พักหลังๆ มานี้เราเห็นเครื่องเล่นเอ็มพีสามมีเพดานความจุที่ 60-80 กิกะไบต์กันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากเพดานฮาร์ดดิสก์ขนาด 1.8 นิ้วนั้นไปถึงแค่ระดับนั้น แต่ในวันนี้ทางโตชิบา ซับพลายเออร์รายใหญ่ของแอปเปิลก็ออกมาประกาศเปิดสายการผลิตฮาร์ดดิสก์ขนาด 1.8 นิ้วที่ความจุ 100 กิกะไบต์กันแล้ว
งานนี้ตัวไดร์ฟรุ่นใหม่มีความเร็วในการส่งข้อมูล 100 เมกกะไบต์ต่อวินาที ทำงานที่ 4200 รอบต่อนาที และใช้เวลาค้นหาข้อมูล 15ms สเปคนี้น่าจะเอามาทำฮาร์ดดิกส์โน้ตบุ๊กกันได้ไม่ยาก
แต่ตอนนี้ลองทายกันดีกว่าว่าไอพ็อดรุ่นต่อไปจะมีความจุเท่าใหร่...
ที่มา - Engadget
รีวิวงวดนี้ อาจจะขาดๆเกินๆบ้าง เพราะผมซื้อภาษาญี่ปุ่นมาครับ กว่าจะแงะไปได้ แต่ละอันนี่แสนเข็ญ แต่เซลด้าขายดิบขายดีขนาดนี้ มันต้องมีดีละน่า!
ลดชื่อลงมาเหลือแค่ Expression Web (ตอนแรกมีคำว่า Designer ด้วย) งานนี้เรียกว่าเป็น Web Designer สำหรับ ASP.NET 2.0 เลย แล้วก็คราวนี้ Microsoft ก็เริ่มเน้น standard-based web กับ CSS layout ซะที
แต่เพื่อนๆ ผมที่เก่ง Design ที่รู้จักก็ใช้ Dreamweaver กันจนชำนาญแล้วทั้งนั้น และคงไม่ต้องพูดถึง Adobe นะครับ แต่ยังไงต้องรอดูไปอีกสักพัก อย่างน้อย VS & WPF Support ก็น่าจะช่วยใ้ห้ทำงานได้เร็วกว่าเดิมได้เยอะ
ว่างๆ ก็ลองโหลด Trial มาลองเล่นดูได้ http://www.microsoft.com/products/expression/en/default.mspx
สำหรับตัวอื่นๆ (Blend, Design, Media) นั้นยังอยู่ในขั้น Beta หรือ CTP อยู่ครับ
จาก Diggnation ล่าสุดของนาย Kevin Rose (ที่ 38.30 ในคลิป) ได้อ้างว่าจากแหล่งข่าวที่"น่าเชื่อถือได้"นั้น Apple มีแผนที่จะวางขาย iPhone ในเดือนมกราคมปีหน้า โดยเสปคคร่าว ๆ ของ iPhone คือ
เกือบทุกท่านที่อ่านเว็บนี้คงรู้จักกับ YouTube และ Google Video กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม้การดูวีดีโอผ่านเว็บแบบเว็บทั้งสองเว็บนี้จะค่อนข้างสะดวก แต่ปัญหาที่หลายๆ คนอาจจะรำคาญคือการดาวน์โหลดที่ค่อนข้างยุ่งยาก ทำให้ไม่เหมาะกับการดูผ่านเน็ตความเร็วต่ำ อีกทั้งคุณภาพวีดีโอที่ได้ยังค่อนข้างจำกัด
แต่อนาคตอันใกล้เราอาจจะได้ดูรายการโทรทัศน์จากต่างประเทศในคุณภาพระดับ HD กันเป็นเรื่องปรกติ เมื่อทาง Azureus ผู้ผลิตโปรแกรมลูกข่าย BitTorrent ที่ได้รับความนิยมสูงสุดโปรแกรมหนึ่งได้ออกบริการ Zudeo ที่ให้บริการอัพโหลดวีดีโอแบบความละเอียดเต็มเท่าที่ผู้อัพโหลดต้องการ
ประเด็นสิทธิบัตรเป็นประเด็นที่ดูเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้น เมื่อประเด็นร้อนครั้งล่าสุดเกิดขึ้นกับบริษัท Blackboard ที่เพิ่งได้รับสิทธิบัตรหมายเลข 6,988,138 ในเรื่องของการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสนับสนุนการศึกษา
ปัญหาของสิทธิบัตรใบนี้คือมันมีอันตรายต่อโครงการโอเพนซอร์สที่ได้รับความนิยมสูงๆ เช่น Moodle เป็นอย่างยิ่ง งานนนี้ร้อนถึุงศูนย์กฏหมายเพื่อเสรีภาพซอฟต์แวร์ (Software Freedom Law Center-SFLC) ต้องออกมาเจรจากับบริษัท Blackboard โดยในช่วงเริ่มต้นนั้นทาง SFLC พยายามของให้ทาง Blackboard ให้สิทธิคุ้มกันซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สทั้งหมดจากสิทธิบัตรนี้ แต่ทาง Blackboard ปฎิเสธโดยระบุว่าบริษัทไม่ได้สนใจที่จะมุ่งเป้าไปที่ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส และหน่วยงานการศึกษาอยู่แล้ว
ในปี 1994 โซนี่ได้ออกเครื่องเล่นเกมคอนโซล Playstation ">(รูป) ออกมาให้ยลโฉมกันถ้วนหน้า นับจนถึงเวลานี้ เจ้าเครื่องรุ่นนี้ก็ขายไปได้เกิน 100 ล้านเครื่องซะแล้ว ซึ่งถ้าจะเท้าความไปถึงในอดีตโซนี่เคยทำงานร่วมกับนินเทนโดมาก่อน แต่เหมือนกับว่ามีการขัดแย้งกันทางธุรกิจ ทางโซนี่จึงออกมาทำเครื่องเกมของตัวเองซะเลย ซึ่งตอนนั้นก็เป็นช่วงที่ซูเปอร์แฟมิคอมของทางนินเทนโดหมดยุคพอดี แน่นอนรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงจอยของเกม Playstation ก็ดัดแปลงมาจากทางนินเทนโด ซึ่งทางนินเทนโดเองก็ดูเหมือนตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่เลยทีเดียวที่ได้เคยไปผิดสัญญาไว้กับโซนี่แต่ครั้งก่อน แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องมาดูกันล่ะครับ ว่าสงครามเกมคอนโซลในยุคนี้ใครจะอยู่หรือใครจะไป
ยอดขายของเครื่องเกม PS3 ตกลงเกือบครึ่งในช่วงสัปดาห์แรกที่วางขาย โดยสาเหตุหลักน่าจะเกิดจากการที่ขนส่งล่าช้า ซึ่งก็ได้มีเว็บไซต์ในวงการเกม "Enterbain" ได้ออกมาประมาณการณ์ไว้ว่าเครื่องเกม PS3 นั้นขายได้ 88,400 เครื่องในช่วงสองวันแรกหลังจากการเปิดตัว แต่จากวันที่ 13-18 พ.ย. เครื่องเกม PS3 นั้นขายได้เพียง 43,378 เครื่องเท่านั้น โดยทางโซนี่ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นแต่อย่างใด โดยบอกแค่เพียงว่ากำลังขนส่งเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง
ขออาศัยช่วงที่กระแสโอเพนซอร์สยังไม่ตก แนะนำให้อ่านบล็อก Thailand FOSS Retrospects ของคุณเทพพิทักษ์ น่าจะทำให้หลายคนเข้าใจถึงรากเหง้าและวิธีคิดของซอฟต์แวร์เสรี/โอเพนซอร์สในยุคแรกเริ่ม รวมถึงแยกแยะเหตุผลที่ทำให้จิตวิญญาณเหล่านี้ในประเทศไทยหายไปเยอะในช่วงหลังๆ
เอกสารอีกฉบับที่ทุกคนน่าจะอ่านคือ มหาวิหารกับตลาดสด ฉบับแปลไทยของ The cathedral and the bazaar เอกสารแนวคิดโอเพนซอร์สชิ้นสำคัญของ Eric S. Raymond ซึ่งเอกสารนี้แหละที่ทำให้ Netscape เปิดซอร์สโค้ดของ Mozilla ในปี 1998
Nintendo Wii ถือได้ว่าเป็นเครื่องเกมคอนโซลแห่งยุคที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติการณ์ โดยใช้ช่วงเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ขายไปได้ 1 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 78,000 เครื่องต่อวัน ซึ่งขายได้มากกว่าเครื่องเกม Sony Playstation 3 ที่ขายได้ 22,000 เครื่องต่อวัน และเครื่องเกม Microsoft Xbox 360 ที่ขายได้ 20,000 เครื่องต่อวัน (งานนี้ปู่นินยอดขายกระฉูด)
ที่มา: Retrothinking
เกริ่น: house ซึ่งไปทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น ไปต่อคิวซื้อ Wii มาได้ เลยโดนผมบังคับให้รีวิว Wii มาลง ใครอ่านแล้วสนใจฝากซื้อก็ติดต่อกันเอาเองเน่อ - mk
ผมซื้อ Wii มาเมื่อวานพร้อมกับ Zelda และ Wii Sport ราคารวมๆก็ราวๆ สามหมื่นกว่าเยน หรือ หมื่นกว่าบาท มาดูกันเลยดีกว่า!
เมื่อวันที่ 15.11.2006 ผมได้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมงาน "เสวนาอนาคตโอเพนซอร์ซฯ" ซึ่งก็ได้เห็นบรรยากาศที่เป็นมิตรของทุกๆ คนเหมือนอย่างที่ผ่านๆ มาหลายครั้ง เป็นชุมชนที่น่ารักครับ และอยากจะเห็นชุมชนวิชาชีพอื่นๆ สามารถประยุกต์เอา model ทางสังคมแบบนี้ไปใช้บ้าง ผมว่ามันน่าอบอุ่นดี
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของธุรกิจที่หลายๆ คนพยายามที่จะเอ่ยถึงแล้ว ผมยังมองว่าชุมชน open source ของไทย ยังขาด focus ที่ชัดเจน อาจจะเพราะโลกของ open source ได้เปิดทางที่กว้างมากๆ ให้กับทุกๆ คน ทำให้แนวทางในการพัฒนาหลายๆ อย่าง ไม่ได้มุ่งไปที่จุดใดจุดหนึ่งอย่างจริงจัง และทำให้ความพยายามหลายๆ อย่าง ดูจะขาดแคลนพลังขับเคลื่อนไปอย่างน่าเสียดาย
สาเหตุน่าจะมาจากการที่รัฐบาลของฝรั่งเศสคิดว่าสูญเสียเงินจากการที่ไมโครซอฟท์ยัดซอฟต์แวร์ที่ไร้ประโยชน์จนเกินไป
โดยจะเริ่มมีการใช้ซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์สในเดือนมิถุนายนปี 2007 โดยเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและแบบเซิร์ฟเวอร์จะถูกเปลี่ยนไปใช้เป็นระบบปฏิบัติการของลีนุกซ์, เว็บเบราว์เซอร์ของโมซิลล่า ไฟร์ฟอกซ์ และโอเพ่นออฟฟิศ ซึ่งในขณะนี้ยังใช้เวอร์ชั่น 2.0.4 และเป็นคู่แข่งโดยตรงของทางไมโครซอฟท์
ที่มา: Yahoo
อย่างที่เราๆ รู้กันว่ามือถือนั้นเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างมากในการดำเนินชีวิต และบริษัท NEC ก็ได้ออกไอเดียจนทำเอาเราแทบทึ่ง เมื่อได้ออกมือถือเป็นลักษณะคล้าย "สายรัด" โดยทำมาจากยางที่สามารถบิดไปมาได้ ซึ่งขอบอกตรงๆเลยว่ามันคงจะทำให้เราขจัดความยุ่งยากเวลาล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋าได้เลยแหล่ะ ไม่ใช่เพียงแค่คาดไว้กับเข็มขัดหรือรัดไว้ที่ข้อมือเท่านั้นน่ะ นักออกแบบยังจินตนาการอีกด้วยว่า ผู้ใช้สามารถที่จะเปลี่ยนโหมดด้วยการเปลี่ยนรูปร่างของมันเพื่อให้เกิดอีกโหมดหนึ่งได้ และทำให้เหมาะสมกับผู้ใช้ในขณะนั้น โดยแนวความคิดนี้ยังไม่ได้วางแผนเพื่อทางการค้า แต่เราก็คงจะคอยลุ้นว่ามันจะเป็นจริงซักวันหนึ่ง
Zune เครื่องเล่นเพลงพกพาล่าสุดจาก Microsoft ที่หลาย ๆ คนได้บอกไว้ว่าจะเป็น iPod-killer ตัวจริงนั้น จากการรายงานของ CBS MarketWatch ได้เป็นสินค้าอิเลคโทรนิกส์ขายดีอันดับที่ 75 ในชาร์ทการจัดอันดับสินค้าขายดีของ Amazon แต่ทว่าอุปกรณ์เสริมของเครื่องเล่นเพลงพกพาชื่อดังจาก Apple ที่ชาร์จถ่านผ่าน USB ของ iPod นั้นอยู่ที่อันดับ 66 ในชาร์ทเดียวกัน
แต่หลังจากนั้นไม่นานที่ข่าวนี้ถูกรายงานในสื่อต่าง ๆ Zune ก็ได้เลื่อนมาอยู่อันดับที่ 67 อย่างรวดเร็ว โดยชนะคู่แข่งชิ้นนี้ไปได้ 2 อันดับ ซึ่งตอนนี้อยู่อันดับที่ 69
P.J. McNealy นักวิจัยแห่ง American Technology Research ได้ออกมาเปิดเผยว่าทางนินเทนโดเปิดตัวได้ดีกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และกลับกลายเป็นว่า PS3 นั่นแห้วสนิท ยิ่งไปกว่านั้นจากที่เราเคยได้ยินผลสำรวจออกมาว่ามีผู้คนต้องการครอบครองเจ้า PS3 นั้น เริ่มที่จะหันเหมาชอบ Wii แทนซะแล้ว โดยตัวเลขจากผลสำรวจพบว่า 49% ของกระทู้ต่างๆ ชื่นชอบ Wii ในขณะที่มีเพียง 27 % เท่านั้นที่ชื่นชอบ PS3
ที่มา: USA TODAY
WYSIWYG บน Drupal มีอยู่3ตัวด้วยกันครับ คือ 1.Tinycme 2.FCKeditor 3.Htmlarea
หัวหน้าแห่งค่ายเกม EA Larry Probst ได้ออกมาแสดงความเห็นให้โซนี่ควรจะลดราคาเครื่องเกมพกพา PSP ลงและคิดรุ่นใหม่ที่เล็กลงกว่านี้ โดยเขาได้บอกอีกว่าโซนี่ควรจะลดราคาลงมาที่ $100 หรือต่ำกว่านั้น โดย Probst ได้บอกด้วยว่าเขาได้คิดพิจารณามาอย่างดีแล้วว่า ทางโซนี่ควรจะหั่นราคาเครื่อง PSP มาที่ $149 จากเดิมที่ราคาขายปลีกแบบครบเซ็ตนั้นขายที่ราคา $249 หรือ $299 ซึ่งทางโซนี่ก็ได้ออกมาประกาศว่ายอดขายตั้งแต่สัปดาห์นี้จนถึงช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าจะเพิ่มขึ้น 280 เปอร์เซ็นต์ในอเมริกาเหนือ และจะมียอดขายซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งในขณะที่คู่แข่งอย่าง Nintendo DS จะสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 2.5 ถึง 1 เท่าในสหราชอาณาจักร
จากยอดขายที่พุ่งกระฉูดของการเปิดตัว Wii นั้นใกล้ที่จะบรรลุเป้า 600,000 เครื่องแล้ว โดยมีเกมตำนานอย่างเซลด้าเป็นพระเอกชูโรง (The Legend of Zelda: Twilight Princess) ซึ่งทำยอดขายได้ถึง 454,000 แผ่น โดยประธานของนินเทนโดโซนอเมริกาได้ออกมาประกาศว่าเกมของ Wii จะเป็นที่ชื่นชอบของคนที่หัดเล่นเกมและจะเป็นที่น่าหลงใหลสำหรับเกมเมอร์ โดยมันจะเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่เลยทีเดียว
ที่มา: Console Games
จากหนังสือพิมพ์ของจีน Economic Daily News (EDN) บอกว่าบริษัท Lite-On เตรียมที่จะทำเครื่องเล่น HD DVD เสริมให้กับเครื่องเล่นเกมคอนโซล Xbox 360 ในปีหน้า ซึ่งในเวลานี้บริษัท Toshiba ทำให้อยู่ก่อนแล้ว โดยได้อ้างอีกว่า Lite-On จะได้กำไรมากขึ้นตามลำดับในไตรมาสที่สามเนื่องจากมีปริมาณ HD DVD ที่เพิ่มมากขึ้น
ที่มา: Digitimes
ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ PC "Shuttle" ได้ออกรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาโดยใช้ชื่อว่า XPC X100 (รูป) ซึ่งถ้าดูภายนอกแล้วมีลักษณะคล้ายคลึงกับเครื่องเกมคอนโซล Nintendo Wii มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างและขนาด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีลักษณะเหมือนเครื่องเกมคอนโซล Wii ที่สามารถเล่นแผ่น CD/DVD ได้ โดยเจ้า PC เครื่องนี้ใช้หน่วยประมวลผลกลางของ Intel Celeron M แบบ Duo Core สามารถใส่แรมได้ถึง 2 กิกะไบท์ ซึ่งก็มีฮาร์ดดิสค์ในตัวถึง 80 กิกะไบค์เลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้นยังมีการ์ดจอระดับเทพ ATI Radeon X1400 อีกด้วย ซึ่งโดยรวมถือได้ว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า Nintendo Wii มาก แต่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถใช้เล่นเกมของ Wii ได้นี่สิ สนนราคาที่ $800
เรื่องของเรื่องก็คือบริษัทโซนี่ค้นพบว่ากล้องดิจิตอลที่ใช้ระบบ CCD sensor ใน 8 รุ่น ได้แก่ รุ่น DSC-F88, DSC-M1, DSC-T1, DSC-T11, DSC-T3, DSC-T33, DSC-U40 และ DSC-U50 ที่วางขายทั่วโลกระหว่างเดือนกันยายนปี 2003 ถึงเดือนมกราคมปี 2005 นั้นมีปัญหาในการถ่ายภาพได้ไม่ชัดเจน โดยปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ที่อยู่ในประเทศที่มีอากาศร้อน โดยโฆษก นายโทมิโอะ ทาคิซาว่าของโตเกียว ได้รับรายงานเข้ามาว่าโซนี่จะทำการซ่อมให้ฟรีถ้ามันมีปัญหาจริงๆ โดยปัญหาล่าสุดที่เรารู้ๆกัน เกี่ยวกับการเรียกเก็บแบตเตอรี่ laptop คืนถึง 9.6 ล้านชิ้น โดยโซนี่คาดว่ามูลค่าความเสียหายของแบตเตอรี่ทั้งหมดคิดเป็นจำนวน 51.2 พันล้านเยนหรือประมาณ 440 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในทางทฤษฎีเรายังไม่ทราบวิธีที่จะแยกตัวประกอบของจำนวนขนาดใหญ่ (1024 บิต) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คนเชื่อว่าการแคร็กการเข้ารหัสด้วย RSA นั้นทำได้ยากเย็นด้วยเช่นกัน
เมื่อเคน คุตารางิ เจ้าพ่อแห่ง Playstation ถูกปลดจากตำแหน่งประธานของ Sony Computer Entertainment Inc. หรือ SCEI และถูกเปลี่ยนผู้บริหารเป็น Kaz Hirai (คาซะ ฮิราอิ) หัวหน้าของ SCEI ฝั่งอเมริกานั่งเก้าอี้แทน
โดยลุงหม่ำ (เคน คุตารางิ)ก็คงยังเป็น แชร์แมนร่วมกับซีอีโอคนอื่นๆ การปลดในครั้งนี้สาเหตุหลักน่าจะเกิดจากการเปิดตัว PS3 ที่ล่าช้าเกินไปและยอดขายที่ย่ำแย่ของเครื่องเกมมือถือ PSP
ที่มา: Digital World Tokyo
จากการสำรวจในอเมริกาตอนเหนือของ Evans Data ได้ผลว่าภาษา VB กำลังลดความนิยมลงเรื่อยๆ โดยมีอัตราการใช้งานลดลงถึง 35% จากปีที่แล้ว ส่วนญาติๆ อย่าง VB.NET ก็เกาะๆ กันมา ลดลง 26% เช่นกัน สาเหตุหลักเป็นไปได้ว่าคนเลิกทำเดสก์ท็อปแอพลิเคชั่นแล้วหันไปหาเว็บแอพลิเคชั่นมากขึ้น จากการสำรวจก็ช่วยยืนยันทฤษฏีนี้ เมื่อพบว่านักพัฒนากว่า 80% กำลังพัฒนา RIA กันอยู่ และอัตราการเติบโตของเว็บ AJAX ก็เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว ผลสำรวจยังสรุปออกมาว่า ขณะนี้ Java ได้ส่วนแบ่งการตลาดกว่า 45% ตามมาติดๆ ด้วย C/C++ 40% และ C# 32% (งงเหมือนกันว่าทำไมบวกแล้วเกิน 100)