Apple, Inc.
จากคำให้สัมภาษณ์ของ Tim Cook ผู้บริหารของแอปเปิลที่ขู่คู่แข่งว่าจะดำเนินการทางกฎหมายหากถูกละเมิดลิขสิทธิ์ (จริงๆ ก็ไม่ได้ระบุชื่อแต่ฟังแล้วก็รู้แน่ว่าคือปาล์ม) ที่ผ่านมา (ข่าวเก่าโดยคุณ infernohellion: แอปเปิลขู่ Palm Pre จะไม่ยืนเฉย หากโดนละเมิดสิทธิ) วันนี้ปาล์มก็ออกมาให้สัมภาษณ์โต้กลับแล้วครับ
คุณ Lynn Fox ซึ่งเป็นผู้แทนจากบริษัทปาล์ม ได้ให้สัมภาษณ์กับ All Things Digital ว่า
จากข้อมูลการจดสิทธิบัตรที่ถูกเปิดเผยออกมาในวันนี้ จะเห็นว่าแอปเปิลกำลังค้นคว้าเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียงรอบข้างอยู่ (ambient sound sensor) ในลักษณะเดียวกับเซ็นเซอร์ตรวจจับระดับแสงรอบข้าง ที่ได้ถูกนำมาใช้บนเครื่องแมค ไอพ็อดทัช และไอโฟนอยู่ทุกวันนี้
โดยเซ็นเซอร์ตัวนี้ จะถูกนำมาใช้เพื่อปรับระดับเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และความดังของเสียงรอบข้าง เนื่องจากหากผู้ใช้งานอยู่ในที่เงียบ ริงโทนเสียงดังอาจจะน่ารำคาญมาก แต่หากอยู่ที่ดังอาจจะทำให้ไม่ได้ยินเสียง หากมีเซ็นเซอร์นี้อยู่ จะทำให้สามารถปรับความดังเสียงออกจากลำโพงให้เหมาะสมกับเสียงรบกวนรอบข้างได้
มีข่าวลือออกมามากมายเกี่ยวกับการที่แอปเปิลอาจออกโทรศัพท์ขนาดเล็กและเน็ตบุ๊ค ในการรายงานผลประกอบการของแอปเปิลที่ผ่านมา แอปเปิลได้ออกมาสยบข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้วครับ
Tim Cook ซึ่งเป็น CEO ชั่วคราวของแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์ว่า แอปเปิลไม่สนใจตลาดโทรศัพท์ระดับล่าง และตลาดระดับนั้นไม่ใช่สิ่งที่แอปเปิลจะยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะแอปเปิลไม่ได้ต้องการยอดขายปริมาณมาก แต่ต้องการผลิตโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในโลกต่างหาก
ระหว่างการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี นาย Tim Cook ตำแหน่ง COO ของแอปเปิลนั้นได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับ Palm Pre อ้อม ๆ ว่า "เราจะไม่ยืนเฉยแน่ ในเมื่อมีคนมาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของเรา"
จากคำพูดที่ว่านี้ ค่อนข้างชัดเจนว่านาย Cook ได้กล่าวถึง Palm และนาย Jon Rubinstein ผู้ใหญ่ของ Palm ที่เคยทำงานกับแอปเปิลมาก่อน แม้ว่าเขาจะไม่ได้กล่าวถึง Palm ตรง ๆ ก็ตาม ... "ผมไม่ได้พูดเจาะจงถึงบริษัทไหน"
แม้ว่า Palm และผู้พัฒนากลุ่มใหญ่ที่เคยทำงานกับแอปเปิล ที่ถูกชักชวนโดย Jon Rubinstein ยังไม่ประกาศวันเปิดตัวของ Palm Pre แต่ดูเหมือนว่าแอปเปิลคงไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน
แอปเปิลแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2009 ซึ่งเป็นไตรมาสที่หลายคนจับตามอง เนื่องจากมีช่วงคริสต์มาสของฝรั่งและเป็นปีที่เศรษฐกิจเริ่มถดถอยพอดี
แบบรวบรัดคือทั้งรายรับและกำไรของแอปเปิลยังเติบโต (สวนกระแสชาวบ้าน) เพียงแต่อัตราการเติบโตก็ไม่ร้อนแรงอย่างเดิม ด้วยปัจจัยด้านสภาพตลาด
หลังจากที่เดากันมาแล้วกี่ครั้งกี่ครั้งว่าแอปเปิลจะเลิกขาย MacBook สีขาวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ สุดท้ายก็เดาผิด (อีกแล้ว) เพราะแอปเปิลได้แอบอัพสเปคของ MacBook ตัวนี้ให้เกือบเท่า Unibody MacBook แล้ว
โดยสเปคใหม่ได้เปลี่ยนมาใช้ Core 2 Duo ตัวใหม่ พร้อมกับมีแรมมาให้อีกเป็น 2GB (แม้ว่าจะยังเป็น DDR2 อยู่) แต่ที่สำคัญที่สุดคือการ์ดจอได้เปลี่ยนมาใช้ GeForce 9400M เหมือนกับรุ่น Unibody อื่น ๆ แล้ว โดยทั้งหมดนี้มาในราคา 37,900 บาท
สรุปง่าย ๆ หากไม่ซื้อเครื่องนี้แต่เพิ่มเงินอีก 11,000 บาท จะได้เครื่องที่ "ดูดีกว่า" และความจุฮาร์ดดิสก์ที่มากกว่านิด แรมขั้นสูงกว่า DisplayPort และจอกระจก
แต่สิ่งเดียวที่ MacBook ขาวนี้ยังคงเหนือกว่าคือ ....... มันมี FireWire 400
จากเอกสารสนับสนุนการใช้งานจากแอปเปิล ผู้ที่ซื้อชุดโปรแกรม iWork '09 จากกล่องที่วางขายตามร้านไม่จำเป็นที่จะต้องป้อนเลขซีเรียลนัมเบอร์หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว ซึ่งจะแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องใส่หมายเลขซีเรียลนัมเบอร์เมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรก
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของแอปเปิล เพราะชุดโปรแกรม iLife และ Mac OS X เองก็ไม่ได้ต้องการให้ผู้ใช้ใส่ซีเรียลนัมเบอร์มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะซอฟต์แวร์ทั้งสองนี้มักจะมาพร้อมกับเครื่องแมคที่ขายช่วงเวลาเดียวกับรุ่นซอฟต์แวร์นั้น ๆ อยู่แล้ว
แหล่งข่าวจากบล็อกในประเทศจีนระบุว่าแอปเปิลกำลังผลิต MacBook Air รุ่นใหม่ที่ขยายหน้าจอให้ใหญ่กว่าเดิม และจะใช้อินเทล Core 2 รุ่นใช้พลังงานต่ำพิเศษสำหรับ MacBook Air รุ่นใหม่นี้ งานนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือลอยๆ เท่านั้น เพราะลองคิดดูว่าขนาด 15 นิ้ว ก็ไม่ใช่ขนาดที่พกพาสะดวกเท่าไรนักและจะไปซ้ำซ้อนกับ MacBook Pro ที่มีขนาดเท่ากันและหนักกว่า แต่ราคาไม่ต่างกันมากด้วยเมื่อเปรียบเทียบกับ MacBook Air รุ่นที่วางขายอยู่ในปัจจุบัน
ที่มา - Apple Insider
มีข่าวลือจากเว็บไซต์ Tom's Hardware ว่าแอปเปิลเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ได้รับตัวต้นแบบของ nVidia Ion (แพลตฟอร์มที่ใช้ Atom ของ Intel กับชิพกราฟฟิค GeForce 9400M ของ nVidia) และกำลังพิจารณาที่จะใช้กับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลเอง โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็น Mac Mini รุ่นใหม่ ซึ่งไม่ได้อัพเกรดมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีผู้วิเคราะห์ว่าเมื่อพิจารณาถึงขนาดของแพลตฟอร์มนี้ (เพียงแค่ 3" x 4") ร่วมกับความสามารถในการแสดงผลในระดับ Hi-Definition ได้อย่างไม่มีปัญหา ทำให้นึกได้ว่าจริงๆ แล้ว แอปเปิลอาจจะกำลังสนใจนำมาใช้กับ Apple TV ที่กำลังไปได้รุ่งมากกว่า
ต่อจากข่าว สตีฟ จ็อบส์ ประกาศลาป่วยถึงเดือนมิถุนา สำนักข่าว Bloomberg ได้อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการรักษาตัวของจ็อบส์ในครั้งนี้ ว่าเขากำลังพิจารณาว่าจะปลูกถ่ายตับหรือไม่ เพราะเกิดโรคแทรกซ้อนจากที่เขาเคยเป็นมะเร็งตับอ่อน และรักษาหายในปี 2004
Bloomberg อ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในโรคด้านนี้ว่า การปลูกถ่ายตับในลักษณะนี้โดยมากได้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี และอาจมีชีวิตอยู่ไปได้มากกว่า 20 ปี
สำนักข่าว CNBC รายงานว่าสตีฟ จ็อบส์ ได้ออกบันทึกข้อความถึงพนักงานบริษัทแอปเปิล มีเนื้อหาว่าจะลาพักงานไปรักษาอาการป่วยจนถึงเดือนมิถุนายน โดยจะให้นายทิม คุก ดูแลการบริหารบริษัทแทน
บันทึกข้อความแปลได้ว่า:
ทีม,
ผมมั่นใจว่าทุกคนคงจะได้เห็นจดหมายของผมที่แบ่งปันบางอย่างที่เป็นส่วนตัวยิ่งของผมต่อชุมชนแอปเปิ้ล โชคร้ายที่ความสงสัยต่อสุขภาพของผมยังคงเป็นอุปสรรคไม่ใช่แค่ต่อผมและครอบครัวแต่ยังรวมไปทุกคนที่แอปเปิ้ลอีกด้วย นอกจากนั้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้ค้นพบว่าปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของผมมันซับซ้อนกว่าที่ผมคิดไว้ในตอนแรก
ข่าวลือเรื่อง iPhone Nano นั้นออกมาบ่อยๆ ตั้งแต่เรื่องของเคสที่ไว้ใส่ที่ผู้ผลิตบางเจ้าอ้างว่าทำไว้สำหรับใส่ iPhone Nano โดยเฉพาะ
วันนี้ AppleInsider เว็บข่าวลือเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล ได้ประกาศออกมาว่า สองบริษัทในไต้หวัน คือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) และ United Microelectronics Corporation (UMC) กำลังจะได้รับเลือกในการผลิตชิพสำหรับเครื่องโทรศัพท์สำหรับตลาดผู้เริ่มต้นปริมาณมากที่คาดว่าจะมาจากแอปเปิล ซึ่งเมื่อพิจารณาจากระยะเวลาแล้ว เครื่องดังกล่าวน่าจะพร้อมภายในเดือนมิถุนายนสำหรับงาน Worldwide Developers Conferences ที่แอปเปิลชอบเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
เคยเป็นข่าวครั้งนึงเมื่อปีที่แล้ว ที่แอปเปิลไม่อนุญาตให้มีเบราว์เซอร์อื่นๆ อย่างเช่น Opera มาทำงานบนไอโฟนได้ (มีข่าวตามมาหลังจากนั้นว่าเป็นเรื่องโอละพ่อ) แต่ล่าสุดทางแอปเปิลได้เปิดให้ผู้ใช้ไอโฟนสามารถโหลดโปรแกรมเบราว์เซอร์อื่นๆ มาลงบนไอโฟนได้แล้ว ซึ่งก็มีทั้งที่ฟรีและต้องจ่ายเงินซื้อ ดังนี้
หลังจากที่มีการยืนยันปากต่อปากแล้วจากในงาน MacWorld แอปเปิลก็ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า การเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ MacBook Pro 17 นิ้วรุ่น Unibody นั้นมีราคา 179 ดอลลาร์สหรัฐเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ราคาในประเทศอื่น ๆ จะแตกต่างกันไป
โดยจากคำพูดของแอปเปิลนั้น แอปเปิลถือว่าแบตเตอรี่ภายในเครื่อง MacBook Pro 17" รุ่น Early 2009 นั้นถือว่าเป็น Consumable Item หรือสิ่งของ "บริโภค" ซึ่งหมายความว่ามันมีอายุใช้งานของมัน เมื่อหมดอายุใช้งานของมันแล้ว จำเป็นจะต้องเปลี่ยน โดยราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นรวมไปถึงค่าแรง อะไหล่ และการนำแบตเตอรี่เก่าไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Advanced Info Service หรือ AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไม่สามารถที่จะตกลงกับแอปเปิล เพื่อที่จะขายไอโฟนในประเทศไทยได้
จากคำพูดของ CEO ของ AIS นั้น ทางบริษัท AIS ไม่สามารถยอมรับข้อตกลงที่แอปเปิลส่งมาเพื่อที่จะขายไอโฟนในประเทศไทยได้ เนื่องจากเราไม่คิดว่ามันจะดีสำหรับเราในแง่ของธุรกิจ
ในขณะที่คู่แข่งของ AIS อย่าง True Move บริษัทในเครือ True Corp นั้นจะทำการจำหน่ายไอโฟน 3G อย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมนี้เป็นต้นไป โดยจะเป็นผู้ให้บริการรายแรกในประเทศไทยที่จะขายไอโฟนได้ในตลาดที่กำลังโตอย่างรวดเร็วอย่างประเทศไทย
เมื่อวานนี้ เว็บ Cult of Mac ได้ออกมารายงานว่าแอปเปิลได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมจัดแสดงในงาน Consumer Electronics Show (CES) 2010 ในปีหน้า หลังจากนั้นไม่นาน AppleInsider ก็ได้ออกมาฟันธงอีกครั้งว่าแอปเปิลเตรียมตัวที่จะมาออกงาน CES 2010 จริง ๆ
ก่อนหน้านี้ ข้ออ้างของแอปเปิลในการถอนตัวจากงาน MacWorld คือแอปเปิลเริ่มไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องออกงานลักษณะนี้อีกต่อไป แม้กระทั่งตัว Schiller เองก็ยังได้ออกมาบอกว่าอีกหนึ่งสาเหตุคือแอปเปิลไม่มีแผนการที่จะออกสินค้าต่าง ๆ ในช่วงเดือนมกราคมแต่อย่างใด
หลังจากที่ TrueMove ได้ประกาศขาย iPhone 3G แบบติดสัญญามาได้สักพักแล้ว กระแสตอบรับหลายคนอื้ออึงกันไปใหญ่ มาวันนี้ TrueMove ได้เพิ่มโปรโมชั่นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าแล้วครับ
iPhone 3G 8GB โปรโมชั่น Basic สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 23,275 บาท พร้อมติดสัญญารายเดือน 12 เดือน รายเดือนเดือนละ 599 บาท หรืออีกทางเลือก ลูกค้าทรูสามารถซื้อเครื่องเปล่าได้ในราคา 24,500 บาท ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7
iPhone 3G 16GB โปรโมชั่น Basic สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 27,075 บาท พร้อมติดสัญญารายเดือน 12 เดือน รายเดือนเดือนละ 599 บาท หรืออีกทางเลือก ลูกค้าทรูสามารถซื้อเครื่องเปล่าได้ในราคา 28,500 บาทราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7
ZDNet รายงานว่าเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 3.0 สำหรับไอโฟนนั้นจะเพิ่มการสนับสนุนหน่วยประมวลผล Quad-Core ซึ่งจะมีอยู่ในตัวฮาร์ดแวร์ของไอโฟนรุ่นถัดไป แม้ว่าแอปเปิลจะไม่ได้ปล่อยข่าวหรือรายละเอียดเกี่ยวกับเฟิร์มแวร์ไอโฟนเวอร์ชั่น 3.0 เลยก็ตาม แต่ MacRumors ได้ออกมายืนยัน (อีกตามเคย) ว่าได้ยินข่าวเรื่องนี้เหมือนกันจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้
ในขณะเดียวกันนี้ Imagination Technologies ได้ประกาศ GPU มัลติคอร์ที่สามารถนำมาใช้ได้ในไอโฟน โดยในฐานะที่แอปเปิลเป็นหนึ่งในผู้ที่ลงทุนกับ Imagination Technologies แอปเปิลสามารถเข้าไปเสนอแนะและทำการถ่ายทอดสเปคและข้อมูลได้อย่างง่าย สำหรับตอนนี้ ไอโฟนและไอพ็อดทัชรุ่นปัจจุบัน กำลังใช้งาน GPU รุ่น PowerVR ของบริษัทนี้อยู่เช่นกัน
หลังจากที่แอปเปิลได้ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมงาน MacWorld Expo อีกต่อไปในอนาคต ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าอนาคตของงาน MacWorld Expo จะเป็นอย่างไร เนื่องจากก่อนหน้านี้งาน Apple Expo ที่กรุงปารีสถึงขั้นต้องยกเลิกออกไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่แอปเปิลตัดสินใจจะเลิกเข้าร่วมงานดังกล่าว
ล่าสุด Daily Geek รายงานว่าผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ ในงาน MacWorld หลายรายได้ตัดสินใจถอนตัวตามแอปเปิล แต่บางรายก็ยังจะรอตัดสินใจก่อน แต่จากรายงานพบว่าบางรายได้ถูกติดต่อจาก Consumer Electronics Show หรือ CES เพื่อให้เข้าร่วมงาน CES ในปีหน้า โดยได้อ้างว่าปีหน้า CES จะจัดส่วนของแมคโดยเฉพาะขึ้น
ประเด็นที่คนสนใจกันมากที่สุดของข่าว MacWorld 2009 คงเป็นเรื่องแบตเตอรี่ของ MacBook Pro นั้นถอดเปลี่ยนเองไม่ได้ และเป็นคำถามคาใจของคนที่กำลังตัดสินใจซื้อเครื่องว่าค่าใช้จ่ายจะเป็นอย่างไร
เว็บไซต์ไฮเทคอย่าง Gizmodo ส่งตัวแทนไปถามมาให้แล้วครับ โฆษกของแอปเปิลบอกว่าสามารถไปเปลี่ยนได้ที่ Apple Store หรือตัวแทนจำหน่ายของแอปเปิลได้เลย โดยคิดราคาแบตเตอรี่ก้อนใหม่ 179 ดอลลาร์ (ประมาณ 6 พันบาทนิดๆ)
โฆษกของแอปเปิลยังบอกอีกด้วยว่า ถ้าคิดรอบการชาร์จไฟเฉลี่ยปีละ 200 รอบ ก็จะประมาณ 5 ปีกว่าจะครบ 1000 รอบตามสเปกที่แอปเปิลว่าไว้
แต่แบต MacBook Air ของผมเริ่มเสื่อมแล้วแฮะ
ข่าวสดๆร้อนๆ และ(น่า)จะร้อนไปถึงอินเทลและลุงสตีฟ จ็อบส์ด้วย เรื่องก็มีอยู่ว่า นายแมทธิว โรเบิร์ต ยัง ได้ยื่นฟ้องศาลสหรัฐฯ โดยนายยังอ้างว่า นายจ็อบส์ได้ขโมยผลงานของนายยังไปให้บริษัทอินเทลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากตน ซึ่งนายยังอ้างว่า ผลงานชิ้นนั้นก็คือต้นแบบของ Intel Core-2 Duo และเทคโนโลยี virtualization ที่อินเทลกำลังขายในท้องตลาด และนายยังได้เรียกร้องค่าเสียหายจากอินเทลและจ็อบส์เป็นเงินถึง 5 พันล้านเหรียญ
สืบเนื่องจากหัวข้อ หลุมพรางการตลาดกับการก้าวพ้นกำแพงของความสมเหตุสมผล: กรณี MacBook Pro 17 นิ้ว ของคุณชิตพงษ์ กิตตินราดร นักเขียนจาก Business Week ผมขออนุญาตนำเสนอข้อถกในเรื่องจิตวิทยา แต่เป็นด้าน "ต่อตลาดทั้งตลาด" ไม่ใช่ต่อ "ผู้บริโภค" เพิ่มเติมนะครับ เพราะมีคนพูดในเชิงผู้บริโภคเยอะแล้วในหัวข้อนั้น
ขอยกตัวอย่าง เช่น อุตสาหกรรม Visual Effects บนหนังฮอลลีวู้ด กลุ่มเดียวก็พอเพื่อความเข้าใจง่าย
บทความรับเชิญจากคุณชิตพงษ์ กิตตินราดร นักเขียนจาก Business Week (ผมเคยของานเขียนเรื่อง แบ่งปันอย่างเสรีบนโลกออนไลน์ด้วยครีเอทีฟคอมมอนส์ มาลงให้อ่านไปก่อนหน้านี้แล้ว ถ้ายังจำกันได้) -- mk
หลุมพรางการตลาดกับการก้าวพ้นกำแพงของความสมเหตุสมผล: กรณี MacBook Pro 17 นิ้ว
ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวกับการเปิดตัว MacBook Pro 17 นิ้วรุ่นใหม่ของแอปเปิลซึ่งถ้าไม่ถูกใจใครก็ขออภัยครับ
แอปเปิลเพิ่งเปิดตัว MacBook Pro ขนาดหน้าจอ 17 นิ้วรุ่นใหม่ล่าสุดที่งาน MacWorld ที่มีจุดเด่นตรงแบตเตอรี่แบบใหม่ ที่ถอดเปลี่ยนไม่ได้ แต่สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง และชาร์จได้ 1,000 ครั้ง
New 17-inch MacBook Pro
มาคุย มาอัพเดทกันในนี้เลยครับ
รายงานสดได้จบลงแล้วครับ (คลิกเข้ามาอ่านได้เลย)
สามารถติดตาม Live Coverage จากแหล่งข่าวต่าง ๆ ได้ตามที่ต่อไปนี้ครับ:
อีก 13 ชั่วโมงจากนี้ไป แอปเปิลจะขึ้นเวทีตามธรรมเนียมงาน MacWorld เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
แต่ก่อนอื่น C|net ได้มีรายงานเข้ามาใหม่ว่าแอปเปิลได้มีการเจรจาใหม่กับค่ายเพลง ทำให้ต่อไปนี้ iTunes จะเริ่มขายเพลงที่ไม่มี DRM จากค่ายเพลงใหญ่ ๆ ทั้งหมด แต่ข้อแลกเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดคือ แอปเปิลจะต้องยอมให้ค่ายเพลงตั้งราคาเพลงของตัวเองได้
นอกจากนี้แล้วยังคาดการณ์กันอีกว่า ค่ายเพลงต่าง ๆ ยินยอมให้แอปเปิลเปิดบริการดาวน์โหลดเพลงผ่าน iPhone ได้โดยตรงผ่านคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือ โดยก่อนหน้านี้ผู้ใช้ iPhone จำเป็นที่จะต้องดาวน์โหลดผ่าน Wi-Fi เท่านั้น แอปเปิลน่าจะทำการประกาศเรื่องนี้ภายใน Keynote