ไมโครซอฟท์ได้เข้าซื้อ Teamprise หนึ่งใน SourceGear LLC ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์ประเภท Team Collabolation ที่ให้นักพัฒนาโดยใช้ภาษาจาวาบน Eclipse IDE รันบนยูนิกส์ ลีนุกส์ และ Mac OS X พัฒนาแอพพลิเคชันร่วมกับ Visual Studio Team Foundation Server (TFS) ได้ โดยไมโครซอฟท์มีแผนที่จะพัฒนา Teamprise ให้เชื่อมต่อกับ Visual Studio 2010 และเปิดตัวในช่วงวันเปิดตัว Visual Studio 2010 คือราว 22 มีนาคมของปีหน้า
เมื่อวานนี้ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยคลิปโฆษณาของ Visual Studio 2010 และ Bing รวม 2 คลิป โดยคลิปโฆษณา Visual Studio 2010 ใช้ชื่อว่า "Bug Killer" นำเสนอฟีเจอร์ของ Visual Studio รุ่นใหม่พร้อมกับการกำจัด bug คือผู้หญิงพูดมาก 2 คน ออกมาสอดรับกับเทศกาลฮาโลวีน และคลิปโฆษณา Bing ใช้ชื่อว่า "Bing goes the Internet" โดยให้กลุ่มนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งเป็นนายแบบ-นางแบบโฆษณา ลองดูวีดีโอได้จากข้างล่าง
ที่มา: ZDNet
ช่วงเวลาการอัพเกรด Visual Studio ก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อไมโครซอฟท์เปิดตัว Visual Studio 2010 Beta 2 พร้อมๆ กับประกาศว่าจะวางขายตัวจริงในวันที่ 22 มีนาคม 2010 โดยมีรายละเอียดทั้งราคาและแนวทางการอัพเกรดมาเสร็จสรรพ
ที่น่าสนใจคือ Visual Studio 2010 นั้นจะไม่มีรุ่น Standard (299 ดอลลาร์) อีกต่อไป แต่จะเริ่มต้นที่รุ่น Professional ที่มาราคา 799 ดอลลาร์เท่านั้น ในแง่หนึ่ง อาจจะเป็นเพราะ Visual Studio Express เองก็กำลังมีความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนความแตกต่างน้อยลง
หลังจากแจกโปรแกรมต่าง ๆ ไปกับโครงการ BizSpark สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่และโครงการ DreamSpark สำหรับนักศึกษาแล้ว ไมโครซอฟท์ยังคงไม่สะใจพอ เลยเข็นโครงการ WebsiteSpark ขึ้นมาอีกโครงการเพื่อบริษัทที่รับทำเว็บโดยเฉพาะโดยมีเงื่อนไขสองข้อคือ
ScottGu ได้เผยความสามารถใหม่ของ Visual Studio 2010 ด้านการสนับสนุน Multi-Monitor ซึ่งปกติแล้วใน Visual Studio รุ่นก่อนหน้านี้ จะมีการจัดวางหน้าต่างย่อย เช่น editor, designer, properties ฯลฯ ไว้ในหน้าต่างหลักอันเดียว (single top-level window) ซึ่งนักพัฒนาไม่สามารถดึงหน้าต่างย่อยออกมาข้างนอกได้
หลังจากเปิดตัวโปรแกรมรุ่นใหม่ไปเมื่อปีก่อน ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2010 และ .NET Framework 4.0 รุ่นเบต้า 1 แล้ว
เขียนรวบสองข่าวเลยแล้วกัน
จริงๆแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ไมโครซอฟท์ออกโปรแกรมที่ชื่อ Web Platform Installer ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเริ่มต้นการสร้างเว็บแอพพลิเคชันได้ด้วยการลงโปรแกรมเพียงครั้งเดียว โดยโปรแกรมจะลงโปรแกรมต่างๆที่จำเป็นเช่น IIS7, Visual Web Developer 2008 Express Edition, .NET Framework, SQL Server 2008 Express Edition ให้หรือจะเลือกลงเองเป็นส่วนๆก็ได้
หลังจากประกาศให้นักพัฒนาเตรียมตัวกันมาซักระยะหนึ่ง วันนี้ไมโครซอฟท์ก็เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดาวน์โหลด Silverlight 2.0 และชุดสำหรับนักพัฒนาได้แล้วที่เว็บไซต์ Silverlight.net
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่เคยติดตั้ง Silverlight 2.0 Beta 2 ไว้แล้วนั้น ในช่วงระยะนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนผู้ใช้จะพบข้อความเพื่อบอกให้ปรับรุ่นขึ้นไปเป็น Silverlight 2.0 หลังจากนั้นตัวรันไทม์จะเริ่มทำการปรับรุ่นให้เอง
สิ่งที่ออกมาพร้อมกับ Silverlight 2.0 ในครั้งนี้ยังมีเครื่องมือพัฒนาใหม่ที่ไม่ธรรมดา เพราะมันคือปลั๊กอินสำหรับ Eclipse นั่นเอง
เร่งเครื่องสู้เต็มกำลังเลยนะเนี่ย
ที่มา: ScottGu's Blog
หลังจากที่MicrosoftเปิดตัวVisual Studio 2010 และ .NET Framework 4.0(ข่าวเก่า) Microsoftได้ให้รายละเอียดคร่าวๆและสาเหตุถึงการพัฒนาVisual Studio 2008 สู่ Visual Studio 2008 ดังนี้ครับ
1.เราสามารถที่จะพัฒนาแอพพลิคันคุณภาพสูง ซึ่งสามารถให้คุณค่าในเชิงธุรกิจจริงๆ ได้อย่างไร
2.เราสามารถที่จะพัฒนาโปนเจคในลักษณะ ALM ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร
3.ในกระบวนการพัฒนาโปรเจค เราจะทำอย่างไรให้สมาชิกในทีมพัฒนา ทั้งทางด้านเทคนิคและที่ไม่ใช่ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้
4.ทำอย่างไร เราถึงสามารถใช้คุณค่าของโคดที่มีอยู่แล้วได้มากที่สุด
Microsoft Windows 7 ได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลแบบขนาน (parallel processing) โดยไมโครซอฟท์ชี้จุดอ่อนของ Win32 อันเป็นส่วนสำคัญของ Windows ว่าไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาโปรแกรมแบบขนาน (parallel application) และในอนาคต ไมโครซอฟท์อาจจะตัด Win32 ออกไป แล้วทดแทนด้วย Managed code ของ .NET ที่จัดเตรียม API สำหรับการพัฒนาโปรแกรมแบบขนาน
ไมโครซอฟท์ยังได้แนะนำ Microsoft Robotics Studio เครื่องมือพัฒนาโปรแกรมสำหรับหุ่นยนต์ ที่น่าทึ่งก็คือ เครื่องมือนี้ยังเหมาะสำหรับพัฒนาโปรแกรมแบบขนานเพื่อทำงานบนโปรเซสเซอร์ multi-core และการประมวลผลแบบกระจาย (distributed computing) ได้อีกด้วย
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Visual Studio 2010 โค้ดเนม Rosario แล้ว โดยฟีเจอร์ใหม่เน้นไปทาง application life-cycle management (ALM) ผลิตภัณฑ์หลักจะเน้นไปที่ชุด Visual Studio Team System ที่เน้นการทำงานเป็นทีม สนับสนุน UML ในตัว และมีฟีเจอร์ทำนองเดียวกับ "กล่องดำ" บนเครื่องบิน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์สามารถรู้ข้อมูลที่จำเป็นในการเกิดบั๊ก จะได้แก้ได้ถูกจุดมากขึ้น ยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัดว่า Visual Studio 2010 จะออกเมื่อไร
ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่น่าจับตามอง เมื่อคุณ Scott Guthrie รองประธานบริษัทฝ่าย Developer ได้ประกาศว่าต่อไปนี้ไมโครซอฟท์จะผนวกเอา jQuery ที่เป็นเฟรมเวิร์กสำหรับจาวาสคริปต์โอเพนซอร์สยอดนิยม เข้ามาไว้เป็นส่วนหนึ่งของ Visual Studio โดยไม่มีการแก้ไขต้นฉบับ สำหรับส่วนขยายเพื่อรองรับ Intellisense สำหรับ jQuery นั้นจะเปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานได้ภายในสองถึงสามสัปดาห์ และจะผนวก jQuery เข้าไปใน ASP.NET MVC ด้วย
ไมโครซอฟท์ยังได้วางแผนใช้งาน jQuery ในผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่น ASP.NET Ajax Control Toolkit, Ajax helper ต่างๆใน ASP.NET MVC และความสามารถใหม่ๆ ASP.NET AJAX เป็นต้น และจะส่งแพทช์หรือรายงานข้อผิดพลาดต่างๆกลับไปที่ jQuery เช่นเดียวกับผู้ใช้อื่นๆ
บิล เกตส์ออกมาแถลงโครงการ DreamSpark ซึ่งเป็นการแจกซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ฟรีให้กับนักศึกษาระดับอุดมศึกษาใน 11 ประเทศทั่วโลก (ยังไม่มีประเทศไทย) โดยซอฟต์แวร์ที่แจกฟรีมีดังนี้
โดยผู้ที่เข้าข่ายต้องมี Windows Live ID และ authenticate ผ่านระบบของมหาวิทยาลัยจึงจะดาวน์โหลดได้ ในเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลว่าจะขยายไปยังนักเรียนมัธยมในช่วงปลายปีนี้ และประเทศอื่นๆ ในปีหน้า
จากข่าวเก่าที่บอกไว้ว่าจะได้เห็น Visual Studio 2008 จริงๆในปลายเดือนพฤศจิกายน แต่วันนี้ถ้าใครได้เข้าไปยังเว็บไซต์ Microsoft Developer Network หรือ MSDN ก็จะได้พบกับข่าวใหม่ใจความว่า "ผู้ที่เป็นสมาชิก MSDN เริ่มดาวน์โหลด Visual Studio 2008 RTM ได้แล้ว" นั่นก็หมายความว่า .NET Framework 3.5 และ Visual Studio 2008 ออกแล้วอย่างไม่เป็นทางการนั่นเอง
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก MSDN ก็สามารถดาวน์โหลด Visual Studio 2008 Express Edition มาใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บไซต์ของ Visual Studio 2008 Express Edition ได้เช่นกัน
ไมโครซอฟท์เตรียมออก Visual Studio 2008 และ .NET Framework 3.5 ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
.NET 3.5 เป็นการปรับปรุงที่ตัวไส้ในเสียเยอะ (ต่างจาก .NET 3.0 ที่เป็นการเพิ่มองค์ประกอบอื่นๆ แต่ยังใช้แกนของ .NET 2.0 เหมือนเดิม) ในเวอร์ชันนี้จะใช้ CLR 2.0 SP1 ซึ่งสนับสนุน C# 3.0 และ VB.NET 9.0 นอกจากนี้ยังมี LINQ ที่เปิดตัวมาได้ซักระยะแล้ว
ส่วน Visual Studio 2008 หรือที่เราเรียกกันว่า Orcas นั้นนอกจากจะสนับสนุนฟีเจอร์ของ .NET 3.5 แล้ว ยังมี visual designer สำหรับ WPF มาด้วย ไมโครซอฟท์โฆษณาว่าจุดขายของ VS2008 คือการพัฒนาบน Vista, Office 2007, Silverlight และ .NET Compact Framework
หลังจากอยู่ในศูนย์วิจัยของไมโครซอฟท์มานาน ในที่สุดภาษา F# ก็จะได้รับการผลักดันให้ทำงานร่วมกับ Visual Studio ได้แล้ว
ภาษา F# นั้นเป็นภาษาสคริปต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยศูนย์วิจัยของไมโครซอฟท์สำหรับสร้างภาษาแบบ Functional Programming ด้วย .NET ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งแต่ก่อนทำงานได้กับ .NET SDK เท่านั้น ทำงานร่วมกับ Visual Studio ได้ไม่ดีนัก (ผมเคยลองแล้วครับ ยากมากๆ เลย)
การผลักดันให้มาเป็นหนึ่งในภาษาหลักสำหรับ Visual Studio ทำให้นักพัฒนา .NET มีทางเลือกสำหรับภาษา Functional มากขึ้น
ที่มา - TheServerSide.NET
Service Pack ตัวนี้ อัพเดตหลายเวอร์ชันพร้อมกันเลยนะครับ รวมไปถึงคนที่ใช้ Express Edition แบบฟรีด้วย จากที่ลองลงดูแล้ว ก็พบว่า Visual Studio ทำงานเร็วขึ้นพอสมควร (บนเครื่องผมน่ะนะ) แล้วบั๊กน่ารำคาญหลายๆ ตัวก็ได้รับการแก้ไขแล้ว และจากที่ลองยังไม่พบปัญหาอะไร สำหรับคนที่ใช้ Professional Edition, กับ Express Edition ให้โหลดตัว Team Suite SP1 ครับ
สำหรับแฟนๆ MySQL โดยเฉพาะครับ เมื่อ MySQL AB ประกาศว่าได้ร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในระดับ Alliance-level partner เรียบร้อยแล้ว และกำลังพัฒนาปลั๊กอินสำหรับเชื่อมต่อกับ Visual Studio 2005 ให้ทำงานร่วมกันได้มากขึ้นอยู่ครับ
ที่มา - Theserverside.NET