WhatsApp อัพเดตหน้าเว็บแผนการสนับสนุนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่า ซึ่งผู้ใช้จะไม่สามารถใช้งาน WhatsApp ต่อได้ โดยเพิ่มเติมระบบปฏิบัติการ iOS เข้ามา มีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้
หลัง iOS 8 เปิดให้อัพเกรดมาได้ราวหนึ่งสัปดาห์ เราเห็นข่าวว่าอัตราการอัพเกรดมาใช้ iOS 8 อยู่ที่ราว 46%
เวลาผ่านมาเกือบสามสัปดาห์ สถิติล่าสุดของแอปเปิลเองระบุว่าสัดส่วน iOS 8 อยู่ที่ 47% หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงสัปดาห์แรก นั่นแปลว่าอัตราการอัพเกรดเป็น iOS 8 แทบไม่เพิ่มขึ้นเลยในช่วงหลัง เหตุผลน่าจะเป็นเพราะบั๊กใน iOS 8.0 และ 8.0.1 ที่ทำให้ผู้ใช้ iOS 7 ชะลอการอัพเกรดไปก่อน
นอกจากสถิติของแอปเปิลเองแล้ว ยังมีสถิติของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเว็บ Mixpanel ที่เก็บข้อมูลสัดส่วนเวอร์ชัน iOS นับตั้งแต่ iOS 8 เปิดตัว พบว่าสัดส่วนของ iOS 8 เริ่มโตช้าลงในสัปดาห์หลังๆ (Mixpanel บอกว่าคนใช้ iOS 8 มี 45% น้อยกว่าสถิติของแอปเปิลเล็กน้อย)
ถ้าไม่นับเรื่องฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ดูเหมือน iOS 8 จะเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับการอัพเกรด เพราะนอกจากจะเพิ่งเกิดปัญหาจากอัพเดต iOS 8.0.1 ไปแล้ว ตัว iOS 8 เองยังเสถียรน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้าอีกด้วย
จากรายงานของ Crittercism บริษัทผู้พัฒนาโซลูชันสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพให้แอพบนมือถือระบุว่า iOS 8 จากที่เก็บข้อมูลในสัปดาห์แรกมีอัตราการแครช (หรือแอพเด้ง) มากกว่า iOS 7 เกือบเท่าตัว โดยเพิ่มขึ้นจากราว 2% ไปเป็น 3.56% ในรุ่นปัจจุบัน
หลังจากผ่านพ้น 24 ชั่วโมงแรกที่ Apple เปิดให้ดาวน์โหลด iOS 8 ก็เริ่มมีรายงานเกี่ยวกับการปรับใช้ (adoption) ของ iOS 8 ออกมาบ้างแล้ว โดยระบุว่ายอดการปรับใช้/อัพเกรดอุปกรณ์ไปใช้ iOS 8 กลับมีอัตราที่น้อยลงกว่าที่คาดไว้
ถึงแม้ในช่วงปล่อยให้ดาวน์โหลดแรกๆ จะมีผู้ใช้อัพเดตค่อนข้างน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับ iOS 6 และเพิ่มเป็น 74% เมื่อปล่อยไปได้ 2 เดือน แต่เมื่อผ่านไปกว่า 10 เดือน ล่าสุด iOS 7 มีส่วนแบ่งบนอุปกรณ์แอปเปิลถึง 90% เข้าไปแล้ว
ขณะที่ iOS 6 ยังเหลืออยู่เพียง 9% และยังคงมีผู้ใช้เวอร์ชันก่อนหน้านั้นอยู่ที่ 2% ของอุปกรณ์ทั้งหมด (เกินมาจากไหน 1 เปอร์เซ็นต์?)
ที่มา - MacRumors
วันนี้ Apple ได้ออกอัพเดต iOS 7.1.2 ซึ่งเป็นอัพเดตย่อย มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ดังนี้
อุปกรณ์ที่อัพเดตได้จะต้องเป็นอุปกรณ์ iOS ที่ใช้ iOS 7 ได้ แนะนำให้ backup ข้อมูล เมื่อพร้อมแล้วไปที่ Settings -> General -> Software Update เพื่อดาวน์โหลดไฟล์และอัพเดตได้ทันที
ที่มา - MacRumors
ในที่สุด iOS 7.1.x ก็ถูกเจลเบรกได้เสียที หลังจากมีความพยายามอย่างต่อเนื่อง จนทีมเดิมที่เคยปล่อยเครื่องเจลเบรกสำหรับ iOS 7.0.x ถึงกับบอกว่าอาจจะรอ iOS 8 แต่โชคดีสำหรับคนที่รออยู่จะไม่ต้องรอนานขนาดนั้น ด้วยฝีมือของนักพัฒนาชาวจีนที่เพิ่งปล่อยเครื่องมือสำหรับเจลเบรก iOS 7.1.1 ชื่อว่า Pangu มาแล้ว
Pangu รองรับการเจลเบรก iOS 7.1 และ 7.1.1 บนอุปกรณ์ iOS ทุกรุ่นที่สามารถอัพเดตได้ โดยในเวอร์ชันอัพเดต 1.1 รองรับการใช้งานบน OS X (10.8 ขึ้นไป) และ Windows (XP ขึ้นไป) รวมถึงเพิ่มส่วนติดต่อผู้ใช้งานภาษาอังกฤษเข้ามา รวมถึงปิดการติดตั้ง 25PP แอพสโตร์เถื่อนสำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้ง Pangu เป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย
Activation lock ที่มาพร้อมกับ iOS 7 จะทำให้ผู้ใช้เจ้าของเครื่องสามารถสั่งล็อกเครื่อง iPhone ที่หายไปผ่าน Apple ID ที่ใช้ในเครื่องนั้นๆ ซึ่งกลายเป็นว่านับตั้งแต่แอปเปิลเปิดตัวความสามารถนี้ออกมา ตัวเลขของจำนวน iPhone ที่โดนขโมยไปในหลายๆ เมืองกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด
The New York Times รายงานว่าตัวเลขของการขโมยอุปกรณ์เคลื่อนที่ของแอปเปิลลดลงกว่า 29% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ใน San Francisco ลดลง 38% และ 24% ในลอนดอน ภายหลังจากที่แอปเปิลเปิดตัวฟีเจอร์นี้ออกมา
เมื่อปลายปีที่แล้ว ทีม evad3rs ได้ตัดสินใจปล่อย jailbreak สำหรับ iOS 7 ออกมาภายใต้ชื่อ evasi0n7 แต่แล้วช่องโหว่ที่ทีมงานได้เลือกใช้ถูกปิดไปใน iOS 7.1 Beta ทำให้ผู้ใช้ที่ได้อัพเกรดมาเป็น iOS 7.1 ตัวเต็มไม่สามารถที่จะ jailbreak อุปกรณ์ iOS ได้ในขณะนี้
ทางเว็บ iDownloadBlog ได้เข้าไปคุยกับหัวหน้าทีม evad3rs นาย @pod2g ซึ่งเขาได้ออกมาบอกว่า ณ วันนี้ และในอนาคตอันใกล้ พวกเขายังไม่สามารถหาช่องโหว่ของ iOS 7.1 ที่สามารถนำมาใช้ในการ jailbreak ได้ แต่ถ้าหากพวกเขาสามารถหาอะไรได้ภายในเดือนถัดไป พวกเขาจะรีบปล่อยตัว jailbreak ออกมาแน่นอน แต่ถ้าทำไม่ได้ภายใน 3 เดือน ก็จะรอ iOS 8 ไปเลย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานอุปกรณ์แอปเปิลที่เป็นระบบปฏิบัติการ iOS 6 จำนวนหนึ่งบอกว่าพวกเขาไม่สามารถใช้ FaceTime ได้ ขณะที่ผู้ใช้ iOS 7 ไม่พบปัญหาดังกล่าว
ล่าสุดแอปเปิลได้ออกเอกสารสนับสนุนอธิบายปัญหาดังกล่าว โดยบอกว่าปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากบั๊ก certificate หมดอายุในวันดังกล่าว โดยทางแก้ไขคืออัพเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชัน 7.0.4 เป็นอย่างน้อย แต่หากอุปกรณ์นั้นไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS 7 ได้ ก็ให้อัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด 6.1.6
ใครที่ยังไม่ยอมอัพเดตเป็น iOS 7 เสียที แล้วต้องการใช้งาน FaceTime ก็ขอแสดงความยินดีที่ท่านจะได้ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดแบบภาคบังคับครับ
ผู้ใช้ iPhone และ iPad บน iOS 7 หลายๆ ท่านคงจะเคยเจอกับปัญหาที่เมื่อถ่ายภาพแล้วได้ภาพที่สวยถูกใจ แต่พอนำไปตั้งค่าเป็น wallpaper แลัวภาพกลับถูกย่อ/ขยาย และถูกตัดไปบางส่วน แต่ปัญหานี้จะหมดไปด้วยแอพ Wallmera ครับ
โดยก่อนการถ่ายภาพ แอพนี้จะแสดงกรอบให้ผู้ใช้เล็งว่าภาพที่จะถ่ายนั้นเมื่อนำไปตั้งค่าเป็น wallpaper แล้วจะเห็นบริเวณใดบ้าง (สามารถดูภาพเปรียบเทียบประกอบคำอธิบายได้ที่ท้ายข่าวครับ)
นอกจากความสามารถดังกล่าวแล้วแอพนี้ยังสามารถ
แอพนี้รองรับเฉพาะเครื่องที่ติดตั้ง iOS 7 ขึ้นไปเท่านั้น ยกเว้น iPhone 4, iPad 2 และเครื่องที่รุ่นเก่ากว่านั้นครับ
ในวันนี้ทางแอปเปิลได้ออกอัพเดต iOS 7.1.1 แล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ติดมากับตัว iOS 7.1 ที่ปล่อยให้ดาวน์โหลดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยมีรายละเอียดการแก้ไขดังนี้
สามารถอัพเดตได้ที่ Settings > General > Software Update ครับ
ที่มา: MacRumors
ดูเหมือนว่าอัพเดต iOS 7.1 ที่เพิ่งปล่อยมานี้ นอกจากแอปเปิลจะเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นแล้ว ยังจัดการเก็บบั๊กไปเรียบวุธอีกด้วย อ้างอิงจากสถิติของบริษัทเก็บข้อมูลแอพอย่าง Crittercism ที่ออกมาเปรียบเทียบอัตราการแครชของแอพ (ภาษาบ้านเราก็ "แอพเด้ง") ใน iOS แต่ละเวอร์ชัน
ในรายงานดังกล่าวระบุว่า iOS 7.1 ลดอัตราการแครชลงไปเหลือเพียง 1.6% เทียบกับ iOS 7 ที่ระบุไว้ที่ 2.1% ที่น่าแปลกใจคือ iOS รุ่นก่อนหน้าอย่าง iOS 6 และ iOS 6.1 กลับมีอัตราการแครชสูงกว่า iOS 7 เสียอีก แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขออกมาก็ตาม
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ได้ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่บน iOS 7.1 ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบ เพราะว่ายังไม่มีโอกาสได้สัมผัส iBeacon ใกล้ตัว ก็คือคุณสมบัติที่ทำให้ iBeacon สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเปิดแอพขึ้นมาเลย โดยอุปกรณ์ iOS จะค้นหา iBeacon รอบตัวของผู้ใช้เองโดยอัตโนมัติ
iBeacon คือเทคโนโลยี Bluetooth LE ที่แอปเปิลเข็นออกมาสู้กับ NFC ที่สามารถทำให้อุปกรณ์ iOS หรือแม้กระทั่ง Android สามารถติดต่อและสื่อสารกับตัวปล่อยสัญญาณได้ โดยการทำงานของมัน สามารถใช้ในการนำทางภายในอาคารเหมือน GPS ในที่ร่มได้ อีกทั้งยังสามารถใช้ในการให้ข้อมูลสินค้าต่างๆ ตามชั้นวาง หรือแม้กระทั่งการชำระเงินด้วยอุปกรณ์ไร้สาย
การรอคอยสิ้นสุด แอปเปิลออก iOS 7.1 ซึ่งถือเป็นการอัพเกรดใหญ่ครั้งแรกของ iOS 7.x มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้
John Gruber เจ้าของบล็อก Daring Fireball เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องข่าววงในจากแอปเปิลกล่าวว่า แอปเปิลจะจัดงาน iTunes Festival ขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐที่งานดนตรี SXSW (South by Southwest) ซึ่งเป็นงานดนตรีที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของสหรัฐอเมริกา งาน SXSW จะเริ่มวันที่ 11 มี.ค. โดยแอปเปิลจะถ่ายทอดสดการแสดงในงานไปยังอุปกรณ์รัน iOS ผ่านแอพหนึ่ง
Gruber อ้างว่าแอพดังกล่าวต้องรันบน iOS 7.1 เป็นขั้นต่ำ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่แอปเปิลจะเปิดตัว iOS 7.1 ในวันใดนับจากนี้
หลังจากปล่อยให้มีแต่ข่าวลือ และการคาดเดาจากนักวิเคราะห์ทั้งหลายเกี่ยวกับ iOS in the Car มาหลายหน ในที่สุดก็มีข้อมูลชัดเจนขึ้นไปอีกกับก้าวแรกของการนำ iOS เข้าไปสู่รถยนต์แล้ว ซึ่งรวบรวมทั้งจากแหล่งข่าววงในอุตสาหกรรมรถยนต์ และบทสัมภาษณ์กับ Eddy Cue หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ และบริการของแอปเปิล ที่ปัจจุบันนั่งเป็นบอร์ดบริหารของ Ferrari อยู่ด้วย
ในรายงานของ Financial Times ระบุว่า iOS in the Car จะบันเดิลมาในรถรุ่นใหม่หลายรุ่น หลายยี่ห้อทั้ง Ferrari, Mercedes-Benz และ Volvo ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ฝั่งตะวันตกทั้งสิ้น ส่วนผู้ผลิตฝั่งรายอื่นๆ อย่าง Honda, Nissan, Chevrolet, Kia, Hyundai และ Jaguar ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในรายงานชิ้นนี้แต่อย่างใด
แอปเปิลเพิ่งปล่อยอัพเดต iOS 6.1.6 และ 7.0.6 เพื่อแก้บั๊ก SSL ไปได้ไม่นาน FireEye บริษัทด้านความปลอดภัยก็ออกมาเผยช่องโหว่ตัวใหม่ที่เปิดให้แอพสามารถเก็บข้อมูลการพิมพ์ (keylogging) ของอุปกรณ์ที่รัน iOS 7.0.x และ 6.1.x ได้โดยไม่ต้องเจลเบรกได้แล้ว
จากรายงานของ FireEye ระบุว่าบริษัทได้ทดลองทำแอพเพื่อเก็บข้อมูลตำแหน่งที่สัมผัสบนหน้าจอได้ แม้ว่าตัวแอพจะไม่ได้เป็นแอพหลักที่ทำงานอยู่ก็ตาม ซึ่งนอกจากจะเก็บตำแหน่งบนหน้าจอแล้ว ยังรวมไปถึงปุ่มกดต่างๆ ตั้งแต่ปุ่มโฮม ปุ่มปรับเสียง รวมถึงการแสกนลายนิ้วมือผ่าน TouchID และยังสามารถส่งข้อมูลดังกล่าวกลับไปยังผู้สร้างแอพได้อีกด้วย
หลังจากที่เมื่อเช้านี้ Apple ได้ปล่อยอัพเดต iOS 7.0.6 ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาช่องโหว่การตรวจสอบ SSL แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากกว่านั้น นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยหลายรายก็เลยพยายามที่จะวิเคราะห์ว่าปัญหาของช่องโหว่นี้เกิดจากอะไร และมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
จนในที่สุดก็มีคนไปไล่ดูซอร์สโค้ดของฟังก์ชันที่ใช้แลกเปลี่ยนกุญแจ SSL เลยพบว่า สาเหตุของปัญหานี้เกิดจากการที่ Apple ใส่คำสั่ง goto fail; เกินมา 1 บรรทัด เลยทำให้ระบบไม่ตรวจสอบค่า hostname ที่ผิดพลาดในใบรับรอง SSL
วันนี้แอปเปิลได้ปล่อย iOS 7.0.6 ซึ่งไฟล์อัพเดตนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มาก แอปเปิลบอกว่าอัพเดตครั้งนี้จะแก้ปัญหาการยืนยันเวลาในการเชื่อมต่อ SSL ซึ่งเป็นปัญหาความปลอดภัย โดย iOS 7.0.6 สามารถดาวน์โหลดได้ทุกเครื่องที่สามารถติดตั้ง iOS 7 ได้
ส่วน iPod touch รุ่นที่ 4 และ iPhone 3GS แอปเปิลก็ยังไม่ทอดทิ้ง ปล่อยอัพเดต iOS 6.1.6 มาแก้ปัญหานี้ด้วยเช่นกัน
ที่มา - 9to5Mac
ก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวว่าแอปเปิลจะเพิ่มฟีเจอร์เกมเข้าไปใน Apple TV และยกระดับสินค้ากลุ่มนี้ให้กลายเป็นตัวหลัก และตอนนี้ก็มีข้อมูลเพิ่มเติมของ Apple TV รุ่นใหม่มาอีกชุดแล้ว
โดยมีคนไปพบรายละเอียดของ Apple TV ชุดใหม่ใน iOS 7 ซึ่งระบุถึงอุปกรณ์รหัส AppleTV4,1 ซึ่งใหม่กว่ารุ่นปัจจุบันที่ใช้รหัส AppleTV3,2 ที่เปิดตัวมาเมื่อต้นปี 2013
Path แอพสังคมออนไลน์สำหรับเพื่อนสนิทออกอัพเดตแอพบน iOS โดยในเวอร์ชันนี้จะเน้นไปที่การออกแบบตัวแอพให้เข้ากับ iOS 7 และปรับปรุงหน้าตาในหน้า settings และหน้าร้านค้าให้ง่ายขึ้น
โดยในหน้า settings นั้นมีการจัดหมวดหมู่ของการตั้งค่า 3 หมวดประกอบด้วย บัญชี, การแจ้งเตือน และการแชร์ข้อมูล ส่วนในหน้า ร้านค้านั้นมีการปรับปรุงโดยมีหน้าแสดงสติ๊กเกอร์ และฟิลเตอร์แบบพรีเมียมในหน้าแรกของร้านค้า ส่วนตัวเลือกในการอัพเกรดเป็น Path Premium (บริการพิเศษที่สามารถใช้งานสติ๊กเกอร์ และฟิลเตอร์ได้ไม่จำกัด) ก็มีตัวเลือกในแถบด้านล่างของแอพด้วยเช่นกัน
ผู้ใช้ Path บน iOS สามารถอัพเดตแอพได้แล้วบน App Store
ดูเหมือน iOS 7 ที่แม้จะมีอัพเดตไปหลายครั้ง แต่ก็ยังมีบั๊กหลงเหลืออยู่ ล่าสุดมีรายงานว่าพบช่องโหว่ให้ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์ Find My iPhone โดยไม่ต้องรู้รหัสผ่านได้ (ปกติการจะปิดฟีเจอร์นี้ต้องใช้รหัสผ่าน iCloud ด้วย)
ช่องโหว่ดังกล่าวใช้ได้กับ iOS 7.0.4 ดังนั้นน่าจะอนุมานได้ว่าน่าจะมีผลกับ iOS 7.0.x ทุกรุ่น (ไม่มีข้อมูลว่าใช้กับ iOS 7.0.5 ด้วยได้ไหม) แต่จะไม่มีผลกับผู้ใช้ที่ตั้งค่า Touch ID หรือตั้งรหัสล็อกเครื่องไว้ เพราะผู้อื่นจะไม่สามารถเข้าไปถึงหน้าตั้งค่าได้นั่นเอง
ข่าวดีคือช่องโหว่นี้ใช้กับ iOS 7.1 ไม่ได้ ดังนั้นน่าจะมีแพตช์มาอัพเดตให้กับ iOS 7.0 เร็วๆ นี้ครับ
ที่มา - iDownloadBlog
แอปเปิลปล่อย iOS 7.1 beta 5 ให้กับนักพัฒนาเรียบร้อยแล้ว ในอัพเดตนี้ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงส่วนติดต่อผู้ใช้ไปอีกหลายส่วน โดยเว็บไซต์ MacRumors ได้รวมความเปลี่ยนแปลงได้ดังนี้ครับ
แอปเปิลพูดถึง iOS in the Car หรือระบบสั่งงาน และส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับใช้งาน iOS ร่วมกับหน้าจอบนรถยนต์มาตั้งแต่งาน WWDC เมื่อกลางปี 2013 แต่หลังจากโชว์ภาพแรกบนเวทีไป ก็ไม่มีข่าวคราวของ iOS in the Car ออกมาอีกเลย (บอกเพียงแต่ว่ายังทำอยู่)
ผ่านไปครึ่งปีกว่าๆ ก็มีข่าวคราวของ iOS in the Car ออกมาแล้ว โดยมาจากนักพัฒนาภายนอกที่รัน iOS in the Car มาให้ดู โดยชุดแรกเป็นตัวที่รันอยู่บน iOS 7.0.3
ส่วนติดต่อผู้ใช้ของ iOS in the Car บน iOS 7.0.3 นั้นมีส่วนหลักๆ อยู่ที่ขอบล่างสำหรับวางปุ่มโฮม ข้างกันมีปุ่มควบคุม และส่วนแสดงผลแบตเตอรี่, Wi-Fi ส่วนหน้าจอที่เหลือมีไว้สำหรับแสดงผลแอพโดยเฉพาะ ซึ่งในที่นี้ก็มีเพียงแผนที่เท่านั้น
รายละเอียดอื่นนอกเหนือจากส่วนติดต่อผู้ใช้มีดังนี้ครับ