ไมโครซอฟท์ออก Windows 10 Insider Preview Build 18282 ที่มีกำหนดออกช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า (19H1) ของใหม่ในรุ่นนี้คือ Light Theme ที่ออกแบบใหม่

Windows 10 มี Light Theme มานานแล้ว แต่มีข้อจำกัดหลายๆ อย่างที่ไม่ได้ใช้สีโทนอ่อนทั้งหมด ที่เห็นได้ชัดเจนคือ Task Bar ที่ยังเป็นสีดำอยู่เสมอ

Light Theme เวอร์ชันใหม่ถูกปรับปรุงให้ใช้สีโทนขาวทุกส่วน ตั้งแต่ Task Bar, Start Menu, Action Center, Touch Keyboard เรียกได้ว่าส่วนที่เคยเป็นสีโทนเข้ม ถูกแปลงเป็นสีโทนขาวใสสไตล์ Acrylic ทั้งหมด นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังทำภาพพื้นหลังแบบใหม่ที่เป็นหน้าต่างมีแสงส่องแบบเดิม แต่เป็นเวอร์ชัน Light ด้วย

ไมโครซอฟท์ออก Windows 10 October 2018 Update อีกครั้งในวันนี้ หลังจากมีรายงานบั๊กกันออกมาแบบต่อเนื่อง จนไมโครซอฟท์ต้องหยุดปล่อยอัพเดตชั่วคราว และใช้เวลาทดสอบซ้ำจน October ต้องมาออกอัพเดตใน November แทน

โดยไมโครซอฟท์ได้เขียนบล็อกชี้แจงว่าหลังจากทำการทดสอบภายในเพิ่มเติม ตรวจซ้ำจนแน่ใจว่าไม่มีปัญหาอีกแล้ว ทั้งนี้ไมโครซอฟท์จะทยอยปล่อยอัพเดตกับผู้ใช้จำนวนไม่มากก่อนในวันนี้ และผู้ใช้ต้องเข้าไปเลือกอัพเดต Windows เอง ถึงจะเริ่มทำการอัพเดต นอกจากนี้หากตรวจพบปัญหาการเข้ากันกับแอป ก็จะไม่มีการลงอัพเดตจนกว่าปัญหาจะถูกแก้ไข

เซิร์ฟเวอร์เปิดการใช้งานของไมโครซอฟท์มีปัญหา ส่งผลให้ผู้ใช้ Windows 10 บางส่วนได้รับรายงานแสดงความผิดพลาดว่า PC ของตัวเองไม่ได้เปิดการใช้งาน Windows 10 หรือให้ดาวน์เกรดจาก Windows 10 PRO เป็น Windows 10 HOME

เมื่อประมาณกลางเดือนตุลาคมที่เพิ่งผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เริ่มทยอยปล่อยอัพเดตให้กับแอพ OneNote บน Windows 10 และ macOS โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์อำนวยความสะดวกให้กับการแทรกเอกสารลงโน้ตอย่าง cloud file attachment ซึ่งจะช่วยอัพโหลดและซิงก์เอกสารแนบกับคลาวด์ให้อัตโนมัติ

และยังได้เพิ่มระบบค้นหาด้วย tag ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ OneNote สำหรับ Windows 10 (UWP) ยังขาดไปเมื่อเทียบกับ OneNote 2016 ตามสัญญา สำหรับรายละเอียดของแต่ะฟีเจอร์พอสรุปได้ดังนี้

Sébastien Lachance นักพัฒนาแอปสายวินโดวส์รายหนึ่งได้พบบั๊กบน Windows 10 ที่กระทบทุกเวอร์ชันก่อน Build 1809 เปิดช่องให้แอป UWP ที่ขอสิทธิ broadFileSystemAccess สามารถเข้าถึงไฟล์ทั้งหมดในเครื่องได้เลย โดยไม่ขึ้นหน้าให้ผู้ใช้กดอนุญาตก่อน

Lachance พบบั๊กนี้หลังจากแอปของตัวเองที่ขอ broadFileSystemAccess แครชตอนเปิดหลังอัพเดตเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา (v1809) เพราะไมโครซอฟท์ได้ปรับแก้ให้ผู้ใช้ต้องกดอนุญาตสำหรับแอปที่ขอเข้าถึงไฟล์ทั้งหมดในหน้า settings ตามที่ระบุเอาไว้ในเอกสารสำหรับนักพัฒนาว่าแอปที่จะเข้าถึง File System จะต้องเปิดหน้า settings ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ยืนยัน

อย่างไรก็ตามไมโครซอฟท์ไม่ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นนี้

ช่วงหลังไมโครซอฟท์ขยันเพิ่มฟีเจอร์ให้แอพจดโน้ต Sticky Notes ที่แถมมากับ Windows มาก ข่าวล่าสุดก่อนหน้านี้คือ Sticky Notes จะซิงก์กับมือถือได้แล้ว โดยถูกมองเป็นสมุดโน้ตแบบหนึ่งของแอพ OneNote

ล่าสุดใน Windows 10 Insider Build 18272 (19H1) ไมโครซอฟท์ประกาศว่าเราจะสามารถดูโน้ตผ่านเว็บได้แล้ว โดยเข้าไปที่ http://www.onenote.com/stickynotes ล็อกอินด้วยบัญชีไมโครซอฟท์ที่เราใช้งาน ก็สามารถดูโน้ตที่จดไว้จากที่ไหนก็ได้

ฟีเจอร์อื่นของแอพ Sticky Notes เวอร์ชันบน Windows 10 คือรองรับ Dark Mode ของ Windows

เว็บไซต์ ZDNet รายงานข้อมูลวงในว่าไมโครซอฟท์เปลี่ยนวิธีเรียกโค้ดเนมของ Windows 10 (อีกแล้ว)

ก่อนหน้านี้เราคุ้นเคยกับชื่อโค้ดเนมอย่าง Redstone ที่ไล่เรียงหมายเลขมาตั้งแต่ 1-5 (ตัวสุดท้ายคือ Redstone 5 หรือ RS5 ซึ่งก็คือ v1809 October 2018 Update ตัวล่าสุด) แต่ไมโครซอฟท์ก็ประกาศว่าโค้ดเนมของ Windows 10 ตัวถัดไปจะใช้เลขปีแทนคือ 19H1

ข้อมูลที่ ZDNet รายงานคือ หลังจากไมโครซอฟท์จัดโครงสร้างองค์กรใหม่เมื่อต้นปีนี้ และโอนทีมวิศวกรรม Windows ไปอยู่กับทีมวิศวกรรม Azure ทำให้ Windows ต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบโค้ดเนมตามทีม Azure ที่ใช้ "ชื่อธาตุ"

Windows 10 October 2018 Update หรือ v1809 ยังมีบั๊กโผล่ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ โดยบั๊กตัวล่าสุดเกี่ยวกับการเปิดไฟล์ ZIP ถูกพูดถึงในชุมชนผู้ใช้มาสักระยะ แต่เพิ่งได้รับการยืนยันจากไมโครซอฟท์

บั๊กตัวนี้คือการเปิดไฟล์ ZIP ด้วย File Explorer แล้วลากไฟล์ภายใน ZIP ออกมาเพื่อคัดลอกหรือย้ายไฟล์ (โดยไม่ได้สั่ง extract หรือแตกไฟล์ ZIP ก่อน) แล้วโฟลเดอร์ปลายทางมีไฟล์ชื่อเดียวกันอยู่ก่อน หรือผู้ใช้ไม่มีสิทธิเขียนไฟล์ในโฟลเดอร์นั้น

ไมโครซอฟท์เปิดซอร์สโค้ดของ Component Firmware Update (CFU) ช่วยให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สามารถอัพเดตเฟิร์มแวร์ของตนเองผ่าน Windows Update ได้สะดวกขึ้นมาก

ก่อนหน้านี้การอัพเดตเฟิร์มแวร์มีด้วยกัน 3 วิธีคือ

ไมโครซอฟท์เดินหน้าออก Windows 10 Insider Preview Build 18262 (โค้ดเนม 19H1) ที่จะออกช่วงต้นปีหน้า มีของใหม่ที่สำคัญคือ ผู้ใช้สามารถถอนการติดตั้งแอพที่พรีโหลดมากับวินโดวส์ได้เกือบทุกตัว

ปัญหา Windows 10 ออกอัพเดตใหญ่แล้วพังอยู่บ่อยครั้ง (รอบล่าสุดคือ v1809 ลบไฟล์ของผู้ใช้) ทำให้เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้ไมโครซอฟท์ปรับปรุงคุณภาพของอัพเดตใหญ่-แพตช์รายเดือน หรือทบทวนนโยบายออกรุ่นทุก 6 เดือนจนควบคุมคุณภาพไม่ได้

ก่อนหน้านี้ Windows 10 October 2018 Update มีบั๊กกับไดรเวอร์เสียง Intel Audio Driver / Intel Smart Sound Technology จนทำให้เสียงไม่ออก

ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกแพตช์แก้บั๊กตัวนี้ เพื่อปรับเวอร์ชันของไดรเวอร์ให้ถูกต้องแล้ว แพตช์ตัวนี้ชื่อว่า KB4468550 และกำลังทยอยปล่อยผ่าน Windows Update ให้ผู้ใช้งาน (หรือดาวน์โหลดไฟล์ตรง)

ที่มา - Microsoft Support, MSpoweruser

หลังจากไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดต KB4464330 แก้บั๊ก Windows 10 October 2018 Update ลบไฟล์ผู้ใช้ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ล่าสุดมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์เอชพีแจ้งว่าเครื่องจะขึ้น BSOD ไม่สามารถบู๊ตเข้า Windows ได้

ต่อมาไมโครซอฟท์ซัพพอร์ตก็แจ้งผู้ใช้ที่ติดต่อเข้าไปว่าคอมพิวเตอร์ยี่ห้ออื่นอย่างเดลล์ก็ประสบปัญหาดังกล่าวเช่นกัน และได้หยุดการปล่อย KB4464330 เพื่อตรวจสอบปัญหาดังกล่าวก่อนที่จะปล่อยอัพเดตอีกครั้ง

สำหรับใครที่เจอกับ BSOD หลังการติดตั้งอัพเดตข้างต้น สามารถทำตามขั้นตอนในเว็บไซต์ Bleeping Computer ตามที่มาของข่าว เพื่อให้เครื่องสามารถบู๊ตเข้า Windows ได้ตามปกติครับ

ที่มา: Microsoft Community ผ่าน Bleeping Computer ผ่าน MSPoweruser

หลังจาก ไมโครซอฟท์หยุดปล่อย Windows 10 October 2018 Update ชั่วคราว หลังเจอปัญหาลบไฟล์ผู้ใช้ ล่าสุดไมโครซอฟท์แก้ไขปัญหาและเตรียมจะกลับมาปล่อยอัพเดตอีกครั้ง

ไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลว่ามีผู้ใช้เจอปัญหานี้ 0.01% ของผู้ใช้ทั้งหมด แต่เรื่องข้อมูลหายเป็นเรื่องซีเรียสถึงระดับต้องหยุดพักการอัพเดตทั้งหมด (รวมถึง Windows Server 2019 และ IoT ที่ใช้แกนตัวเดียวกันด้วย) ส่วนปัญหาเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า Known Folder Redirection (KFR)

KFR คือการสั่งย้ายตำแหน่งโฟลเดอร์พื้นฐานของวินโดวส์ที่เราคุ้นเคยกัน (พวก Desktop, Documents, Pictures) จากตำแหน่งดีฟอลต์ (c:\users\username\folder name) ไปยังตำแหน่งอื่น

ไมโครซอฟท์ขึ้นราคาขายปลีก Windows 10 Home แบบดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์เอง จากเดิม 119 ดอลลาร์ ขึ้นมาเป็น 139 ดอลลาร์ ส่วนราคาจาก Microsoft Store ของประเทศไทยคือ 6,199 บาท ทั้งนี้ไม่มีประกาศหรือคำอธิบายว่าทำไมถึงขึ้นราคา

ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดปล่อยไฟล์อัพเดต Windows 10 October 2018 Update (v1809) ชั่วคราว หลังมีรายงานจากผู้ใช้บางรายว่าอัพเดตแล้วเจอปัญหาไฟล์หาย

ตัวอย่างอาการที่พบคือผู้ใช้แจ้งว่าโฟลเดอร์ Documents, Pictures, Music, Videos กลายเป็นโฟลเดอร์ว่างๆ ส่วนสาเหตุยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร (ตัวอย่างปัญหาที่โพสต์ใน Reddit และ Microsoft Support Forum

ไมโครซอฟท์ออกแอพตัวใหม่มาแบบเงียบๆ ชื่อว่า Font Maker หน้าที่ของมันคือช่วยเราสร้างฟอนต์ลายมือตัวเองไว้เล่นสนุกๆ จากปากกาสไตลัส โดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องการสร้างฟอนต์เลย

เมื่อโหลดแอพมาแล้ว เรามีหน้าที่เขียนตัวอักษรด้วยลายมือของเราเองให้ตรงกับช่องของฟอนต์แต่ละตัว (ตอนนี้ยังรองรับเฉพาะตัวอักษรภาษาอังกฤษ) และเขียนข้อความตามประโยคตัวอย่างอีกเล็กน้อย จากนั้นแอพก็จะสร้างฟอนต์จากลายมือของเราให้ใช้งาน

แอพดาวน์โหลดได้จาก Microsoft Store

ถ้าใครติดตามข่าวหรือเคยใช้ Surface Pro มาก่อนคงจะทราบกันดีกว่า ไมโครซอฟท์จะติดตั้ง Windows รุ่น Pro มาให้กับเครื่องเสมอ ซึ่งสามารถรอบรับการใช้งานในองค์กรอย่างการเชื่อมต่อกับโดเมน รัน Hyper V บนเครื่องได้ แต่ล่าสุด Surface Pro 6 ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดตัวไปกลับติดตั้งเพียง Windows 10 Home เท่านั้น

นอกจากระบบปฏิบัติการที่ต่างกันแล้ว Surface Pro 6 รุ่นผู้ใช้ตามบ้านกับรุ่นองค์กรจะต่างกันอีกจุดตรงที่ซีพียูในรุ่นองค์กรจะรองรับ Intel vPro ด้วย

อีกรุ่นที่ไมโครซอฟท์เปลี่ยนระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งมากับเครื่องก็คือ Surface Laptop 2 โดยแต่เดิม Surface Laptop รุ่นแรกจะมากับ Windows 10 S (Windows 10 ที่ถูกจำกัดไว้เพียงแอปที่ติดตั้งผ่าน Windows Store เท่านั้น) ซึ่งผู้ใช้สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 Pro ได้ฟรีในระยะเวลาจำกัด แต่ล่าสุด Surface Laptop 2 ซึ่งมากับ Windows 10 Home เลย จึงไม่ได้สิทธิ์อัพเกรดเป็น Windows 10 Pro อีก

การเปลี่ยนแปลงนี้ในมุมผู้ใช้ตามบ้านคงไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่สำหรับผู้ใช้ในองค์กรหรือผู้ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ของรุ่น Pro ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ เพราะถ้าต้องการ Windows 10 Pro ต้องเสียเงินอีก 100 ดอลลาร์

ที่มา: Digital Trends

ประเด็นเรื่องแอพ Your Phone บน Windows 10 October 2018 Update มีข้อมูลว่าไมโครซอฟท์มีแผนการใหญ่กับแอพตัวนี้ในอนาคต โดยจะเปิดให้เราใช้งานแอพตัวใดก็ได้ของ Android บน Windows 10 ได้เลย

ในงานแถลงข่าว Surface รอบล่าสุด ไมโครซอฟท์โชว์เดโมของแอพ Your Phone เวอร์ชันใหม่ที่ยังไม่เปิดให้คนทั่วไปใช้งาน จากหน้าจอของแอพ Your Phone จะเห็นไอคอนแอพจากฝั่ง Android จำนวนมาก เช่น Flipboard, Twitter, Medium, YouTube, Pandora โดยไมโครซอฟท์โชว์การเล่น Snapchat ทั้งอ่านและตอบข้อความบนพีซีได้เลย

ไมโครซอฟท์เรียกฟีเจอร์นี้ว่า App Mirroring แต่ยังไม่เผยรายละเอียดการทำงานว่าเป็นอย่างไร รวมถึงไม่บอกกำหนดเวลาที่จะออกฟีเจอร์นี้ด้วย

วันนี้ไมโครซอฟท์เพิ่งปล่อย Windows 10 October 2018 Update อัพเดตใหญ่ตัวล่าสุด ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจตัวหนึ่งคือ Your Phone แอพที่ใช้ซิงก์ข้อมูลระหว่างพีซี Windows 10 กับสมาร์ทโฟน Android/iOS

หลายคนอาจเคยลองใช้งานแล้วตั้งแต่ช่วงทดสอบ Windows Insiders แต่ก็เชื่อว่ามีผู้ใช้ Windows 10 อีกมากที่ยังไม่รู้ว่ามีแอพตัวนี้เพิ่มเข้ามาด้วย เราจึงมารีวิวให้ดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

หลังจากทดสอบกันมานานครึ่งปี วันนี้ไมโครซอฟท์ปรกาศออก Windows 10 October 2018 Update หรือ v1809 (Redstone 5) อย่างเป็นทางการ สามารถสั่งอัพเดตกันได้แล้วในวันนี้

Windows 10 October 2018 Update ถือเป็นอัพเดตใหญ่ของ Windows 10 รุ่นสุดท้ายของปีนี้ ก่อนพบกันในปีหน้ากับรุ่น 19H1 (เลิกเรียกโค้ดเนม Redstone แล้ว)

Robot Operating System (ROS) เป็นชื่อโครงการโอเพนซอร์สที่รวบรวมไลบรารีพื้นฐานสำหรับการพัฒนาหุ่นยนต์ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีหุ่นยนต์ที่ใช้ ROS เป็นจำนวนมาก รวมถึงหุ่นยนต์บนสถานีอวกาศนานาชาติด้วย

โครงการ ROS เริ่มมาตั้งแต่ปี 2007 โดยทีมงานจากห้องวิจัย AI ของสแตนฟอร์ด ถึงแม้ชื่อโครงการมีคำว่า OS แต่ตัวมันไม่ใช่ OS และต้องรันบน OS สายยูนิกซ์อีกต่อหนึ่ง (OS หลักที่รองรับคือ Ubuntu)

ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศ ROS for Windows ที่พอร์ตซอฟต์แวร์ ROS มารันบน Windows 10 IoT Enterprise ช่วยเปิดให้เกิดการพัฒนาหุ่นยนต์ใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มวินโดวส์มากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาหุ่นยนต์ด้วย Visual Studio ที่นักพัฒนาหลายคนคุ้นเคย

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตใหม่ครั้งใหญ่ให้กับแอพ Sticky Notes แอพจดโน้ตบนหน้าเดสก์ทอปที่มากับ Windows 10 เป็นเวอร์ชัน 3.0 มาพร้อมกับความสามารถใหม่หลายอย่าง

โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างระบบซิงก์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโน้ตที่จดไว้ได้จากคอมพิวเตอร์ทุกๆ เครื่อง ไม่เพียงแค่นั้นแอพ Sticky Notes ยังรองรับการซิงก์กับ Outlook Notes ทำให้สามารถเปิดโน้ตจากแอพ Outlook ได้อีกหนึ่งช่องทาง

และเพื่อปรับปรุงให้ Sticky Notes เหมาะกับการจดโน้ตจำนวนมาก อัพเดตนี้ยังได้เพิ่มหน้าโฮมเข้ามาเป็นที่รวบรวมและจัดระเบียบโน้ต ช่วยให้ไม่ต้องจดโน้ตแล้ววางทิ้งไว้หน้าเดสก์ทอปทั้งหมดอย่างแต่ก่อน

ไมโครซอฟท์ประกาศในงาน Ignite 2018 ว่าจะเลิกพัฒนา Office Mobile เวอร์ชัน Windows 10 แล้ว ทำให้แอพในชุด Office เหลือเพียงเวอร์ชันเดสก์ท็อป (Windows/Mac) และ Mobile (Android/iOS) เท่านั้น

Office Mobile เริ่มมาจากการเป็นแอพบน Windows Phone/Windows 10 Mobile และภายหลังก็ขยายมายัง Windows 10 รุ่นปกติด้วย (เพราะพัฒนาด้วยเทคโนโลยี UWP) โดยมันเป็น Office เวอร์ชันที่ความสามารถน้อยกว่า Office รุ่นเดสก์ท็อป แต่ออกแบบมาสำหรับหน้าจอสัมผัสทั้งมือถือและแท็บเล็ต

การหยุดพัฒนา Office Mobile คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก เพราะ Windows Phone/Windows Mobile หมดอนาคตไปแล้ว และ Office รุ่นเดสก์ท็อปก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าสำหรับการใช้งานบน Windows 10 เพราะมีฟีเจอร์มากกว่ากันมาก

ในงานสัมมนา Build 2018 เมื่อเดือนพฤษภาคม ไมโครซอฟท์เผยว่าตัวเลขอุปกรณ์ที่รัน Windows 10 อยู่ที่ "เกือบ 700 ล้านชิ้น"

ล่าสุดในงานสัมมนา Ignite 2018 วันนี้ ไมโครซอฟท์ระบุว่าตัวเลขแตะหลัก 700 ล้านชิ้นเรียบร้อยแล้ว

ความคืบหน้าของตัวเลขผู้ใช้งาน Windows 10 ถือว่าช้าลงเรื่อยๆ แต่เดิมไมโครซอฟท์เคยตั้งเป้าผู้ใช้ที่ 1 พันล้านชิ้น แต่ภายหลังก็ยอมรับว่าเป้านี้คงทำไม่สำเร็จในปี 2018 หลัง Windows Phone/Mobile ล้มเหลว