Financial Services Agency (FSA) หน่วยงานกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินของญี่ปุ่นเริ่มมาตรการควบคุมผู้ให้บริการแลกเงินดิจิตอล โดยเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป
การควบคุมของ FSA จะมีตั้งแต่การควบคุมบัญชีว่ามีการสำรองเงินที่ลูกค้าฝากไว้อย่างถูกต้องหรือไม่ และต้องแยกออกจากบัญชีเงินของบริษัทรับแลกเองอย่างเด็ดขาด ไปจนถึงกระบวนรักษความปลอดภัยไซเบอร์
เมื่อไม่นานมานี้ Jamie Dimon ซีอีโอ JPMorgan บอกอนาคตฟองสบู่ Bitcoin จบไม่สวย และกลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในแวดวง cryptocurrency ทั่วโลก
ล่าสุด Dimon ออกมาพูดเรื่องนี้อีกรอบในการให้สัมภาษณ์ช่อง CNBC ในประเทศอินเดีย เขาบอกว่าตอนนี้เงิน cryptocurrency อาจเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่เมื่อมันได้รับความนิยมมากขึ้น ก็จะส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาควบคุมและปิดกั้นมากขึ้น ด้วยการขู่ว่าคนที่ซื้อขายเหรียญเหล่านี้จะต้องติดคุก
เขาบอกว่ากระบวนการขายเหรียญ ICO เป็นการสร้างมูลค่าจากความว่างเปล่า (it's creating something out of nothing) ซึ่งในมุมของเขาแล้วมันไม่มีค่าอะไรเลย และมันจะจบไม่สวย (it will end badly)
ช่วงนี้อาจเป็นวิบากกรรมของคนรัก Bitcoin สักเล็กน้อย เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาCEO ของ J.P.Morgan ออกมากล่าวในแง่ที่ไม่ดีเท่าไหร่นักเกี่ยวกับ Bitcoin ว่าเป็น"การฉ้อโกง" และ "แย่ยิ่งกว่าฟองสบู่ดอกทิวลิป" เมื่อสองวันก่อนตลาดแลกเปลี่ยนที่จีนโดนสั่งปิด ล่าสุดตามมาด้วย Ray Dalio อีกคน
สำหรับ Ray Dalio แล้วเขาคือเจ้าของ Hedge Fund ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bridgewater Associates มีสินทรัพย์ในการดูแลประมาณ 160,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
Dmitry Kurbatov หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยการสื่อสารของ Positive Technologies ออกมาสาธิตการขโมยเงินในบัญชี Coinbase ด้วยการดักรับ SMS จากเครือข่าย SS7 แสดงให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วบริการกระเป๋าเงินบิตคอยน์อย่าง Coinbase ก็ไปขึ้นกับ SMS ในท้ายที่สุด เมื่อแฮกเกอร์สามารถขโมย SMS ได้ก็จะสามารถขโมยบัญชีทีละอย่างจนได้เงินในกระเป๋าเงินไป
ต่อจากข่าว BTCChina เว็บซื้อขายเงินดิจิทัลของจีน ประกาศปิดตัว หลังรัฐบาลจีนออกคำสั่งห้าม เว็บไซต์ซื้อขายแลกเปลี่ยน bitcoin รายใหญ่ของจีน 2 รายคือ Huobi และ OKCoin ก็ประกาศหยุดให้บริการเทรดกับลูกค้าชาวจีนในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม หลังได้รับคำสั่งจากรัฐบาลนครปักกิ่งให้ยุติบริการ
ก่อนหน้านี้ Huobi และ OKCoin ประกาศหยุดรับซื้อขาย bitcoin เป็นเงินหยวน (คนจีนยังซื้อได้ด้วยเงินสกุลอื่น) แต่คล้อยหลังประกาศเพียงวันเดียว ทั้งสองรายก็เปลี่ยนข้อความเป็นหยุดการเทรดเงินดิจิทัลทั้งหมดในจีน ส่วนธุรกิจกับคนนอกจีนยังทำได้ตามปกติ
เว็บไซต์ปล่อยของผิดกฎหมายอย่าง The Pirate Bay นั้นมีปัญหาคือไม่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการโฆษณา จึงทำให้ The Pirate Bay ต้องคิดวิธีใหม่ในการหาเงิน หนึ่งในนั้นก็คือ “การขุดคอยน์” โดยอาศัยซีพียูของผู้เปิดเว็บ
มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ The Pirate Bay พบว่าตัวเว็บนั้นฝัง JavaScript ไว้ โดยเมื่อผู้ใช้เข้าเว็บจะทำการยืมเครื่องของผู้ใช้ไปขุดคอยน์ Monero ซึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์
The Pirate Bay ได้ให้ข้อมูลกับ TorrentFreak ว่าตอนนี้ทางเว็บไซต์ได้ทดสอบฟีเจอร์นี้จริง โดยการทดสอบนี้กินเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างรายได้ และอาจจะเอามาแทนที่โฆษณาในที่สุด
เทศบาลเมือง Chiasso ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศเริ่มรับการจ่ายภาษีเป็นสกุลเงิน Bitcoin ในปีหน้า 2018
สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นประเทศที่มีสตาร์ตอัพฟินเทค และหน่วยงานด้าน cryptocurrency เข้าไปตั้งสำนักงานกันมาก เนื่องจากมีความพร้อมด้านกฎหมายทางการเงิน ตัวอย่างที่สำคัญคือมูลนิธิ Ethereum Foundation ก็ตั้งอยู่ที่เมือง Zug ทางตอนกลางของสวิตเซอร์แลนด์
Chiasso เป็นอีกเมืองที่กำลังได้รับความนิยมตีคู่มากับ Zug และการจ่ายภาษีด้วย Bitcoin ถือเป็นอีกมาตรการสำหรับดึงดูดบริษัทด้านฟินเทค การจ่ายภาษีด้วย Bitcoin จะยังรองรับที่มูลค่าสูงสุด 250 ฟรังค์สวิส หรือประมาณ 8,700 บาท
BTCC เว็บไซต์ซื้อขาย bitcoin ชื่อดัง (สำนักงานอยู่ในฮ่องกง ในจีนทำตลาดด้วยชื่อ BTCChina) ประกาศหยุดทำธุรกิจในจีนแล้ว หลังธนาคารกลางจีนออกคำสั่งควบคุมการระดมทุน ICO บน Blockchain เมื่อต้นเดือนนี้
BTCChina Exchange จะหยุดกิจกรรมซื้อขายทั้งหมดในวันที่ 30 กันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอื่นๆ ของ BTCC เช่น การรวมกลุ่มขุด (Pool) จะยังดำเนินไปตามเดิม
Jamie Dimon ซีอีโอของธนาคาร JPMorgan Chase กลุ่มธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา (คนเดียวกับที่พูดว่า "Silicon Valley is Coming" กระตุ้นวงการธนาคารทั่วโลกเรื่องฟินเทค) ออกปากพูดถึงตลาดเงินดิจิทัลว่า "จบไม่สวย" อย่างแน่นอน
เขาพูดถึงตลาด cryptocurrency ว่ามันเป็นการฉ้อโกง (fraud) ที่แย่ยิ่งกว่าฟองสบู่ทิวลิปของเนเธอร์แลนด์ในอดีตซะอีก และถ้าหากเขาพบว่าพนักงานลงทุนของ JPMorgan คนใดเข้าไปค้า Bitcoin เขาก็จะไล่ออกทันที ด้วยเหตุผลว่าละเมิดกฎของบริษัท และพนักงานคนนั้นโง่ ซึ่งเป็นสิ่งอันตรายต่อบริษัท
ไม่ทันพ้นครึ่งเดือนหลัง ราคา Bitcoin ทะลุหลัก 5,000 ดอลลาร์ ในวันที่ 2 กันยายน ล่าสุดราคากลับดิ่งลงจนทะลุแนวต้าน 4,000 ดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว (ขณะที่เขียนข่าวราคาหลุด 3,900 ดอลลาร์แล้ว)
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Bitcoin ราคาตก อาจมาจากความไม่แน่นอนจากหน่วยงานกำกับดูแลในหลายๆ ประเทศ (โดยเฉพาะจีน) ทำให้นักลงทุนในตลาดยังไม่มีความเชื่อมั่นและบางส่วนเลือกขายออกมา
บริษัทความปลอดภัย FireEye รายงานว่าค้นพบร่องรอยของแฮ็กเกอร์จากเกาหลีเหนือ (ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล) พยายามขโมย Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลจากเกาหลีใต้ เพื่อนำเงินทุนนี้ไปใช้งาน
FireEye พบหลักฐานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 ว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลของเกาหลีใต้อย่างน้อย 3 แห่ง ถูกโจมตีจากเกาหลีเหนือด้วยวิธีการส่งอีเมลล่อลวงพนักงาน และมีความพยายามขโมยเงินเหล่านี้ออกไป
FireEye ประเมินว่าเกาหลีเหนือถูกมาตรการปิดล้อมทางเศรษฐกิจอย่างหนักจากนานาชาติ ทำให้แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือหาทางออกด้วยการขโมยเงินดิจิทัล ที่นำไปขายเปลี่ยนมือได้ง่ายกว่าแทน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัว ระบุว่าธนาคารกลางของจีนอาจจะออกคำสั่งห้ามซื้อขายเงินสกุุลดิจิตอลอย่าง bitcoin หรือ ethereum สำหรับ "ร้านรับแลกเงินท้องถิ่น" (domestic exchange) โดยยังไม่มีแผนจัดการซื้อขายตามปกติ (over the counter) แต่อย่างใด
ข่าวนี้มาหลังประกาศสั่งห้ามระดมทุนบนบล็อคเชน (ICO) เพียงไม่กี่วัน แม้ว่าคำสั่งจะยังไม่ชัดเจน แต่นักลงทุนจีนก็แสดงความตระหนก จนตอนนี้ราคาซื้อขายบิตคอยน์ในจีนอยู่ที่ประมาณ 25,000 หยวนหรือประมาณ 3,800 ดอลลาร์ต่อ BTC เทียบกับโลกภายนอกที่ยังราคาเกิน 4,100 ดอลลาร์ทุกตลาด
ราคา Bitcoin สามารถทะลุกำแพง 5,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จแล้ว โดยขึ้นไปสูงสุดที่ 5,013 ดอลลาร์ ก่อนตกลงมาอยู่ราว 4,880 ดอลลาร์ขณะที่เขียนข่าว
ราคาของ Bitcoin เพิ่งผ่านหลัก 4,000 ดอลลาร์ เมื่อกลางเดือนสิงหาคม
ที่มา - Coindesk
หลังจาก Bitcoin Cash แยกสายโซ่ออกจาก Bitcoin หลักไปเมื่อต้นเดือน และระดับราคาอยู่นิ่งๆ ที่ประมาณ 300 ดอลลาร์ต่อ BCH (ตัวย่อของ Bitcoin Cash) มาหลายวัน
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ ราคาของ Bitcoin Cash ก็พุ่งสูงขึ้นทะลุหลัก 700 ดอลลาร์ ขึ้นไปสูงสุดที่ประมาณ 728 ดอลลาร์ (ราคาปัจจุบันขณะที่เขียนคือ 672 ดอลลาร์) ถือเป็นสถิติใหม่ของ Bitcoin Cash ส่งผลให้ตอนนี้ BCH กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 3 รองจาก Bitcoin และ Ethereum และการลงทุนใน BCH ได้กำไรเยอะกว่า BTC ไปแล้ว
บริษัท Fisco ในญี่ปุ่นประกาศออกพันธบัตรทดลองโดยตราเป็นสกุลเงินบิตคอยน์รวมมูลค่า 200 BTC หรือประมาณ 30 ล้านบาท โดยพันธบัตรจ่ายดอกเบี้ย 3%
ทาง Fisco ระบุว่ากระบวนการออกพันธบัตรครั้งนี้เป็นไปตามการกำกับดูแลตามปกติ โดยบริษัทออกพันธบัตรครั้งนี้เพื่อทดสอบการใช้บิตคอยน์เพื่อการระดมทุน และหากประสบความสำเร็จในอนาคตอาจจะมีบริษัทอื่นต้องการระดมทุนแบบเดียวกันทำให้ทาง Fisco สามารถให้บริการและเก็บค่าธรรมเนียมได้
Fisco เปิดบริการรับแลกบิตคอยน์ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ที่มา - Strait Times
The Kiyv Post รายงานว่ายูเครนเตรียมซื้อตู้เอทีเอ็มเพื่อซื้อ-ขายเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum, Waves, Golos ฯลฯ โดย Mike Chobanyan ผู้ก่อตั้ง KUNA Bitcoin Agency และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Bitcoin Foundation ระบุว่า จะซื้อตู้เอทีเอ็มอย่างน้อย 30 เครื่องภายในเดือนสิงหาคมนี้ และจะซื้ออีกรวมทั้งหมดราว 150 เครื่องภายในเดือนมกราคม 2018
ราคา Bitcoin ทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) อีกครั้งในเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยราคาได้ทะลุ 4,000 ดอลลาร์ไปเรียบร้อย ความแรงของ Bitcoin นั้นอธิบายได้คือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาเพิ่งกลับมาทะลุ 3,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง แต่ ณ ตอนนี้ 4,000 ดอลลาร์เรียบร้อย
ยังไม่มีคำอธิบายถึงสาเหตุของการปรับราคาเพิ่มสูง แต่คาดเดาว่ามีหลายปัจจัยสนับสนุนให้ราคา Bitcoin ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิ นักวิเคราะห์เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ Bitcoin เหนือกว่าเงิน cryptocurrency สกุลอื่น บ้างถึงกับใช้คำว่า Bitcoin เป็น "ทองคำแห่งเงินดิจิทัล" ซึ่งแปลว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในการลงทุน
หลังจาก Bitcoin Cash แยกเส้นทางออกจากบิตคอยน์ออกไปแล้ว กลุ่ม Segwit2x ที่เตรียมเปิดฟีเจอร์ Segwit ก็เตรียมอัพเกรดไคลเอนต์บิตคอยน์เดิม แม้ว่าแนวทางของกลุ่ม Segwit2x จะสามารถทำงานร่วมกับ Bitcoin Core ไปได้จนถึงปลายปีนี้
ตอนนี้กระบวนกรโหวตเปิดฟีเจอร์ Segwit ในบิตคอยน์เดิมอยู่ในสถานะ locked-in โดยมีบล็อคที่โหวตเปิด Segwit รวม 1996 บล็อคจากที่ต้องการ 1916 บล็อค ในห้วงเวลา 2016 บล็อค ตอนนี้กลุ่ม Segwit2x และกลุ่ม Bitcoin Core ยังคงทำงานร่วมกันได้อยู่ แต่โค้ดใน pull request #10982 ของ Bitcoin Core จะไม่ยอมเชื่อมต่อกับโหนดที่ประกาศตัวเป็น Segwit2x อีกต่อไป
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญของราคา Bitcoin ที่เดิมทีอยู่ในระดับ 2,800 ดอลลาร์ต่อ BTC มาหลายสัปดาห์ จู่ๆ ราคาก็พุ่งสูงขึ้นจนทำนิวไฮอีกครั้ง โดยสถิติใหม่อยู่ที่ 3,206.93 ดอลลาร์ (ขณะที่เขียนข่าวนี้ อยู่ที่ 3,154.91 ดอลลาร์)
ราคา Bitcoin ขึ้นมาแตะหลัก 3,000 ดอลลาร์ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมิถุนายน ก่อนตกลงมาต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม และกลับมาเพิ่มอีกครั้ง
การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin รอบนี้เกิดขึ้นเฉพาะ Bitcoin เพียงสกุลเดียว ในขณะที่สกุลเงินใกล้เคียงอย่าง Ethereum ไม่ได้เพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกัน
ประเด็นการเพิ่มความสามารถในการรองรับการโอนบน Bitcoin ทำให้มีหลายกลุ่มพยายามเสนอวิธีการต่างๆ เช่นกลุ่ม SegWit2x แต่ล่าสุดกลุ่ม Bitcoin Cash ก็เลือกเส้นทางที่ตรงไปตรงมา คือการขยายขนาดบล็อคเป็น 8MB ทันที และบล็อคแรกตามมาตรฐานนี้คือ บล็อคหมายเลข 478559 ก็มีขนาด 1.9MB แต่ส่งผลให้ Bitcoin (BTC) แยกเป็นสองสาย คือ BTC เดิมและ Bitcoin Cash (BCH)
แนวทางของ Bitcoin Cash คือตั้งใจแยกสายออกจากบิตคอยน์เดิมอย่างเต็มที่ โดยรองรับการอยู่ร่วมกัน และการสั่งโอนใน BTC จะไม่มีผลต่อ BCH ทำให้คนที่มี BTC เดิมจะได้ BCH เพิ่มมาอีกทาง
WizSec บริษัทที่เป็นผู้เข้าสอบสวนคดี MtGox อดีตบริษัทแลกเปลี่ยนเงินบิตคอยน์อันดับหนึ่งที่ล้มละลายไปตั้งแต่ปี 2014 และเคยเปิดเผยรายงานเบื้องต้น ออกมาเปิดเผยรายงานอย่างละเอียดขึ้น หลังจากตำรวจกรีซจับกุม Alexander Vinnik ชาวรัสเซียได้ โดย WizSec ระบุว่า Vinnik คือผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งในคดี MtGox และหลังจากจับกุมเขาได้แล้วจึงถึงเวลาเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น
กลุ่ม SegWit2x นัดแนะกันว่าจะโหวตเตรียมล็อกเพื่อบังคับเปิด SegWit เมื่อวันนี้ แต่กลุ่มผูุ้ขุดเหมืองกลับเริ่มส่งสัญญาณกันล่วงหน้า และตอนนี้บล็อคที่ส่งสัญญาณตกลงเข้าร่วมก็ครบ 269 บล็อคแล้ว ทำให้อีกสองสามวันข้างหน้าข้อกำหนด BIP91 ที่ระบุให้ทิ้งบล็อคที่ไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่เริ่มมีผล
กระบวนการเปิด SegWit ค่อนข้างซับซ้อน โดยเรียงลำดับตามนี้
หลังการประกาศตัวของกลุ่มสนับสนุน BIP148 ที่เตรียมจะเปิดฟีเจอร์ SegWit แล้วทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่าสายโซ่อาจจะแยกเป็นสองสาย ตอนนี้บริษัทรับแลกเงิน 13 บริษัทในญี่ปุ่นก็ประกาศแล้วว่าจะหยุดรับแลกเงินในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้ง 13 บริษัทระบุว่าการประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ในวันนั้นทำได้ยาก จึงเลือกที่จะหยุดการซื้อขายในช่วงเวลา 9 ชั่วโมง ตั้งแต่เที่ยงคืน 31 กรกฎาคม ไปจนถึง 9 โมงเช้า 1 สิงหาคม ตามเวลาญี่ปุ่น
ที่มา - Japan Times
อาการจำนวน transaction เต็มบล็อคของบิตคอยน์ทำให้การโอนเงินล่าช้าและมีค่าธรรมเนียมสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาเรื้อรัง และกลุ่มผู้ขุดบิตคอยน์กลุ่มใหญ่เตรียมประกาศรองรับฟีเจอร์เพิ่มจำนวน transaction จนอาจจะทำให้สายโซ่ของบิตคอยน์แตกเป็นสองสายหลังวันที่ 1 สิงหาคมนี้ และทาง Bitcoin.org ได้ออกประกาศเตือนให้ระวังการรับเงินในวันดังกล่าว
นี่อาจหมดสัญญาณของการตื่นสกุลเงิน cryptocurrency (อย่างน้อยก็ในรอบนี้) เมื่อราคา Bitcoin ยังร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากทำสถิติสูงสุดที่ 3,000 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ตอนนี้ราคาตกลงมาต่ำกว่าระดับ 2,000 ดอลลาร์แล้ว เทียบเท่ากับขาขึ้นในเดือนพฤษภาคม (ขณะที่เขียนข่าวนี้ ราคาอยู่ที่ 1,994 ดอลลาร์)
ส่วนสกุลเงิน Ethereum ก็ไปในทิศทางเดียวกัน จากที่ขึ้นไปสูงสุด 391 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 164 ดอลลาร์ ตกลงมาเกินครึ่งของมูลค่าสูงสุด
สกุลเงินอันดับสาม XRP (Ripple) ขึ้นไปสูงสุดที่ 0.39 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 0.14 ดอลลาร์