Boost แบรนด์ลูกของบริษัท Sprint ที่ทำตลาดโทรศัพท์แบบ prepaid (คล้ายๆ AIS/1-2-Call กับ DTAC/Happy) ได้เสนอโปรโมชั่นล่าสุดที่แสดงสัญญาณว่าตลาดสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่สงครามราคา ด้วยราคา 50 ดอลลลาร์ ผู้ใช้ของ Boost สามารถใช้งานได้ทั้งโทรศัพท์, SMS, และข้อมูล แบบไม่มีจำกัด
Sprint ใช้แนวทางการลดราคาเช่นนี้เพื่อสร้างมูลค่าให้กับเครือข่ายเดิมของตน ขณะที่ลูกค้าของ Sprint โดยตรงจะสามารถเลือกใช้เครือข่าย 3G ที่ความเร็วสูงกว่ามากได้
บ้านเราแค่ค่าเน็ตอย่างเดียวก็พันกว่าแล้ว
ที่มา - USA Today
แหล่งข่าวจาก Verizon Wireless เปิดเผยว่า การเจรจาเพื่อซื้อกิจการของบริษัท Alltell ที่มีตลาดอยู่ใน 24 มลรัฐ ด้วยมูลค่า 5.9 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 206.5 พันล้านบาท) ทำให้ Verizon กลายเป็นบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามนอกจากวงเงินดังกล่าวแล้ว บริษัทยังต้องชำระหนี้แทน Alltel อีก 22.2 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 777 พันล้านบาท) อีกด้วย
ในการซื้อกิจการครั้งนี้ พนักงานของ Alltel ในระดับต่ำกว่าผู้บริหารจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยบริษัทถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีความใกล้ชิดกับลูกค้าอยู่แล้ว ส่วนลูกค้าจำนวน 12.9 ล้านรายของ Alltel นั้น บริษัทจะมีจดหมายแจ้งเพื่อทำความเข้าใจกับลูกค้าทุกราย
ทำให้ขณะนี้บริษัทมีฐานลูกค้ามากกว่า 83.7 ล้านราย และมีพนักงาน 85,000 คน
ครอบครัวยากจนใน 4 จังหวัดทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ประกอบด้วยจังหวัด บันทาย มีชัย (Banteay Meanchey), อุดร มีชัย (Oddar Meancheay), พระวิหาร (Preah Vihear) และ โพธิสัตว์ (Pursat) จะได้รับความช่วยเหลือเป็นเงิน 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 91 ล้านบาท) เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการโทรคมนาคม ซึ่งเป็นผลจากการลงนามในความร่วมมือระหว่างธนาคารโลกในฐานะผู้บริหารโครงการ GPOBA (Global Partnership on Output-based Aid) กับรัฐบาลกัมพูชา
บริษัทมือถือในทวีปยุโรปได้รายงานตัวเลขของ SMS ที่ถูกส่งออกไปในช่วงคืนวันสิ้นปีจนถึงวันปีใหม่ ซึ่งปรากฎว่าของปี 2009 นี้ทำลายสถิติของปีก่อนกันถ้วนหน้า
The New York Times ได้รายงานว่าสิ่งหนึ่งที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในสหรัฐไม่อยากให้ผู้ใช้รู้เกี่ยวกับการเทกซ์หรือการส่ง SMS ก็คือต้นทุนที่แท้จริง เพื่อที่จะเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดจากความโมโหของผู้ใช้บริการที่ถูกเรียกเก็บเงินค่าบริการ SMS ที่เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
นางรสนา โตสิตระกูล กล่าวในงานเวทีผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมโดยกล่าวในเชิงว่า
บริษัทมือถือสนับสนุนให้เกิดการบริโภคและเสพติดการใช้โทรศัพท์มากขึ้น ซึ่งทำให้เด็กในวัยเรียน ติดโทรศัพท์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสนทนาออนไลน์ ซึ่งเป็นการทำลายมันสมองของชาติ และอ้างว่าต่างประเทศนั้นมีโทษของการใช้โทรศัพท์ในรถเท่ากับการดื่มสุราขณะขับรถเพราะทำให้คนที่คุยโทรศัพท์ไม่มีสติเหมือนการดื่มสุรา และบอกต่ออีกว่าการใช้บริการมือถือจะมองแต่ความทันสมัยอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการให้บริการมือถือกำลังกลายเป็นสิ่งเสพติดอย่างใหม่ในสังคม และนี่ยังไม่รวมถึงการถ่ายคลิปโป๊ การพนัน การก่ออาชญากรรมและปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม
ในข่าวเก่า ประชาธิปัตย์เตรียมการส่ง SMS หาผู้ใช้ทั้งประเทศ และ SMS จากนายกฯ เข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หลายๆ คนอาจเห็นชื่อ สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม หรือ สบท. กันบ้างแล้ว
สบท. เป็นหน่วยงานตั้งใหม่ตามนโยบายของ กทช. เพิ่งเริ่มทำงานเมื่อเดือนมกราคม 2551 นี้เอง ภาระกิจของ สบท. คือเป็นตัวกลางระหว่างผู้ประกอบการด้านกิจการโทรคมนาคมในประเทศไทย และผู้บริโภค ซึ่งเทียบได้กับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และองค์การอาหารและยา (อย.) ที่กำกับดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป และยา
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2551 เคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศจำนวน 3 เส้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนขาด ทำให้การติดต่อสื่อสารและบริการอินเทอร์เน็ตในอียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย อินเดีย และประเทศต่างๆในบริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเหตุเสียดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงระหว่างตูนีเซียกับอิตาลี
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (NTC) หรือ กทช. ของฟิลิปปินส์ เตรียมประกาศใช้กฎเกณฑ์และระเบียบใหม่เพื่อบริหารจัดการการต่อเชื่อมโครงข่ายระหว่างกัน (interconnection) ของบรรดาผู้ให้บริการโทรคมนาคมของประเทศราวมกราคม 2552 เพื่อพยายามลดหรือจำกัดการดำเนินการต่างๆที่ปิดกั้นการแข่งขันกันและส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสในแนวทางปฏิบัติของผู้ให้บริการโทรคมนาคมด้วยกันเอง
นาย ยอร์จ วี. ซาเมียนโต (Jorge V Sarmiento) รองคณะกรรมการฯ เปิดเผยว่า สำนักงานได้จัดทำรายละเอียดของกฎเกณฑ์ใหม่เสร็จแล้วซึ่งบังคับบรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์ทุกรายยินยอมให้ผู้ให้บริการรายอื่นสามารถเข้าถึงโครงข่าย สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบ และลูกค้าของตนได้ตามข้อบังคับและเงื่อนไขที่กำหนดไว้
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคและควบคุมโรคแห่งชาติ หรือ CDC (Federal Centers for Disease Control and Prevention) ของสหรัฐอเมริกา ได้จัดทำรายงานสำรวจ (National Health Interview Survey) ด้วยการสัมภาษณ์ 16,070 ครัวเรือนระหว่างมกราคมถึงมิถุนายน 2551 พบว่า ครัวเรือนที่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้งานเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีโทรศัพท์ประจำที่แต่อย่างใด เริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 18% แล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงานที่มิได้เป็นญาติกัน เช่น เพื่อนร่วมห้อง ผู้เช่าบ้าน และกลุ่มคนวัยหนุ่มสาว
รายงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเขตปกครองตนเองทิเบตระบุว่า เมื่อสิ้นปี 2550 มีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์ประจำที่และโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมกันมากกว่า 1.443 ล้านราย ซึ่งหมายความว่า ประชากรทุก 2 คนจะมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้งาน 1 เครื่อง
นอกจากนี้ รายงานด้านการปกป้องและการพัฒนาวัฒนธรรมของชาติที่ตีพิมพ์โดยสภาปรึกษาการบ้านเมือง (State Council) ในปี 2551 ระบุว่า ธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทิเบตเริ่มต้นเมื่อสิงหาคม 2536 โดยในเวลานั้นมีสถานีฐานเพียงแห่งเดียวในทิเบตและให้บริการแก่ผู้ใช้ได้เพียง 4,500 ราย ทว่าทุกวันนี้มีสถานีฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 8,300 แห่ง ให้บริการแก่ผู้ใช้ได้ราว 800,000 ราย
หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน SinoCast เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานทั้งหมดของบริษัทไชนา เทเลคอม ถูก “ขอร้อง” (หรือหลายคนอาจเรียกว่า บีบบังคับ???) จากบริษัท ให้ช่วยกันเสียสละช่วยเหลือบริษัทด้วยการสมัครขอใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ CDMA ของบริษัทเพื่อเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าของระบบให้มากขึ้น
Wang Xiaochu ประธานและ CEO ของบริษัท กล่าวว่า จำนวนผู้ใช้บริการ CDMA ของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 43 ล้านรายเป็น 100 ล้านรายได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 15%
ที่มา - Telegeography
รายงานจากบริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรม Broadbandtrends ระบุว่า ยอดจำหน่ายดีเอสแอล (DSL – Digital Subscriber Line) ของบริษัทหัวเหว่ยเมื่อไตรมาส 3 ปี 2551 มากกว่า 6.6 ล้านลายน์ ถือได้ว่าบริษัทครองแชมป์ในตลาด DSL ของโลกด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 30.5%
นอกจาก DSL แล้ว บริษัทหัวเหว่ยซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมและเครือข่ายรายใหญ่ของจีนยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาด IP DSL และ MSAP อีกด้วย โดยมีส่วนแบ่งตลาด 28.5% และ 34.5% ตามลำดับ
มือถือบ้านเรายังไม่มี 3G เรียบร้อยดี ทางผู้ผลิตชิปสำหรับส่งสัญญาณอย่าง LG ก็ได้เริ่มทดสอบชิปสำหรับเทคโนโลยีที่เรียกว่าเป็น 4G อย่าง LTE (3GPP Long Term Evolution) แล้ว
ตามทฤษฎีนั้น LTE จะมีอัตราส่งข้อมูลดาวน์โหลด 100 Mbps และอัพโหลด 50 Mbps ซึ่งชิปของ LG สามารถส่งข้อมูลได้ 60 Mbps/20 Mbps ตามลำดับ เทียบกับเครือข่าย 3G แบบ HSDPA ในปัจจุบันที่มีอัตราส่งข้อมูลสูงสุด 7.6 Mbps
ชิปของ LG มีขนาด 13x13 มิลลิเมตร LG มีนักวิจัยด้านนี้ทำงานเต็มเวลา 250 คน สำหรับการทดสอบครั้งนี้ LG ใช้เครื่องมือถือรุ่นทดสอบที่รัน Windows Mobile
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือได้เฮ เมื่อมีการเปิดอินเทอร์เน็ตโดเมนใหม่ คือ ดอทเทล ( .tel ) เพื่อความสะดวกในการใช้งานสมุดโทรศัพท์บนเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งจะทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลและทำการเข้ารหัสข้อมูลที่ติดต่อได้ด้วย
ชื่อโดเมน .tel ช่วยให้บุคคล ภาคธุรกิจ และหน่วยงานต่างๆ สามารถจัดเก็บข้อมูลที่ติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์, การเชื่อมต่อเข้ากับเว็บไซต์, อีเมล์ แอดเดรส, ชื่อที่ใช้กับ instant messaging หรือแม้แต่ชื่อที่ใช้ในเกมเกม (เช่น Xbox Live หรือ Second Life) เข้าไปยังระบบชื่อโดเมน หรือ DNS (Domain Name System) ได้โดยตรง
จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีน ระบุว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศใน 10 เดือนแรก ของปี 2551 เติบโตขึ้นมาก กล่าวคือ มีมูลค่าประมาณ 679.79 ล้านหยวน (CNY) หรือราว 3,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 8.1%
รายงานระบุด้วยว่า ปริมาณธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศนั้นมีมูลค่าราว 1.85 ล้าน ล้านหยวน (หรือ 10.18 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 22.5% และมีการลงทุนสินทรัพย์ถาวรในภาคโทรคมนาคมกว่า 185.05 พันล้านหยวน (หรือราว 1,017.78 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 9.9%
บรรดารัฐมนตรีด้านโทรคมนาคมของกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป (EU) บรรลุความตกลงร่วมกันเพื่อปรับลดค่าบริการโรมมิ่งโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับบริการด้านข้อมูล/อินเทอร์เน็ต และบริการรับ-ส่งข้อความสั้น (SMS)
ทั้งนี้รัฐมนตรีได้ให้การรับรองต่อข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่เสนอให้พิจารณาลดค่าบริการส่งข้อความสั้นและการดาวน์โหลดข้อมูลผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่แก่ผู้ใช้บริการเมื่อเดินทางไปใช้บริการในประเทศต่างๆของสหภาพยุโรป
สำหรับค่าบริการที่ปรับลดใหม่และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2552 เป็นดังนี้
รายงานข่าวจากบริษัท โวดาโฟน ระบุว่า บริษัทกำลังเจรจาเข้าซื้อกิจการของบริษัท เคเบิล ทีวี ชื่อ Kabel Deutschland (KDG) ของเยอรมัน ซึ่งปัจจุบันมีบริษัท Providence เป็นเจ้าของโดยซื้อกิจการมา 3 ปีแล้วด้วยมูลค่าราว 2.8 พันล้านยูโร
KDG มีลูกค้าราว 11 ล้านรายในเยอรมัน มีขนาดที่พอเหมาะกับกิจการของบริษัท Arcor ซึ่งเป็นบริษัทในเครือให้บริการโทรศัพท์ประจำที่ในประเทศของโวดาโฟน ด้วยส่วนแบ่งตลาดบรอดแบนด์ราว 14%
นอกจากนั้น KDG กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2551 มีรายได้เพิ่มขึ้น 15.4% ด้วยมูลค่า 339.3 ล้านยูโร ในขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้น 30% เป็น 142.9 ล้านยูโร ตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ส่วนหนึ่งมาจากรายได้โครงข่ายที่บริษัทได้เข้าไปซื้อกิจการจาก OCG (Orion Cable Group)
ชินคอร์ป กลุ่มยักษ์ใหญ่สื่อสารที่ลงทุนในกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไทย กัมพูชา และลาว ประกาศว่า บริษัท AIS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ของไทย มีฐานลูกค้าเมื่อสิ้นไตรมาส 3 ปี 2551 จำนวน 26.77 ล้านราย ในขณะที่จำนวนลูกค้าของบริษัท ลาวเทล (Laotel) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของชินคอร์ปในลาวมีลูกค้าจำนวน 800,000 รายเมื่อสิ้นไตรมาส 3 ปีเดียวกัน และบริษัท แคมชิน (Camshin) ในกัมพูชามีลูกค้า 710,000 ราย แต่ทั้ง 2 บริษัทในลาวและกัมพูชายังคงมีอนาคตที่สดใส
ฐานลูกค้าของชินคอร์ปเพิ่มขึ้นจาก 4.5% เมื่อสิ้นไตรมาส 3 ปี 2550 เป็น 5.4% โดยมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อไตรมาสประมาณ 810,000 ราย จากปีก่อนที่มีจำนวนลูกค้าเพียง 510,000 ราย
กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร (MIC) เวียดนามจัดทำรายละเอียดในการเข้าร่วมรับใบอนุญาต 3G เสร็จแล้ว และประกาศว่าจะมีการประมูลใบอนุญาตได้ 4 รายในไตรมาส 2 ปี 2552
ปัจจุบันเวียดนามมีผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายแล้ว 7 ราย และในจำนวนนี้ 3 รายยังไม่มีบริการ 3G
ผู้ให้บริการทั้ง 7 ราย มีเวลาในการพิจารณาและตัดสินใจจนถึงเดือนมกราคม 2552 ก่อนที่จะเปิดรับการเสนอตัวเพื่อขอรับใบอนุญาต (ทั้งนี้ยังไม่เปิดโอกาสให้กับรายใหม่เข้าร่วม) โดยรัฐบาลจะประกาศผลได้ภายใน 2 - 3 เดือน
บริษัท ฮิทส์ เทเลคอม (Hits Telecom) ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 30% มูลค่า 60 ล้านเหรียญของบริษัท ซิโนเทล (Cinotel) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ทำให้ ฮิสท์ เทเลคอม เป็นบริษัทอาหรับรายแรกที่เข้าไปในตลาดจีน
ทั้งนี้บริษัทยังเตรียมแผนซื้อหุ้นจาก ซิโนเทล เพิ่มขึ้นอีก 25% ภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทถือครองหุ้นทั้งหมด 55%
ซิโนเทล เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายหลักด้วยเคเบิลใยแก้วนำแสง (fiber optic network) แก่บริษัทโทรคมนาคมต่างๆในจีน โดยมีความยาวประมาณ 32,000 กิโลเมตร
ที่มา - cn-c114.net
เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2551 สายการบินมาเลเซีย (Malaysia Airlines) หรือ MAS ได้เปิดให้บริการใหม่อีกบริการหนึ่ง คือการอนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถโทร.ออกและรับการเรียก(รับสาย)จากเครื่องโทรศัพท์ เคลื่อนที่ของผู้โดยสารเองได้แล้วขณะโดยสารเครื่องบินบางเส้นทาง นอกจากนี้ผู้โดยสารยังสามารถส่งและรับข้อความ (text message) และใช้เครื่องแบลคเบอรี (Blackberry-type devices) ในการรับ-ส่งอีเมล์ ได้อีกด้วย
MAS กล่าวว่า สายการบินกำลังร่วมมือกับบริษัท แอโรโมบายล์ (AeroMobile) ซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร เพื่อพัฒนาระบบสื่อสารซึ่งจะทำให้ MAS เป็นสายการบินแห่งแรกในภูมิภาคเอเซียที่สามารถให้บริการโทรศัพท์และสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียมบนเครื่องบินแก่ผู้โดยสารโดยใช้เครื่องมือสื่อสารไร้สายของตนเองได้
มีแรงกดดันเกิดขึ้นกับบริการไวแมกซ์ในไต้หวันพอสมควร เมื่อปรากฏว่าบริษัท จงหวา เทเลคอม (Chunghwa Telecom) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายเดิมและรายใหญ่ของไต้หวัน ซึ่งเคยพลาดจากการได้รับใบอนุญาตให้บริการไวแมกซ์จำนวน 6 รายเมื่อปี 2550 นั้น สามารถหวนกลับสู่วงการไวแมกซ์ในไต้หวันอีกครั้งเมื่อบริษัทได้รับไฟเขียวให้ลงทุนในบริษัท โกลบอล โมบายล์ (Global Mobile) ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งที่ได้รับใบอนุญาตไวแมกซ์
คณะกรรมการกิจการสื่อสารแห่งชาติ (NCC) ของประเทศได้เคยห้ามมิให้จงหวา ลงทุนในบริษัท โกลบอล โมบายล์ เนื่องจากจงหวามิได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในครั้งที่บริษัท โกลบอล โมบายล์ ยื่นขอใบอนุญาตไวแมกซ์ ต่อมาคณะกรรมการฯจึงกลับมติใหม่ในครั้งนี้
คณะกรรมาธิการมัลติมีเดียและการสื่อสารแห่งชาติมาเลเซีย หรือ MCMC (The Malaysian Communications and Multimedia Commission) ได้ออกมาประกาศว่า อาจจะมีบทลงโทษแก่บรรดาผู้ได้รับใบอนุญาตไวแมกซ์ หากไม่สามารถเปิดให้บริการได้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 25% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายในปีนี้
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า บทลงโทษอาจจะเป็นการปรับหรือเรียกคืนใบอนุญาต ทั้งนี้เป็นความต้องการของหน่วยงานกำกับดูแลฯ ที่ไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้าในการให้บริการไวแมกซ์ของประเทศ
ฮอบ-ออน (Hop-on) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหนึ่งในสหรัฐกล่าวว่า บริษัทมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า CEO ของบริษัท สปริ้นท์ (Sprint) ยักษ์โทรคมนาคมรายหนึ่งกำลังบอกลา แพลทฟอร์มแอนดรอยด์ของ กูเกิล ทั้งๆที่เป็นผู้ก่อตั้ง OHA (Open Handset Alliance) นั้นมิใช่ยังไม่ดีพอกับการจะใช้ชื่อสปริ้นท์ หากแต่เป็นเพราะสปริ้นท์กลัวสูญส่วนแบ่งตลาดมากกว่า
รายงานระบุว่า สปริ้นท์ได้ลงทุนในโครงข่ายของตนไปนับพันล้านเหรียญ จึงไม่ต้องการสูญเสียฐานลูกค้าไปให้กับ open platform