หลังจากคาดการณ์กันว่าไมโครซอฟท์จะเปลี่ยนชื่อบริการ Office Web Apps ไปเป็น Office Online ตอนนี้ไมโครซอฟท์ก็ออกมายืนยันการเปลี่ยนชื่อบริการนี้อย่างเป็นทางการแล้ว

เหตุผลที่ไมโครซอฟท์เลือกเปลี่ยนชื่อบริการจาก Office Web Apps ไปเป็น Office Online ก็เพื่อลดความสับสนของลูกค้าจากการมีคำว่า Apps อยู่ในชื่อ ซึ่งทำให้เข้าใจว่าจะใช้บริการนี้ต้องลงแอพด้วย เพื่อให้เข้าใจว่าสามารถใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้ เพียงแค่ต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น จึงเปลี่ยนไปใช้คำว่า Online เพียงอย่างเดียวแทน จนกลายมาเป็นชื่อ Office Online ที่มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ให้หลังจากการเข้าซื้อ Index Digital Media บริษัทลูกของ Index Corperation ในสหรัฐฯ ที่เราคุ้นกันในชื่อของ Atlus ผู้ผลิตเกมซีรีย์ Megami Tensei, Shin Megami Tensei: Persona และ Etrian Odyssey (ชื่อญี่ปุ่น 世界樹の迷宮) ตอนนี้ Sega ก็ประกาศรีแบรนด์บริษัท Index Digital Media และแตกบางส่วนออกมาเป็นบริษัทใหม่แล้ว

เริ่มต้นกันที่บริษัทแม่อย่าง Index Digital Media จะเปลี่ยนชื่อเป็น Atlus U.S.A., Inc โดยจะรับหน้าที่พัฒนาเกมซีรีย์หลักของ Atlus เดิมต่อไป ส่วนแผนกอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกมจะถูกแยกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ชื่อว่า Index Corporation ซึ่งจะรับหน้าที่ดูแลเนื้อหา และการจัดการทางธุรกิจอื่นๆ

ประกาศดังกล่าวจะเริ่มมีผลในปีงบประมาณใหม่ ในวันที่ 1 เมษายนนี้ครับ

เว็บไซต์ ZDNet รายงานว่า ในหน้าเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ Office มีการระบุผลิตภัณฑ์ Office Online ในฐานะเว็บแอพ Office เวอร์ชันฟรี แต่เมื่อคลิกลิงก์ดูรายละเอียดเพิ่มเติมกลับยังแสดงหน้าเว็บ Office Web Apps อยู่เช่นเดิม (ณ เวลาเขียนข่าวนี้ ไม่สามารถเข้าถึงหน้าเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์นั้นได้แล้ว)

ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ SkyDrive เท่านั้นที่ไมโครซอฟท์เปลี่ยนชื่อบริการ เพราะล่าสุดผู้ก่อตั้ง LiveSino.net เว็บไซต์ข่าวภาษาจีนเกี่ยวกับไมโครซอฟท์ได้เผยภาพหน้าจอที่ทำให้เชื่อได้ว่าไมโครซอฟท์กำลังจะรีแบรนด์ Office Web Apps บริการชุดออฟฟิศฟรีให้ผู้ใช้ Microsoft account หรือผู้สมัคร Office 365 เป็น Office Online แทน

เว็บไซต์ ZDNet ซึ่งได้รับภาพดังกล่าวรายงานว่า แอพภายใต้ Office Web Apps ก็จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Word Online, Excel Online, PowerPoint Online และ OneNote Online เช่นกัน

ที่มา: ZDNet

Roberta Cozza นักวิเคราะห์ของ Gartner ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Computing ของสหราชอาณาจักรในประเด็นต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์

เริ่มแรก Cozza ระบุว่า ไมโครซอฟท์นั้นมีปัญหาด้านแบรนด์ ซึ่งในทุกวันนี้ที่ผลิตภัณฑ์หลายตัวของไมโครซอฟท์ทำให้คนทั่วไปสับสนอย่างมาก อย่างเช่น Xbox, Skype และอีกหลายแบรนด์ ซึ่ง Cozza แนะนำให้ทางไมโครซอฟท์ผูกบริการทั้งหลายเข้าด้วยกันให้มากขึ้น

Cozza ยังบอกอีกว่า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในตัวแบรนด์ที่สับสน ไมโครซอฟท์ควรคงแบรนด์ "โนเกีย" ในตลาดสมาร์ทโฟนต่อไป เพราะแบรนด์ของโนเกียยังคงแข็งแกร่งในตลาดอยู่ และผู้ใช้จะยังคงรู้สึกดีที่แบรนด์โนเกียยังไม่หายไปไหน ซึ่งจะเป็นวิธีเดียวกับที่ทางไมโครซอฟท์คงแบรนด์ Skype ไว้เหมือนเดิม

จากรายงานของ New York Times ระบุว่าในขณะนี้แบรนด์ Apple มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 28% และกลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกด้วยตัวเลข 98,316 ล้านดอลลาร์ แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Coca-Cola เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไมโครซอฟท์ประกาศเปลี่ยนโลโก้ Bing เสิร์ชเอนจินของไมโครซอฟท์ (หลังจากที่เผยแผนการการออกแบบใหม่ของโลโก้ Bing มาก่อนแล้ว) โดยโลโก้ใหม่นี้เน้นสไตล์ Metro มากขึ้น และตัวอักษรยังคงเน้นตัวอักษรตัว B อยู่เช่นเดิม

สำหรับตัวอักษรของคำว่า Bing นั้น ทางไมโครซอฟท์ได้อธิบายไว้ว่าได้ใช้ตัวอักษร Segoe Pro (ฟอนต์ของบริษัท ซึ่งต่างจากฟอนต์ Segoe UI หรือ Segoe WP ที่คนทั่วไปใช้กัน) ทางด้านสีทางไมโครซอฟท์ได้คัดเลือกสีที่แสดงถึงความเข้มแข็ง (bold hues) กว่า 10 เฉดสี และสีเหลืองกว่า 124 แบบ จนสุดท้ายก็เลือกสีเหลืองแบบที่เห็นนี้ครับ

เว็บไซต์ Ars Technica ได้รับรายงานจาก Rajesh Handa ว่าใน Chrome 29 Beta for Android นั้นได้พบว่า กูเกิลแอบซ่อนโลโก้ใหม่ในแอพ ซึ่งตัวโลโก้ใหม่นี้จะออกมาเป็นแค่ตัวอักษรที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่มีแสง ไม่มีเงา เรียบ และแบนราบ สไตล์การออกแบบแบบ flat design (หากใครยังจำกันได้ว่ากูเกิลเคยตัดเงาออกจากโลโก้ตั้งแต่ปี 2010 มาแล้ว)

เมื่อเดือนที่แล้ว Yahoo! ทำเว็บแสดงโลโก้ตลอดหนึ่งเดือน ตอนนี้ก็ครบรอบและถึงเวลาเปลี่ยนโลโก้ใหม่แล้ว

Yahoo! ระบุว่าบริษัทกำลังอยู่ระหว่างความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และโลโก้ควรเปลี่ยนตามความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน อย่างไรก็ดี สีม่วงและเครื่องหมายตกใจที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของโลโก้จะอยู่ต่อไป

ที่มา - Yahoo!

Samsung ประกาศยกเครื่องชื่อตระกูลสำหรับโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต โดยยกเลิกชื่อตระกูล Series ของกลุ่มโน้ตบุ๊กและพีซีแบบออลอินวันทั้งหมด และรีแบรนด์เป็น ATIV เพื่อให้ ATIV แสดงถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาบรรจบกันระหว่างพีซีและอุปกรณ์พกพา และทำให้ลูกค้าสามารถเข้าใจกลุ่มผลิตภัณฑ์ (product segment) ได้ง่ายยิ่งขึ้น การรีแบรนด์นี้รวมถึงแท็บเล็ตตระกูล ATIV Smart PC ด้วย ดังนี้

ผลสำรวจ BrandIndex ของบริษัท YouGov กับผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา เทียบระหว่างแบรนด์ "ซัมซุง" กับ "ไอโฟน" (ไม่ใช่ "แอปเปิล") โดยถามคำถามว่าได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์นั้นๆ มากน้อยแค่ไหน

ผลสำรวจนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2011 เป็นต้นมา พบว่าคะแนน (วัดเป็นดัชนี) ของแบรนด์ซัมซุงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีระดับเหนือกว่าแบรนด์ไอโฟนที่ลดลงเรื่อยๆ แล้ว