BusinessKorea รายงานจากผู้เกี่ยวข้องของซัมซุงว่า ซัมซุงจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาแข่งกับ Google Glass โดยจะใช้ชื่อว่า Gear Glass ในงาน IFA ที่กรุงเบอร์ลินที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งโดยปกติทุกปี ซัมซุงจะใช้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในตระกูล Galaxy Note
ตัว Gear Glass จะแตกต่างจาก Google Glass เล็กน้อย เพราะไม่ได้มีลักษณะเป็นแว่นสวมใส่ใบหูสองข้าง แต่เป็นเหมือนชุดหูฟังพร้อมหน้าจอที่สวมใบหูได้เพียงข้างเดียว (ภาพม็อคอัพท้ายข่าว) นอกจากนั้น คาดว่า Gear Glass จะรันบนระบบปฏิบัติการ Tizen เช่นเดียวกับ Gear 2 และ Gear Fit อีกด้วย
Richard Yu ผู้บริหารของหัวเว่ย (คนเดียวกับที่บอกว่าแอปเปิลไม่มีนวัตกรรมแล้ว) ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ TechRadar ในงานเปิดตัว Ascend P7 ว่า การใช้จอภาพที่ความละเอียดระดับ QHD บนมือถือเป็นเรื่องไร้สาระ (nonsense) เพราะผู้ใช้ยังไม่สามารถแยกแยะความละเอียดระหว่าง Full HD และ 2K ได้ด้วยซ้ำ Yu ยังกล่าวต่อว่าหัวเว่ยสามารถทำให้สมาร์ทโฟนของบริษัทใช้จอที่ความละเอียดระดับ QHD ได้ แต่มันจะกินพลังงานมากและเพิ่มต้นทุนให้สินค้าโดยที่ไม่ให้ผลอะไรเป็นการตอบแทน
ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์รายใหญ่อย่าง Epson เข้าร่วมวงผู้ผลิตแว่นตาอัจฉริยะอีกรายแล้วด้วยการเปิดตัว Moverio BT-200 รุ่นต่อยอดที่ปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า BT-100 ซึ่งเป็นหน้าจอแบบสวมศีรษะในทรงของแว่นตา รัน Android ในตัว
ในรุ่น BT-200 นี้ แว่นตา Moverio ปรับให้บางเบาลง และเป็นทรงแว่นตามากขึ้น เทียบกับรุ่นก่อนหน้าแล้วกะทัดรัดลงถึง 60% แต่ยังสามารถแสดงหน้าจอตรงหน้า ที่ขนาดเสมือนกับทีวี 80" มีเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว จับตำแหน่งศีรษะ และกล้องหน้าสำหรับถ่ายภาพนิ่ง-วิดีโอ
ไมโครซอฟท์จดสิทธิบัตร Wearable Personal Information System ซึ่งกล่าวถึงนาฬิกาสำหรับการออกกำลังกายและกิจกรรมกลางแจ้ง และแท่นชาร์จที่เป็นด็อกในตัว (ดูภาพประกอบท้ายข่าว)
สิทธิบัตรกล่าวว่า ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอพจับระยะทางที่วิ่งไป อัตราการเต้นของหัวใจ และแคลอรี่ที่ใช้ไปได้ (ภาพที่ 1) นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถถอดตัวเรือนนาฬิกาไปใช้กับอุปกรณ์อื่นในอนาคตเพื่อเก็บข้อมูลได้ (ภาพที่ 2) และสามารถวางกับแท่นชาร์จที่เป็นด็อก (ภาพที่ 4) เพื่อการรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์อื่น และตั้งเป็นนาฬิกาปลุกได้ (ภาพที่ 3)
หลังจากปั่นกระแสรักสุขภาพในปีนี้หลังการออก Galaxy S5 และ Gear รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดชีพจร รวมถึงการปรับปรุงแอพ S Health ให้ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์พวกนี้ได้ดีขึ้น ล่าสุดซัมซุงเตรียมจัดงานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์สายสุขภาพโดยเฉพาะในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้แล้ว
ในบัตรเชิญสื่อที่ซัมซุงส่งมา ไม่ได้ระบุว่าในงานจะมีการเปิดตัวอะไรบ้าง ฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์ ที่พอจะเดาได้ตอนนี้ก็มีจากข่าวลือ ข่าวหลุดที่ออกมาเช่น Gear Solo นาฬิกาอัจฉริยะใส่ซิมได้ในตัวไม่ง้อสมาร์ทโฟน และ S Band สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพอีกรุ่น
กลายเป็นประเด็นร้อนชั่วข้ามคืน หลังจากเว็บไซต์ Teardown.com ในเครือของกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา TechInsights ออกมาแกะ Google Glass พร้อมกับประเมินราคาของเจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวว่าแท้จริงแล้วต้นทุนเพียงแค่ประมาณ 80 เหรียญเท่านั้น (ประมาณ 2,600 บาท) จากราคาขายในปัจจุบันที่ 1,500 เหรียญ (ประมาณ 48,600 บาท)
LG ฝรั่งเศสยืนยันข้อมูลกับสื่อภายในประเทศว่า นาฬิกาอัจฉริยะ LG G Watch ที่เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ จะวางขายในฝรั่งเศสเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งราคา 199 ยูโร หรือประมาณ 9,000 บาท
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลราคาของ G Watch ในประเทศอื่นๆ แต่คาดว่า LG น่าจะตั้งราคา 199 ยูโรเท่ากันในยุโรป และ 199 ดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา (เท่ากับ Gear 2 ของซัมซุง)
ที่มา - Unwired View
วันนี้ Acer เปิดตัวสินค้าใหม่หลายชิ้นด้วยกัน โดย 3 ชิ้นแรกที่มานำเสนอนี้นั้นประกอบด้วย Acer Liquid Leap ซึ่งเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (คล้าย ๆ กับพวก FitBit) ตัวแรกของบริษัท, Acer Liquid Jade สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ และ Acer Iconia Tab 7 แท็บเล็ตรัน Android ราคาเบา ๆ
เริ่มที่ Liquid Leap ที่เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพอัจฉริยะตัวแรกของบริษัท โดย Acer ไม่ได้เผยรายละเอียดของ Liquid Leap มากนัก บอกแต่เพียงว่าจะมีความกว้าง 17 มิลลิเมตร และจะวางขายในไม่กี่ประเทศพร้อมกับตัวสมาร์ทโฟน Liquid Jade ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนจอ 5 นิ้วพร้อมกระจกจอแบบ Gorilla Glass โดยรายละเอียดอื่น ๆ ก็ยังไม่ระบุมาเช่นกัน
ต่อจากข่าว Nike ปลดพนักงานฝ่ายฮาร์ดแวร์ FuelBand, เตรียมเลิกทำผลิตภัณฑ์ Wearable พนักงานของ Nike ทีมนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตก็กลายเป็น "มนุษย์ทองคำ" ของวงการไอทีไปทันที
บริษัทที่รุมจีบพนักงานสายนี้ไปทำงานด้วยก็มีตั้งแต่ Nest, Microsoft, Intel, Oculus ซึ่งบริษัทเกือบทุกราย (ยกเว้น Microsoft มีแต่ข่าวลือ) ก็ทำผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์กันอยู่ทั้งนั้น การได้ตัวอดีตพนักงาน FuelBand ที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงย่อมเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่กำลังแข่งขันสูงอย่างแน่นอน
ที่มา - CNET
มีข่าวลือว่า Nike จะหันมาร่วมมือกับ Apple ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สายรัดข้อมืออัจฉริยะ และอาจมีผลิตภัณฑ์ออกมาให้เห็นกันในปีนี้
เว็บไซต์ Geektime อ้างว่าได้ข้อมูลมาจากแหล่งข่าวที่คลุกคลีใกล้ชิดกับแผนงานร่วมของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งจะร่วมกันพัฒนาสายรัดข้อมืออัจฉริยะ โดยจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกายและคอยสั่งงานอุปกรณ์อื่นที่เชื่อมต่ออยู่ กล่าวคือผู้ใช้จะสามารถสั่งงานสมาร์ทโฟนได้โดยใช้ท่าทางการเคลื่อนไหวของมือที่สวมใส่สายรัดนี้
ดูเหมือนกูเกิลจะอยากขยายฐานผู้ใช้ Google Glass อย่างจริงจัง หลังจากมีผู้ที่เคยแสดงความสนใจสั่งซื้อ Google Glass เมื่อปีก่อน แต่ล้มเลิกไปเพราะกรอบแว่นในตอนนั้นของ Google Glass ไม่มีกรอบแว่นตาทั่วไป ตอนนี้มีรายงานว่ากูเกิลเริ่มส่งคำเชิญชวนให้กลุ่มผู้สั่งเหล่านั้นสามารถทดลองใส่ Google Glass พร้อมกรอบแว่นแบบใหม่ ซึ่งจะส่งไปให้ถึงบ้าน โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 50 เหรียญ
ในจังหวะที่อุปกรณ์สาย wearable computing กำลังอยู่ในจังหวะ "ขาขึ้น" ผู้บุกเบิกรายหนึ่งของวงการนี้อย่าง Nike กลับแจ้งพนักงานด้านฮาร์ดแวร์ในฝ่าย Digital Sport ว่าจะปลดพนักงานออก
ธุรกิจฝ่าย Digital Sport ของ Nike มีพนักงานรวมประมาณ 200 คน โดยฝ่ายฮาร์ดแวร์ที่ดูแล FuelBand และ Nike+ Sportwatch มี 70 คน ในจำนวนนี้จะถูกปลดออกประมาณ 55 คน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายซอฟต์แวร์ Nike Digital Tech จะไม่ได้รับผลกระทบจากการปลดคนรอบนี้
เดิมที Nike มีแผนจะออก FuelBand ตัวใหม่แต่โครงการถูกยกเลิก คาดว่าทิศทางของ Nike จะยังอยู่ในวงการดิจิทัลต่อไป แต่เลิกทำธุรกิจฮาร์ดแวร์ที่มีคู่แข่งเยอะ และหันไปเน้นด้านซอฟต์แวร์-บริการ โดยเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ของค่ายอื่นๆ แทน
หากจำกันได้เมื่อต้นปี Google ได้เปิดตัวคอนแทคเลนส์อัจฉริยะ ซึ่งมีการฝังเซ็นเซอร์และชิปประมวลผลไว้ในตัว ตอนนี้ Google ได้ขอจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวโยงกับคอนแทคเลนส์อัจฉริยะดังกล่าว ซึ่งว่าด้วยการติดตั้งกล้องขนาดเล็กจิ๋วเข้าไปในตัวคอนแทคเลนส์นั้น
แนวคิดในการติดตั้งกล้องเข้าไปในคอนแทคเลนส์อัจฉริยะนี้ก็เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถรับรู้มุมมองแบบเดียวกับที่ผู้ใช้มองเห็นจริงได้ ทำให้สามารถประมวลผลเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่รับและบันทึกภาพจะถูกติดตั้งอยู่ในบริเวณที่ไม่บดบังส่วนนัยน์ตาดำของผู้ใช้งาน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทาง Razer ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับนักเล่นเกมชื่อดัง เปิดตัว Nabu ที่เป็นอุปกรณ์สวมข้อมืออัจฉริยะ (แบบเดียวกับ Gear Fit) ในงาน CES 2014 และเปิดให้นักพัฒนาที่สนใจ สามารถลงชื่อและสั่งซื้อได้ในราคา 49 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,500 บาท) ซึ่งในตอนแรกแจ้งว่าจะส่งมอบได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
อัพเดตเพิ่มเติมจากข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ว่า ซัมซุงจะอัพเดตให้ Gear Fit สามารถอ่านแนวตั้งได้ รายงานจาก CNET ระบุว่าซัมซุงได้อัพเดตฟีเจอร์เพิ่มเติมให้ Gear Fit ดังนี้
มีรายงานว่า กูเกิลเตรียมเปิดให้คนที่สนใจซื้อ Google Glass มาทดลองเล่น แต่ไม่มีสิทธิ์ในการเข้าซื้อโดยตรงจากกูเกิลนั้น สามารถเข้าซื้อ Google Glass รุ่น Explorer Edition ได้แล้ว โดยมีเงื่อนไขว่า กูเกิลจะเปิดให้เข้าซื้อแค่วันที่ 15 เมษายนนี้วันเดียวเท่านั้น อนึ่งผู้ซื้อต้องรับทราบข้อตกลงในการใช้งานเหมือนกับผู้ที่ได้สิทธิ์ทดสอบทุกประการ และที่สำคัญที่สุดก็คือ สามารถซื้อได้จากในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ในด้านแพคเกจ ผู้ซื้อจะได้รับ Google Glass พร้อมอุปกรณ์และเลนส์แว่นกันแดดจำนวนหนึ่งชุด และสามารถสั่งทำแว่นตาสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาได้ ซึ่งก็เหมือนกับผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าซื้อทุกอย่าง แต่ในด้านรายละเอียดอื่นๆ นั้น กูเกิลจะประกาศอีกครั้งอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ครับ
ยังไม่ทันได้วางขายจริงสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ตัวใหม่ของซัมซุงอย่าง Gear Fit แต่ทางซัมซุงก็พบปัญหาในการใช้งานแล้ว ด้วยความที่หน้าจอแสดงผลในแนวนอน ทำให้การใช้งานบนข้อมือนั้นค่อนข้างไม่สะดวก ซัมซุงจึงออกแพตช์อัพเดตให้ Gear Fit สามารถเลือกแสดงผลในแนวตั้งได้แล้ว อย่างไรก็ดี ณ ตอนนี้มีการอัพเดตเฉพาะในเกาหลีใต้เท่านั้น ยังไม่มีรายงานว่าจะอัพเดตให้ภูมิภาคอื่นๆ เมื่อใด แต่คาดว่าไม่น่าจะนานหลังการวางขายในวันที่ 11 นี้
ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา พัฒนาการของเทคโนโลยีเริ่มขยับเข้ามาบนร่างกายมนุษย์มากขึ้น อุปกรณ์สวมใส่ (wearable device) ได้รับการพัฒนาและออกสู่ท้องตลาดกันค่อนข้างมาก มีตั้งแต่อุปกรณ์สวมใส่บนหน้าอย่าง Google Glass และ SmartEyeglass ของ Sony ลงไปจนถึงรองเท้า แต่อุปกรณ์ที่ดูมีความเคลื่อนไหวและได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอุปกรณ์บนข้อมืออย่างนาฬิกาอัจฉริยะและอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ (Fitbit Flex และ Jawbone Up)
การแข่งขันกันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เพื่ออุปกรณ์สวมใส่ได้ช่วงหลัง ARM ยังคงกินตลาดไปเกือบทั้งหมด แม้อินเทลจะพยายามชิงส่วนแบ่งด้วยชิป Quark บ้างแต่ยังไม่มีสินค้าใช้งานจริง ตอนนี้ค่ายที่สามคือ MIPS ก็ไล่ตามมาแล้ว
Imagination ผู้ถือสิทธิ์ MIPS ร่วมมือกับบริษัทชิปจีนที่ชื่อว่า Ingenic ออกบอร์ดพัฒนา Inegic Newton เป็นบอร์ดขนาดเล็กมาก (ประมาณเหรียญสิบสองเหรียญ) สำหรับพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ได้
ภายในบอร์ดเป็นซีพียู Ingenic JZ4775 สัญญาณนาฬิกา 1 GHz แรม 384 เมกกะไบต์ หน่วยความจำแฟลช 4 กิกะไบต์ พร้อมการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi, Bluetooth, วิทยุ FM, และ NFC ส่วนเซ็นเซอร์นั้นมีชิป Accelerometer และ ECG มาให้ในตัว พร้อมกับซ็อกเก็ตติดตั้งจอภาพสัมผัส และเซ็นเซอร์เพิ่มเติม
Twitter ประกาศผ่านบล็อกของตนเอง เผยข้อมูลเตรียมเปิดตัวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ศีรษะ ใช้ชื่อว่า Twitter Helmet™
Twitter Helmet™ เป็นหมวกที่มีหน้าจอแสดงผลแบบ 3 มิติด้วยมุมมองรอบแนวสายตาของผู้ใช้ด้วยภาพความละเอียดสูง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับทุกสิ่งรอบตัวผ่านส่วนติดต่อผู้ใช้งานที่ผู้ใช้เลือกปรับแต่งได้ตามใจตนเอง และสามารถทวีตข้อความได้ง่ายๆ โดยการผงกศีรษะ
เว็บไซต์ Pocket Gamer ได้ข่าววงในที่หลุดรั่วมาระบุว่า Rovio กำลังพัฒนาเครื่องเล่นเกมแนวเสมือนจริงแบบสวมศีรษะที่ชื่อ Angry Birds Eagle Eye โดยผู้เล่นจะรับบทบาทเป็นนกที่จะถูกยิงแหวกอากาศไปถล่มที่มั่นของเหล่าหมูวายร้าย
Pocket Gamer อ้างว่าได้รับเอกสารภายในของ Rovio หลายรายการ ซึ่งมีทั้งอีเมลที่ส่งต่อกันภายในเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเครื่องเล่นเกมดังกล่าว ทั้งยังมีเอกสารอีกรายการหนึ่งที่หลุดมาถึงมือ Pocket Gamer ซึ่งเป็นเอกสารแนะนำการใช้งานอัตลักษณ์ของ Angry Birds Eagle Eye และท้ายสุดยังมีภาพของหญิงสาวที่สวมใส่เครื่องเล่นเกมดังกล่าวติดมาด้วย
ทั้งนี้เนื้อความภายในอีเมลที่เล็ดรอดมานั้น ได้ระบุถึงสเป็กและฟีเจอร์ของเครื่องเล่นเกมใหม่หลายอย่างด้วยกัน ดังนี้
สงครามแห่ง "ถุงมืออัจฉริยะ" ปะทุขึ้นมาทันที เมื่อซัมซุงใจตรงกับเอชทีซี เปิดตัว Samsung Fingers ถุงมืออัจฉริยะออกมาชนกันแบบเต็มๆ
ถุงมือซัมซุงมีสเปกดังนี้ครับ
แนวโน้มสินค้าไอทีปีนี้ชัดเจนว่ามุ่งไปที่สินค้ากลุ่ม wearable ซึ่งค่าย HTC ก็ทำตามสัญญาที่เคยบอกไว้ว่าจะทำ wearable โดยเปิดตัว HTC Gluuv ถุงมืออัจฉริยะที่ออกแบบมาสำหรับเชื่อมต่อกับ HTC One M8 มือถือเรือธงตัวล่าสุดโดยเฉพาะ
HTC Gluuv มีช่องว่างสำหรับเสียบ HTC One M8 บนข้อมือ ซึ่งบริษัทแก้ปัญหาเรื่องการถ่ายภาพเพราะกล้องหลังโดนบัง โดยเพิ่มโมดูลกล้องคู่ Dual Camera แบบเดียวกับ M8 แต่เพิ่มความละเอียดเป็น 87.2MP ไว้ที่ด้านหลังมือให้แทน
อินเทลเตรียมอัพเดตบอร์ด Edison ที่ใช้ชิป Quark ก่อนวางขายจริงในช่วงกลางปีนี้ จากเดิมที่จะมีขนาดพอดีกับการ์ด SD แต่ตอนนี้ Mike Bell ผู้จัดการฝ่าย New Devices Group ก็ออกมาบอกอินเทลตัดสินใจจะปรับปรุง Edison ให้ใช้งานได้ดีขึ้น โดยขยายขนาดบอร์ดขึ้นด้านละหนึ่งมิลลิเมตรทำให้ใส่ช่อง SD ไม่ได้แล้ว แต่จะต่อเซ็นเซอร์ได้มากขึ้น
ที่เพิ่มมาในบอร์ดรุ่นใหม่อีกอย่างคือการเชื่อมต่อไร้สาย อินเทลไม่ได้ระบุว่าจะใช้มาตรฐานอะไรเพื่อเชื่อมต่อ
ที่มา - PC World