บริษัทวิจัยตลาด IDC รายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 โดยมีสัญญาณที่ดีขึ้น ตัวเลขส่งมอบ 353.6 ล้านเครื่อง ลดลงเหลือ 1.3% จากปีก่อน สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งประเทศที่มียอดส่งมอบในอัตราเพิ่มขึ้นสูงได้แก่ อินเดีย, บราซิล และอินโดนีเซีย
ซัมซุงกลับมามีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 อีกครั้งที่ 22.7% (80.4 ล้านเครื่อง) ซึ่งได้ประโยชน์จากตลาดอินเดีย ที่ความต้องการสมาร์ทโฟนรุ่นราคาถูกมีอยู่มาก อันดับ 2 คือหัวเหว่ย (14.7%, 51.9 ล้านเครื่อง) ตามด้วย Xiaomi (13.1%, 46.5 ล้านเครื่อง) ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า Apple ในอันดับ 4 เป็นครั้งแรก (10.6%, 41.6 ล้านเครื่อง)
วันที่ 14 กันยายนนี้ LG เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ และได้ยืนยันชื่อผลิตภัณฑ์แล้วว่าเป็น LG Wing และจากวิดีโอทีเซอร์ก่อนเปิดตัวเครื่องจริงทำให้เข้าใจว่า ตัวเครื่องสามารถบิดออกเป็นสองหน้าจอ เมื่อบิดเครื่องออกมาแล้วจะได้รูปทรงตัว T
ก่อนหน้านี้ยังมีรายงานด้วยว่าตัวเครื่องรองรับ 5G, กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลักละเอียด 64 เมกะพิกเซล, ชิป Snapdragon 7 โดยตัว LG Wing เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกภายใต้ Explorer Project โปรเจกต์สร้างมือถือแนวใหม่ของ LG
หลังจากห่างหายไปถึงสองปี ในที่สุด POCO F2 Pro มือถือสเปกเรือธงในราคาน่าคบก็กลับมาเขย่าตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง ท่ามกลางสภาพตลาดสมาร์ทโฟนที่นักฆ่าเรือธงเริ่มหายหน้าหายตา หลายรุ่นขยับราคาขึ้นไปจนแทบจะเป็นเรือธงเองแล้ว
ด้วยสเปกของ POCO F2 Pro ที่เทียบเท่าระดับเรือธง แต่ราคายังอยู่ในระดับที่จับต้องได้ (แน่นอนว่าราคาระดับนี้ก็ต้องมี trade-off กับสเปคระดับท็อป) ทำให้ POCO F2 Pro อาจจะพอถูกเรียกว่าเป็นนักฆ่าเรือธงได้อยู่เหมือนกัน
Xiaomi เตรียมปล่อยอัพเดท MIUI เวอร์ชั่น 12 ให้กับสมาร์ทโฟน 23 รุ่นในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยจะเริ่มในอินโดนีเซียเป็นที่แรก และคาดว่าภูมิภาคอื่นๆจะตามมาภายหลัง
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางอย่างสามารถใช้งานได้ในเฉพาะบางรุ่นเท่านั้น เช่น Super Wallpapers จะสามารถใช้งานได้ในเฉพาะ Mi10 และ POCO F2 Pro ในขณะที่ Floating Windows และฟีเจอร์กล้องแบบใหม่ จะมีเพียง 12 รุ่นเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ (ยกเว้น POCO F2 Pro รุ่นเดียวที่จะไม่ได้ฟีเจอร์กล้องแบบใหม่)
หลังจาก Xiaomi เปิดตัว Super Charge Turbo จ่ายไฟ 100W ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีมือถือรุ่นไหนของ Xiaomi ได้ใช้เทคโนโลยีชาร์จเร็วตัวใหม่นี้ ล่าสุด Gizchina เผยข้อมูลจากแหล่งข่าววงในที่โพสต์บน Weibo ว่า Xiaomi เตรียมเป็นแบรนด์แรกในตลาดที่มีมือถือรองรับชาร์จเร็ว 100W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,000 mAh จนเต็มได้ภายใน 17 นาที
ครั้งที่แล้วผู้เขียนแนะนำมือถือในงบต่ำกว่า 10,000 บาทไป แต่หลายท่านอาจยังมองว่า ไม่ประหยัดพอ ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ อยากประหยัดกว่านี้อีก วันนี้ผู้เขียนจึงมีอีก 5 ตัวเลือกมือถือที่งบต่ำกว่า 5,000 มาแนะนำ แน่นอนว่าในระดับราคาเท่านี้ อาจไม่ได้สเปกที่ดีที่สุด หรือระบบปฏิบัติการที่อัพเดตทีสุด แต่ก็อยู่ในระดับที่ใช้งานได้
ผู้เขียนจะมาจำแนกข้อดีข้อเสียพร้อมสเปกคร่าวๆ ของแต่ละรุ่นไว้เป็นข้อมูล โดยใช้เกณฑ์เลือกมือถือปี 2020 ในเรตราคาใกล้เคียง 5,000 บาท จาก 5 ค่ายที่มีขายในไทย (หรือถ้าเกิน ก็จะหารุ่นที่สามารถซื้อได้ในโปรโมชั่นที่ราคาต่ำกว่า 5,000 ตามเว็บไซต์ต่างๆ แม้ราคาตั้งต้นจะแพงกว่านั้น)
ZTE เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Blade A3 Prime สมาร์ทโฟนราคาถูก แรมแค่ 2GB รัน Android 10 (ทำไมไม่ใช้ Android Go?) และที่สำคัญ สามารถถอดแบตเตอรี่ได้ สนนราคาอยู่ที่ 99 ดอลลาร์ (ประมาณ 3000 บาท) วางขายแล้วบน Visible
ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ หลายๆ ท่านที่อาจกำลังหาซื้อมือถือใหม่ ไม่ว่าจะเพื่อการทำงาน หรือเพราะมือถือเก่าใกล้หมดอายุขัยพอตัวแล้ว อาจจะต้องตัดงบลงมาพอสมควร แต่ก็คงยังอยากได้มือถือที่มีประสิทธิภาพตอบโจทย์การทำงานที่ต้องการ วันนี้ผู้เขียนจึงมีมือถือราคาคุ้ม ที่ซื้อหากันได้ในราคาต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาทมาแนะนำ
OPPO เปิดตัว Reno 4 และ Reno 4 Pro สมาร์ทโฟน Mid range ในตระกูล Reno ตัวใหม่ล่าสุด ใช้ชิป Snapdragon 765 รองรับสัญญาณ 5G, สเปคกล้องจัดเต็ม, แรมสูงสุด 12 GB, ความจุสูงสุด 256 GB, รองรับการชาร์จไว SuperVOOC 2.0 ที่ 65 W
Realme อ้างตัวเลขส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของบริษัท Counterpoint Research ระบุว่าขึ้นเป็นอันดับ 4 ของผู้ขายสมาร์ทโฟนในประเทศไทย ช่วงไตรมาส 1/2020 แล้ว
ในตลาดโลก Realme อยู่ที่อันดับ 7 (ตามตัวเลขของ Counterpoint ไตรมาส 1/2020) แต่ถ้าดูเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวมอยู่อันดับ 5 มีการเติบโตของยอดขายถึง 173% สวนทางกับภาพรวมของตลาดที่ลดลง 11% (ตลาดโลกลดลง 13%)
Realme ทำอันดับได้ดีในไทยและกัมพูชา (อันดับ 4 ของแต่ละประเทศ) ส่วนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม พม่า อยู่อันดับ 5
International Data Corporation (IDC) เผยรายงานการคาดการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนในปี 2020 เบื้องต้นคาดว่ายอดส่งมอบสมาร์ทโฟนจะลดลงถึง 11.9% เหตุจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น
IDC คาดการณ์ว่ายอดส่งมอบสมาร์ทโฟนในปีนี้จะอยู่ที่ 1.2 พันล้านเครื่อง สืบเนื่องจากยอดขายสมาร์ทโฟนในไตรมาสแรกที่ลดลง 11.7% ซึ่งเป็นผลมาจากไวรัสโคโรน่าที่ทำยอดอุปสงค์และอุปทานชะลอตัวลง โดยยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนจะลดลงถึง 18.2% ในครึ่งปีแรกและไม่มีวี่แววสูงขึ้นจนกว่าจะถึงไตรมาสแรกของปี 2021
Strategy Analytics บริษัทวิจัยตลาดสมาร์ทโฟน เปิดผลวิจัยตลาด รายงานว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ครองตลาด 86 เปอร์เซ็นต์ของสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายทั้งโลกในไตรมาสแรกของปี 2020 และ Samsung Galaxy A51 เป็นสมาร์ทโฟนฝั่งแอนดรอยด์ที่ขายดีที่สุด
Samsung Galaxy A51 ครองยอดขาย 2.3% ของยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งโลก ตามมาด้วย Xiaomi Redmi 8 ที่ 1.9% Samsung Galaxy S20+ ที่ 1.7% (เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นพรีเมี่ยม รุ่นเดียวใน 6 อันดับแรก) ส่วน 3 อันดับต่อมา เป็น Samsung Galaxy A10s, Xiaomi Redmi Note 8, และ Samsung Galaxy A20s ถือว่า Samsung ครองไปถึง 4 อันดับเลยทีเดียว
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานตัวเลขการจัดส่งสมาร์ทโฟนจากโรงงานผู้ผลิตในประเทศจีน พบว่าตัวเลขของเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบเดือนเมษายนของปี 2019 ซึ่งข้อมูลนี้มาจากหน่วยงานของรัฐบาล
ตัวเลขดังกล่าวอาจสะท้อนการฟื้นตัวของตลาดสมาร์ทโฟนในจีน โดยจำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้นมาเป็น 40.8 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้แยกรายงานตามระบบปฏิบัติการ จึงไม่สามารถประเมินได้ว่าเป็น Android เท่าใด และ iPhone เท่าใด
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด อาทิ Canalys หรือ IDC ก่อนหน้านี้ระบุภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนจีนช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาว่าลดลงในระดับเปอร์เซ็นต์เลขสองหลัก
IDC ออกรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในอินเดียของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 ขายสมาร์ทโฟนไปได้ 32.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เติบโตเล็กน้อย ต่างจากตลาดใหญ่อีกสองแห่งคือ อเมริกา (-20.3%) และจีน (-16.0%) ที่ต่างลดลง
อย่างไรก็ตามเมื่อดูรายละเอียดตามช่องทางจำหน่าย พบว่าทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 9.0% ขณะที่ช่องทางร้านค้าออฟไลน์ลดลง 3.5%
IDC รายงานยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกประจำไตรมาส 1/2020 ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 พบว่ายอดขายหดตัวลงจากปีก่อนถึง -11.7% ถือเป็นการหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สมาร์ทโฟนบูมขึ้นมา
ยอดขายสมาร์ทโฟนรวมทั้งไตรมาสอยู่ที่ 275.8 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 312.3 ล้านเครื่อง โดยผู้ขายสมาร์ทโฟน 3 รายใหญ่ Samsung, Huawei, Apple ต่างประสบปัญหายอดขายลดกันทั้งนั้น (Samsung ลดหนักสุด -18.9%, Huawei ใกล้กันที่ -17.1%, Apple ลดลงเล็กน้อย -0.4%) ในขณะที่เบอร์สี่ Xiaomi ยอดขายกลับเพิ่มขึ้น 6.1% และเบอร์ห้า Vivo ยอดขายเพิ่มขึ้น 7.0% สวนกระแสตลาด
สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของโลกตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงวิกฤต COVID-19 ทำให้เศรษฐกิจโลกกำลังดิ่งจนไม่รู้จะดีขึ้นเมื่อไร พาให้และยอดขายสมาร์ทโฟนราคาแพงๆ ลดตามไปด้วย แต่สมาร์ทโฟน “เรือธง” ก็ยังมีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สวนกระแสเศรษฐกิจ จนน่าสงสัยว่าจะแพงขึ้นไปถึงไหน
Samsung Galaxy S20 Ultra เริ่มต้นที่ราคา 31,900 บาท, Huawei P40 Pro เริ่มต้นที่ 31,900 บาท OnePlus 8 Pro ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ และยังไม่มีราคาในไทย เริ่มต้นที่ 899 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 29,300 บาท (ราคาไทยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 31,900 บาท) และ OPPO Find X2 Pro 5G ก็ราคาพุ่งแรงไปถึงหลักสี่หมื่น ที่ 40,990 บาทแล้ว
Strategy Analytics บริษัทวิจัยตลาดสมาร์ทโฟน ออกรายงานยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2020 พบว่ายอดตกไปถึง 38% เมื่อเทียบกับปี 2019 ถือเป็นการตกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมาร์ทโฟน
ยอดขายสมาร์ทโฟนเดือนกุมภาพันธ์ 2019 อยู่ที่ 99.2 ล้านเครื่อง ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ยอดขายเหลือเพียง 61.8 ล้านเครื่อง ปัจจัยหลักมาจากตลาดเอเชียที่เผชิญวิกฤต COVID-19 เป็นภูมิภาคแรก
Strategy Analytics ยังเตือนว่ายอดขายสมาร์ทโฟนในเดือนมีนาคม 2020 จะแย่เช่นกัน เพราะ COVID-19 แพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่นๆ แล้ว ผู้คนคงไม่มีอารมณ์มาซื้อสมาร์ทโฟนใหม่กันในช่วงนี้
หลังจาก Xiaomi เปิดตัว Redmi Note 9 Pro ในอินเดีย ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีข่าวหลุดออกมาอีกว่าจะมีสมาร์ทโฟนชื่อรุ่น Redmi Note 9S ถูกเปิดตัวเร็วๆ นี้ แต่จากข้อมูลผลทดสอบ Geekbench เรียกว่าได้คะแนนทดสอบแทบจะเท่ากับ Redmi Note 9 Pro เลยทีเดียว และจะมาพร้อมกับชิป Snapdragon 720G กับแรม 6GB และรันบน Android 10 เช่นเดียวกัน จึงคาดว่าน่าจะเป็น Redmi Note 9 Pro ที่ถูกนำมาเปลี่ยนชื่อใหม่ สำหรับตลาดอื่นนอกอินเดียมากกว่า
Xiaomi เปิดตัว Redmi Note 9 Pro และ Redmi Note 9 Pro Max เป็นรุ่นต่อจาก Redmi Note 8 และ Redmi Note 8 Pro ที่เป็นสมาร์ทโฟน 4 กล้องที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งของอินเดียในปีที่แล้ว และสำหรับรุ่นในปีนี้ มีการเพิ่มเทคโนโลยี NavIC ที่เป็นเทคโนโลยีระบุตำแหน่งบนแผนที่ ที่ใช้เฉพาะในอินเดียเข้ามาทั้งสองรุ่น เรียกได้ว่า Xiaomi เน้นบุกตลาดอินเดียแบบเต็มๆ
ข้อมูลนี้เปิดเผยโดยเว็บข่าว Het Financieele Dagblad ของเนเธอร์แลนด์ ระบุว่าสหภาพยุโรป (EU) กำลังร่างข้อเสนอเพื่อบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ต้องทำให้อุปกรณ์ของตนสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งคาดว่าร่างข้อเสนอนี้จะเผยแพร่ต่อสาธารณะในเดือนหน้า (มีนาคม)
หลักการและเหตุผลของข้อเสนอนี้เป็นเรื่องของการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยุคนี้นิยมออกแบบอุปกรณ์แบบปิด ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเปิดฝาเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ รวมทั้งเพิ่มเงื่อนไขสิ้นสุดการรับประกันเข้ามา โดยต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่กับศูนย์บริการเท่านั้น EU มองว่าวิธีการดังกล่าวเป็นการผลักให้ผู้ใช้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่มากขึ้น เมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ
บริษัท Counterpoint Research ออกผลวิจัยตลาดโทรศัพท์มือถือ โดยระบุว่าตอนนี้อินเดียแซงสหรัฐฯ ขึ้นเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองรองจากจีนแล้ว
ในรายงานเผยว่า ประเทศอินเดียมียอดส่งมอบโทรศัพท์มือถือ 158 ล้านเครื่องในปี 2019 นำโดยแบรนด์จีนอย่าง Xiaomi, Vivo, Realme และ Oppo ที่มียอดขายเติบโตขึ้นทุกราย ครองส่วนแบ่งตลาดในอินเดียในปี 2019 ถึง 72% ซึ่ง Xiaomi สามารถครองยอดขายแบรนด์อันดับหนึ่งมาได้เป็นปีที่สอง ทำให้ตอนนี้ตลาดอินเดียกลายเป็นตลาดใหญ่สุดของแบรนด์แซงประเทศบ้านเกิดอย่างจีนไปแล้ว
หัวเว่ยประกาศยอดขายสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ตลอดปี 2019 ว่ามีจำนวนมากกว่า 6.9 ล้านเครื่อง ซึ่งสูงกว่า 6.7 ล้านเครื่องที่ซัมซุงออกมาประกาศก่อนหน้านี้
สมาร์ทโฟน 5G รุ่นเด่นที่หัวเว่ยจำหน่ายในปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ Mate 20 X 5G ส่วนปลายปีมี Mate 30, Mate 30 Pro และ Nova 6 5G รวมทั้งสมาร์ทโฟนพับได้ Mate X
หัวเว่ยเป็นอีกบริษัทที่วางกลยุทธ์ออกสมาร์ทโฟนรองรับ 5G เพิ่มขึ้นในปี 2020 นี้
OnePlus 7 Pro เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนกลุ่มแรกที่นำหน้าจอรีเฟรชเรท 90Hz มาใช้ ซึ่งก็ได้รับเสียงวิจารณ์ไปในทางบวก ซึ่งนอกจาก Oppo, Nubia, Pixel และ ASUS ROG Phone 2 แล้วยังมีแบรนด์ไหนนำหน้าจอรีเฟรชเรทสูงออกสู่ตลาดเลย
อย่างไรก็ตาม OnePlus ประกาศว่าตัวเองจะกระโดดไปอีกขั้นแล้วด้วยหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรท 120Hz บนสมาร์ทโฟนที่จะเปิดตัวในปีนี้ (ไม่ OnePlus 8 ก็ 8T) โดยความสว่างจะสูงกว่า 1000nits ขณะที่อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ (Touch Sampling Rate) จะสูงถึง 240Hz นอกจากนี้ OnePlus บอกด้วยว่าความเร็วในการเรนเดอร์ 1 เฟรมจะเร็วขึ้นอีก 7% ด้วย
ผู้ใช้ Google Pixel 4 หลายคนพบปัญหาปลดล็อคด้วยใบหน้าของ Pixel 4 ไม่ทำงาน ถึงจะลบแล้วสแกนใบหน้าใหม่หรือ Factory reset แล้วก็ใช้ไม่ได้ และมีข้อความแจ้งว่า “Can't verify face. Hardware not available” หรือ “Can't verify face. Try again.” เกิดขึ้นราว 1-2 ครั้งต่อวัน ทำให้ผู้ใช้ต้องปลดล็อคเครื่องด้วยวิธีอื่นเช่นกด PIN, กรอกรหัสผ่านหรือลากนิ้วเป็นแพทเทิร์นแทน
ถึง Pixel 4 จะปลดล็อคด้วยใบหน้าไม่ได้แต่แอปอื่น ๆ ที่ใช้ระบบสแกนใบหน้ายังทำงานได้ปกติ Android Police ระบุว่าแจ้งกูเกิลไปแล้ว ซึ่งปัญหานี้ต้องรอการแก้ไขจากทางกูเกิลในภายหลัง
ที่มา: Android Police via 9to5Google
ขึ้นชื่อว่าสมาร์ทโฟนยุคนี้จะเปลี่ยนแบตเตอรีสักครั้งก็ต้องพึ่งช่าง แต่ Samsung Galaxy XCover Pro ที่เปิดตัวในฟินแลนด์เป็นสมาร์ทโฟนที่ซีลกันน้ำและฝุ่นดีที่ผ่านการทดสอบ IP69 แต่ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรีได้ด้วยตัวเอง
Galaxy XCover Pro มีตัวเครื่องเป็นพลาสติกหนาพิเศษ ผ่านการทดสอบ MIL-STD 810G กันน้ำ, ฝุ่นและการตกกระแทกที่ความสูง 1.5 เมตร เริ่มขายในวันที่ 31 มกราคม ที่ฟินแลนด์ ราคา 499 ยูโร หรือราว 17,000 บาท สเป็กมีดังนี้: