หลังจากที่อวตาร ใน Metaverse ถูกแซวมานานไม่ว่าจะเรื่องคุณภาพกราฟิคหรือการที่อวตารมีแค่ครึ่งตัวบนมานาน ล่าสุด Meta เปิดให้อัปเดตบน Meta Quest headsets เวอร์ชันใหม่มีการเพิ่มขาให้อวตารแล้วในรุ่นเบต้า ซึ่งสามารถเห็นขาและอวตารของตัวเองแบบเต็มตัว ซึ่งเบื้องต้นจะแสดงผลในส่วนที่เป็นฟีเจอร์ Horizon Home และสามารถเห็นขาได้จากมุมมองที่สามเท่านั้น
ถึงแม้ว่าชุด Meta Quest headsets มีฟีเจอร์ Hand Tracking สำหรับจับการการเคลื่อนไหวของมือ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้มือในการควบคุมได้โดยไม่ต้องใช้คอนโทรลเลอร์ แต่ไม่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของขาและเท้า ซึ่งทำให้ยากต่อการสร้างอวตารที่มีขา
Meta ประกาศว่าผู้ใช้งานสามารถใช้ Meta Avatar แบบเรียลไทม์ได้ในระหว่างวิดีโอคอลผ่าน Instagram หรือ Messenger ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องวิดีโอคอลแต่ตอนนั้นหน้าอาจยังไม่พร้อมเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องการแสดงออกสีหน้ากับคู่สนทนาบ้าง แทนที่จะใช้วิธีปิดกล้องเลย ทางเลือกนี้จึงพบกันครึ่งทาง รองรับในระดับการคุยแบบกลุ่มด้วย ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ทั้งใน iOS และ Android
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นที่ประกาศเกี่ยวกับ Meta Avatar ดังนี้
Ubisoft เผยเทรลเลอร์ของเกม Avatar: Frontiers of Pandora พร้อมประกาศวันขาย 7 ธันวาคม 2023 ทั้งบน PS5, Xbox Series X|S, Amazon Luna, PC
โปรเจคเกม Avatar: Frontiers of Pandora เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 เดิมมีกำหนดขายปี 2022 แล้วเลื่อนเป็นต้นปี 2023 แต่สุดท้ายต้องเลื่อนอีกรอบเป็นปลายปี 2023 แทน เกมพัฒนาโดยสตูดิโอ Massive Entertainment ในเครือ Ubisoft ร่วมกับบริษัท Lightstorm Entertainment ของ James Cameron
LINE ประกาศยุติการให้บริการฟีเจอร์ Avatar หรืออวาตารเสมือนเทียบเท่า AR Emoji สำหรับ LINE Messenger ตั้งแต่เวอร์ชั่น 13.4.0 ในระบบ iOS และ Android เป็นต้นไป และจะทยอยยุติฟีเจอร์สำหรับเวอร์ชั่นเก่ากว่า 13.4.0 โดยยังไม่ประกาศวันที่
หลังจากที่หยุดให้บริการแล้ว Avatar ที่ผู้ใช้สร้างจะถูกลบออกจากระบบ ยกเว้น Avatar ที่ผู้ใช้ตั้งเป็นรูปโปรไฟล์จะยังไม่ถูกลบ สามารถใช้งานได้จนกว่าผู้ใช้จะเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใหม่
ทั้งนี้ LINE ยังแจ้งว่า ลิขสิทธิ์ของ Avatar ในรูปโปรไฟล์หลังจากนี้จะยังเป็นของ LINE Corporation
ที่มา: LINE
แอปพลิเคชัน Bondee กำลังได้รับความนิยมบนอินเทอร์เน็ตจนขึ้นอันดับ 1 ในหมวดแอปฟรีในไทย ทั้ง iOS และ Android หลังเพิ่งปล่อยให้ดาวน์โหลดบน App Store และ Play Store ของประเทศในเอเชียวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา
Bondee เป็นแอปโซเชียลมีเดียจากบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ Metadream ที่ผู้ใช้สามารถสร้างตัวอวตารในโลกเสมือนจริงที่ให้ผู้ใช้ได้ออกแบบและแต่งตัวอวตารตามหน้าตา เสื้อผ้า เครื่องประดับที่มีหลากหลายแบบ
WhatsApp ประกาศเพิ่มคุณสมบัติอวตาร แบบเดียวกับที่มีใน Facebook และ Instagram โดยผู้ใช้งานสามารถนำอวตารปรับแต่งเอง มาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ หรือนำมาเป็นหนึ่งในสติกเกอร์กำหนดเอง 36 รูปแบบในการสื่ออารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ
ที่น่าสนใจคือคำอธิบายของการนำอวตารมาใช้งานบน WhatsApp ซึ่งระบุว่า เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ต้องใช้รูปภาพจริง จึงเพิ่มความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดให้กับผู้ใช้งานทั่วโลกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
มีรายงานว่ากูเกิลได้ซื้อกิจการ Alter สตาร์ทอัพพัฒนา AI สำหรับสร้างอวตาร โดยมีมูลค่าดีลราว 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกูเกิลยืนยันดีลซื้อกิจการดังกล่าว แต่ไม่ยืนยันมูลค่าที่ซื้อ
Alter มีชื่อเดิมต่อก่อตั้งคือ Facemoji ในตอนนั้นเป็นแพลตฟอร์มสำหรับให้ผู้พัฒนาเกม หรือแอปอื่น ๆ มาเชื่อมต่อกับระบบเพื่อใช้สร้างอวตาร ในช่วงแรกบริษัทมีหนึ่งในผู้ลงทุนรายสำคัญคือ Twitter ด้วย ต่อมาบริษัทจึงรีแบรนด์เป็น Alter
รายงานบอกว่ากูเกิลคาดนำเทคโนโลยีของ Alter มาเป็นเครื่องมือเสริมกับบริการต่าง ๆ ที่มีอยู่ ทั้งคอนเทนต์และเกม ซึ่งเครื่องมือ AI สร้างอวตารแนวเดียวกันนี้ มี TikTok ที่ได้รับความนิยมสูง
Meta ประกาศอัพเดตคุณสมบัติหลายอย่างในระบบอวตาร แต่ที่น่าจะเป็นไฮไลท์ก็คือการเพิ่มขาให้กับอวตาร ซึ่ง Meta บอกว่าเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ใช้งานต้องการมากที่สุด
อวตารที่เพิ่มขานี้ จะเริ่มแสดงผลใน Horizon Worlds ก่อน จากนั้น Meta จะเปิดให้นักพัฒนาเข้าถึงส่วนนี้ในปีหน้าเป็นต้นไป
ฟีเจอร์อื่นที่ประกาศได้แก่ ระบบสร้างอวตารขึ้นจากการเซลฟี่วิดีโอ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างอวตารของตนได้ง่ายและเร็วขึ้น นอกจากนี้อวตารยังรองรับการส่งเป็นสติกเกอร์ใน WhatsApp และจะรองรับสำหรับใช้วิดีโอคอลบน Messenger, Instagram และ WhatsApp ในอนาคตด้วย
Kazue Murase ผู้มีส่วนทำให้เกม Tamagotchi กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงปี 2004 หลังจากเพิ่มฟีเจอร์สื่อสารระหว่างกันและออกลูก ได้ลาออกจากบริษัท Bandai Namco ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และมาตั้งบริษัทใหม่ของตัวเองที่มีชื่อว่า Fundard เพื่อสร้างตุ๊กตาอวตาร โดย Murase มีแนวคิดที่อยากให้ตุ๊กตาอวตารเป็นตัวแทนให้ผู้คนสื่อสารกันในโลกความเป็นจริง
ตัวอวตารมีชื่อว่า Jibungurumi เป็นตุ๊กตาที่มีขนาด 22 เซนติเมตร ผู้ใช้สามารถปรับแต่งผ่านทางเว็บไซต์ได้เองว่าจะให้ตุ๊กตามีหน้าตาแบบใด โดยเลือกได้ทั้งตา จมูก ปาก รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ เช่น แว่นตา โดยจะผสมกันได้รวมทั้งหมด 33.4 พันล้านแบบ
Ubisoft ประกาศยกเลิกเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ทั้งหมด 4 เกม แบ่งเป็นเกมที่เปิดตัวต่อสาธารณะไปแล้ว 2 เกม คือ Ghost Recon Frontline เกมแนว Battle Royale ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2021 แล้วโดนแฟนๆ ถล่มเพราะไม่อยากได้เกม Battle Royale อีกต่อไป
อีกเกมที่ถูกยกเลิกคือ Splinter Cell VR ที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 แล้วเงียบหายไปนาน (ลงแพลตฟอร์ม Oculus ตั้งแต่ยังเป็นชื่อเดิม) ส่วนเกม Assassin's Creed VR ที่เปิดตัวพร้อมกันนั้นยังไม่มีข่าวว่าถูกยกเลิก
TikTok เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ TikTok Avatars ให้ผู้ใช้งานสร้างอวตารของตนในตามความต้องการ แบบเดียวกับระบบ Avatar ของ Facebook หรือ Memoji ของแอปเปิล
ขั้นตอนการสร้างอวตารของตน ทำได้โดยไปที่กล้องของ TikTok เลือกโหมดเซลฟี่ และเลือกเอฟเฟกต์ Avatar โดยเลือกได้ทั้งจากพรีเซต หรือสร้างใหม่ ปรับแต่งได้ทั้งโครงหน้า สีผิว ทรงผม และเครื่องประดับ จากนั้นใช้อวตารนี้ขยับไปตามการแสดงทางใบหน้า
มีข้อสังเกตว่าการสร้างอวตารเพื่อการสื่อสารนั้น กรณีของแอปเปิลหรือ Facebook เป็นการสร้างคาแรกเตอร์สำหรับสื่อสารในกลุ่มคนรู้จัก แต่กรณีของ TikTok นั้น การใช้งานน่าจะเหมือนกับ VTuber มากกว่า จึงน่าสนใจว่าผลตอบรับจะเป็นอย่างไร ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานแล้วกับผู้ใช้งานทั่วโลก
Ubisoft เปิดตัวเกม Avatar: Frontiers of Pandora ในจักรวาลภาพยนตร์เรื่อง Avatars (ที่หนังภาค 2 มีกำหนดฉายในเดือนธันวาคม 2022)
Frontiers of Pandora เป็นเกมแนวแอคชั่นแบบ first person ให้เรารับบทเป็นเผ่า Na'vi ในเรื่อง เดินทางไปยังพรมแดนตะวันตก (Western Frontier) ของดาว Pandora ซึ่งไม่เคยปรากฏในหนังมาก่อน ผู้เล่นต้องสำรวจพื้นที่ซึ่งมีสิ่งมีชีวิตหลากหลาย และรับมือกับภัยคุกคามของมนุษย์ที่บุกเข้ามาโจมตี
ภาพยนตร์เรื่อง Avatar ทำลายสถิติยอดขาย Blu-ray ตามคาด นอกจากเป็นภาพยนตร์ Blu-ray ที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว (ต้นข่าวไม่ได้ให้จำนวนยอดขายเอาไว้) ยังทำสถิติสัดส่วนยอดขาย Blu-ray ต่อดีวีดีสูงสุดด้วย โดย 49% ของแผ่นหนัง Avatar ที่ขายได้ เป็นแผ่นคู่ Blu-ray/DVD ส่วนที่เหลือเป็นแผ่นดีวีดี
แชมป์เก่าเฉพาะของ Blu-ray คือ The Dark Knight ซึ่งมียอดขายสัปดาห์แรกประมาณ 60% ของ Avatar ที่ขายได้ในสัปดาห์แรก
อย่างไรก็ตาม ถ้ารวมยอดขายแผ่นหนังทั้งหมด (ไม่สนใจว่าเป็น Blu-ray หรือดีวีดี) ในสัปดาห์แรกถือว่า Avatar อยู่อันดับ 7 แชมป์คือ Finding Nemo
ที่มา - Nielsen