จากกรณีบั๊ก SSL ใน OS X แอปเปิลออกแพตช์แก้ให้กับ OS X เรียบร้อยแล้ว และในโอกาสเดียวกัน แอปเปิลก็ออกแพตช์ความปลอดภัยอื่นๆ ให้กับ 10.7 Lion และ 10.8 Mountain Lion ด้วย
OS X เวอร์ชันที่ไม่ได้รับแพตช์ในรอบนี้คือ OS X 10.6 Snow Leopard ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแอปเปิลหยุดสนับสนุนระบบปฏิบัติการตัวนี้แล้ว
ตามปกติแล้วแอปเปิลจะออกแพตช์ให้ระบบปฏิบัติการ 2 รุ่นล่าสุด (รุ่น n และ n-1) แต่กรณีของ Snow Leopard กลับมีระยะการสนับสนุนที่ยาวนานกว่าปกติมาก (สถานะตอนนี้นับเป็นรุ่น n-3 แล้ว) การหยุดสนับสนุนในตอนนี้จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจนัก
Mac OS X 10.6 Snow Leopard ออกมานานพอสมควรแล้ว แต่แอปเปิลกำลังจะโดนคดีละเมิดเครื่องหมายการค้า "Snow Leopard" จากบริษัทผลิตสารเคมีในประเทศจีน
บริษัทนี้ใช้ชื่อว่า Xuebao (雪豹) ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษตรงกับคำว่า Snow Leopard (ชื่อภาษาอังกฤษของบริษัทนี้คือ Snow Leopard Household Chemical) โดยมีธุรกิจหลักคือสารเคมี แต่ก็มีบริษัทลูกอื่นๆ ที่ทำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์อยู่ด้วย
ศาลเมืองเซี่ยงไฮ้รับคำฟ้องของ Xuebao แล้ว และจะเริ่มไต่สวนกันวันที่ 10 ก.ค. นี้ โดยทาง Xuebao เรียกค่าเสียหาย 500,000 หยวน (2.5 ล้านบาท) พร้อมคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากแอปเปิล
แอปเปิลออก Mac OS X 10.6.8 ซึ่งน่าจะเป็นอัพเดตตัวสุดท้ายของ Snow Leopard ก่อนที่ Mac OS X 10.7 Lion จะออกตัวจริง
ผู้ที่วางแผนจะใช้ Lion จำเป็นต้องอัพเป็น 10.6.8 เนื่องจากมันจะปรับปรุง Mac App Store ให้รองรับการอัพเกรด Lion ได้ ส่วนการปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่เรื่อง VPN, IPv6, ป้องกัน Mac Defender และแก้ปัญหาเรื่องการอิมพอร์ตไฟล์ของ Final Cut Pro
ที่มา - BetaNews
แอปเปิลออก Mac OS X 10.6.5 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญเน้นการแก้บั๊กเล็กๆ เป็นจำนวนมาก (อ่านรายการแก้ไข) แต่ที่เป็นข่าวคือ Mac OS X 10.6.5 ตัวจริงกลับไม่รองรับฟีเจอร์ AirPrint ที่จะมากับ iOS 4.2 ทั้งที่ในรุ่นทดสอบมีฟีเจอร์นี้
นักพัฒนาที่ลงรุ่นทดสอบของ 10.6.5 บอกว่าถ้าอัพเกรดเป็นรุ่นจริง จะยังใช้ AirPrint ได้ต่อไป แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ลง 10.6.5 รุ่นจริงทีเดียว ก็ใช้ไม่ได้เลย อันนี้แอปเปิลยังไม่ให้เหตุผลว่าทำไมถึงถอด AirPrint ออกไปในวินาทีสุดท้าย
ที่มา - Ars Technica
สำนักข่าว CNET ได้เปรียบเทียบประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ 2 ตัว นั่นคือ Mac OS X 10.6 Snow Leopard กับ Windows 7 (ซึ่งเราจะได้เห็นรีวิวลักษณะนี้อีกมากในอีกไม่ช้า) โดยใช้ MacBook Pro 15" รุ่น Unibody 2.5GHz ซึ่งสามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการทั้งสองตัวเป็นเครื่องทดสอบ ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็นรุ่น 64 บิททั้งคู่
ผลการทดสอบ
บริษัทข้อมูลทางการตลาด NPD ได้ออกมารายงานถึงข้อสังเกตของยอดขาย Snow Leopard ว่าหากนับเป็นจำนวนแผ่นแล้ว ยอดขายของ Snow Leopard ในสัปดาห์ที่ 2 ตกลงจากสัปดาห์แรกเพียง 25% หากเทียบกับสมัย Leopard และ Tiger ที่ตกลงมากกว่า 60%
ทาง NPD วิเคราะห์ว่าปัจจัยหลักน่าจะมาจากราคาและความง่ายในการอัปเกรดที่ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อ Snow Leopard ได้อย่างไม่ต้องคิดมากนัก แม้ว่าจะไม่ได้มีฟีเจอร์ใหม่มากมายที่เห็นได้ชัดเหมือนใน Leopard หรือ Tiger โดยหากเปรียบเทียบในช่วง 2 สัปดาห์แรก ยอดขายของ Snow Leopard มากกว่า Leopard 2 เท่า และ Tiger 4 เท่า
เทคโนโลยี Grand Central Dispatch ใน Mac OS X 10.6 Snow Leopard ซึ่งช่วยให้แอพพลิเคชันสามารถใช้ประโยชน์จากซีพียูแบบหลายคอร์ได้ดีขึ้น ตอนนี้ประกาศเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สแล้ว
ซอฟต์แวร์รุ่นโอเพนซอร์สจะใช้ชื่อว่า libDispatch ใช้สัญญาอนุญาตแบบ Apache ตัว libDispatch มีเฉพาะไลบรารี ส่วนเคอร์เนลของระบบปฏิบัติการที่สนับสนุน Grand Central Dispatch จะไปอยู่ในโครงการ XNU ซึ่งเป็นเคอร์เนลของ Mac OS X ที่แอปเปิลเปิดซอร์สมานานแล้ว
หลังจากมีคลิปหลุดของโฆษณา Windows 7 ตัวใหม่ลง Youtube ก่อนออกอากาศทางทีวี ทางไมโครซอฟท์ได้ทำโฆษณาตัวใหม่ ที่ชื่อชุด "Good news" มาออกอากาศแทน ได้ออกอากาศที่อเมริกาไปเมือคืนก่อนแล้ว โดยใช้นักแสดงสาวน้อยน่ารักคนเดิมจากโฆษณา I'm PC ที่ชื่อ Kylie โฆษณานี้น้อง Kylie ได้นำเสนอการใช้ Windows Live Photo บน Windows 7 ว่าสามารถใช้ง่ายดายอะไรเช่นนี้ ก่อนจบน้อง Kylie พูดจาอย่างฉะฉาน ฟังชัดว่า "I'm PC. And more happy is coming." (หนูเป็นชาว PC ค่ะ ความสุขที่ยิ่งกว่านี้กำลังจะมาเร็วนี้ค่ะ) แถมท้ายโฆษณายังบอกวันวางตลาดของ Windows 7 ที่เป็นกล่องอีกต่างหากซึ่งก็คือ วันที 22 ตุลาคม 2552 นั่นเอง
จากข่าว Snow Leopard แถม Flash Player รุ่นที่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ตอนนี้แอปเปิลได้ออก Mac OS X 10.6.1 มาแก้ปัญหานี้แล้ว
นอกจากแก้ปัญหาเรื่อง Flash รุ่นเก่า Mac OS X 10.6.1 ยังแก้ปัญหาย่อยๆ อีกหลายจุด เช่น ปัญหาที่บางคนเล่นดีวีดีไม่ได้, ปัญหาของ Mail.app กับการส่งเมลผ่าน SMTP รวมถึงอุดรูรั่วด้านความปลอดภัยอื่นๆ ด้วยครับ
ผู้ใช้ Snow Leopard สามารถติดตั้งได้ผ่าน Software Update ตามปกติ
ที่มา - Ars Technica
ผมได้ไปเจอบทความซีรีส์นึงในเว็บ AppleInsider ซึ่งพูดถึงรายละเอียดต่างๆ ของ Snow Leopard ซึ่งในเวลาที่ผมพิมพ์นี้ได้ออกมาแล้ว 3 ตอนคือ Quicktime X, 64-bit และ GPU Optimization
Snow Leopard ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดของแอปเปิลที่เพิ่งออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถูกพบว่าแถม Flash Player รุ่นเก่าที่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยมาด้วย
Flash Player รุ่นที่แถมมานั้นเป็นรุ่น 10.0.23.1 ซึ่งเป็นรุ่นเก่าและมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ในขณะที่รุ่นปัจจุบันคือรุ่น 10.0.32.18
ที่แย่คือ สำหรับคนที่เคยลง Flash Player รุ่นล่าสุดไว้ก่อนแล้ว เมื่ออัปเกรดมาเป็น Snow Leopard มันจะกลายเป็นรุ่นเก่าไปอีก ต้องไปโหลดรุ่นล่าสุดมาติดตั้งเองอีกครั้ง
ผมเองก็เพิ่งสังเกตเมื่อตอนที่อัปเกรด Firefox เป็นตัว 3.5.3 beta แล้วมีข้อความเตือนว่า Flash Player ที่ใช้อยู่เป็นรุ่นเก่า ทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไรจนกระทั่งมาเจอข่าวนี้เข้า
ZFS ระบบไฟล์สุดล้ำจากซันที่ใช้บน OpenSolaris แต่ใช้บนลินุกซ์ไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องสัญญาอนุญาตคนละแบบ เคยเป็นข่าวหลายครั้งว่าแอปเปิลจะใช้มันใน Mac OS X มาตั้งแต่ 10.5 Leopard ยังไม่ออก (ปี 2006 นู่น)
ตอนนี้ 10.6 Snow Leopard วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว และไม่มี ZFS แต่อย่างใด
คำถามที่ตามมาจึงเป็นว่า เกิดอะไรกับ ZFS ในค่ายแอปเปิลกันแน่ แน่นอนว่าเราต้องคิดคำตอบกันเอง คำตอบที่เป็นไปได้คือแอปเปิลยังทดสอบ ZFS ไม่เสร็จ หรือไม่ก็ แอปเปิลมองว่า ZFS อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้ Mac OS X อีกต่อไป คนที่ได้ใช้ฟีเจอร์ของ ZFS มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น?
ที่มา - ZDNet
หลังจากที่ OSX Snow Leopard เพิ่งออกไปหมาดๆ (อ่านรีวิวโดยคุณ Zerothman) ก็มีคนค้นพบว่ามันไม่สามารถจะ Sync กับเครื่องปาล์มได้ครับ
ถึงแม้ว่าปาล์มนั้นเตรียมที่จะเลิกสนับสนุน Palm OS และไปสนับสนุน WebOS ที่ออกมาใหม่แทน แต่ก็ยังมีผู้ใช้จำนวนมากที่ใช้ Palm OS อยู่ (เช่นผู้ใช้ที่ใช้ Treo และ Centro เป็นต้น) โดยผู้ใช้เหล่านี้นั้นยังไม่สามารถที่จะใช้ Sync เครื่องปาล์มของตนใน OSX Snow Leopard ได้ ทั้งๆ ที่ OSX Leopard รุ่นก่อนหน้านั้นสามารถใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา ทำให้ต้องไปใช้โปรแกรมเสริมจากผู้ผลิตอื่นแทน
พอดีว่าวันนี้ ผมได้รับ Snow Leopard ที่สั่งมาจาก Apple Online Store แล้ว เลยคิดว่าจะมานำเสนอประสบการณ์ที่ได้รับจากการอัปเกรดเสียหน่อย ซึ่งจริงๆ แล้วผมเห็นว่าก็คงมีรีวิวจากหลายๆ สำนักในเมืองนอกเมืองนารีวิวกันเต็มไปหมดแล้ว ตรงนี้ผมจะขอเน้นเฉพาะประสบการณ์หรือปัญหาที่พบจากการ "อัปเกรด" และอะไรที่เฉพาะเจาะจงใน "ประเทศไทย" เป็นหลักแล้วกันนะครับ
ข้อมูลทั้งหมด อ้างอิงบน MacBook Pro รุ่นแรกสุด Core Duo 2.16GHz (ซีพียูยังเป็น 32bit) แรม 2GB และฮาร์ดดิสก์อัปเกรดเป็น 500GB
และเนื่องจากคงไม่มีการจัดเรื่องราวอะไรแบบรีวิวปกติ เลยขอนำเสนอเป็นข้อๆ ตามแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วกันนะครับ จะได้อ่านง่ายๆ ด้วย เพราะคงไม่ปะติปะต่อกันเท่าไหร่
การติดตั้งและฮาร์ดแวร์
ในที่สุด Mac OS X เวอร์ชั่นต่อไปก็ได้วางจำหน่ายแล้วครับ โดยเลื่อนจากเดือนกันยายนมาเป็นวันนี้ครับ สามารถอัพเกรดได้ในราคา $29 (ถ้าใช้ Tiger ต้องซื้อแพค OS X, iLife, iWork ครับ และไม่รองรับ PowerPC แล้ว)
สำหรับลุกเล่นต่างๆ ดูได้จากรีวิวครับ
ที่มา: Apple Store
Snow Leopard วางขายวันนี้ (28 สิงหาคม) ก่อนวันวางขายหนึ่งวันก็เป็นโอกาสอันดีที่แอปเปิลจะแจก Snow Leopard ให้คอลัมนิสต์และเว็บไซต์ไอทีเมืองนอกเอาไปรีวิวให้ทันก่อนวางขาย
จริงๆ มีรีวิวหลายที่ แต่ผมเลือกมาแค่ 3 คือ Engadget, Gizmodo และ WSJ ครับ
Engadget
Adobe ประกาศว่าสำหรับ Mac OS X 10.6 จะสนับสนุนเฉพาะ Adobe CS4 เท่านั้น ถ้า CS3 ใช้บน Snow Leopard ไม่ได้ บริษัทจะไม่แก้ไขให้
ข้อมูลนี้อยู่ใน FAQ ของ Adobe Creative Suite บอกว่า Adobe ได้ทดสอบ CS4 บน Snow Leopard และพบว่าทำงานได้ดีไม่มีปัญหา แต่ซอฟต์แวร์ที่เก่ากว่านั้นอย่าง CS3 และ Macromedia Studio 8 นั้นไม่อยู่ในแผนการทดสอบ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา บริษัทจะไม่แก้ไขเพื่อให้ทำงานกับ Snow Leopard ได้ โดยบอกว่าต้องการเอาทรัพยากรไปทุ่มลงใน CS5 แทน
ได้มีรายงานออกมาว่า Mac OS X Snow Leopard อาจจะมีฟังก์ชั่นของการตรวจสอบไวรัสอยู่ในตัว
แหล่งข่าวนี้ได้แสดงภาพหน้าจอที่ Mac OS ได้ตรวจจับมัลแวร์ที่มีชื่อว่า OSX.RSPlug.A ซึ่งเป็นโทรจันที่ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 2007 ซึ่ง Mac OS X ได้ตรวจเจอในไฟล์ *.pkg ใน *.dmg ที่ดาวน์โหลดจาก Safari
แอปเปิลประกาศวางขาย Mac OS X 10.6 Snow Leopard วันที่ 28 สิงหาคม (ศุกร์ที่จะถึงนี้) ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่บอกไว้เดือนกันยายนเล็กน้อย
สำหรับราคาขายทั่วไปคือ $29 โดยในประเทศไทยราคาจะอยู่ที่ 1,190 บาท (รวม VAT แล้ว)
ที่มา - Apple, Apple Online Store TH
เพิ่มเติม: ราคาดังกล่าวเป็นราคาอัปเกรดจาก Leopard นะครับ
เว็บไซต์ MacRumors เผยภาพหลุดของกล่องและแผ่น Mac OS X 10.6 "Snow Leopard" ภาษาโปรตุเกส การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ (ถ้าเป็นภาพของจริง) คือแอปเปิลเลิกใช้สัญลักษณ์ X ที่เคยใช้กับกล่องของ Mac OS X รุ่นก่อนๆ ทั้งหมดแล้ว และเปลี่ยนมาใช้รูปเสือดาวหิมะเปื้อนหิมะแทน ทั้งบนแผ่นและบนกล่อง ภาพดูได้จากลิงก์ที่มาครับ
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า แอปเปิลจะเปิดตัว Snow Leopard เร็วกว่ากำหนด ช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากที่ Snow Leopard มีสถานะเป็น Golden Master หรือเสร็จสิ้นการพัฒนาแล้ว
ที่มา - MacRumors
Mac4Ever รายงานว่า Mac OS X Snow Leopard ได้รับสถานะ Golden Master แล้ว นั่นหมายความว่าแอปเปิลพร้อมแล้วที่จะส่ง Snow Leopard ไปเข้าสายการผลิตอย่างเต็มที่แล้ว โดยคาดว่ารุ่นล่าสุดนี้คือ Snow Leopard ที่มี Build Number 10A432
Snow Leopard จะขายในราคา 29 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้ใช้ Leopard ส่วนผู้ใช้ที่ซื้อเครื่องแมคไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนเป็นต้นมาสามารถรับแผ่น Up-to-date ได้ในราคา 9.95 ดอลลาร์สหรัฐ
ได้แต่หวังว่าจะมี Gold Master หลุดออกมาบนเน็ตให้ใช้กันเหมือนครั้งก่อน ๆ หรือเปล่า อิอิ
ที่มา - MacRumors
ข่าวร้ายสำหรับเจ้าของเครื่องแมคบนพาวเวอร์พีซี เมื่อเสป็คของ Mac OS X 10.6 หรือที่เรียกว่า Snow Leopard นั้นเขียนเอาไว้ชัดเจนว่าต้องทำงานบนเครื่องแมคที่ใช้ชิปของอินเทลเท่านั้น
โดยถ้าหากลองเปรียบเทียบความต้องการของระบบระหว่าง Leopard กับ Snow Leopard นอกจากเรื่องของชิปประมวลผลแล้ว Snow Leopard ยังต้องการแรมที่มากกว่าเดิมคือ 1GB จากเดิม 512MB แต่ขนาดพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ที่ต้องการกลับลดลง จากเดิม 9GB เหลือเพียง 5GB เท่านั้น
Transition Complete !
ข่าวที่จะประกาศใน WWDC ตามความคาดหมาย Mac OS X 10.6 รหัส Snow Leopard
มีข่าวลือรายงานออกมาว่า Apple จะเพิ่มฟีเจอร์โปรแกรม QuickTime X คือ ให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดไฟล์โดยตรงจากโปรแกรมไปยังเวบไซต์ YouTube ได้เลย โดยเจ้า QuickTime X จะมีมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดให้เลย (Mac OS X 10.6 หรือ Snow Leopard) เพียงแค่ผู้ใช้ทำการป้อนข้อมูล username และ password จากนั้นโปรแกรมจะทำการอับโหลดไฟล์ต่อไปให้จนกระทั่งการอัพโหลดไฟล์นั้นเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงการแปลงไฟล์ไปพร้อมๆ กันด้วย ส่วนภาพหน้าตาเป็นอย่างไหรนั้นดูได้จากแหล่งข่าวครับ