กสทช. ประเทศบังกลาเทศ สั่งปิดเครือข่าย 3G/4G ในประเทศชั่วคราว เพื่อป้องกันการเผยแพร่ "ข้อมูลเท็จ" ในช่วงการเลือกตั้งใหญ่วันนี้ (30 ธันวาคม 2018)
การเลือกตั้งรอบนี้เป็นการขับเคี่ยวระหว่างนายกรัฐมนตรี Sheikh Hasina ที่อยู่ในตำแหน่งมา 2 สมัยนาน 10 ปี และต้องการนั่งเก้าอี้นายกเป็นรอบที่สาม กับพรรคฝ่ายค้านที่นำโดย Kamal Hossain อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
AT&T เริ่มเปิดบริการ 5G ในสหรัฐแล้ววันนี้ โดยเริ่มต้นใน 12 เมืองก่อนแล้วขยายเพิ่มเติมอีกในช่วงต้นปี 2019 ส่วนอุปกรณ์ในท้องตลาดยังไม่มีมือถือ 5G จึงต้องใช้อุปกรณ์ pocket Wi-Fi ของ Netgear ที่รองรับเน็ต 5G ไปพลางๆ ก่อน
อย่างไรก็ตาม AT&T ก็ประกาศว่าจะปรับเปลี่ยนไอคอนแสดงเครือข่าย LTE บนมือถือ Android เป็นคำว่า 5G E (ย่อมาจาก 5G Evolution) หากเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G LTE ที่เป็น 4x4 MIMO, 256 AQM ส่วนเครือข่ายที่เป็น 5G แท้จะใช้ไอคอนว่า 5G+
AT&T ไม่ได้ระบุเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าบริษัทต้องการโปรโมทว่าเครือข่ายของตัวเองเป็น 5G แล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่ 5G แท้ๆ ก็ใช้วิธีเลี่ยงเป็นคำว่า "กำลังจะเป็น 5G" หรือ 5G Evolution แทน
ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไต้หวันเตรียมปิดบริการ 3G ทั้งหมดในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ เพื่ออัพเกรดไปยัง 4G เต็มรูปแบบ โดยเมื่อกลางปีที่แล้วไต้หวันก็เพิ่งปิดบริการ 2G ไป
ตอนนี้ผู้ใช้เครือข่าย 3G ในไต้หวันเหลืออยู่ 228,000 ราย ลดลงจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 5.5 ล้านราย และเมื่อเดือนกันยายนที่ยังมีมากกว่าล้านรายอย่างรวดเร็ว และคาดว่าในสองสัปดาห์ข้างหน้า จะมีผู้ใช้อัพเกรดเครื่องไปยัง 4G อีกประมาณแสนราย เหลือผู้ใช้ซิมดับจริงๆ ประมาณแสนกว่าราย
Ken Hu ประธานหัวเว่ย ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าเดือนที่ผ่านมายังสามารถขายเสาสัญญาณ 5G ได้อยู่ โดยตอนนี้ส่งมอบไปแล้วกว่าหมื่นต้น และมีสัญญากับลูกค้า 25 รายการ เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 3 รายการ
อย่างไรก็ดี บริษัทไม่ได้ระบุรายชื่อลูกค้าในสัญญาเหล่านั้น
Ericsson พลาดปล่อยให้ใบรับรองเข้ารหัส บนซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย SGSN–MME (Serving GPRS Support Node – Mobility Management Entity) หมดอายุ ส่งผลให้เครือข่ายโทรศัพท์มือถือล่มพร้อมกันหลายประเทศ
แถลงของ Ericsson ไม่ได้ระบุว่าเครือข่ายใดที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เครือข่ายหนึ่งที่แถลงออกมาคือ O2 ในอังกฤษ ที่เครือข่ายล่มทั้ง 3G และ 4G ไปทั้งวัน โดยความคืบหน้าล่าสุดสามารถกู้ 3G กลับมาได้แล้ว แต่ 4G ยังมีปัญหา
เมื่อวานนี้ SoftBank ในญี่ปุ่นเองก็มีปัญหาเครือข่ายล่ม แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกรณีเดียวกันหรือไม่
ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ SoftBank ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่าเครือข่ายโทรศัพท์ล่มวันนี้ 6 ธันวาคม 2561ตั้งแต่เวลา 13:39 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเหตุเกิดขึ้นมีผลกระทบผู้ให้บริการหลายเจ้าดังนี้ Softbank Group company Y! Mobile, ผู้ให้บริการเครือข่ายที่เช่าสัญญาณจาก Softbank รวมไปถึง Line Mobile, b-mobile, mineo, nuro mobile และ H.I.S. Mobile.
เรามักมีภาพว่า Wi-Fi ทำความเร็วได้ดีกว่าเซลลูลาร์ แต่ด้วย 3G, LTE และการมาถึงของ 5G อาจทำให้ภาพดังกล่าวเปลี่ยนไป
OpenSignal บริษัทตรวรจสอบเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ว่าความเร็วเฉลี่ยของการดาวน์โหลดผ่านโมบายล์ดาต้าใน 33 ประเทศจาก 80 ประเทศหรือคิดเป็น 41% เร็วกว่าความเร็วเฉลี่ยของการดาวน์โหลดผ่าน Wi-Fi โดยประเทศที่ความเร็วของโมบายล์ดาต้าสูงกว่า Wi-Fi มากที่สุดคือออสเตรเลีย ต่างกัน 13Mbps
AIS เปิดตัวบริการ Next G ที่ผสานพลัง 4G และ Wi-Fi มาตั้งแต่กลางปี 2017 โดยเริ่มจากมือถือ Android บางรุ่น ก่อนขยับขยายมาเป็น Android ทุกรุ่น ในช่วงกลางปีนี้
ล่าสุด AIS ประกาศรองรับการใช้งาน Next G บน iOS แล้ว โดยรองรับ iOS 12 ขึ้นไป และการใช้งานต้องดาวน์โหลดแอพ AIS Next G บน App Store ก่อน
นอกจากนี้ AIS ยังปรับแพ็กเกจรายเดือนของตัวเองใหม่ โดยลูกค้าที่ใช้แพ็ก 4G Max ตั้งแต่ราคา 599 บาท/เดือนขึ้นไป จะได้ใช้งาน Next G ด้วย มีผลทั้งลูกค้าใหม่และเก่า
Tokyo Telemessage บริษัทเพจเจอร์รายสุดท้ายในญี่ปุ่นประกาศปิดบริการเดือนกันยายน 2019 หลังผู้ใช้เหลือเพียง 1,500 เครื่อง ส่วนตัวเครื่องเพจเจอร์ก็ไม่มีการผลิตเพิ่มมา 20 ปีแล้ว
NTT เป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่นที่ให้บริการเพจเจอร์ เมื่อปี 1968 หรือ 50 ปีที่แล้ว ตัว NTT เองปิดบริการเพจเจอร์ไปตั้งแต่ปี 2007
สมัยหนึ่งโทรศัพท์มือถือยังเป็นบริการราคาแพง เพจเจอร์เองมีค่าบริการที่เข้าถึงได้มากกว่า เมื่อปี 2540 ในไทยเองค่าบริการเพจเจอร์เครื่องละ 200 บาทต่อเดือน ผ่านมา 20 ปี บริการโทรศัพท์สมัยนี้มีอัตราการใช้งานเฉลี่ยเดือนละประมาณ 200 บาทแต่ได้ทั้งโทรศัพท์,และบริการอินเทอร์เน็ต
ด้วยความพร้อมในเชิงโครงข่ายและเทคโนโลยี วันพฤหัสที่ผ่านมา AIS ร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง Nokia, Huawei และ ZTE ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ในทดสอบการใช้งาน 5G บนคลื่นความถี่ 26.5 - 27.5 GHz แล้ว
การทดสอบครั้งนี้เป็นการโชว์เคสการใช้งานของ 5G โดยจะไม่ได้พูดถึงแต่ในแง่ของ Speed อย่างเดียว แต่ทาง AIS ได้จัดหา usecase ที่ทำให้เห็นในหลายๆ รูปแบบการใช้งาน และครอบคลุมทุกองค์ประกอบของ 5G ทั้ง 3 แกน คือeMMB (Enhanced Mobile Braodband) ที่เน้นความเร็ว, URLLC (Ultra-Reliable Low Latency Communication) สำหรับการเชื่อมต่อความหน่วงต่ำและ eMTC (Massive Machine Type Communication)
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลกกำลังเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง จากเทคโนโลยีในยุคที่ 4 ไปยังยุคที่ 5 ทำให้ในช่วงหลังเราเห็นข่าวหรือประเด็นเกี่ยวกับ 5G อยู่เนืองๆ ไม่ว่าจะจากฝั่งโอเปอเรเตอร์หรือฝั่งผู้ผลิตก็ตาม
ในบ้านเราก็เช่นเดียวกันที่เริ่มมีการพูดถึง 5G กันบ้างแล้ว โดยล่าสุดมี AIS ประกาศความพร้อมของโครงข่ายแล้ว รวมถึงเตรียมเริ่มทดสอบ 5G เป็นเจ้าแรกในไทย วันที่ 22 พ.ย. – 15 ธันวาคม 2561 ที่ AIS D.C. เอ็มโพเรียม โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
บริษัท Voxox ผู้ให้บริการสื่อสารที่มีสำนักงานอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียถูกค้นพบว่าไม่ได้ล็อกรหัสผ่านเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลไว้ เปิดให้ใครก็ได้เข้าใช้งานและเก็บข้อความ SMS ได้ทันทีในระดับเกือบเรียลไทม์
Sébastien Kaul นักวิจัยความปลอดภัยระบุว่า เขาพบเซิร์ฟเวอร์นี้จาก Shodan เสิร์ชเอนจินที่ค้นหาฐานข้อมูลและอุปกรณ์ที่เข้าถึงได้จากสาธารณะ และเซิร์ฟเวอร์นี้ถูกผูกเข้ากับซับโดเมนของ Voxox ด้วย
ที่งาน AIS Business: The DIGITAL FUTURE 2019 คุณวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ ประกาศว่า AIS จะทดสอบคลื่น mmWave ในประเทศไทยเร็วๆ นี้
คลื่น mmWave เป็นแนวทางใหม่ของ 5G ที่จะใช้คลื่นย่านความถี่สูงมากระดับ 26-40GHz สำหรับการส่งข้อมูลแบนด์วิดท์สูงระดับกิกะบิตต่อวินาที โดยเมื่อกลางปีที่ผ่านมา Qualcomm เพิ่งออกชิปเซ็ตที่รองรับคลื่นนี้
ในการบรรยายเดียวกัน คุณวสิษฐ์ระบุว่าโครงสร้างพื้นฐานของ AIS ปรับปรุงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ 5G ไว้พร้อมแล้ว และบริการหลายอย่าง เช่น NB-IoT หรือ eMTC ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน 5G
บทความโดย ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ
ในที่สุดกลุ่มบริษัทดีแทคก็ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ถือเป็นเอกชนรายสุดท้ายที่สิ้นสุดสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ แล้วเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ระบบใบอนุญาตอย่างเต็มตัว
ในอดีตประเทศไทยเริ่มให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้สัญญาร่วมการงานหรือเรียกกันว่าระบบสัมปทาน โดยมีทีโอทีถือครองคลื่น 900 MHz กสท โทรคมนาคมถือครองคลื่น 850 MHz และ 1800 MHz แล้วให้เอกชนคือ เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ เป็นคู่สัญญาสัมปทานตามลำดับ
หลังจากที่ดีแทคประกาศจะเข้าร่วมประมูลคลื่น 900MHz ในวันนี้ (วันที่ 28 ตุลาคม 2561) ซึ่งเป็นวันประมูลคลื่นความถี่ 900MHz ตามที่ทางกสทช.เคยแถลงไปแล้วนั้น ทางผู้บริหารดีแทคได้เดินทางมาประมูลตามที่ได้เคยแถลงไว้
การประมูลเริ่มต้นขึ้นในเวลา 09.45 น. โดยดีแทคเคาะเพิ่มเพียง 1 ครั้ง จากราคาที่กสทช.กำหนดไว้ที่ราคา 37,988 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76 ล้านบาท สิ้นสุดที่ราคา 38,064 ล้านบาท การประมูลสิ้นสุดเวลา 10.40 น. ทำให้ดีแทคคว้าคลื่น 900MHz ในประมูลครั้งนี้ไปครองในที่สุด
ยุคนี้เราสื่อสารผ่านโทรศัพท์ voice call แบบดั้งเดิมน้อยลงกันเรื่อยๆ จนอาจพูดได้ว่า บริการ data กลายเป็นบริการหลักของบรรดาโอเปอเรเตอร์แทน voice ไปแล้ว
ปัจจุบัน โอเปอเรเตอร์ส่วนใหญ่ยังจำกัดปริมาณการโทรออกเป็นจำนวนนาทีตามแพ็กเกจ หรือมีโทรฟรีให้บ้างแต่ก็เป็นการจำกัดเฉพาะบางช่วงเวลา หรือจำกัดเฉพาะการโทรในเครือข่ายเดียวกันเท่านั้น
ล่าสุด เครือข่าย StarHub ของสิงคโปร์ออกแพ็กเกจใหม่ที่ดันเรื่องนี้ไปจนสุดทาง คือโทรออกได้ไม่จำกัด ตราบเท่าที่เรายังซื้อแพ็กเกจ data จาก StarHub ที่ยังไม่หมดอายุ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในวงการโอเปอเรเตอร์
ครบกำหนด 1 สัปดาห์ หลังจากไม่มีผู้ยื่นคำขอเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz รอบใหม่ ทำให้ กสทช. ต้องขยายเวลารับเอกสารออกไปอีก 1 สัปดาห์ จากที่ก่อนหน้านี้ ทรู และเอไอเอส ประกาศไม่เข้าร่วม ทำให้ดีแทคที่เหลือเพียงรายเดียว และประกาศก่อนหน้านี้ว่าขอเวลาตัดสินใจ ซึ่งวันนี้ก็มาถึงกำหนดวันยื่นคำขอแล้ว
ดีแทคแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯ จะทำการยื่นเอกสารเพื่อเข้าร่วมประมูลและเพื่อขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 900MHz ต่อสำนักงาน กสทช. ในวันนี้ (16 ตุลาคม 2561)
คณะกรรมการบริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค มีมติหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า บริษัทจะเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคมนี้
เนื่องจากวันพรุ่งนี้ (9 ตุลาคม 2561) เป็นวันกำหนดยื่นคำขอเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz รอบใหม่ ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายเริ่มออกมาแถลงข้อสรุปว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ โดยล่าสุด ทรู คอร์ปอเรชั่น ก็ได้ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วว่า บริษัทจะไม่เข้าร่วมการประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz นี้
ทั้งนี้ ทรูไม่ได้ชี้แจงสาเหตุที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมการประมูล แบบที่เอไอเอสอธิบาย ตอนนี้ก็เหลือดีแทคว่าจะมีข้อสรุปอย่างไรออกมา
กรณีมีผู้ยื่นเข้าร่วมการประมูล 1 ราย หรือไม่มี กสทช. จะขยายระยะเวลาออกไปอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ ทำให้กำหนดวันประมูลจะเลื่อนออกไปเป็น 28 ตุลาคม 2561
เอไอเอสได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเช้าวันนี้ ว่าตามที่ กสทช. ได้จัดประมูลคลื่น 900MHz รอบใหม่ ซึ่งกำหนดการประมูลในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ บริษัทได้ตัดสินใจจะไม่เข้าร่วมการประมูลดังกล่าว
คำอธิบายของเอไอเอสคือ เมื่อพิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไข รวมถึงราคาของการประมูลในครั้งนี้ โดยมีการประเมินความคุ้มค่าทางการเงินและการลงทุน ประกอบกับการคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นสำคัญ เมื่อพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลแลประโยชน์ในด้านต่าง ๆ แล้วนั้น จึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมการประมูล
AIS ประกาศเปิดใช้งานคลื่นย่าน 1800MHz ชุดใหม่ ที่เพิ่งประมูลได้มาในเดือนสิงหาคม โดยเป็นการใช้งานกับเทคโนโลยี 4G และเปิดพร้อมกันทั่วประเทศ 77 จังหวัด
AIS ระบุว่าคลื่นใหม่จะช่วยให้ลูกค้าใช้งานได้ลื่นขึ้น เร็วขึ้น 15-30% จากเดิม และปัจจุบัน AIS เป็นโอเปอเรเตอร์ที่มีคลื่นมากที่สุดแล้วคือ 120MHz (60MHz x 2) โดยเป็นคลื่นย่าน 1800MHz ความกว้างรวม 20MHz x 2 (รอบก่อน 15MHz รอบนี้ 5MHz)
หลังจากไม่มีโอเปอเรเตอร์รายใดเข้าประมูลคลื่นย่าน 900MHz ที่ กสทช. จัดประมูลเมื่อเดือนสิงหาคม
เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) บอร์ด กสทช. ได้อนุมัติร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 900MHz รอบใหม่ และประกาศวันที่จัดประมูลคือวันที่ 20 ตุลาคมนี้ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในการประมูลรอบใหม่คือ
เรารู้กันดีว่า "รหัสผ่าน" เป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่มีช่องโหว่มาก และวงการไอทีก็มีความพยายามหาสิ่งอื่นมาทดแทนรหัสผ่านหลายอย่าง เช่น ไบโอเมตริก หรือสมาร์ทการ์ด
ล่าสุด โอเปอเรเตอร์สหรัฐ 4 รายใหญ่คือ AT&T, Verizon, Sprint, T-Mobile ร่วมกันเปิดตัว Project Verify วิธีการยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถือที่เราใช้งานอยู่
แนวคิดของ Verify คือผู้ใช้งานโทรศัพท์แต่ละคนมีข้อมูลที่แตกต่างกันอยู่แล้ว เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลในซิมการ์ด หมายเลขไอพี รวมถึงพฤติกรรมการใช้งาน ฯลฯ โอเปอเรเตอร์มองเห็นข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว และสามารถนำมาแยกแยะว่าผู้ใช้แต่ละคนเป็นคนนั้นจริงๆ หรือไม่
หลัง กสทช. มีมติไม่คุ้มครองเยียวยาคลื่น 850 ทำให้ความหวังเดียวของ dtac อยู่ที่ศาลปกครองกลางเท่านั้น และล่าสุดศาลมีคำตัดสินออกมาแล้วว่า dtac ได้รับสิทธิเข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการตามมติ กสทช ในการประชุมครั้งที่ 13/2561 วันที่ 18 กรกฎาคม เป็นระยะเวลา 3 เดือนถึง 15 ธันวาคม 2561
ศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า คำสั่งคุ้มครองมีความมุ่งหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการที่ไม่อาจโอนย้ายไปยังคลื่นอื่นหรือผู้บริการอื่นได้ อาทิ ผู้เจ็บป่วย ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ที่ต้องติดต่อสื่อสารหรืออยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร ที่คลื่น 850 ถูกนำไปใช้ในพื้นที่ห่างไกล หาก dtac ไม่สามารถให้บริการได้ ความเสียหายอาจร้ายแรงยากแก่การเยียวยาในภายหลัง
dtac เซ็นสัญญากับกสท โทรคมนาคม เพื่อใช้งานเสาโทรคมนาคมและอุปกรณ์ไปอีก 8 ปี เพื่อใช้เสาสัญญาณจำนวน 8,815 ต้น หลังจากหมดสัญญาสัมปทานในวันพรุ่งนี้
สัญญาแยกออกเป็นสองฉบับ คือ สัญญาใช้เสาโทรคมนาคม ค่าใช้ประมาณ 1,689 ล้านบาทต่อปี จ่ายล่วงหน้า 3,266 ล้านบาท สัญญาอายุ 8 ปี และต่อสัญญาครั้งละ 3 ปีได้ไม่จำกัด ฉบับที่ 2 เป็นสัญญาใช้อุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายจะคาดเดาได้ยากกว่า โดยเบื้องต้นค่าสื่อนำสัญญาณ คิดเป็น 810 ล้านบาทต่อปี อุปกรณ์โทรคมนาคมภายใน 226-790 ล้านบาทต่อปี อุปกรณ์แต่ละตัวมีอายุต่างกันไป มีการใช้งาน 1-3 ปี สัญญารวม 8 ปี ต่อได้ทีละ 1 ปี