Pekka Lundmark ซีอีโอ Nokia สาธิตการโทรเสียงและวิดีโอคอลด้วยเทคโนโลยีเข้ารหัสเสียงใหม่ 3GPP Immersive Voice and Audio Services ผ่านโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 5G ซึ่งทำให้ได้เสียงรอบทิศทาง 3D Spatial แบบ Immersive ระบุตำแหน่งสมจริงมากยิ่งขึ้น
การโทรศัพท์เพื่อทดสอบเทคโนโลยีนี้เป็นการโทรหากันระหว่าง Stefan Lindström ทูตด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของฟินแลนด์ ไปหา Lundmark และ Jenni Lukander ประธานบริษัท Nokia ซึ่งทำขึ้นในห้องที่ Nokia ใช้ทดสอบการโทรศัพท์บนเครือข่าย GSM 2G เป็นครั้งแรกในปี 1991 ด้วย
Lukander บอกว่าเทคโนโลยีการสนทนาเสียงนี้จะกลายเป็นมาตรฐาน ซึ่งองค์ประกอบทั้งผู้ให้บริการเครือข่าย, ผู้ผลิตชิปเซต, ผู้ผลิตโทรศัพท์ สามารถเริ่มใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้
ไมโครซอฟท์อัพเดต Microsoft Teams รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Spatial Audio ซึ่งใช้งานได้ทั้งการประชุมแบบเสียงและแบบวิดีโอ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เสียงที่ได้ยินเป็นธรรมชาติมากขึ้น เสมือนเป็นการประชุมแบบเจอหน้ากันหรือ In-Person
ในการทำงานระบบระบุตำแหน่งเสียง จะใช้ตำแหน่งตามการแสดงผลในหน้าจอ เพื่อให้ผู้ฟังสามารถแยกตำแหน่งเสียงว่าใครกำลังพูดอยู่ถ้าพูดพร้อมกันได้ดีมากขึ้น
ในตอนนี้ Spatial Audio ของ Teams รองรับเฉพาะแอปบนเดสก์ท็อปเท่านั้น และระบบเสียงที่รองรับยังจำกัดอยู่ โดยได้เฉพาะเฮดเซตแบบมีสายหรือใช้ลำโพงของแล็ปท็อปเฉพาะรุ่นที่รองรับ หูฟังที่เชื่อมต่อด้วยบลูทูธยังไม่รองรับในตอนนี้เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องการเชื่อมต่อ ในอนาคตหูฟังบลูทูธ LE รุ่นถัดไปจึงจะรองรับ
Beats by dre เป็นชื่อยี่ห้อหูฟังที่เรารู้จักกันดี ที่เมื่อปีก่อนได้ออกหูฟังแบบ Earbud มาแข่งในตลาดในนาม Studio Buds ในวันนี้ทาง Beats ก็ได้เปิดตัวรุ่นต่อมาอย่าง Studio Buds + ออกมาแล้วซึ่งเป็นการปรับปรุงคุณภาพหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น ประสิทธิภาพในการโทรที่ดีขึ้น, ระบบตัดเสียง Active Noise Cancelation (ANC) และ ความอึดแบตเตอรี่ โดยตัวเจ้า Studio Buds+ มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่สีดำ, สีทอง และ แบบโปร่งใส
Netflix ประกาศเพิ่มฟีเจอร์เสียงรอบทิศทาง Spatial Sound แบบไม่ต้องมีอุปกรณ์ช่วย ให้สมาชิกใช้งานกับหนัง-ซีรีส์กว่า 700 เรื่องที่รองรับ แต่จำกัดเฉพาะแพ็กเกจสูงสุด Premium เท่านั้น (สมาชิกระดับ Basic หรือ Standard คืออด)
Netflix ใช้เทคโนโลยีจาก Sennheiser ที่ใช้กับลำโพงหรือหูฟังทั่วไปได้ ตัวอย่างหนังและซีรีส์ที่รองรับคือ Stranger Things, The Watcher, Wednesday, Knives Out: Glass Onion, You, Your Place or Mine, Luther: The Fallen Sun, Tour de France เป็นต้น
Apple Music ร่วมมือกับ Mercedes-Benz เพื่อนำฟีเจอร์ระบบเสียงรอบทิศทาง Spatial Audio พร้อมกับ Dolby Atmos มาใช้ในรถยนต์เป็นครั้งแรก แต่จะใช้ได้เฉพาะรถยนต์ Mercedes Benz บางรุ่น และต้องเพิ่มเงินเพื่อติดตั้งชุดเครื่องเสียงเพิ่มเติม
รถที่รองรับ ได้แก่ Mercedes-Maybach S-Class, EQS, EQS SUV, EQE, EQE SUV และ S-Class ซึ่งเป็นรุ่นที่รองรับการติดตั้งระบบเสียง Burmester 3D และ 4D ที่มีลำโพง 31 ตัว ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นเงิน $4,550 (ราว 173,500 บาท) และ $6,730 (ราว 256,700 บาท) สำหรับระบบ 3D และ 4D ตามลำดับ
Netflix ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ระบบเสียงรอบทิศทาง spatial audio โดยยังรองรับเฉพาะหนังหรือซีรีส์ของ Netflix เองบางเรื่อง เช่น Stranger Things (เฉพาะซีซัน 4), The Adam Project, Red Notice, The Witcher, Locke & Key, Castlevania เป็นต้น ผู้ใช้สามารถค้นหาคำว่า "Spatial Audio" ในช่องค้นหาเพื่อดูว่ามีเรื่องใดรองรับบ้าง
เทคโนโลยีที่ Netflix เลือกใช้งานคือ Sennheiser AMBEO ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้งลำโพงสเตอริโอทั่วไป และลำโพงแบบเซอร์ราวน์ โดยฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานให้อัตโนมัติ
Clubhouse เพิ่มการฟังแบบ Spatial Audio ในแอปฝั่ง iOS ก่อน เพื่อเพิ่มประสบการณ์การฟังเสียงที่มาจากต่างตำแหน่ง ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งคุยอยู่ในห้องเดียวกันจริงๆ ส่วน Android จะตามมาในภายหลัง
Netflix เพิ่มการรองรับ Spatial Audio สำหรับแอปบน iPhone และ iPad บน iOS 14 โดย Netflix ระบุว่าค่อยๆ เริ่มขยายการใช้งาน จากตอนแรกมีผู้ใช้งานในอังกฤษโพสต์ลง Reddit ว่าเริ่มใช้ฟีเจอร์นี้ได้แล้ว
แอปเปิลเปิดใช้งาน Spatial Audio และ Lossless Audio หรือการฟังเพลงแบบไม่สูญเสียคุณภาพ บน Apple Music ซึ่งในช่วงแรกจำกัดการใช้งานเฉพาะผู้ใช้อุปกรณ์ iOS เท่านั้น ล่าสุดแอปเปิลอัพเดตให้ใช้งานบนมือถือแอนดรอยด์ได้ด้วย แต่ต้องเป็นผู้ใช้แอนดรอยด์ที่เข้าไปสมัครใช้งานเวอร์ชั่นเบต้าบน Play Store ก่อน
Apple ปล่อยฟีเจอร์ Spatial Audio มาพร้อมกับเฟิร์มแวร์ของ AirPods Pro รุ่นใหม่ และ iOS 14 ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2019 แต่การใช้งานยังจำกัดแค่บน iOS และ iPadOS และใช้ได้แค่บางแอปเท่านั้น
ล่าสุด Apple เพิ่งประกาศเตรียมอัพเดต Spatial Audio ให้ใช้งานได้บน Apple TV 4K และเครื่อง Mac ที่ใช้ชิป M1 พร้อม tvOS และ macOS เวอร์ชั่นใหม่ภายในปีนี้ ในงาน WWDC21 ที่ผ่านมา พร้อมเพิ่มเพลย์ลิสต์ใหม่โชว์ประสิทธิภาพ Spatial Audio with Dolby Atmos ใน Apple Music หลังเปิดตัวฟีเจอร์นี้ไปเมื่อเดือนที่แล้ว