แอปเปิลเปิดให้พรีวิวแอพบน Apple TV บนเบราว์เซอร์ได้แล้ว โดยมีรายละเอียดของผู้พัฒนาแอพ เรทติ้งจากผู้ใช้งาน และลิงก์ไปยังแอพที่เกียวข้อง รวมถึงสามารถแชร์ลิงก์ของหน้าเพจไปยังโซเชียลมีเดีย แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีแอพพลิเคชันเพียงบางส่วนเท่านั้นที่รองรับการพรีวิวในตอนนี้ และการพรีวิวจำกัดเฉพาะบนเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อปเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้งานไม่สามารถที่จะดูรายละเอียดของแอพบน App Store ของ Apple TV ได้เลย หากไม่เปิดเครื่อง Apple TV ทำให้ไม่ค่อยได้รับความสะดวกสบายจากการใช้งาน คาดว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงแอพได้อย่างง่ายขึ้น และยังส่งผลดีต่อกลุ่มผู้พัฒนาอีกด้วย
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Apple ได้ตั้งทีมงานใหม่ในบริษัท เพื่อพัฒนาระบบใหม่ให้ App Store หลายอย่าง ซึ่งในทีมนี้มีอดีตทีมงาน iAd หลายคน
หนึ่งในไอเดียที่ Apple ได้มอบหมายให้ทีมนี้ทำ คือพัฒนาระบบจ่ายเงินเพื่อทำให้แอพอยู่ต้นๆ ของผลการค้นหาเหมือนที่ Google ทำ เช่น นักพัฒนาเกมจะสามารถจ่ายเงินเพื่อให้ตอนที่ผู้ใช้ค้นหาเกม เมื่อผู้ใช้ค้นหาจะได้เจอแอพง่ายขึ้น ถ้าเกิด Apple ใช้โมเดลนี้จริงน่าจะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญพอสมควร และน่าจะสร้างรายได้ให้ Apple ไม่น้อย
App Annie บริษัทรวบรวมข้อมูลแอพมือถือ เผยสถิติรวมของปี 2015 มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ครับ
เป็นธรรมเนียมว่าทุกต้นปี แอปเปิลจะเผยสถิติของ App Store ตลอดปีที่ผ่านมา (สถิติของปี 2014) รอบนี้สถิติของปี 2015 คาบเกี่ยวช่วงปีใหม่ 2016 ออกมาแล้ว
มัลแวร์ XcodeGhost ถูกค้นพบมาไม่กี่วัน แม้แอปเปิลจะเร่งถอนแอปเหล่านี้ออกจาก App Store ไปแล้วหลายร้อยตัว ทาง FireEye ก็ออกมาระบุว่าตอนนี้พบแอปที่ติดมัลแวร์เฉพาะใน App Store แล้วมากกว่า 4,000 รายการ
ทาง FireEye เตือนว่า แม้ว่าตอนนี้เซิร์ฟเวอร์สั่งการของ XcodeGhost จะถูกปิดไปแล้ว แต่ตัวมัลแวร์ก็ยังยิง HTTP ออกอินเทอร์เน็ตเพื่อรับคำสั่ง จึงมีความเสี่ยงที่การเชื่อมต่อถูกดักโดยแฮกเกอร์แล้วยิงคำสั่งเข้าสวมรอยแทน ตอนนี้องค์กรควรอัพเดตไฟร์วอลให้แจ้งเตือนเมื่อมีเครื่องในองค์กรติดมัลแวร์และพยายามติดต่อกลับ ในกรณีของ FireEye คือ FireEye NX สามารถตรวจสอบการเชื่อมต่อได้แล้ว
จากข่าว พบมัลแวร์ iOS จู่โจมนักพัฒนาผ่าน Xcode เวอร์ชันปนเปื้อน แล้วฝังมัลแวร์ตอนคอมไพล์ ความคืบหน้าล่าสุดคือแอปเปิลสั่งถอดแอพที่มีปัญหาเหล่านี้จาก App Store แล้ว และคุยกับนักพัฒนาแอพเหล่านี้ให้คอมไพล์แอพใหม่ด้วย Xcode เวอร์ชันที่ถูกต้อง
บริษัทความปลอดภัย Qihoo360 ของจีน ระบุว่ามีแอพที่โดน XcodeGhost มากถึง 344 ตัว ซึ่งในจำนวนนี้มีแอพดังคือ WeChat, แอพแท็กซี่ Didi Kuaidi, แอพฟังเพลง NetEase ด้วย
ที่มา - Reuters
ปกติ Spotify เก็บเงินค่าสมาชิก 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ผู้ที่สมัครผ่าน App Store จะต้องจ่ายเงิน 12.99 ดอลลาร์เพื่อหักส่วนแบ่งไปให้ Apple โดยตอนนี้ Spotify ได้ออกคำแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาสมัครผ่านเว็บแทนการสมัครผ่าน App Store
Spotify แนะนำวิธีแก้ปัญหาโดยให้ปิด auto-renew ก่อน และรอจนหมดเดือนค่อยไปสมัครผ่านเว็บในราคา 9.99 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถประหยัดเงินไปได้เดือนละ 3 ดอลลาร์
คาดว่าที่ Spotify แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้การจ่ายเงินผ่านเว็บแทน เนื่องจากผู้ใช้ iOS จะเห็นคร่าวๆ ว่า Spotify นั้นมีค่าบริการแพงกว่าและอาจไปสมัคร Apple Music แทน แต่การลดค่าสมัครบน iOS รายได้ของ Spotify ก็จะลดลงเนื่องจากโดน Apple หักส่วนแบ่ง 30%
LINE เปิดตัวแอพใหม่ล่าสุดเป็นแอพคีย์บอร์ดสำหรับ iOS ชื่อว่า Emoji Keyboard by LINE โดยมีจุดขายคือคีย์บอร์ดรูปภาพ Emoji และสติกเกอร์บรรดาคาแรกเตอร์ของ LINE มากกว่า 3,000 แบบ ซึ่งสติกเกอร์ที่ว่านี้มีสติกเกอร์แบบเคลื่อนไหวรวมอยู่ด้วย แลกกับเงื่อนไขว่าต้องล็อกอินบัญชี LINE ก่อน เพื่อดาวน์โหลดสติกเกอร์สำหรับคีย์บอร์ดเพิ่มเติม
ฟังดูอาจจะไม่น่าสนใจเท่าใดนักสำหรับคนที่ใช้ LINE เป็นประจำ ซึ่งก็ถูกต้องเพราะ LINE ประกาศเลยว่าแอพคีย์บอร์ดนี้จะมีให้ดาวน์โหลดใน App Store ทั่วโลก ยกเว้นสามประเทศคือ ญี่ปุ่น, ไทย และไต้หวัน ซึ่งเป็นสามประเทศที่มีผู้ใช้ LINE เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว เท่ากับว่าแอพคีย์บอร์ดนี้ทำมาเพื่อตีตลาดแอพแชทในพื้นที่ซึ่ง LINE ยังเข้าไม่ถึงนั่นเอง
แอปเปิลและกูเกิลมักจะรายงานสถิติของสโตร์ในงานสำหรับนักพัฒนาช่วงกลางปีเสมอ แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบได้อย่างแม่นยำ แต่ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงระหว่างผู้ใช้งานและผู้ให้บริการ
ในปี 2014 แอปเปิลจ่ายเงินให้กับนักพัฒนาแอพ 1 หมื่นล้านเหรียญ และกูเกิลจ่ายไป 5 พันล้านเหรียญ และผู้ใช้ Android มากกว่า iOS ถึงเท่าตัว เท่ากับว่าผู้ใช้ iOS ใช้เงินบนสโตร์มากกว่าผู้ใช้ Android ประมาณ 4 เท่า
ก่อนหน้านี้ผู้ที่ซื้อ Pebble Time บ่นว่าไม่สามารถใช้กับ iPhone ได้เนื่องจากแอพ Pebble Time ยังไม่ขึ้น App Store ผู้พัฒนา Pebble ต้องออกมาบอกให้ชาว iOS กดดัน Apple ให้อนุมัติแอพเร็วๆ เนื่องจากส่งแอพไปนานแล้ว โดยใช้แท็ก #FreeOurPebbleTime
การกดดันได้ผล Apple ปล่อยแอพ Pebble Time ขึ้น App Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งาน Pebble Time สามารถดาวน์โหลดได้ทันที
ที่มา - The Next Web
หลังจาก Pebble Time ล็อตแรกได้เริ่มส่งสินค้าให้กับผู้สนับสนุนผ่าน Kickstarter ไปแล้ว ตอนนี้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมา นั่นคือแอพ Pebble Time Watch สำหรับซิงค์ข้อมูลบน iPhone ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ขึ้น App Store ทำให้คนที่เตรียมใช้ Pebble Time กับ iPhone ถึงได้รับของก็ยังใช้งานไม่ได้นั่นเอง (Android ไม่มีปัญหา)
ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา แอปเปิลได้ปล่อย iOS 8.3 beta 3 ให้นักพัฒนาลองใช้งานแล้ว ซึ่งมีผู้ใช้งานบางกลุ่มพึ่งพบฟีเจอร์ใหม่ดังนี้
เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ หลายๆ คนในที่นี่น่าจะเข้าไปซื้อเพลงใน iTunes Store, ดาวน์โหลดแอพพลิเคชันใน App Store และ Mac App Store ไม่ได้กัน และเชื่อว่าหลายๆ คนคงคิดว่าคงเป็นปัญหาเล็กๆ เดี๋ยวก็หาย แต่เรื่องกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเพราะแอปเปิลออกมายืนยันแล้วว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเพราะ DNS Server ของแอปเปิลมีปัญหาเอง
ปัญหาดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของเมื่อวานนี้ตามเวลาประเทศไทย (ตี 2 ของวันที่ 11 มีนาคมที่สหรัฐอเมริกาตามเวลาแปซิฟิก) โดยมีรายงานว่าเซิร์ฟเวอร์ของ iCloud และ iTunes ล่มพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งกรณี iCloud แอปเปิลได้กู้ระบบให้กลับมาเป็นปกติตั้งแต่เวลา 19.50 น. แต่ iTunes ยังคงล่มต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ (เวลาที่เขียนข่าว 2.23 น. วันที่ 12 มีนาคม)
แอปเปิลประกาศขยายข้อจำกัดขนาดแพ็กเกจไฟล์ของแอพบน App Store จากเดิม 2GB เป็น 4GB แล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับการดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายมือถือ (3G/4G) ขนาดใหญ่ที่สุดที่โหลดได้ยังอยู่ที่ 100MB เช่นเดิม
การขยายขนาดครั้งนี้ย่อมช่วยให้นักพัฒนา (โดยเฉพาะเกม) ทำงานง่ายขึ้นครับ
ที่มา - Apple Developer
Simon Pang ผู้สร้างบริการ TapCase บริการสร้างแอพพลิเคชั่นต้นแบบ ทวีตภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งทำงานหน้าโทรศัพท์มือถือหลายสิบเครื่อง พร้อมกับระบุว่า "กระบวนการให้คะแนนของ App Store เป็นแบบนี้ ขอต้อนรับสู่โลกความเป็นจริง"
หลังจากนั้น Barry Meade ผู้ร่วมก่อตั้ง Fireproof Games ก็ทวีตภาพนี้อีกครั้งระบุว่า ผู้พัฒนาที่ได้รับความเคารพหลายรายใช้ระบบแบบนี้ทุกวัน
TestFlight เป็นบริการทดสอบแอพรุ่นเบต้าบน App Store ที่แอปเปิลได้มาจากการซื้อบริษัท Burstly เมื่อปีที่แล้ว แต่ล่าสุดแอปเปิลประกาศปิด TestFlight ตัวเดิมของ Burstly หรือ TestFlightApp.com ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้แล้ว
เหตุผลก็ตรงไปตรงมาคือแอปเปิลย้ายทีม TestFlight ไปสร้างแพลตฟอร์มสำหรับทดสอบแอพตัวใหม่ชื่อคล้ายๆ เดิมคือ TestFlight Beta Testing โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริการ iTunes Connect สำหรับนักพัฒนาแทน (เว็บไซต์) ซึ่งนักพัฒนาที่เคยใช้ TestFlight ตัวเดิมและมีข้อมูลเก็บไว้ก็สามารถย้ายไปยัง TestFlight ตัวใหม่ได้เลย
Electronic Frontier Foundation (EFF) องค์กรไม่หวังผลกำไรที่ทำด้านสิทธิของผู้ใช้งานไอที ออกแอพ EFF บน Android และประกาศว่าจะไม่ทำแอพเวอร์ชัน iOS ด้วยเหตุผลว่าเงื่อนไขของแอปเปิลสำหรับนักพัฒนา (Developer Agreement) นั้นจำกัดเกินไป
แอปเปิลเผยสถิติรายได้ App Store ตลอดทั้งปี 2014 ว่าจ่ายส่วนแบ่งให้นักพัฒนามากถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่นับส่วนที่แอปเปิลหัก 30%) ถือว่ามากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิด App Store ในปี 2008 และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 50%
สถิติอื่นๆ มีดังนี้
การซื้อแอพบนสมาร์ทโฟนส่วนมากนั้นผู้ใช้ไม่สามารถทดลองใช้แอพก่อนซื้อได้ ทำให้หลายครั้งพบว่าแอพนั้นไม่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ ส่งผลให้ผู้ใช้ต้องพึ่งระบบขอคืนเงินและสินค้า ซึ่งแม้ว่าผู้ใช้แอนดรอยด์จะสามารถขอเงินคืนค่าแอพโดยไม่ระบุเหตุผลได้มานานแล้วหากการซื้อนั้นสมบูรณ์ไปไม่เกิน 2 ชั่วโมง และผู้ใช้ iOS ก็สามารถขอเงินคืนได้ผ่านการติดต่อฝ่ายสนับสนุนพร้อมระบุเหตุุผลที่เหมาะสม แต่เงื่อนไขดังกล่าวของทั้งสองฝ่ายขัดต่อกฎของทาง EU ที่ระบุว่าผู้ใช้จะต้องสามารถคืนสินค้าและขอเงินคืนได้โดยไม่ต้องระบุเหตุผลในระยะเวลา 14 วันนับจากวันที่ซื้อ
จากกรณีที่กูเกิลยอมทำตาม EU เลิกแสดงราคาเกมที่มี In-app Purchase ว่า "ฟรี" มาวันนี้ก็ถึงทีของแอปเปิลบ้างแล้วครับ
เพราะเมื่อสักครู่แอปเปิลได้ส่งอัปเดตเล็กๆ น้อยๆ ให้กับทั้ง App Store และ Mac App Store โดยเป็นการเปลี่ยนคำแสดงผลบนปุ่มดาวน์โหลดแอพพลิเคชันฟรีจากเดิมที่เป็นคำว่า "Free" เป็นคำว่า "Get" (ภาษาไทยใช้คำว่า "รับ") แต่สำหรับข้อความเตือนว่าแอพพลิเคชันนี้มี IAP ก็ยังคงแสดงผลอยู่เหมือนเดิม และก็ได้เพิ่มข้อความแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ใช้ยืนยันอีกครั้งก่อนดาวน์โหลดแอพพลิเคชันนั้นไปติดตั้งด้วย
รวมรูปคอมเม้นท์ตลกๆ ของตัวการ์ตูน ผมนี้..... มากมายหลายรูปแบบ และจะรวบรวมมาอัพเดทให้เรื่อยๆครัช ... เพราะตอนนี้กระแส เจ้าตัวการ์ตูนตัวนี้แรงจัด ตลกๆ และฮาดีครัช มีคนตัดต่อไว้มากมาย ผมจะพยายามรวบรวมมาให้ ปล.ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางเราต้องขอชื่นชม ขอบคุณ ผู้ที่ได้จัดสรรผลงาน ออกมาด้วยนะครับ
ติดตามแอพอื่นๆได้ที่นี่ StunStudio
แอปเปิลอัพเดต App Store ให้นักพัฒนาสามารถขายแอพแบบยกชุด (bundle) ได้แล้ว โดยสามารถทำได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
เท่าที่ดู ผมยังเห็นแค่ใน App Store ของสหรัฐฯ ครับ ตัวอย่างดูได้ท้ายข่าวเลย
หลังจาก Instagram เปิดตัวแอพถ่ายวิดีโอ Hyperlapse ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี แต่ก็มีอีกคนที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส นั่นคือผู้พัฒนาแอพที่ชื่อซ้ำกันว่า Hyperlapse
แอปเปิลออกมาเผยสาเหตุยอดนิยมที่ทำให้แอพถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้น App Store นักพัฒนาบน iOS ท่านใดสนใจก็ตามไปอ่านที่ต้นทางกันได้ครับ
ต่อจากข่าว EU เตรียมกำกับดูแล In-app Purchase ไม่ให้ถูกคิดเงินโดยไม่รู้ตัว ล่าสุด EU กำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับ In-app Purchase เรียบร้อยแล้ว โดยมีเนื้อหาสำคัญดังนี้