โมโตโรลารุกคืบเทคโนโลยี LTE (long Term Evolution) อีกครั้งหนึ่งเมื่อเสร็จสิ้นสาธิตการสื่อสัญญาณข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี LTE ที่ย่านความถี่ 700 MHz และคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ปลายปีหน้า

ดาเรน แมคควีน (Darren McQueen) รองประธานกลุ่มเทคโนโลยีเข้าถึงบรอดแบนด์ไร้สาย (wireless broadband access technologies) ของโมโตโรลา กล่าวว่าการทดสอบภาคสนาม LTE ของบริษัทเป็นการทดสอบเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนนำไปให้บริการจริงราวปลายปี 2552 ซึ่งการทดสอบดังกล่าวใช้ LTE Radio Access Test Network และ LTE eNode-B platform ในการทดสอบส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ต้นแบบ LTE

จากข่าวสมาคม GSM ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลเอเชีย โมบายล์ แล้ว บริษัทจากไทยมีชื่อเข้าชิง AMA 2008 นี้ในหัวข้อ Best Mobile Money Service ดังนี้

โทรศัพท์ในอาคาร (indoor telephony) ซึ่งเป็นโทรศัพท์ติดตั้งใช้งานที่บ้าน หรือภายในอาคาร สำนักงาน หรือที่เรียกกันว่า โทรศัพท์ประจำที่ (fixed-line phones) กำลังถูกรุกหนัก หลังจากที่เคยวางใจว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่จะไม่สามารถเข้าไปใช้ในบ้าน อาคาร และสำนักงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าอันเนื่องจากมีโครงสร้างที่ปิดกั้นสัญญาณจากสถานีฐานและ/หรือทำให้การรับสัญญาณไม่ดีเท่าที่ควร

การเร่งพัฒนาโซลูชั่นที่สามารถเพิ่มพื้นที่บริการ (หรือพื้นที่ครอบคลุม) ของการสื่อสารไร้สายให้มากขึ้น ดังเช่น เฟมโตเซ็ล (femtocells) กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่แทรกซึมเข้าไปในตลาดบริการโทรศัพท์ประจำที่ซึ่งกำลังมีรายได้ต่อเลขหมายถดถอย

จีนประสพความสำเร็จในการส่งดาวเทียมเพื่อกิจการโทรคมนาคมของเวเนซูเอลาขึ้นสู่อวกาศแล้วเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2551

ทั้งนี้สัญญาการสร้างและส่งดาวเทียมครั้งนี้เป็นสัญญาแรกที่จีนได้รับจากประเทศละติน อเมริกา
ดาวเทียมจะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดลองมาร์ช 311 จากศูนย์ปล่อยดาวเทียม Xichang ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัด Sichuan ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

บริษัท ไชนา แอโรสเปซ ไซแอน แอนด์ เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ผลิตตัวดาวเทียม ซึ่งมีน้ำหนักรวม 5,100 กิโลกรัม มีอายุใช้งาน 15 ปี

สมาคม GSM ประกาศ 40 รายชื่อบริษัทต่างๆ ที่เข้าชิงรางวัล Asia Mobile Awards 2008 และ 15 รายชื่อที่เข้าชิงรางวัล Top Innovators ในการแข่งขันนวัตกรรมสื่อสารไร้สายทั่วโลกที่จะมีการแข่งขันและนำเสนอในการประชุม Mobile Asia Congress ครั้งต่อไปที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2551 ที่มาเก๊า ประเทศจีน

กรรมการตัดสินประกอบด้วยนักวิเคราะห์อิสระ ผู้สื่อข่าวและผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรม โดยกำหนดประกาศรายชื่อผู้ชนะเลิศรางวัล AMA ของสมาคม GSM ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551

รางวัล AMA 2008 ประกอบด้วย

หลังจากที่บรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เริ่มให้บริการด้วยเทคโนโลยี 3G และบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตแล้ว ส่งผลให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการสื่อสารไร้สายประเภทต่างๆที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง บริการมัลติมีเดียที่สามารถโต้ตอบได้ หรือที่มักหมายถึง บริการเนื้อหา (content service)

โดยบริการดังกล่าวมีตั้งแต่บริการรับ-ส่งข้อความสั้น (SMS) และดาวน์โหลดริงก์โทน ไปจนถึงบริการอื่นๆเช่น การรับ-ส่งข้อมูลมัลติมีเดีย (MMS) การรับ-ส่งข้อความทันที เพลง เกม บริการเข้าถึงข่าวสารข้อมูลต่างๆ (เช่น ข่าว รายงานผลกีฬา และพยากรณ์อากาศ เป็นต้น) ตลอดจนบริการต่างๆเพื่อสังคม และโมบายล์ อินเทอร์เน็ต

บริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี ผู้ผลิตและจำหน่ายโซลูชั่นโครงข่ายโทรคมนาคมยุคใหม่สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก นำเสนอโซลูชั่นบรอดแบนด์ไร้สายนานาชนิด เช่น DORA, HSDPA, HSUPA, HSPA+, WiMAX และ LTE ในงาน P&T/EXPOCOMM CHINA2008 ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2551

ในงานดังกล่าว หัวเหว่ยแสดงรายละเอียดของความร่วมมือกับบรรดาผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผุ้ผลิตและจำหน่ายชิพซิลิกอนชั้นนำในการพัฒนาเทคโนโลยี HSPA+ รวมทั้งมีการสาธิตเทคโนโลยี HSPA+ โดยใช้ BTS ยุคที่ 4 ร่วมกับผลิตภัณฑ์ MDM8200™ ของบริษัทควอลคอมม์ ที่สามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 28 Mbps กรณีดาวน์ลิงก์และ 11 Mbps กรณีอัพลิงก์

บริษัท Mobile TeleSystems (MTS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของรัสเซียและบริษัท โวดาโฟน (Vodafone) ของสหราชอาณาจักรประกาศร่วมกันถึงการบรรลุความตกลงในการเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์เพื่อร่วมมือกันให้บริการสื่อสารที่มีคุณภาพสูงแก่ผู้ใช้บริการ รวมทั้งความร่วมมือกันในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอนาคตอีกด้วย

ทั้งนี้ภายใต้ความตกลงดังกล่าว MTS จะได้รับความช่วยเหลือจากโวดาโฟนในการสร้างและพัฒนาโครงข่ายสื่อสารไร้สาย 3G และผลิตภัณฑ์ด้านบรอดแบนด์ไร้สาย

นอกจากนั้นแล้ว MTS ยังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับผลิตภัณฑ์ บริการ และอุปกรณ์ต่างๆของโวดาโฟนในตลาดรัสเซีย ยูเครน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอาร์เมเนีย

หลายฝ่ายเตือนบราซิลควรเตรียมย่านความถี่ที่ทั่วโลกใช้งานกับมาตรฐาน IMT-2000 ได้แล้ว

UMTS Forum และผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบรอดแบนด์ไร้สายของบราซิล เตือนรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลฯ ควรเร่งรีบจัดสรรคลื่นความถี่ที่ 2.6 GHz เพื่อใช้สำหรับเทคโนโลยี IMT-2000 รวมถึง LTE (Long Term Evolution) โดยเร็ว

WRC2000 ได้เคยกำหนดให้ใช้ย่านความถี่ 2.6GHz กับเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายยุคใหม่ภายใต้ IMT-2000 มานานแล้วเกือบ 10 ปี

นอกจากนั้นแล้ว UMTS Forum ยังได้เตือนบราซิลให้สำรองเป็คตรัม 2 x 20MHz ไว้สำหรับผู้ให้บริการ IMT-2000 แต่ละรายด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการสามารถนำเทคโนโลยี LTE มาให้บริการบรอดแบนด์ไร้สายได้ในราคาที่เหมาะสมแก่ผู้ใช้บริการ

หนังสือพิมพ์ ซันเดย์ ไทม์ ของสหราชอาณาจักรรายงานว่า Microsoft Tech Track 100 league จัดอันดับให้บริษัท ไอพี ดอท แอคเซส (ip.access) ติดในรายชื่อบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำ 100 บริษัทในสหราชอาณาจักร

ไอพี ดอท แอคเซส เป็นผู้พัฒนาโซลูชั่นเพื่อเพิ่มความสามารถในการขยายพื้นที่ครอบคลุมของการให้บริการสื่อสารไร้สายเข้าไปภายในอาคาร สำนักงานธุรกิจ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดอันดับที่ 54 ในจำนวน 100 บริษัท

การเปิดประมูลใบอนุญาตให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G และบริการไวแมกซ์ ของประเทศค่อนข้างล่าช้าและอาจทำไม่ได้ในปีนี้ คงต้องรอในปีหน้า

สาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากรัฐบาลยังมีความไม่ชัดเจนต่อการกำหนดสเป็คตรัมคลื่นความถี่วิทยุในบางพื้นที่ใช้งานจำนวน 9 พื้นที่จากจำนวนทั้งหมด 22 พื้นที่ของประเทศ เช่น เดลฮี, จามมูและแคชเมียร์, คุชราช, อุตรประเทศตะวันตกและตะวันออก เป็นต้น

คณะกรรมาธิการเพื่อการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติ (NDRC) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับการเติบโตของบริการบรอดแบนด์ของประเทศ โดยระบุว่าตั้งแต่มกราคมถึงกรกฎาคม 2551 จีนมีจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์รายใหม่เพิ่มขึ้น 11.4 ล้านราย ทำให้มียอดผู้ใช้บรอดแบนด์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 77.8 ล้านราย

ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของจีนรายงานด้วยว่า รายได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยมูลค่าราว 467.8 พันล้านหยวน (หรือประมาณ 2.48 ล้านล้านบาท)ซึ่งสูงขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

หลายฝ่ายให้ความเห็นตรงกันว่า Long Term Evolution (LTE) จะเป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายยุค ที่ 4 (หรือ 4G) ซึ่งจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของบรรดาผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารไร้สายไม่เกินปี 2553 หรืออาจ ช้ากว่านั้นเล็กน้อย และจากการศึกษาของบริษัท ABI Research รายงานว่า จำนวนผู้ใช้ LTE จะสูงกว่า 32 ล้านรายในปี 2556

บริษัทยักษ์ใหญ่สื่อสารไร้สาย 4 บริษัท ประกอบด้วย เอ็นทีที โดโคโม, เรเนซาส เทคโนโลยี, ฟูจิตสึ และชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ประกาศว่าทางกลุ่มมีแผนร่วมมือกันพัฒนาอุปกรณ์ SH-Mobile G4 single-chip LSI device และแพลทฟอร์มเพื่อสนับสนุนมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ HSUPA/HSDPA/W-CDMA และ GSM/GPRS/EDGE (2G) ทั้งนี้คาดหมายว่าการพัฒนาแพลทฟอร์มดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ของปีภาษี 2552 ของญี่ปุ่น (มกราคม-มีนาคม 2553)

SH-Mobile G4 ประกอบขึ้นโดยใช้ เทคโนโลยี 45-nm process เพื่อทำให้ส่วนประกอบต่างๆสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและด้วยความเร็วสูงยิ่ง (extra-fast processing) ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานด้านกราฟฟิก HD video และ 3-D

บริษัทวิจัยตลาด ABI Research Asia-Pacific รายงานว่า ปี 2551 นี้บรรดาผู้ผลิตและจัดหาอุปกรณ์โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำของโลก (เช่น โนเกีย, ซีเมนส์ เน็ทเวอร์ค, อีริคสัน และอัลคาเทล-ลูเซนท์) ต้องลงทุนในการพัฒนาเพื่อการผลิตอุปกรณ์โครงข่ายฯเพิ่มขึ้น 3.4% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 53.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ABI Research ระบุด้วยว่า จำนวนสถานีฐานจะเพิ่มขึ้นจาก 3.6 ล้านสถานีในปี 2550 เป็น 5.2 ล้านสถานีในปี 2556

สำหรับตลาดประเทศกำลังพัฒนานั้น บรรดาผู้ให้บริการกำลังหาช่องทางลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆมาให้บริการ เช่น เทคโนโลยี 3.5G (ได้แก่ HSDPA และ CDMA2000 Rev A)

ที่มา - 4g.co.uk

สำนักข่าว มิสซิมา (Mizzima)รายงานเมื่อกรกฎาคม 2551 ระบุว่า กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งประเทศพม่า (MPT)เปิดเผยอย่างเป็นทางการถึงการเปิดให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนที่ยุคที่ 3(หรือ 3G)แล้วโดยใช้มาตรฐาน W-CDMA

ทั้งนี้ในระยะแรกจะมีผู้ใช้บริการเพียง 50 ราย (ในกิจการทหารเท่านั้น) เนื่องจากยังขาดแคลนด้านด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ตามแผนการพัฒนาโครงข่าย 3G นั้น MPT รายงานว่า ในระยะต่อไปจะขยายบริการให้ครอบคลุมเมืองย่างกุ้ง รองรับผู้ใช้บริการราว 30,000 ราย และภายหลังการพัฒนาโครงสร้างต่างๆแล้วเสร็จ คาดว่าจะให้บริการแก่ผู้ใช้งานทั่วประเทศราว 200,000 ราย

CDG (CDMA Development Group) ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ว่า จำนวนผู้ใช้เทคโนโลยี CDMA2000® และ 1xEV-DO ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 450 ล้านรายและ 100 ล้านราย ตามลำดับ โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 12 ล้านราย

ทั้งนี้เมื่อสิ้นมิถุนายน 2551 จำนวนผู้ใช้ CDMA2000 เพิ่มขึ้นกว่า 19% (เมื่อเทียบกับมิถุนายน 2550) โดยจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามด้วยอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

เมื่อวันที 17 ตุลาคม 2551 บริษัท ลาว โทรคมนาคม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ในการเปิดให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 หรือ 3G ภายในประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว โดยในระยะแรกเปิดให้บริการเฉพาะในเวียงจันทร์ (Vientiane) หลังจากที่ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 1 เดือน

พิธีเปิดให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G อย่างเป็นทางการ จัดขึ้นที่โรงแรมดอนจัน พาเลซ Don Chan Palace)โดย ฯพณฯ พลโท ดวงชัย พิจิตร (Duangchai Phichit)รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ ท่านทันสะไหม กมมะสิด (Thansamay Kommasith) ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทลาวโทรคมนาคม พร้อมด้วยตัวแทนภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมงาน

หลังจากลงทุนในโครงการสร้างเคเบิลใต้น้ำยูนิตี้ ทรานส-แปซิฟิก (Unity trans-Pacific cable)แล้ว กูเกิลยังก้าวไปอีกขั้นหนึ่งด้วยการเจรจากับผู้ให้บริการโทรคมนาคมของประเทศต่างๆ เพื่อลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำในเส้นทางใหม่ๆ อีก

ล่าสุดวางแผนสร้างเคเบิลใต้น้ำในเส้นทางสิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง กวม และญี่ปุ่น ในชื่อโครงการว่า SJC Cable โดยจะต่อเชื่อมกับเคเบิลยูนิตี้ที่ญี่ปุ่น

กูเกิลลงทุนในเคเบิลใต้น้ำเส้นต่างๆร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมหรือเคเบิลของประเทศต่างๆในเอเชียก็เพื่อลดค่าใช้จ่ายแบนด์วิท

คณะกรรมการด้านไอซีทีของสหประชาชาติคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2008 นี้จะมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 พันล้านราย ซึ่งเกินครึ่งของประชากรโลกที่มีอยู่ 6.7 พันล้านคน

Hamadoun Touré เลขาธิการทั่วไปของ ITU ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือประเทศกำลังพัฒนา เช่น จีน อินเดีย และละตินอเมริกา ประเทศในกลุ่ม BRIC นั้นมียอดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรวมกันถึง 1.3 พันล้านคน อย่างไรก็ตามยอด 4 พันล้านนี้นับรวมคนที่มีมือถือมากกว่า 1 เครื่องด้วย ซึ่งในตลาดประเทศพัฒนาแล้วอย่างยุโรปตะวันตก ถือเป็นเรื่องปกติ

ภูมิภาคที่กำลังมาแรงคือแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งมีอัตราการเติบโตถึง 27% และ 25% ตามลำดับ ส่วนเอเชียแปซิฟิกโต 23.6%

หลายๆ คนคงได้เห็นประกาศงาน ITU Telecom Asia 2008 ในเว็บนี้กันไปบ้างแล้ว พอดีว่าผมเองได้บัตรฟรีมา และมีเวลาไปเดิน เลยได้ไปจับมาหมดทั้ง FOMA และ WiMAX งานนี้แฟนๆ Blognone ที่พลาดก็ไม่ต้องเสียดายครับ มาเดินเล่นด้วยกันในนี้ดีกว่า

ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กูเกิลได้ออกมาเปิดเผยว่ากำลังร่วมมือกับ 5 บริษัทในกลุ่มเอเชียตะวันออก เพื่อทำการวางสายเคเบิลใต้น้ำจากสหรัฐอเมริกามายังญี่ปุ่น

และตอนนี้ทางกูเกิลก็กำลังวางแผนการขยายในช่วงที่สอง ซึ่งจะเป็นเส้นทางจากญี่ปุ่นมายัง หมู่เกาะกวม ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ไทย และสิงคโปร์

จากข่าวเดิม iPhone 3G มีปัญหาเรื่องรับสัญญาณ ทางนิตยสาร Wired เลยเชิญชวนให้ผู้ใช้ iPhone 3G จากทั่วโลก รายงานสถานะสัญญาณของตัวเองเข้ามา ซึ่งมีผู้ตอบรับถึงกว่า 2,600 ราย โดยมากมาจากสหรัฐแต่ก็มีประเทศอื่นๆ มาร่วมอยู่พอสมควร

Wired ได้นำข้อมูลไปประมวลผล และสร้างแผนที่สัญญาณออกมา เข้าไปดูกันได้ที่ Zeemaps (ซูมอินเข้าไปจนจุดม่วงๆ กลายเป็นขีดสัญญาณ)

โดยสรุปคือความเร็วสูงสุดของ iPhone 3G นั้นเร็วกว่า EDGE 7 เท่า แต่ในกรณีแย่หน่อยคือเร็วเท่ากัน ส่วนแย่ที่สุดคือติดต่อกับเครือข่าย 3G ไม่ได้เลย

กทช. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับโทรศัพท์มือถือ โดยจะจัดครั้งแรกที่ กทม. ในวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคมนี้ และวันศุกร์ถัดๆ ไปจะจัดที่อุดรธานี (29 ส.ค.) เชียงใหม่ (5 ก.ย.) และสงขลา/หาดใหญ่ (12 ก.ย.) ตามลำดับ

สำหรับข้อความที่ กทช. ลงโฆษณาในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับล่าสุดมีดังนี้...

เป็นที่ทราบกันดีว่าไทยเรามี 3G เปิดให้บริการมานานแล้ว และมีการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 3G ไปนับสิบปีแล้วเช่นกัน (ความถี่เดิม) ไม่ได้ล้าหลังดังที่หลายคนเข้าใจผิดกัน

หลังจากที่เราเคยได้ยินเรื่องของผู้ให้บริการมือถือที่ยื่นขออนุมัติอัพเกรดเครือข่ายตัวเองเป็น 3G จาก กทช. มานาน ในวันนี้ทาง กทช. ได้อนุมัติแล้วครับ

โดยได้ทาง DTAC ได้อัพเกรด 1,200 สถานีฐาน โดยจะลงทุนที่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา ลำพูน พิษณุโลก และหาดใหญ่

กสท.โทรคมนาคม ได้อัพเกรด 656 สถานีฐาน โดยให้ TRUE MOVE เป็นผู้ทำการตลาดให้ โดยจะลงทุนในกรุงเทพ มากที่สุด รองลงมาก็จะเป็น ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ และมหาสารคาม

AIS ก็ไม่น้อยหน้าเช่นเดียวกัน ได้อัพเกรดทั้งสิ้น 400 สถานีฐาน ให้บริการในพื้นที่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย สงขลา ภูเก็ต ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา และ ขอนแก่น