ในงาน Samsung Developer Conference 2018 ซัมซุงเปิดตัว UI แบบใหม่ของมือถือยุคถัดไป โดยใช้ชื่อว่า One UI

One UI เปลี่ยนแนวทางจาก UI ของซัมซุงในปัจจุบัน (Samsung Experience) โดยใช้สีสันสดใสมากขึ้น ต่างจากตัวปัจจุบันที่เน้นพื้นหลังสีขาวเพียงอย่างเดียว, ใช้สี่เหลี่ยมมุมโค้งแทนสี่เหลี่ยมมุมฉาก เพื่อสะท้อนถึงมือถือของซัมซุงรุ่นหลังๆ ที่เป็นขอบจอโค้งหมดแล้ว, เน้นความเรียบง่ายกว่าเดิม และเปลี่ยนดีไซน์ไอคอนใหม่ (อีกแล้ว)

One UI ยังออกแบบมาให้ใช้งานด้วยมือเดียวได้สะดวก ปุ่มต่างๆ ที่ใช้งานบ่อยจะวางอยู่ชิดขอบล่างของหน้าจอ วัตถุบนจอมีขนาดใหญ่ขึ้น กดง่ายขึ้น และมี Night Mode สำหรับใช้งานในที่มืด

วันนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนพฤศจิกายน 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 พ.ย. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 พ.ย. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 พ.ย. มาด้วย)

แพตช์ 1 พ.ย. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 17 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 4 จุด เป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่าทั้ง 4 จุด ส่วนแพตช์ 5 พ.ย. แก้เพิ่มอีก 19 จุด เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตอย่าง Qualcomm เกือบทั้งหมด เป็นช่องโหว่ระดับร้ายแรงถึง 3 จุด

Yongnuo บริษัทผู้ผลิตกล้องของจีนเปิดตัว กล้อง mirrorless รุ่น YN450 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat รองรับการถอดเปลี่ยนเลนส์ พร้อมใช้งานร่วมกับเลนส์ DSLR ตระกูล Canon EF ได้ด้วย

หนึ่งในมือถือสุดคุ้มประจำปี 2018 ย่อมหนีไม่พ้น Pocophone F1 ที่เพิ่งวางขายในไทยเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาโดยมาพร้อม Android 8.1 Oreo ล่าสุดมีรายงานว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจะได้รับอัพเดตถึง Android Q เลยทีเดียว

เรื่องราวเริ่มจากมีผู้ใช้รายหนึ่งทวีตหา Poco India ว่าอยากได้อัพเดตเวอร์ชันสัก 2 รุ่น ซึ่ง Jai Mani หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ Pocophone ก็ได้ตอบกลับว่าจะอัพเดตให้ถึง Android Q เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่มีกำหนดการว่า Pocophone F1 จะได้รับอัพเดต Android 9.0 Pie เมื่อใด

ที่มา - Android Authority

Google รายงานในเว็บไซต์ Android Developers ในรอบล่าสุดประจำเดือนตุลาคม โดย Android Nougat ยังครองแชมป์เป็น Android เวอร์ชันที่มีคนใช้มากที่สุด ส่วนอันดับสองเป็น Android Oreo ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตให้กับ Office Lens แอพถ่ายภาพเพื่อใช้แปลงเป็นเอกสาร โดยได้เพิ่มความสามารถใหม่ให้ทั้งบน iOS และ Android มีรายละเอียดดังนี้

ฟีเจอร์ใหม่บน iOS

• เพิ่มตัวเลือกให้สามารถเขียนข้อความลงในเอกสารได้

ปัญหาผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ไม่ยอมอัพเดตแพตช์ Android เป็นเรื่องเรื้อรังมานาน ล่าสุดเว็บไซต์ The Verge ได้เอกสารสัญญาระหว่างกูเกิลกับผู้ผลิตรายหนึ่ง และพบว่ากูเกิลกำหนดเงื่อนไขไว้ในสัญญาโดยตรง ว่าผู้ผลิตต้องอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยอย่างน้อย 4 ครั้งในปีแรกที่วางขาย ส่วนปีที่สองระบุว่าต้องอัพเดตแพตช์แต่ไม่ระบุจำนวนครั้ง

การออกแพตช์ยังมีกำหนดเวลาบังคับว่า อุปกรณ์จะต้องปิดช่องโหว่ที่มีอายุเกิน 90 วัน นั่นแปลว่าผู้ผลิตสามารถทิ้งช่วงการออกแพตช์ให้ช้ากว่ารอบแพตช์ของกูเกิลได้ประมาณ 3 เดือน เท่ากับเฉลี่ยแล้วหนึ่งปีต้องออกแพตช์อย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง

เงื่อนไขของกูเกิลมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2018 เป็นต้นไป และมีผลกับสินค้าที่มีจำนวนผู้ใช้เกิน 1 แสนราย

กูเกิลเคยประกาศเอาไว้ว่า จะเพิ่มข้อมูล metadata ลงในไฟล์ APK ของแอพบน Play Store เพื่อยืนยันว่าเป็นไฟล์ที่เคยเผยแพร่ผ่าน Play Store จริงๆ

ล่าสุดกูเกิลขยายผลจากข้อมูลนี้แล้ว โดยแอพที่แชร์ไฟล์แบบ P2P ผ่านโปรแกรมจำพวก SHAREit หรือ Google Files Go จะมีการแจ้งเตือนว่าเป็นไฟล์แอพแท้หรือไม่ แม้ว่าอุปกรณ์ที่ใช้งานจะไม่ได้เชื่อมต่อเน็ตก็ตาม

กูเกิลอธิบายว่าฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มช่องทางการเผยแพร่แอพให้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่การเชื่อมต่อเน็ตยังจำกัด (เช่น อินเดีย) แต่ก็ยังคงมาตรฐานด้านความปลอดภัยเอาไว้ โดยที่ทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม

กูเกิลประกาศเริ่มใช้งานฟีเจอร์ใหม่สำหรับนักพัฒนาแอพบน Google Play Store ซึ่งหลายอย่างคือสิ่งที่ประกาศไว้ในงาน Google I/O 2018

ตามที่กูเกิลได้เตรียมเรียกเก็บเงินจากผู้ผลิตอุปกรณ์ Android ในยุโรป เพื่อชดเชยรายได้จากคำสั่ง EU ที่ทำให้ไม่สามารถบังคับให้ลงแอปกูเกิลพื้นฐานได้แบบอดีต แต่ตอนนั้นยังไม่มีข้อมูลว่าราคาที่ผู้ผลิตต้องจ่ายอยู่ที่เท่าใดกันแน่

ล่าสุด The Verge อ้างว่าได้รับเอกสารที่กูเกิลแจ้งกับผู้ผลิตอุปกรณ์ Android เกี่ยวกับราคาสำหรับการลงแอปบริการของกูเกิลในอุปกรณ์ ซึ่งรวมทั้ง Google Play Store โดยราคาแตกต่างกันไปตามประเทศ และชนิดอุปกรณ์ ซึ่งจะมีผลกับอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2019 เป็นต้นไป

กูเกิลปรับเงื่อนไขการใช้แอปพื้นฐานบน Android สำหรับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในยุโรป หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ EU ได้ออกคำสั่งปรับกูเกิล 4.3 พันล้านยูโร เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากกูเกิลบังคับให้ผู้ผลิตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งกูเกิลให้ไลเซนส์ฟรี โดยต้องลงแอปกูเกิลเสิร์ช และเบราว์เซอร์ Chrome เป็นพื้นฐานตามด้วย ซึ่ง EU มองว่าเป็นการผูกขาดทางการค้า

ข้อกำหนดใหม่ของกูเกิลสำหรับในยุโรป ได้แก่ ผู้ผลิตอุปกรณ์ Android สามารถเลือกใช้กูเกิลแอปหรือ fork ได้อิสระ ไม่มีข้อกำหนดแบบเงื่อนไขเดิมที่ต้องมีแอปกูเกิลเป็นพื้นฐานเสมอ

เก็บตกประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Google Pixel 3 ที่เปิดตัวเมื่อคืนนี้

ประเด็นแรกคือ Google Pixel 3 มาพร้อม Android 9.0 Pie ที่ไม่มีปุ่ม Navigation Bar ด้านล่างเหมือนที่แล้วๆ มา แต่บังคับใช้ Gesture ท่าใหม่ของ Pie เพียงอย่างเดียว

เรื่องนี้กูเกิลเคยพูดมาก่อนแล้วว่า Gesture แบบใหม่สามารถปิดได้บนมือถือรุ่นอื่นๆ แต่บน Pixel ตัวใหม่จะบังคับใช้แบบเปลี่ยนกลับไม่ได้

กูเกิลประกาศปรับนโยบายของ Play Store ใหม่เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ โดยแอพกลุ่มที่ต้องเข้าถึงข้อมูลการโทรศัพท์ (call log) และ SMS ของผู้ใช้งาน จะต้องเป็นแอพที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นดีฟอลต์ในการโทร/ส่งข้อความเท่านั้น จึงจะมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้

นโยบายนี้มาจากแนวทางช่วงหลังของกูเกิลที่เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยและข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น การที่ผู้ใช้ระบุว่าแอพเหล่านี้เป็นดีฟอลต์ แปลว่าเชื่อมั่นในแอพดังกล่าวจริงๆ จึงยอมให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ แถมยังช่วยป้องกันปัญหาดาวน์โหลดแอพด้านโทรศัพท์/SMS มา และเผลออนุญาตสิทธิการเข้าถึงไป จนเกิดปัญหาข้อมูลรั่วไหลได้

นโยบายนี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วันหลังจากนี้

มีคนไปพบว่าโค้ดของ Chrome for Android ถูกแก้ไขโดยเลิกซัพพอร์ต Android Jelly Bean (เวอร์ชัน 4.1-4.3) และระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่าที่สุดที่รองรับคือ KitKat (4.4)

กูเกิลยังไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ ในเรื่องนี้ และยังไม่มีข้อมูลว่าจะเริ่มบังคับใช้เมื่อไร แต่ส่วนแบ่งตลาดของ Jelly Bean ก็ลดลงมาก เหลือประมาณ 3.5% ของผู้ใช้ Android ทั้งหมด (แต่ถ้าคิดเป็นจำนวนเต็มจากจำนวนเครื่องหลักพันล้าน ก็ยังเยอะอยู่ดี)

หาก Chrome for Android เลิกซัพพอร์ต Jelly Bean ทางออกของผู้ใช้คงต้องเป็นเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ เช่น Firefox for Android ที่ยังซัพพอร์ต Jelly Bean อยู่

Android Jelly Bean เวอร์ชัน 4.1 เปิดตัวในปี 2012 ส่วนเวอร์ชันสุดท้ายคือ 4.3 ออกในปี 2013

ประเด็นเรื่องแอพ Your Phone บน Windows 10 October 2018 Update มีข้อมูลว่าไมโครซอฟท์มีแผนการใหญ่กับแอพตัวนี้ในอนาคต โดยจะเปิดให้เราใช้งานแอพตัวใดก็ได้ของ Android บน Windows 10 ได้เลย

ในงานแถลงข่าว Surface รอบล่าสุด ไมโครซอฟท์โชว์เดโมของแอพ Your Phone เวอร์ชันใหม่ที่ยังไม่เปิดให้คนทั่วไปใช้งาน จากหน้าจอของแอพ Your Phone จะเห็นไอคอนแอพจากฝั่ง Android จำนวนมาก เช่น Flipboard, Twitter, Medium, YouTube, Pandora โดยไมโครซอฟท์โชว์การเล่น Snapchat ทั้งอ่านและตอบข้อความบนพีซีได้เลย

ไมโครซอฟท์เรียกฟีเจอร์นี้ว่า App Mirroring แต่ยังไม่เผยรายละเอียดการทำงานว่าเป็นอย่างไร รวมถึงไม่บอกกำหนดเวลาที่จะออกฟีเจอร์นี้ด้วย

วันนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนตุลาคม 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ต.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ต.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ต.ค. มาด้วย)

สำหรับแพตช์ 1 ต.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 23 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 8 จุด เป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า 4 จุด ส่วนแพตช์ 5 ต.ค. แก้เพิ่มอีก 3 จุด แต่รอบนี้ไม่มีเรื่องช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์แต่อย่างใด

สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Pixel/Nexus รอบนี้ไม่มีแพตช์ด้านความปลอดภัย มีแต่เรื่องปรับปรุงฟีเจอร์ เช่น การปรับแต่งเรื่องการชาร์จ, ปรับปรุงการใช้งาน Android Auto สำหรับตระกูล Pixel

โดยปกติ Google จะปล่อยข้อมูลส่วนแบ่งของระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์เวอร์ชันต่างๆ ทุกๆ 7 วัน สำหรับนักพัฒนาแอปโดยวัดจากเข้า Play Store ซึ่งข้อมูลล่าสุดคือ 7 วันสุดท้ายในช่วงสิ้นเดือนกันยายนที่สิ้นสุดวันที่ 28 กันยายน

เวอร์ชันที่มีคนใช้เยอะที่สุดคือ Marshmallow 6.0 (API 23) ที่ 21.6% ตามมาด้วย Nougat 7.0 (API 24) ที่ 19% และ Lollipop 5.1 (API 22) ที่ 14.7% ส่วนเวอร์ชันเกือบล่าสุดอย่าง Oreo 8.0 (API 26) และ 8.1 (API 27) มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 13.7% และ 5.8% ตามลำดับ ส่วนที่ใช้น้อยที่สุดคือ Gingerbread (API 10) และ Ice Cream Sandwich (API 15) ที่ 0.3%

ที่มา - Android Developer Blog

BlueStacks ซอฟต์แวร์สำหรับรันแอพแอนดรอยด์บนพีซีประกาศออกเวอร์ชัน 4 ซึ่งนับเป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่จากเวอร์ชันเดิม โดยได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของโปรแกรมไปอย่างมากและยังมากับเครื่องมือตั้งค่าการควบคุมเกมด้วยคีย์บอร์ดและเมาส์ที่ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

ในด้านประสิทธิภาพ ทาง BlueStacks บอกว่าพวกเขาได้พัฒนาเทคโนโลยีเบื้องหลังการรันแอพแอนดรอยด์บนวินโดวส์ให้ใช้ทรัพยากรของเครื่องได้ดีขึ้นจนแทบจะไม่มีการสูญเสียประสิทธิภาพเกิดขึ้น

ส่งผลให้ BlueStacks 4 รันได้เร็วมาก ถึงขั้นแซงแท็บเล็ตและมือถือทุกเครื่องในท้องตลาด และเร็วกว่า iPhone 10 หรือ Galaxy S9+ ได้ถึง 8 เท่าเลยทีเดียว

กูเกิลเปิดให้ทดสอบ Android Studio 3.2 มาตั้งแต่งาน Google I/O 2018 ผ่านมาอีกหลายเดือนก็ได้เวลาของตัวจริง ของใหม่ในรุ่นนี้มีมากมาย

OnePlus ประกาศปล่อย Android Pie 9.0 บน OnePlus 6 ให้ผู้ใช้ทั่วไปผ่าน OTA แล้ว พร้อมประกาศว่าเลขเวอร์ชันของ OxygenOS จะสอดคล้องกับเวอร์ชันของแอนดรอยด์ เริ่มที่เวอร์ชัน OxygenOS 9.0 นี้เป็นต้นไป

OxygenOS 9.0 มาพร้อมกับแพตช์ความปลอดภัยเดือนกันยายน โดยทาง OnePlus ระบุว่าการปล่อย OTA ในวันแรกจะจำกัดผู้ใช้ในกลุ่มเล็กๆ แบบสุ่มก่อนจะปล่อยในวงกว้างหลังผ่านไป 2-3 วันแล้ว เพื่อยืนยันว่าไม่มีการพบบั๊กร้ายแรงใดๆ ขณะที่การโหลดผ่าน VPN จะทำไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นการปล่อยตามภูมิภาค

ที่มา - OnePlus Forum

ที่ผ่านมาถึงแม้ DualShock 4 ของ PlayStation 4 จะรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ แต่การควบคุมเกมผ่านจอยยังคงมีปัญหาเพราะตัวแอนดรอยด์ไม่รองรับคำสั่งที่ส่งมาจาก DualShock ทำให้สมาร์ทโฟนที่รองรับมีเพียง Xperia ของโซนีเองเท่านั้น

ล่าสุด Google ตัดสินใจแก้ปัญหานี้ด้วยการเพิ่ม Key Mapping สำหรับ DualShock 4 บน AOSP แล้ว โดยก่อนหน้านี้ Google ได้เพิ่ม Controller Mapping สำหรับ Xbox One S บน Android Pie ไปตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว

ทีมงาน Epic Games เผยรายละเอียดทางเทคนิคเบื้องหลังเกม Fortnite for Android ที่ถูกจับตาอย่างมาก เพราะเป็นการให้ดาวน์โหลดตรงแบบไม่ผ่าน Play Store แต่ความร้อนแรงของเกม ก็ทำให้มีผู้ดาวน์โหลดถึง 15 ล้านคนภายใน 21 วันแรกที่เปิดตัว

ประเด็นที่น่าสนใจคือทีมงานของ Epic ต้องจัดการกับปัญหา fragmentation ของ Android ที่มีความซับซ้อนสูงมาก ความท้าทายสำคัญคือผู้เล่น Fortnite ทุกคนสามารถเล่นร่วมกันได้แบบไม่จำกัดแพลตฟอร์ม (cross-play) ผู้เล่นที่ใช้ Android สเปกต่ำๆ อาจต้องมาเจอกับผู้เล่นพีซีสมรรถนะสูง การปรับลดสเปกกราฟิก ไม่เรนเดอร์บางอย่าง (ซึ่งเป็นเทคนิคที่เกมเวอร์ชัน mobile ใช้งานโดยทั่วไป) จึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะอาจมีผลต่อเกมเพลย์

โครงการ Tor เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ Tor Browser เวอร์ชันแอนดรอยด์ จับกลุ่มผู้ใช้งานอุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ

Tor Browser for Android ยังมีสถานะเป็นรุ่นอัลฟ่า สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play โดยเวอร์ชันนี้จำเป็นต้องติดตั้งแอพ Orbot เพื่อเป็นพร็อกซีให้ Tor Browser ด้วยอีกชั้นหนึ่ง แต่ทางทีมพัฒนาก็ระบุว่าในเวอร์ชันสมบูรณ์ที่จะออกในช่วงต้นปี 2019 จะพยายามไม่ต้องให้ติดตั้ง Orbot แยกต่างหาก

Tor บอกว่ายังไม่มีแผนพัฒนาเบราว์เซอร์สำหรับ iOS ในตอนนี้ โดยแนะนำให้ใช้ Onion Browser ของนักพัฒนารายอื่นแทน

อังคารบ้านเราที่ผ่านมา กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนกันยายน 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ก.ย. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ก.ย. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ก.ย. มาด้วย)

สำหรับแพตช์ 1 ก.ย. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 24 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 5 จุด ซึ่งรอบนี้เป็นเรื่องการได้สิทธิ์ (permission) โดยไม่ได้รับอนุญาต 3 จุด และเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า 2 จุด ส่วนแพตช์ 5 ก.ย. แก้เพิ่มอีก 35 จุด ส่วนใหญ่แก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm โดยในจำนวนนี้มีระดับร้ายแรงถึง 6 จุด

จากที่เคยมีข่าวมาตั้งแต่ต้นปี วันนี้ YouTube บนแอนดรอยด์เพิ่มฟีเจอร์ Dark Theme เข้ามาอย่างเป็นทางการแล้ว

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดที่หลังบ้านของ YouTube ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องอัพเดตแอปใดๆ โดยบางคนอาจได้รับการแจ้งเตือนให้ทดสอบ Dark Theme ขณะที่ใครอยากลองสามารถเข้าไปได้ที่ Setting > General > Dark Theme

ที่มา - XDA