Roku แพลตฟอร์มสมาร์ททีวีและกล่องชมรายการสตรีมมิ่งในสหรัฐ รายงานปัญหาข้อมูลผู้ใช้งานรั่วไหล กระทบ 576,000 บัญชี ซึ่งเป็นการรายงานปัญหานี้ครั้งที่สอง หลังจากพบปัญหาเดียวกันในเดือนมีนาคม โดยตอนนั้นมีบัญชีที่ได้รับผลกระทบ 15,000 บัญชี แต่หลังตรวจสอบเพิ่มเติมจึงรายงานผลกระทบที่มากขึ้น

สิ่งที่ Roku พบคือผู้โจมตีใช้วิธีนำล็อกอินและรหัสผ่าน ที่มีข้อมูลหลุดออกมาจากแหล่งอื่น มาทดลองใช้ล็อกอินซ้ำบน Roku วิธีการนี้เรียกว่า credential stuffing ซึ่ง Roku ย้ำว่าแหล่งข้อมูลนั้นไม่ได้มาจาก Roku ส่วนผลกระทบนั้นพบว่ามี 400 บัญชี ที่สามารถซื้อคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มสำเร็จด้วย แต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ และหมายเลขบัตรเครดิตทั้งหมดได้

Vimeo แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ ประกาศหยุดการซัพพอร์ตแอปเวอร์ชันในทีวีทั้งหมด โดยจะถอดแอปออกจากสโตร์ และแอปจะไม่ได้รับการอัพเดตทั้งฟีเจอร์และความปลอดภัยอีกต่อไป มีผลทั้ง Apple TV, Android TV, Amazon Fire TV และ Roku ตั้งแต่ 27 มิถุนายน เป็นต้นไป

Vimeo ให้เหตุผลของการตัดสินใจนี้ โดยบอกว่าที่ผ่านมาแอปเวอร์ชันทีวีพบปัญหาหลายอย่าง ทำให้ประสบการณ์รับชมไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานที่ต้องการรับชมทางทีวี ใช้วิธีแคสต์คอนเทนต์จากมือถือ, แท็บเล็ต หรือเว็บเบราว์เซอร์ขึ้นจอใหญ่แทน

จากเหตุการณ์ธนาคาร Silicon Valley Bank หรือ SVB ถูกสั่งปิด ลูกค้าไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ชั่วคราว ที่ประเมินว่าอาจกระทบต่อสินทรัพย์และกระแสเงินสดของบริษัท Tech และสตาร์ทอัพหลายแห่งที่เป็นลูกค้า ล่าสุดมีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น ที่มีเงินฝากใน SVB เริ่มทยอยรายงานข้อมูลเพิ่มเติมต่อ SEC หรือสำนักงาน กลต. สหรัฐ แล้ว

หลังจากมีข่าวลือมานานเกือบปี ในที่สุด Roku แบรนด์กล่องทีวีชื่อดังของสหรัฐ ก็เปิดตัวสมาร์ททีวีระบบปฏิบัติการ Roku OS ของตัวเอง (ก่อนหน้านี้ขายแต่กล่อง)

สมาร์ททีวีของ Roku มี 2 ระดับคือ Roku Select ตัวถูก และ Roku Plus ตัวแพงที่มีฟีเจอร์อัพเกรดขึ้น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 24-75 นิ้ว มีทุกระดับราคาตั้งแต่ 119-999 ดอลลาร์ เริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกาช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้

Roku เจ้าของแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีจากสหรัฐ (ขายกล่องเซ็ตท็อปต่อกับทีวี และขายไลเซนส์ OS ให้ผู้ผลิตทีวี) อาจเข้ามาผลิตสมาร์ททีวีแบรนด์ของตัวเองในเร็วๆ นี้

เว็บไซต์ Insider อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า Roku กำลังพัฒนาสมาร์ททีวีหลายรุ่น หลายระดับราคา และกำลังทดสอบกับกลุ่มลูกค้าในโฟกัสกรุ๊ปอยู่ว่าจะเลือกรุ่นไหนมาขายบ้าง

ตลาดของ Roku รุ่งเรืองตามการเติบโตของบริการสตรีมมิ่ง (โดยเฉพาะ Netflix ในยุคสตรีมมิ่งแรกๆ) เพราะลูกค้าซื้อกล่องเพื่อมาต่อกับทีวีเดิม แต่เมื่อตลาดสมาร์ททีวีเติบโต ลูกค้าสามารถดูสตรีมมิ่งได้จากแอพของสมาร์ททีวีโดยตรง ไม่ต้องพึ่งกล่อง Roku อีก ซึ่ง Roku ก็ปรับตัวด้วยการขายไลเซนส์ให้ผู้ผลิตทีวีบางราย เช่น TCL, Hisense, Philips, Sanyo, JVC, Hitachi

The Wall Street Journal รายงานว่า Brian Roberts ผู้บริหาร Comcast ซึ่งเป็นเจ้าของ NBCUniversal ที่มีบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Peacock กำลังพิจารณาร่วมมือกับ ViacomCBS หรืออาจซื้อกิจการ Roku เพื่อเสริมบริการสตรีมมิ่งให้แข็งแกร่งมากขึ้น

บริการสตรีมมิ่ง Peacock เริ่มให้บริการในอเมริกาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว มีจำนวนผู้สมัครใช้งาน 42 ล้านคน แต่มีผู้ใช้งานที่เสียเงินน้อยกว่า 10 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งสตรีมมิ่งรายใหญ่ในตลาดอย่าง Netflix หรือ Disney+ ทั้งนี้ตัวแทนของ Comcast, ViacomCBS และ Roku ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว

Rotten Tomatoes เปิดตัวช่องสตรีมมิ่งใหม่ The Rotten Tomatoes Channel เข้าถึงได้ผ่าน Roku เป็นการฉายรายการที่ผลิตจากทีม Rotten Tomatoes ตลอด 24 ชั่วโมง หรือฉายรายการตามตารางเวลาในแบบทีวีดั้งเดิม เช่น รายการพูดคุยกับนักแสดง วิเคราะห์ฉากหนัง รายการจัดอันดับหนังต่างๆ

Roku ผู้ผลิตกล่องชมสตรีมมิ่งผ่านโทรทัศน์ ประกาศเข้าถือลิขสิทธิ์เนื้อหาของ Quibi แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ประกาศปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้ ซึ่งคอนเทนต์ที่ซื้อมา ประกอบด้วยรายการและสารคดีรวมมากกว่า 75 รายการ โดยได้สิทธิในการจัดจำหน่ายทั่วโลกด้วย นอกจากนี้ Roku ยังได้สิทธิเผยแพร่เนื้อหาของ Quibi ที่ผลิตไปแล้วแต่ยังไม่เคยออกอากาศอีกด้วย

Roku ระบุว่าเนื้อหาทั้งหมดของ Quibi จะนำมาเผยแพร่ต่อผ่านทาง Roku Channel ช่องสตรีมมิ่งสำหรับลูกค้า Roku

Wall Street Journal รายงานว่า Quibi สตรีมมิ่งบนมือถือที่ปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2020 จะขายลิขสิทธิ์เนื้อหาต่อให้ Roku โดยยังไม่มีรายละเอียดเรื่องมูลค่าดีล

Roku ประกาศตัวเลขความสำเร็จในงาน CES เผยมีผู้ใช้งานแล้ว 27 ล้านบัญชี มีการสตรีมแล้วราว 24,000 ล้านชั่วโมง และยังประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ทีวี TCL ทำทีวีรุ่นพิเศษ 8K ที่จะออกมาภายในปี 2019 ด้วย

Roku บอกว่าตัวเลขผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 40% จำนวนชั่วโมงสตรีมเพิ่มขึ้น 61% เฉพาะในไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ผู้ใช้ Roku ใช้เวลาประมาณ 7.3 พันล้านชั่วโมง เพิ่มขึ้นประมาณ 68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

Roku ยังประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับ TCL ทำทีวี 8K ที่ตัวซอฟต์แวร์สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Roku ได้ด้วย จะเปิดตัวภายในปี 2019 นี้

เว็บไซต์ Variety อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า Roku กำลังวางแผนทำบริการสมัครสมาชิกวิดีโอแบบเดียวกับที่ Amazon มี โดยทุกคนที่ใช้อุปกรณ์ Roku สามารถลงชื่อสมัครใช้และดูเนื้อหาได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่ม

ปัจจุบัน Roku มีเนื้อหาสตรีมมิ่งจากหลายบริษัทที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์สามารถเข้าดูได้ แต่ต้องโหลดแอพแยก ถ้ามีบริการสมัครสมาชิกวิดีโอเกิดขึ้นจริงๆ Roku สามารถรวบรวมเนื้อหาจากผู้ให้บริการหลายรายให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูและลงชื่อสมัครใช้ได้จากภายในแพลตฟอร์มเลย นอกจากนี้บริษัทยังกำลังพัฒนาระบบจ่ายเงินของตัวเองหรือ Roku Pay ด้วย

ในรายงานการสำรวจอุปกรณ์สตรีมมิ่งในสหรัฐฯ ปี 2017 Roku ยังคงครองแชมป์ที่หนึ่งของอุปกรณ์สตรีมมิ่งประจำบ้าน

ในวันนี้ Twitter ได้ประกาศหยุดการพัฒนาแอพบน Android TV, Roku และ Xbox ผ่านทาง Twitter Support โดยจะเริ่มหยุดการสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมเป็นต้นไป ทาง Twitter แนะนำให้ใช้แอพหรือเข้าเว็บไซต์ผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือเดสท็อปแทน

แอพ Twitter บน Android TV นั้นถูกปล่อยออกมาในช่วงปลายปี 2559 ตัวแอพนั้นสามารถดูการถ่ายทอดสดบน Twitter ได้ หรือดูทวีตที่กำลังเป็นกระแสระหว่างดูการถ่ายทอดสดก็ได้เช่นกัน โดยการอัพเดตครั้งล่าสุดคือเดือนธันวาคมปี 2560

ที่มา - Android Police 

Roku ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐฯ เปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ที่เอาใจคนรักการดูทีวี

เพราะ Roku รู้ว่าหลายคนชอบกินขนมไปพลางดูทีวีไปพลาง การที่จะต้องล้างมือเพื่อหยิบรีโมทเพื่อกดเปลี่ยนช่องหรือหารายการใหม่นั้นเป็นเรื่องชวนกวนใจไม่น้อย Roku จึงคิดสร้างอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์นี้ มันคือ Happy Streaming Socks ถุงเท้าอัจฉริยะที่ถูกสร้างสำหรับคนรักการดูทีวี

Happy Streaming Socks มีฟีเจอร์สำคัญดังนี้

ยุคนี้ไม่ว่าใครก็อยากจะสร้าง ecosystem ของตัวเองขึ้นมา ไม่เว้นแม้แต่ Roku บริษัทกล่องสตรีมมิงในสหรัฐ ที่ออกมาประกาศว่าจะเปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะหรือ Virtual Assistant ลักษณะเดียวกับ Alexa, Google Assistant ของตัวเอง

Roku ระบุด้วยว่าได้ร่วมมือกับบริษัทนอกในการพัฒนาลำโพงอัจฉริยะและอุปกรณ์เครื่องเสียงอื่นๆ ที่รันด้วยผู้ช่วยอัจฉริยยะของ Roku หรือสามารถเชื่อมต่อกับ ecosystem ของ Roku ด้วย โดยพาร์ทเนอร์เจ้าแรกที่ถูกเปิดเผยออกมาคือ TCL ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา

ที่มา - SCMP

Park Associates ได้ออกรายงานการสำรวจอุปกรณ์สตรีมมิ่งในสหรัฐฯ ในปี 2017 ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า อุปกรณ์สตรีมมิ่ง Roku นั้นยังคงครองแชมป์ที่หนึ่งของอุปกรณ์สตรีมมิ่งประจำบ้าน และมีส่วนแบ่งมากกว่าเดิมอีกด้วย

จากผลการสำรวจนั้น พบว่าปัจจุบัน Roku ครองส่วนแบ่งอยู่ที่ 37% ในไตรมาสแรก โดยจากรายงานเผยว่าส่วนแบ่งนี้เพิ่มขึ้นจาก 30% ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งนอกจาก Roku แล้วก็มี Fire TV จาก Amazon ที่เพิ่มจาก 16% ในปีที่แล้วเป็น 24% ในปีนี้ ทำให้ Amazon แย่งที่สองจาก Chromecast ของ Google ที่มีส่วนแบ่งในปีนี้อยู่ที่ 18% ไปได้ ในขณะที่ Apple TV นั้นมีส่วนแบ่งร่วงลงเหลือ 15%

บริษัทวิจัยการตลาด eMarketer เผยตัวเลขมีผู้ใช้ 168 ล้านรายดูคอนเทนต์บนทีวีผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และครึ่งหนึ่งใช้อุปกรณ์สตรีมมิ่ง โดย 4 ผู้เล่นในตลาดนี้ที่ครองอันดับต้นๆ คือ Roku, Amazon, Google และ Apple

Roku มียอดผู้ใช้งานสูงสุดคือ 38.9 ล้านราย อันดับสองคือ Google Chromecast มีผู้ใช้ 36.9 ล้านราย อันดับสาม Amazon Fire TV มีผู้ใช้ 35.8 ล้านราย และอันดับสี่คือ Apple มีผู้ใช้ 21.3 ล้านราย

Park Associates บริษัทวิจัยการตลาดเผยส่วนแบ่งอุปกรณ์สตรีมมิ่งปี 2014 ในอเมริกา พบว่า Roku เป็นเจ้าตลาดครองอันดับ 1 ด้วยยอดขาย 34% ตามมาด้วย Google ที่ 23% และ Amazon ขึ้นมาอันดับที่ 3 ได้แล้ว ทำให้เบียด Apple ตกเป็นอันดับที่ 4 โดยทั้ง 4 แบรนด์ข้างต้นมียอดขายรวมในตลาดอเมริกาอยู่ที่ 86% ของบ้านที่ต่อบรอดแบรนด์ในอเมริกา

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า 20% ของบ้านที่ต่อบรอดแบรนด์ในอเมริกาที่จะต้องมีอุปกรณ์สตรีมมิ่ง หากนับเป็นอุปกรณ์แบบ stick อย่าง Chromecast, Fire TV Stick นั้นมีถึง 8% ที่มีอุปกรณ์เหล่านี้อย่างน้อย 1 ชิ้น

หากนับเป็นการใช้งานนั้น พบว่าอุปกรณ์ที่ถูกใช้งานมากที่สุดจะเป็น Roku 37%, Google 19%, Apple 17% และตามด้วย Amazon 14%

บริษัทวิจัยตลาด Parks Associates สำรวจส่วนแบ่งตลาดกล่องสตรีมมิ่ง (streaming media device) ยอดนิยมในกลุ่มผู้ใช้บรอดแบนด์ของสหรัฐอเมริกา ผลปรากฎว่า Chromecast ของกูเกิลสามารถแซงหน้า Apple TV ขึ้นมาเป็นอันดับสองได้แล้ว

อุปกรณ์ยอดฮิตอันดับหนึ่งยังเป็นกล่อง Roku ที่ครองแชมป์มายาวนาน แต่ด้วยส่วนแบ่งที่ลดลงจากเดิมมาก นอกจากนี้อุปกรณ์หน้าใหม่ๆ อย่าง Amazon Fire TV ก็เบียดเข้ามาเป็นอันดับสี่เช่นกัน ทำให้ผู้เล่นหน้าเดิมๆ อย่าง Sony, Netgear, D-Link อันดับตกลงกันถ้วนหน้า

Parks Associates ยังให้ข้อมูลว่าเกือบ 50% ของผู้ชมโทรทัศน์ในสหรัฐหันมาดูรายการแบบ on-demand ผ่านอินเทอร์เน็ตกันแล้ว ขยับสูงขึ้นจากสัดส่วน 38% ในปี 2010

เมื่อพูดถึงแบรนด์ Roku คนไทยอาจไม่ค่อยคุ้นเคยมากนัก แต่จริงๆ แล้ว Roku เป็นแชมป์ขายกล่องวิดีโอสตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกามายาวนาน ยอดขายเหนือกว่าคู่แข่งทุกราย รวมถึง Apple TV ด้วย

ล่าสุด Roku ออกมาประกาศความสำเร็จกับยอดขายรวม 10 ล้านกล่องเฉพาะในสหรัฐ และเผยสถิติการรับชมรวมต่อสัปดาห์ที่เหนือกว่าคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น (อ้างจากข้อมูลของ NPD)

ที่ผ่านมาเรามักเห็นสินค้าตระกูลสมาร์ททีวี ถูกผลักดันมาจากผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ โดยเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในท้องตลาด (เช่น Google TV หรือ webOS) หรือบ้างก็ทำเอง (เช่น ซัมซุง)

แต่รอบนี้กลับกันครับ เพราะเป็นความริเริ่มของ Roku ผู้ขายกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์สำหรับดูวิดีโอออนไลน์ ที่มีแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่หันมาผนวกแพลตฟอร์มเข้ากับทีวีที่ผลิตโดยแบรนด์อื่นแทน (อธิบายง่ายๆ คือไม่ต้องมีกล่อง Roku แล้ว ยัดซอฟต์แวร์ใส่สมาร์ททีวีมาเลย)

บริษัทวิจัย Park Associates เผยส่วนแบ่งฮาร์ดแวร์กล่องสตรีมมิ่ง (streaming media player) ในปี 2014 พบว่า Roku เป็นเจ้าตลาดโดยมีส่วนแบ่งสูงถึง 46% ของบ้านที่ต่อเน็ตบรอดแบนด์ในสหรัฐ (U.S. broadband households)

อันดับสองเป็นของ Apple TV ที่มีส่วนแบ่ง 26% และที่เหลือคืออุปกรณ์ค่ายอื่นๆ อย่าง Sony, NETGEAR, TiVo มีส่วนแบ่งรวมกัน 28%

จุดที่น่าสนใจทั้ง Roku และ Apple TV มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากปี 2013 (37% และ 24% ตามลำดับ) ในขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ค่ายอื่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง ปีที่แล้ว Roku ขายกล่องได้ 3.8 ล้านกล่อง ส่วน Apple TV ขายได้ 2 ล้านกล่อง แต่ในตลาดโลก Apple TV กลับขายดีกว่าเพราะ Roku มีบริการจำกัดเพียง 4 ประเทศเท่านั้น

Chromecast ช่วยเปิดศักราชใหม่ของการส่งภาพหรือวิดีโอจากจอมือถือขึ้นไปแสดงบนจอทีวี แอพมือถือจำนวนไม่น้อยรองรับ Google Cast SDK กันอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม โลกของสมาร์ททีวีไม่ได้มีแค่ Chromecast และมีแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีจากผู้ผลิตรายอื่นอีกมากทำให้งานของนักพัฒนาลำบากขึ้นหลายเท่า

LG พยายามแก้ปัญหานี้โดยออก Connect SDK ชุดพัฒนาสำหรับแอพมือถือ (ปัจจุบันรองรับ Android/iOS/เว็บแอพที่สร้างด้วย Cordova) ที่สามารถส่งภาพขึ้นจอสมาร์ทีวีได้ 5 แพลตฟอร์ม ได้แก่