กูเกิลประกาศว่าลิงก์ที่ใช้บริการย่อ URL goo.gl จะไม่สามารถใช้งานได้ มีผลตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป
โดยเริ่มตั้งแต่ 23 สิงหาคม 2024 เมื่อเข้าลิงก์จาก https://goo.gl/* จะมีข้อความแสดงขึ้นมาเพื่อเตือนว่า URL นี้ จะไม่สามารถใช้งานได้หลัง 25 สิงหาคม ปีหน้า กูเกิลจึงเตือนนักพัฒนาที่ใช้เวิร์กโฟลว์ผ่าน URL goo.gl นี้ เช่น 302 redirect ว่าอาจได้รับผลกระทบตั้งแต่เดือนหน้าเลย
กูเกิลประกาศแผนหยุดให้บริการย่อ URL goo.gl มาตั้งแต่ปี 2018 โดยปิดการย่อ URL ชุดใหม่ แต่ URL ที่สร้างไปแล้วยังสามารถใช้งานต่อไปได้ ซึ่งเวลานั้นก็ไม่ได้บอกว่าจะปิดบริการทั้งหมดเมื่อใด
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา ทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ร่วมมือกับ มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (THNIC) เปิดตัวระบบย่อลิงก์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ dg.th เพื่อให้การแชร์ลิงก์ ของหน่วยงานภาครัฐไทยได้อย่างปลอดภัยและน่าเชื่อถือ โดยระบบจะมีการป้องกันการทำลิงก์ที่ไม่เหมาะสม ด้วยการเพิ่มการกรองคำที่ไม่เหมาะสม หากใช้งานคำดังกล่าวจะต้องได้อนุมัติจากผู้ดูแลหน่วยงานนั้น
สำหรับบริการย่อลิงก์หน่วยงานรัฐในต่างประเทศก่อนหน้านี้ มีบริการย่อลิงก์ 1.usa.gov ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ให้บริการในลักษณะคล้ายกัน
หากหน่วยงานรัฐไทยหน่วยงานใดสนใจ สามารถติดต่อ DGA ได้ตามรายละเอียดการติดต่อในเว็บไซต์ dg.th
Google ประกาศว่า goo.gl ซึ่งเป็นบริการย่อ URL เพื่อความสะดวกในการแชร์ลิงก์และวัดทราฟฟิกออนไลน์จะหยุดให้บริการ โดย Google แนะนำให้ไปใช้งานระบบ Firebase Dynamic Links (FDL) หรือว่าใช้บริการจากเจ้าอื่นอย่าง Bitly, Ow.ly แทน
Martin Georgiev นักวิจัยอิสระ และ Vitaly Shmatikov จากมหาวิทยาลัย Cornell รายงานถึงอันตรายของการใช้บริการย่อ URL ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงไฟล์ที่แชร์อย่างเป็นความลับได้
ทุกวันนี้บริการแชร์ไฟล์บนคลาวด์ส่วนมากมักมีบริการแชร์ผ่าน URL โดยตรง แต่ URL มักมีโทเค็นที่คาดเดาแทบไม่ได้ฝังอยู่ทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถสแกนหา URL ทั้งหมดที่เป็นไปได้ แต่เมื่อใช้บริการย่อ URL แล้วบริการเหล่านี้มักแปลง URL เป็นรูปแบบที่คาดเดาได้ ทำให้แฮกเกอร์สามารถค้นหาไฟล์ที่ควรถูกแชร์อย่างลับๆ
ทีมงานสแกน URL ที่ถูกย่อของ bit.ly อย่างสุ่มจำนวนหนึ่งร้อยล้านครั้ง และพบ URL ที่ชี้ไปยังไฟล์หรือโฟลเดอร์ของ OneDrive ทั้งหมด 25,594 URL และชี้ไปยัง SkyDrive 21,487 URL ขณะที่ฝั่งกูเกิลพบ 44 URL ไปยังโฟลเดอร์
หลังจากที่มีเอกสารหลุดจากทางไมโครซอฟท์เรื่องการเลิกใช้แบรนด์ Nokia ล่าสุด ผมได้สังเกตในทวิตเตอร์ของ @NokiaUS ว่าตอนนี้ทางไมโครซอฟท์ดีไวซ์เริ่มมีการเปลี่ยนลิงก์ย่อจากเดิมที่ใช้ "nokia.ly" ไปเป็น "lumia.ly" แทน (ตามตัวอย่างทวีตท้ายเบรก)
จากการตรวจสอบลิงก์ของ lumia.ly พบว่า ลิงก์นี้ชี้ไปยังหน้าเว็บของ po.st บริการย่อลิงก์ให้สั้นลงรายหนึ่ง ขณะที่ลิงก์ของ nokia.ly กลับลิงก์ไปยังหน้าเว็บใหม่ของไมโครซอฟท์แทน
บริการย่อลิงก์ 1.usa.gov ถูกตรวจพบโดย Symantec ว่ามีการนำไปใช้ในการสแปมหรือหลอกลวง ด้วยวิธีการใช้ลิงก์ต่อเนื่องเป็นทอดๆ ส่งต่อไปยังปลายทางที่เป็นเว็บสแปมหรือหลอกลวง โดยผู้ไม่ประสงค์ดีจะใช้ลิงก์ 1.usa.gov หลอกให้ผู้รับเชื่อว่าเป็นข้อความมาจากหน่วยงานรัฐบาลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลงกลคลิกลิงก์เหล่านั้นอย่างไม่ยากนัก
คนแถวนี้คงรู้จักบริการย่อลิงก์ยอดนิยมอย่าง bitly (เปลี่ยนชื่อจาก bit.ly แล้วนะครับ) ซึ่งตอนนี้เปิดบริการที่น่าสนใจคือ search engine
แต่ระบบค้นหาของ bitly ต่างไปจากระบบค้นหาแบบดั้งเดิมอย่างกูเกิล เพราะ bitly จะไม่มี spider/crawler ไล่สแกนหน้าเว็บ แต่จะใช้ฐานข้อมูล URL จำนวนมหาศาลที่ถูกส่งเข้ามาสร้างลิงก์ย่อ (มากถึงวันละ 80 ล้านลิงก์!) ผลก็คือ bitly จะแสดงลิงก์ที่กำลังเป็นกระแสในขณะนั้นได้ดีกว่า (ซึ่งบางลิงก์บางเพจ อาจจะใหม่จนยังไม่มี PageRank ด้วยซ้ำ) ส่วนการจัดอันดับความสำคัญของลิงก์ bitly ก็ดูจากอัตราการคลิกลิงก์นั่นเอง
ตอนนี้ระบบค้นหาของ bitly ยังอยู่ในขั้นเบต้า และอนาคตจะเปิดให้บริการในฐานะ bitly Enterprise
เดิมทีโดเมนแบบย่อของกูเกิลใช้ goo.gl ซึ่งอาจจะยังยาวไปเมื่อเทียบกับคู่แข่งในแวดวงเดียวกันอย่าง t.co ของ Twitter
ล่าสุดกูเกิลประกาศซื้อโดเมนใหม่คือ g.co ซึ่งมีรูปแบบการใช้งานต่างไปจาก goo.gl ตรงที่กูเกิลเองเท่านั้นจะใช้ g.co ได้ (goo.gl ผู้ใช้สามารถใช้ได้ด้วย) และกูเกิลก็ประกาศชัดว่า g.co จะถูกใช้สำหรับ URL ของกูเกิลเอง เพื่อป้องกันความสับสนของผู้ใช้ว่า g.co จะลิงก์ไปยังที่ไหนกันแน่
กูเกิลยืนยันว่าจะให้บริการ goo.gl ต่อไปตามปกติ
ที่มา - Official Google Blog
Twitter ประกาศว่าต่อจากนี้ไปถ้าโพสต์ข้อความผ่านหน้าเว็บ twitter.com และใส่ลิงก์ที่ยาวเกิน 140 ตัวอักษร ลิงก์ของเราจะถูกย่ออัตโนมัติด้วยบริการย่อลิงก์ t.co ของบริษัทเอง
Twitter ให้บริการย่อลิงก์ผ่าน client ตัวอื่นๆ มาสักระยะแล้ว แต่บนหน้าเว็บเพิ่งจะทำได้ (จริงๆ เคยลองทำเมื่อนานมาแล้วแต่เลิกไป) อย่างไรก็ตาม t.co ไม่มีบริการเก็บสถิติการคลิกเหมือนกับบริการย่อลิงก์อื่นๆ เช่น bit.ly ครับ
ที่มา - Twitter Blog
ข่าวนี้สั้นๆ ครับ หลังจากกูเกิลเปิดบริการ URL สั้นของตัวเองในชื่อ goo.gl เมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งใช้ได้เฉพาะจากบริการของกูเกิลเท่านั้น ล่าสุดกูเกิลได้เปิด API สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมที่ต้องการใช้ goo.gl ในบริการของตัวเองแล้ว
บริการ API ตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google Code Labs (เว็บไซต์) อีกไม่ช้าเราคงเห็น Twitter client หลายตัวเริ่มนำไปใช้กัน
ที่มา - Google Code Blog
Twitter ประกาศความร่วมมือในการเชื่อมโยง Twitter และ Ping โดย Ping จะสามารถแบ่งปันกิจกรรมบน Ping เช่น โพสต์, รีวิว หรือการซื้อเพลงไปยังบัญชี Twitter ได้ และสามารถดูข้อมูลเพลงที่โพสต์ผ่าน Ping บนหน้า Twitter นั้นได้ทันที
ที่มา: MacRumors
อีกข่าวใกล้ๆ กัน มีคนพบว่าแอปเปิลจดโมน iTun.es ไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2006 และอาจจะใช้เป็น URL ย่อในบริการนี้ก็เป็นได้
ที่มา: MacRumors
หลังๆ นี้มีผู้ให้บริการย่อ URL ยาวๆ ให้กลายเป็น URL สั้นๆ หรือที่เรียกกันว่า URL Shortener ผุดขึ้นมากมาย แต่ที่นิยมใช้กันคงจะหนีไม่พ้น TinyURL และ bit.ly รวมไปถึง goo.gl ด้วย
ทางเว็บ Royal Pingdom ซึ่งเป็นเว็บบล็อกที่ให้ข้อมูลด้าน Uptime และเสถียรภาพของระบบชื่อดังจึงได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพและเสถียรภาพของผู้ให้บริการย่อ URL ทั้งหมดรวม 7 ตัวนำมาเปรียบเทียบกัน
ผมขอนำข้อสังเกตที่น่าสนใจมาสรุปได้ดังนี้
ไม่นานมานี้ Google แอบเพิ่มคุณสมบัติสร้าง QR Code ให้แก่ goo.gl ซึ่งเป็นระบบบริการย่อ URL ของ Google (ข่าวเก่า) ทำให้ Bit.ly ผู้ให้บริการย่อ URL รายใหญ่อีกเจ้าหนึ่งรีบออกมาประกาศทันทีว่า ผู้ใช้งานที่ใช้ Bit.ly ก็สามารถสร้าง QR Code ผ่านบริการของตนเองได้แล้ว
QR Code จะถูกสร้างโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเรียกใช้บริการย่อ URL ผ่านเซอร์วิส Bit.ly ผู้ใช้งานสามารถเรียกดู QR Code ได้โดยเติม .qr หลัง URL ที่ถูกย่อเรียบร้อยแล้ว (ตัวอย่างเช่น http://bit.ly/9STstv.qr)
โดเมน .ly ซึ่งเราเห็นบ่อยในช่วงหลังจากบริการย่อ URL สั้น (เช่น bit.ly) เป็นของประเทศลิเบีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ไม่ดีนักกับสหรัฐและประเทศของโลกตะวันตก
ล่าสุดเพิ่งมีกรณีว่า NIC.ly ผู้รับจดทะเบียนโดเมน .ly ของลิเบีย สั่งปิดโดเมน vb.ly ด้วยเหตุผลว่าเป็นบริการ URL สั้นที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งผิดกฎหมายของประเทศลิเบีย
จุดที่ยังเป็นปัญหา
จริงๆ ไม่ต้องอธิบายกันมาก ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่า McAf.ee เป็นบริการย่อ URL จาก McAfee ส่วนจุดขายนั้นย่อมเป็นเรื่องความปลอดภัยในการกรอง URL ที่อาจเป็นอันตรายผ่าน McAfee Global Threat Intelligence
นี่อาจเป็นโอกาสอันดีของ McAfee เพราะ Twitter เพิ่งโดน XSS ไปพอดี อย่างไรก็ตาม บริการนี้ McAfee อาจไม่เน้นบริการนี้มากนัก แต่เป็นเหมือนเดโมช่วยประชาสัมพันธ์แบรนด์ของบริษัทมากกว่า
ที่มา - TechCrunch
ถ้าใครเคยใช้ Twitter ในรุ่นแรกๆ อาจจะพอจำได้ว่า Twitter จะย่อลิงก์ยาวๆ ให้เราโดยอัตโนมัติ ในกรณีโพสต์ผ่านหน้าเว็บ โดยใช้บริการของ tinyurl และ bit.ly แต่ภายหลังฟีเจอร์นี้ถูกถอดออกไป ถ้าอยากให้ย่อลิงก์อัตโนมัติ เราจำเป็นต้องใช้ Twitter client แทน
ตอนนี้ฟีเจอร์ย่อลิงก์อัตโนมัติกำลังจะกลับมาสู่หน้าเว็บของ Twitter อีกครั้ง แต่เป็น Twitter ทำเองในชื่อ t.co
บริการ URL สั้นตามสมัยนิยม ของ Amazon เลือกใช้ bit.ly Pro เจ้าตลาดในด้านนี้ และชื่อที่ใช้คือ amzn.to
ก่อนหน้านี้ Amazon เคยใช้ amzn.com เป็นการภายในอยู่พักหนึ่ง แต่ล่าสุดก็เปลี่ยนเป็น amzn.to ตามที่เห็น การใช้บริการ URL สั้นจะช่วยให้แบรนด์ของ Amazon ในโลก Twitter โดดเด่นขึ้น ซึ่งอาจมีผลต่อยอดขายได้เช่นกัน
bit.ly นั้นเปิดเผยสถิติว่า ในเดือนมีนาคม มีคนใช้บริการ URL สั้นถึง 3.4 พันล้านครั้ง
ที่มา - TechCrunch
เราคงเดากันได้ไม่ยากว่า การใช้บริการย่อ URL ให้สั้นลงหรือ URL shortener จะทำให้เข้าเว็บได้ช้าลง เพราะต้อง redirect ก่อนหนึ่งรอบ คำถามคือมันช้าแค่ไหน
มีบริษัทชื่อ WatchMouse ได้ทดสอบบริการ URL สั้นที่คนใช้กันเยอะๆ จำนวน 14 ชื่อ ผลออกมาว่าบริการ URL สั้นหลายอันเข้าขั้นแย่ ที่ห่วยสุดคือ fb.me ของ Facebook ซึ่งทำให้เราเสียเวลาเพิ่มถึงเกือบ 2,300 มิลลิวินาที (2.3 วินาที) บริการที่เป็นแชมป์คือ goo.gl และ youtu.be ของกูเกิล ใช้เวลาประมาณ 300 มิลลิวินาที
ช่วงนี้ ชื่อ URL สั้นหรือ URL shortening กำลังเป็นเรื่องฮิต เราเห็นทั้ง goo.gl, fb.me, youtu.be คราวนี้เป็นคิวของ Bing บ้าง
แม้จะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีคนสังเกตเห็นแล้วว่าพนักงานของไมโครซอฟท์จะใช้ binged.it สำหรับลิงก์ใน Twitter ซึ่งถ้าลองกดเข้าไปดูจะพบว่าเป็นบริการของ bit.ly นั่นเอง (ตามข่าว bit.ly Pro ก่อนหน้านี้)
ชื่อดีมีความหมายครับ แต่ทว่า bing.com ยาว 7 ตัว ส่วน binged.it ยาว 8 ตัวนะ
ถัดจาก wp.me, fb.me และ goo.gl เราก็พบกับ youtu.be ซึ่งไม่ต้องบอกว่ามาจากเว็บไหน
การเปลี่ยน URL จะใช้แพทเทิร์นตามนี้ครับ (ผมว่ามันยังยาวอยู่ดีนะ)
(ต้นฉบับ) http://www.youtube.com/watch?v=FdeioVndUhs
(ย่อแล้ว) http://youtu.be/FdeioVndUhs
ตอนนี้ทดลองใช้ได้โดยเชื่อมบัญชีใน YouTube เข้ากับ Twitter หรือ Google Reader ทาง YouTube การันตีว่าถ้าเห็น URL นี้แปลว่ามันเป็นวิดีโออย่างเดียวไม่มีอย่างอื่น
สงสัยข่าวหน้าเราจะเจอ li.ve, wi.ki, m.sn
ที่มา - YouTube Blog
สมรภูมิ URL สั้นหรือ URL Shortening ยังระอุไม่หยุด หลังจาก goo.gl และ fb.me เข้ามาร่วมวง ทางผู้นำในตลาดอย่าง bit.ly ก็ได้ตอบโต้โดยเปิดบริการ bit.ly Pro
bit.ly Pro มีจุดเด่นเหนือ bit.ly แบบปกติ 2 อย่าง ได้แก่
ตอนนี้ยังเปิดบริการเป็นรุ่นเบต้าแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย และให้เฉพาะเว็บไซต์หนังสือพิมพ์และบล็อกเกอร์รายใหญ่เท่านั้น
สมรภูมิ URL สั้นเริ่มระอุอีกครั้ง เมื่อยักษ์ใหญ่สองรายลงมาเล่นในเกมนี้
รายแรกคือกูเกิลกับชื่อ goo.gl โดยชูจุดขายด้านความเร็วและเสถียรภาพซึ่งมากับบริการของกูเกิลอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังการันตีเรื่องความปลอดภัย เพราะ URL ของจริงจะถูกตรวจสอบมัลแวร์ก่อนเสมอ (แบบเดียวกับ Firefox และ Chrome ที่เช็คกับรายชื่อเว็บที่กูเกิลเก็บเอาไว้) อ่านแล้วอยากใช้ต้องติดตั้ง Google Toolbar หรือใช้ผ่าน FeedBurner - Google