อินเทลยอมรับปัญหาว่าซีพียู Core Skylake รุ่นล่าสุดมีบั๊กที่ทำให้ซีพียูหยุดทำงานไปชั่วขณะ ถ้ารันงานที่มีความซับซ้อนสูงบางอย่าง
บั๊กนี้ถูกค้นพบโดยกลุ่มนักวิจัย Great Internet Mersenne Prime Search (GIMPS) ที่ค้นหาจำนวนเฉพาะ (prime number) ด้วยคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรม Prime95 คำนวณหาจำนวนเฉพาะใหม่ๆ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
อินเทลยอมรับว่ามีบั๊กนี้จริง และระบุว่ากำลังเร่งแก้ไขผ่านการอัพเดต BIOS ต่อไป
ชิป Skylake เปิดตัวมาไม่ถึงครึ่งปี ตอนนี้มีรายงานด้านเสถียรภาพ เมื่อกลุ่ม Great Internet Mersenne Prime Search (GIMPS) ที่พยายามหาความจำนวนเฉพาะแบบ Mersenne ที่ใหญ่ที่สุด รายงานว่าชิปมีอาการค้างไปเมื่อรันโปรแกรมไปได้ระยะหนึ่ง อาจจะไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายๆ ชั่วโมง
ทางอินเทลรับรายงานไปสองสัปดาห์ก่อนจะยืนยันว่าเป็นบั๊กของซีพียู Skylake จริง ข่าวดีคือบั๊กนี้สามารถแก้ไขได้โดยการส่งอัพเดตไปยังไบออส และอินเทลกำลังทำงานร่วมกับผู้ผลิตเมนบอร์ดให้ปล่อยอัพเดตอยู่
คนทั่วไปคงไม่เจอปัญหาอะไร แต่ถ้าใครที่ซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้ประมวลผลหนักๆ อาจจะต้องตรวจสอบเสียก่อนว่าเมนบอร์ดตัวไหนอัพเดตแพตช์ใหม่จากอินเทลแล้วบ้าง
เว็บไซต์คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ฝั่งยุโรประบุว่าตอนนี้มีผู้ใช้ซีพียูตระกูล Skylake (Intel Core เจเนอเรชั่นปัจจุบัน) บางรุ่น ที่ผู้ใช้ติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบซื้อแยก พบว่าแรงกดขณะติดตั้งฮีตซิงค์เหล่านี้ทำให้ตัวชิปงอ กดลึกไปถึงซ็อกเก็ต LGA1151 บนเมนบอร์ด เมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพความหนาของตัวชิปเทียบกับรุ่นก่อน (ฺBroadwell, Haswell) พบว่ามีความบางกว่า และอาจทนแรงกดจากฮีตซิงค์ที่ขันยึดกับเมนบอร์ดไม่ไหว
ไมโครซอฟท์ปล่อยเฟิร์มแวร์ Surface Book และ Surface Pro 4 ในชื่อ "System Firmware Update – 12/3/2015" หรือ "System Hardware Update – 12/3/2015" เพื่อแก้ปัญหาจอค้างซึ่งมักเกิดขึ้นบ่อยระหว่างการเลื่อนดู (scrolling) หน้าเว็บ แล้วจะมีข้อความแจ้งว่าอแด็ปเตอร์แสดงผลถูกรีเซ็ต รายละเอียดของอัพเดตมีดังนี้
ให้หลังจากการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่รหัส Skylake ไปเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน เมื่อสัปดาห์ก่อนทางอินเทลประเทศไทยได้ส่งซีพียูรุ่นแรงสุดในปัจจุบันอย่าง Core i7-6700K มาให้ทาง Blognone ทดสอบ พร้อมกับชุดคิตอย่างเมนบอร์ด แรม DDR4 และ SSD ตัวแรงอย่าง 750 Series
เชื่อว่าคงมีหลายคนในที่นี้สนใจ Surface Pro 4 รุ่นใช้ Core m3 อยู่ แต่ไม่กล้าซื้อเพราะไม่มีข้อมูลประสิทธิภาพของชิปให้พิจารณา แต่ล่าสุดเว็บไซต์ ZDNet เผยผลทดสอบประสิทธิภาพของ Core m3 และเทียบกับรุ่น Core i5 แล้ว
ผู้ทดสอบสรุปว่า ประสิทธิภาพของ Core i5 ดีกว่า Core m3 ราวร้อยละ 30 แต่ระยะเวลาใช้งานต่อการชาร์จแบตเตอรี่ของทั้งสองรุ่นไม่แตกต่างกัน สำหรับคะแนนผลทดสอบดูได้ที่ท้ายข่าว
ที่มา: ZDNet
เว็บไซต์ AnandTech เผยว่าเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและอัพเดตเปิดใช้ฟีเจอร์ Speed Shift ของอินเทล ที่มากับชิปรหัส Skylake ซึ่งถูกใช้กับคอมพิวเตอร์หลายรุ่น อาทิ Surface Book กับ Surface Pro 4
AnandTech ให้ข้อมูลว่า เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาต่อยอดจาก Speed Step ในปัจจุบัน โดย Speed Shift จะประเมินความถี่ของสัญญาณนาฬิกาและแรงดันไฟฟ้า (voltage) ขณะประมวลผล เพื่อผลักให้ซีพียูทำงานเต็มที่เมื่อมีการใช้งานหนัก และลดลงเมื่อไม่มีการใช้งาน แทนที่ระบบปฏิบัติการจะเป็นผู้ประเมิน ซึ่งช่วยยืดเวลาการใช้งานเครื่อง (battery life) และเครื่องตอบสนองต่อการประมวลผลหนักในเวลาอันสั้น (short-burst) อาทิ เบราว์เซอร์โหลดหน้าเว็บ ได้เร็วขึ้นเพราะซีพียูสามารถเร่งการประมวลผลได้เร็วกว่าที่ระบบปฏิบัติการสั่งให้ซีพียูทำงาน
HP ประกาศอัพเกรดพีซีเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กชุดใหญ่ ต้อนรับซีพียู Intel Skylake และ Windows 10 ข่าวนี้เริ่มจากแบรนด์ Spectre ก่อนครับ
วันนี้อินเทลเพิ่งประกาศเปิดตัวซีพียู Core รุ่นที่หกรหัส Skylake ครบทุกไลน์ไป ฝั่งประเทศไทยก็มาเปิดตัวซีพียู Skylake ชุดแรกสำหรับกลุ่มเกมเมอร์ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าทั้งสองรุ่นอย่าง Core i7-6700K และ Core i5-6600K ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นปลดล็อกสามารถโอเวอร์คล็อกกันได้โดยตรง พร้อมวางขายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เปิดราคารุ่น i7-6700K มาที่ 13,700 บาท และ i5-6600K ที่ 9,190 บาท
อินเทลเปิดตัวซีพียู Skylake ครบทั้งตระกูลหลังจากค่อยๆ เปิดตัวรุ่นเกมเมอร์ไปก่อนแล้ว
ซีพียูที่เปิดตัวพร้อมกันมีหลายสิบรุ่น แบ่งเป็นกลุ่มๆ ได้ตามนี้
CPU World รายงานข้อมูลของซีพียู Core m รุ่นต่อไปที่ใช้แกน Skylake-Y นี่รุ่น ได้แก่ Core m3 6Y30, m5 6Y54, m5 6Y57, และ m7 6Y75 ทั้งสามรุ่นใช้แกนกราฟิก HD 515 เหมือนกัน แต่ต่างกันที่สัญญาณนาฬิกา
พร้อมๆ กับข้อมูลสเปคที่หลุดออกมาเว็บ CompuBench ก็มีรายงานผลทดสอบประสิทธิภาพของ Core m3 6Y30 ออกมา ประสิทธิภาพที่ได้ดีกว่า Core m 5Y10 รุ่นล่างสุดในก่อนหน้านี้อย่างน้อยสองเท่าตัว (ชุดทดสอบ Particle Simulation ประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 6 เท่าตัว)
ค่าย Dell มีเดสก์ท็อปเกมมิ่งขนาดเล็ก (Mini-ITX) รุ่น Alienware X51 ที่เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2012 และอัพเดตเรื่อยมาจนตอนนี้ถึงยุคที่สามในชื่อ Alienware X51 R3
X51 R3 ยังคงหน้าตาเคสรูปแบบเดิมทุกประการ แต่อัพสเปกมาเป็น Intel 6th Gen Core รุ่นล่าสุดรหัส Skylake (แถมยังเป็นรุ่น K ปลดล็อคสัญญาณนาฬิกา), แรม DDR4 2133MHz เริ่มต้นที่ 8GB, ตัวเลือกสตอเรจหลากหลาย มีแบบ SSD ด้วย, การ์ดจอเริ่มที่ NVIDIA GTX 745 แต่สามารถเปลี่ยนเป็น AMD R9 370 หรือ NVIDIA GTX 960 ได้เช่นกัน
เก็บตกจากงาน IDF เมื่อคืนนี้ อินเทลจับมือกับไมโครซอฟท์เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Wake-on-voice สำหรับผู้ที่ใช้งานชิป Core i รุ่นที่หกร่วมกับ Windows 10 จะสามารถเปิดเครื่องได้ด้วยเสียงจริงๆ แล้ว
การสั่งเปิดเครื่องด้วยเสียงบน Windows 10 และชิป Skylake เป็นผลมาจากความสามารถในการรับฟังคำสั่งเสียงตลอดเวลาที่ได้มาด้วยการยัดชิปประมวลผลเสียงพลังงานต่ำ (DSP) เข้าไปไว้ใน Skylake ทำให้สามารถสั่งงานตัวเครื่องผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะ Cortana ให้เปิดเครื่องได้ โดยฟีเจอร์นี้มีมาตั้งแต่เมื่อครั้งเปิดตัว Core M แล้ว แต่ด้วยความที่ต้องใช้งานกับ Windows 10 ที่ยังไม่ออก ทำให้ยังไม่ถูกพูดถึงในขณะนั้น
หลังจากรอคอยกันมาแสนนาน ในที่สุดอินเทลก็เปิดตัวซีพียู Core รุ่นที่หกรหัส "Skylake" เป็นที่เรียบร้อย โดยเริ่มจาก Core i5 และ Core i7 สำหรับเดสก์ท็อปของเกมเมอร์
ซีพียูสองตัวแรกของ Skylake คือ Core i7-6700K และ Core i5-6600K (ซีพียูรหัส K คือปลดล็อคสัญญาณนาฬิกาสำหรับคนที่ต้องการโอเวอร์คล็อค) ส่วนชิปเซ็ตที่ใช้คู่กันคือ Intel Z170 ตัวใหม่ โดยผู้ผลิตเมนบอร์ดอย่าง Asrock, Asus, EVGA, Gigabyte, MSI, Supermicro ก็พร้อมออกสินค้าแล้วเช่นกัน
อินเทลยังประกาศว่าจะออกซีพียู Core รหัส K สำหรับโน้ตบุ๊กตามมาในเร็วๆ นี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นซีพียูรหัส K บนโน้ตบุ๊กด้วย
ที่มา - Intel
เริ่มเข้าสู่ครึ่งหลังของปี ข่าวของ Intel Skylake หรือ Sixth Generation Core เริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยเว็บไซต์ Computerworld อ้างแหล่งข่าววงในว่าเราจะได้เห็นซีพียู Skylake ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในเดือนสิงหาคมนี้แล้ว
Computerworld บอกว่าอินเทลจะใช้เวทีงาน Gamescom ที่เยอรมนี (5-9 สิงหาคม) นำ Skylake รุ่นซีพียูเดสก์ท็อปสำหรับการโอเวอร์คล็อคมาโชว์ต่อหน้าเกมเมอร์ทั้งหลาย จากนั้นจะเผยรายละเอียดเต็มๆ ในงาน Intel Developer Forum ที่ซานฟรานซิสโก (18-20 สิงหาคม) การวางขายสินค้าจริงน่าจะตามมาหลังงาน IDF ไม่นานนัก
Brian Krzanich ซีอีโออินเทลให้สัมภาษณ์ถึงซีพียูรุ่นถัดไปรหัส Skylake โดยเขาบอกว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้แกน Skylake จะมีตั้งแต่ชิปสำหรับอุปกรณ์พกพาระดับ Core M ไล่ไปยัง Core i3/i5/i7 จนถึงชิปสำหรับเซิร์ฟเวอร์อย่าง Xeon เลยทีเดียว (ก่อนหน้านี้อินเทลเคยประกาศแค่ว่าจะมี Core M Skylake แต่ไม่เคยพูดถึงชิประดับอื่นๆ)
Krzanich ยอมรับว่าบริษัทมีปัญหากับการผลิต Broadwell จนต้องเลื่อนมานานพอสมควร พอถึงรอบของ Skylake บริษัทจึงตัดสินใจไม่เลื่อนมันออกไปอีก ซึ่งก็ได้รับเสียงสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ผลิตพีซีทุกราย
ตอนนี้กำหนดการของ Skylake ที่อินเทลประกาศไว้คือ "ครึ่งหลังของปี 2015" และคาดว่าจะแถลงรายละเอียดในงาน Computex ที่ไต้หวันในเดือนมิถุนายน
ในงานสัมมนาเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ตของ Goldman Sachs (งานที่ Tim Cook พูดถึง Apple Watch) Brian Krzanich ซีอีโออินเทลก็มาประกาศแผนต่อไปของซีพียูรุ่นใหม่ในซีรีส์ Core M ด้วย
โดย Krzanich บอกว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ Core M โฉมใหม่จะมาพร้อมกับการเปลี่ยนไปสู่สถาปัตยกรรม Skylake (น่าจะเป็นตัวแรกเลย) ซึ่งจะปรับปรุงด้านกราฟิกมากขึ้นจากรุ่นแรก เพิ่มการรองรับเทคโนโลยีกล้องสามมิติ RealSense 3D รุ่นที่สอง รวมถึงจะรองรับทั้ง Windows 10, Android และ Chrome OS
ส่วนการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบนั้น Core M จะทำให้สามารถออกแบบตัวเครื่องได้บางขึ้นไปอีก จากตอนนี้ที่บางสุดปาเข้าไปถึง 7.2 มม. แล้ว
ชิปรหัส Broadwell เพิ่งเริ่มเปิดตัวกับโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ได้ไม่กี่รุ่น ข่าวหลุดของชิปตัวต่อไปในรหัส Skylake ที่จะเป็นช่วง tock ของอินเทลบนสถาปัตยกรรมขนาด 14 นาโนเมตรก็มาจ่อรอแล้ว
เริ่มต้นด้วยสเปคของ Skylake ฝั่งเดสก์ท็อปจะเปลี่ยนซ็อกเก็ตซีพียูเป็น LGA 1151 ใช้งานร่วมกับชิปเซ็ตซีรีส์ 1xx ซึ่งรองรับแรม DDR4 และพอร์ต Thunderbolt รุ่นใหม่แล้ว ส่วนฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามามีดังนี้
ประกาศแผนกันข้ามปี ที่งาน Intel Developer Forum 2014 อินเทลเผยข้อมูลของซีพียูรุ่นหน้ารหัส Skylake (ต่อจาก Broadwell) ว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในครึ่งหลังของปี 2015 ข้อมูลเท่าที่เปิดเผยคือมันจะใช้การผลิตที่ระดับ 14 นาโนเมตร (เท่า Broadwell) และจะเริ่มส่งชุดซอฟต์แวร์ให้นักพัฒนาทดสอบก่อนในช่วงครึ่งแรกของปี 2015
อินเทลยังโชว์ต้นแบบอุปกรณ์ 2-in-1 ที่ใช้ Skylake เดโมสดๆ ภายในงาน รันวิดีโอความละเอียด 4k อีกด้วย
อินเทลเผยแนวทางของชิปรุ่นต่อไปอย่าง Skylake (ตัวต่อจาก Broadwell) ว่าจะนำทางพีซีไปสู่ยุคของการเชื่อมต่อทุกสิ่งแบบไร้สายเสียบเสียที
เพื่อยืนยันกับแนวคิดที่ว่า ในงาน Computex ที่ผ่านมา อินเทลได้โชว์พีซีที่สามารถใช้งานได้แบบไร้สายในแทบทุกท่วงท่า ตั้งแต่การต่อหน้าจอแบบไร้สาย ร่วมกับการชาร์จไฟแบบไร้สาย
เทคโนโลยีที่อินเทลเลือกใช้คือ WiGig ระบบการส่งข้อมูลไร้สายความเร็วสูง 7Gbps ซึ่งทำให้พีซีสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น จอภาพ ที่ต้องการแบนด์วิธจำนวนมาก เมื่อขยับเครื่องเข้าไปอยู่ในระยะที่กำหนด