows Phone Group และ Next Billion Group ตามที่กล่าวมา
กระบวนการลงมติเลือกมาตรฐาน nano SIM ขององค์กรควบคุมมาตรฐานโทรคมนาคมยุโรป (ETSI) ได้เริ่มต้นแล้วซึ่งคาดว่าผลจะออกในไม่กี่วันข้างหน้า แต่ดูเหมือนวิวาทะจากฝ่ายตรงข้ามกับแอปเปิล ซึ่งนำโดยโนเกีย ที่มีผู้สนับสนุนคือโมโตโรลาและ RIM จะยังไม่จบ หลังจากที่แอปเปิลออกมาบอกว่าถ้าหาก ETSI เลือกมาตรฐานของแอปเปิลแล้วแอปเปิลจะไม่เก็บค่าธรรมเนียม
Jeff Bradley ผู้บริหารฝ่ายฮาร์ดแวร์มือถือของ AT&T ให้สัมภาษณ์กับ CNET ว่า แคมเปญเปิดตัว Nokia Lumia 900 ในสหรัฐ วันที่ 8 เมษายนที่จะถึงนี้ ถือเป็นแคมเปญโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดที่ AT&T เคยทำมาเลยทีเดียว ซึ่งในที่นี้ถือว่าใหญ่กว่าการโฆษณา iPhone ที่เคยมีมาด้วย
โนเกียนั้นเจาะตลาดสหรัฐอเมริกาไม่เข้ามานานแล้ว ทำให้การเปิดตัว Lumia 900 ในครั้งนี้ต้องทุ่มสุดตัว ซึ่งรอบนี้โนเกียปรับทัพมาใหม่หมด ทั้งการจับมือกับไมโครซอฟท์ และการจับมือกับเครือข่ายอย่าง AT&T (เพราะตลาดมือถือสหรัฐต้องพึ่งเครือข่ายเป็นอย่างมาก)
จากข่าวหลุดข้อมูล Nokia Lumia 800C ตอนนี้ทาง Nokia ได้ออกมาแถลงว่า ในประเทศจีนจะใช้ชื่อนี้จริง ๆ และยังได้บอกอีกว่าจะรองรับ CDMA รวมทั้งจะขายให้กับ China Mobile
นอกจากนี้ Nokia ยังยืนยันอีกว่า จะมีแอพลิเคชั่นบน Marketplace ในเมืองจีนจำนวน 2 หมื่นแอพฯ ในอีกไม่นานแน่นอน ส่วนสเปค ก็ไม่ต่างอะไรกับรุ่น Lumia 800 ปกติ แต่แค่เปลี่ยนจาก HSPA เป็น CDMA และสีก็ยังคงจะมีแค่สีดำกับสีฟ้าแค่นั้น
วางจำหน่ายเดือนเมษายนนี้ ราคา 3,599 หยวน หรือประมาณ 18,000 บาท สั่งจองได้แล้วที่ 189.cn และ hicdma.com
ใครอยากอ่าน Press Release เต็ม ๆ อ่านได้ที่ที่มาของข่าวครับ
พันธมิตรโนเกีย-ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าผลักดัน Windows Phone อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทุ่มเงินอีก 24 ล้านดอลลาร์ให้กับมหาวิทยาลัย Aalto ในฟินแลนด์ เพื่อให้มหาวิทยาลัยดำเนินโครงการชื่อ AppCampus ผลักดันนักพัฒนาแอพบน Windows Phone เป็นระยะเวลา 3 ปี
งานนี้ทั้งสองบริษัทจ่ายเงินกันคนละครึ่ง โดยจะประกาศรับสมัครนักศึกษาและผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ทั่วโลกที่ต้องการสร้างแอพบน Windows Phone บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกจะได้เงินทุนสนับสนุนจำนวนหนึ่ง (โดยไม่ต้องให้หุ้นเหมือนกับการขอเงินจากนักลงทุนทั่วไป) และได้ทีมที่ปรึกษาด้านเทคนิค-การตลาดช่วยแนะนำการพัฒนาแอพด้วย
หลังจากทั้งทาง AT&T โชว์ตัว HTC Titan II และ Nokia Lumia 900 ให้น้ำลายหกกันไปพลาง ๆ แล้ว วันนี้ได้ประกาศราคารวมทั้งวันจัดจำหน่ายของ HTC Titan II และ Nokia Lumia 900 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต่อเนื่องจากข่าวที่หลายฝ่ายกังวลแอปเปิลเสนอออกแบบ nano SIM มาพร้อมถาดใส่ ซึ่งถ้าหากแอปเปิลชนะ อาจนำไปสู่การเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน nano SIM ได้
ย้อนความเดิมก่อนว่าช่วงนี้ใกล้จะถึงกำหนดการที่องค์กรที่ควบคุมมาตรฐานโทรคมนาคมยุโรป (ETSI) จะนัดประชุมเพื่อโหวตมาตรฐานใหม่ของซิมการ์ดรุ่นต่อไปที่จะใช้ในอนาคต (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ nano SIM) โดยแบ่งเป็นสองฝ่ายคือแอปเปิล และกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยโนเกีย ที่ทำแต้มนำไปก่อนแล้วด้วยการข่มว่าฝั่งตัวเองมีเทคโนโลยีที่เหนือกว่า ซึ่งจะทำให้ nano SIM นอกจากจะขนาดเล็กลงแล้ว ยังมีความสามารถในการรับสัญญาณได้ดีขึ้น รวมถึงราคาผลิตต่อหน่วยที่ต่ำลงอีกด้วย
หลังจากที่ Nokia ได้เปิดตัวแอพฯ ในงาน MWC 2012 เราก็แทบไม่ได้ยินเกี่ยวกับแอพใหม่ ๆ จาก Nokia เลยสักเล็กน้อย ล่าสุดวันนี้ Nokia ได้ปล่อย Nokia Play To beta ให้ทดลองเล่นกัน
นานมาแล้วได้มีคนพยายามแฮค Nokia N9 ให้ลง Android Ice Cream Sandwich วันนี้ ทีม NITDroid (จำได้ไหมว่าเคย
ปัญหาอย่างหนึ่งของ Windows Phone คือเซลส์ขายมือถือในร้านไม่ค่อยรู้จัก ไม่ค่อยมีใครเคยใช้งาน ทำให้ตอนเชียร์ลูกค้า มักจะไม่เชียร์ให้ซื้อ Windows Phone เท่าที่ไมโครซอฟท์และพาร์ทเนอร์อยากให้เป็น
ตอนนี้มีข่าววงในออกมาว่า โนเกียกำลังแก้ปัญหานี้โดยใช้มือถือเข้าแลก เซ็นสัญญากับ AT&T (ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญของโนเกียในสหรัฐ ณ เวลานี้) แจก Lumia 900 ที่จะเริ่มวางขายในสหรัฐช่วงต้นเดือนเมษายน แก่พนักงานขายหน้าร้านของ AT&T ทุกคนฟรีในฐานะ "มือถือของบริษัท" (มีเงื่อนไขอยู่บ้างคือพนักงานจะต้องคืนมือถือบริษัทที่เป็นแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย)
ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์จากประเทศฟินแลนด์ฉบับหนึ่ง Marko Ahtisaari หัวหน้าฝ่ายออกแบบของโนเกีย กล่าวว่าบริษัทกำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนที่จะปฏิวัติวงการและทำให้มือถืออื่นดูล้าหลังไปเลย
Ahtisaari กล่าวว่า ส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ของ iPhone ได้รับการออกแบบได้ไม่ดีและดูซับซ้อนเกินไป นอกจากนั้นเขายังกล่าวถึงระบบปฎิบัติการอย่าง Symbian และ Android ว่าดูเหมือนบ้านตุ๊กตาที่ผู้ใช้สามารถตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นานาชนิดได้เอง ส่วน Windows Phone นั้นดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
PocketNow เผยภาพ mock up แนวคิดการรีดีไซน์ส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ของ Windows Phone ที่นักออกแบบของโนเกียเคยสร้างสรรค์ไว้ ผู้ที่เปิดเผยภาพนี้ปัจจุบันทำงานกับทีมพัฒนา Nokia 808 PureView ได้ให้ข้อมูลกับ PocketNow ว่านักออกแบบคนดังกล่าวได้ถูกโอนย้ายไปทำงานกับ Accenture แล้ว สำหรับภาพชุด mock up ดูได้ที่ท้ายข่าว
ครั้งหนึ่ง CTO ของโนเกียเคยถูกถามว่าอยากจะเปลี่ยนส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Windows Phone หรือไม่ เขาได้ตอบว่า บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนส่วนติดต่อผู้ใช้หรือกระทั่งประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX) ได้ตามข้อตกลงความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ แต่ต่อมา CTO ได้ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่าบริษัทจะไปให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างในด้านอื่นให้ Windows Phone ที่ใช้กับโนเกียแทนการปรับแต่งส่วนติดต่อผู้ใช้แทน
หลายคนคงคุ้นชื่อกับซิมรุ่นใหม่ที่เล็กกว่า Micro SIM (ตอนนี้เรียก nano SIM ไปพลางๆ) หลังจากที่แอปเปิลได้เสนอมาตรฐานดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่ดูแลมาตรฐานนี้อยู่อย่าง The European Telecommunications Standards Insti
จากการรายงานของ FT เกี่ยวกับ The European Telecommunications Standards Institute (ETSI) จะเปิดให้มีการโหวต nano-SIM ในสัปดาห์หน้า ด้าน Apple พยายามที่จะเพิ่มคะแนนเสียง ด้วยการเพิ่มห้องประชุมจำนวน 6 ห้องสำหรับบริษัทสาขาที่เป็นสมาชิก ยุโรป ซึ่งจะมีคะแนนเสียงมากถึง 45 คะแนน
ถึงแม้ Windows Phone จะยังจุดไม่ค่อยติดในหลายประเทศทั่วโลก แต่ตลาดที่โนเกียเน้นเป็นพิเศษคือยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษที่เปิดตัว Lumia 800 เป็นที่แรกๆ ในโลก
ผลลัพธ์ของการผลัก Windows Phone เริ่มแสดงออกมาให้เห็น เมื่อตัวเลขจากบริษัท Kantar Worldpanel ComTech ระบุว่า Windows Phone มีส่วนแบ่งตลาด 2.5% ขึ้นแซงหน้า Symbian ที่ 2.4% ได้แล้ว
ปัจจัยสนับสนุนส่วนหนึ่งเกิดจาก Symbian เองมีส่วนแบ่งตลาดลดลงมาก จากเดิม 12.4% ในปีก่อน มาเหลือเพียง 2.4% ในปีนี้ ส่วนการผลักดันของโนเกียก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะ Lumia 800 มีส่วนแบ่งตลาด Windows Phone ในยุโรปถึง 87%
หลังจากโนเกียได้เปิดตัวแผนที่ที่ทำขึ้นบนเทคโนโลยี HTML5 ไปเมื่อกันยายนและเพิ่มฟีเจอร์ดาวน์โหลดแผนที่มาเก็บบนเครื่องในเดือนถัดมาของเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดโนเกียได้เพิ่มฟีเจอร์นำทางแบบเดินเท้าด้วยเสียงเข้าไปอีกหนึ่งอย่าง
เว็บไซต์นี้ใช้ได้บน iOS หรือ Android 2.3 เป็นต้นไป โดยที่ยังไม่สามารถบน Windows Phone ได้ หากผู้ใช้ต้องการให้เว็บนำทางด้วยเสียงจะต้องดาวน์โหลดไฟล์เสียงขนาด 2 เมกะไบต์ ใครสนใจสามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ m.maps.nokia.com
สิ่งหนึ่งที่ยังขาดไปในมือถือ Nokia Lumia คือความสามารถเรื่อง tethering ซึ่งมีใน Windows Phone อยู่แล้ว
โนเกียออกมาตอบคำถามเรื่องนี้ โดยบอกว่า
นอกจากนี้ โนเกียยังบอกว่า Lumia 900 จะวางขายนอกสหรัฐในไตรมาสที่สองของปีนี้ แต่ก็ยังไม่บอกกรอบเวลาและรายชื่อประเทศที่แน่ชัดครับ
มีภาพที่ถูกอ้างว่าเป็นโนเกีย Lumia 719c ที่จะวางขายในประเทศจีน (เพียงตลาดเดียว?) หลุดออกมา จากภาพจะเห็นได้ว่ารูปร่างเครื่องดังกล่าวไม่เหมือนกับ Windows Phone ที่โนเกียวางขายมาก่อนหน้านี้ แต่ Lumia 719c ก็มีความคล้ายกับ Lumia 710 อยู่บ้าง อาทิ ขนาดตัวเครื่อง และปุ่มจริงบนหน้าเครื่อง 3 ปุ่ม ไม่ใช่ปุ่มแบบ capacitive หน้าตาตัวเครื่องจะเป็นเช่นใดเชิญชมได้ที่ท้ายข่าว
ที่มา: โพสบนฟอรัมของ Baidu ผ่าน WMPoweruser
ขอรวบสองข่าวเป็นข่าวเดียวกัเลยครับ
ข่าวแรก Compal ผู้ผลิต Lumia 610 ให้โนเกียได้คาดการณ์ว่าไตรมาสสองของปีนี้จะสามารถส่งมอบ Windows Phone รุ่นดังกล่าวได้สูงถึง 4 ล้านเครื่อง ส่งผลให้ Compal จะมีรายได้ต่อเดือนสูงสุดในรอบ 5 ปี หากโนเกียสามารถขาย Lumia 610 ได้ตามเป้าที่ Compal ระบุจริง ก็จะเป็นยอดที่สูงสุด ซึ่งสูงกว่ายอดส่งมอบที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ Windows Phone ตัวแรกเริ่มวางจำหน่าย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีผ่านมา - Digitimes
ในการให้สัมภาษณ์ระหว่าง Stephen Elop กับหนังสือพิมพ์ภาษาจีนแห่งหนึ่ง เขาได้กล่าวว่าซีพียูดูอัลคอร์และควอดคอร์ที่อยู่บนสมาร์ทโฟนนั้น "ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่" และ "รังแต่จะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วเสียมากกว่า" Elop ยังอ้างการแข่งขัน "Smoked By Windows Phone" ที่ไมโครซอฟท์จัด และงาน "Blown Away By Lumia" ที่โนเกียจัดว่าเป็นข้อพิสูจน์ว่าผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนที่มีซีพียูหลายคอร์ก็สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่มีปัญหา
คาดว่าเมื่อถึงเวลาเปิดตัวโนเกีย Windows Phone 8 ที่น่าจะมากับซีพียูดูอัลคอร์และฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย Elop คงจะพูดถึงซีพียูหลายคอร์ในทางที่ดีอย่างแน่นอน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานการให้สัมภาษณ์ระหว่าง Marko Ahtisaari หัวหน้าฝ่ายออกแบบของโนเกียและนิตยสารฉบับหนึ่งว่า ขณะนี้เขากำลังพัฒนาแท็บเล็ตที่จะเป็นกลายเป็นหัวหอกในบรรดาคู่แข่งกับไอแพดอยู่
ถึงเขาไม่ได้กล่าวว่าแท็บเล็ตนี้รัน Windows 8 หรือไม่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างโนเกียกับไมโครซอฟท์ในขณะนี้ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าแท็บเล็ตดังกล่าวจะใช้ระบบปฎิบัติการ Windows อย่างไม่ต้องสงสัย
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์
โนเกียประกาศปิดบริการการเงินบนมือถือ Nokia Money ที่ให้บริการในอินเดีย โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท และต้องการโฟกัสที่ธุรกิจมือถือและบริการเชิงพิกัดแทน
แผนการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรที่ริเริ่มโดย Stephen Elop ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา โดยโนเกียเพิ่งเปิดบริการ Nokia Money ในอินเดียเมื่อปีที่แล้ว และไม่ได้รับความนิยมอย่างที่คาดไว้
ที่มา - Reuters