ผมเชื่อว่าหลายคนแถวนี้คงใช้ Firefox 3 กันเกือบหมดแล้ว อาจจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนบ้าง แต่น่าจะมีอีกหลายมุมที่คุณยังไม่รู้ว่ามีใน Firefox 3 ด้วย บทความ Field Guide to Firefox 3 เจาะลึกทุกรายละเอียด คัดมาเฉพาะอันที่คนน่าจะรู้น้อย
Opera 9.5 ออกแล้วทั้งเวอร์ชันวินโดวส์ แมค และลินุกซ์
ฟีเจอร์ใหม่
ที่มา - Opera Press ผ่าน OSNews
แม้กระแส iPhone ช่วงนี้กลบข่าวอื่นไปซะหมด แต่แอปเปิลก็ปล่อย Safari 4 รุ่นทดสอบให้นักพัฒนามาทดสอบกันแล้ว โดยรุ่นนี้จะมีจุดขายหลักอยู่ที่ตัวแปลภาษา JavaScript ตัวใหม่ชื่อ SquirrelFish อ้างว่ามันเป็นการอิมพลีเมนต์ JavaScript ที่ทำงานได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทีมงานทดสอบความเร็วด้วยชุดทดสอบ SunSpider ได้ผลความเร็วเป็น 1.6 เท่าตัวเทียบกับ WebKit 3.1 ที่ผ่านมา
หลังจาก Firebug ออกมาให้เหล่าผู้พัฒนาเว็บไซต์ได้ debug เว็บเพจได้ง่ายดายดุจดับเบิ้ลคลิกเม้าส์ ทำให้ชุมชนผู้พัฒนาเว็บไซต์ต่างพากันรองรับไฟร์ฟ็อกซ์เป็นหลักและมักจะพัฒนาให้รองรับ Internet Explorer มาตามหลัง (เพราะโดนผู้ใช้งานส่วนใหญ่กดดัน)
ทำให้เบราว์เซอร์สุดเก๋าอย่าง Opera ไม่ยอมน้อยหน้า ออก Dragonfly สำหรับ Opera 9.5 beta โดยลอกแบบ อุ๊ฟฟไม่ใช่ ....ได้รับแรงบันดาลใจจาก Firebug มาโดยตรงเวอร์ชันนี้ (0.7 alpha) มีความสามารถดังต่อไปนี้....
บริษัทสถิติเว็บของยุโรปชื่อ Xiti ได้รายงานข้อมูลส่วนแบ่งตลาดของ Firefox ในประเทศต่างๆ ของยุโรปจำนวน 32 ประเทศ
Camino เว็บเบราว์เซอร์ของแมคที่ใช้เอนจิน Gecko แต่เขียนส่วน GUI ด้วย Cocoa ออกรุ่น 1.6 แล้ว ฟีเจอร์ใหม่เน้นการไล่ตามฟีเจอร์ของ Firefox ให้ทัน
น่าเสียดายว่า Camino 1.6 ยังใช้ Gecko 1.8.1 จึงยังไม่สนับสนุนการตัดคำภาษาไทยครับ (ต้องเป็น Gecko 1.9 ขึ้นไป)
ฝั่ง Mozilla ดูจะเริ่มบุกตลาดเบราว์เซอร์บนมือถือช้ากว่าคู่แข่งอย่าง Safari, Opera และ IE แต่ช่วงนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวออกมาบ้างแล้ว
Chris Blizzard แห่ง Mozilla ได้เขียนบล็อกถึงเบราว์เซอร์โค้ดเนม "Fennec" โดยรันบนแพลตฟอร์ม Nokia Internet Tablet และวัดผลเบนช์มาร์คจาวาสคริปต์ด้วย SunSpider ซึ่งค่าออกมาดีกว่า MicroB เบราว์เซอร์ของโนเกีย (ซึ่งใช้โค้ดของ Firefox 3 รุ่นอัลฟ่าแรกๆ) มากมาย เหตุผลก็เป็นเพราะการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Firefox 3 ในช่วงหลังๆ นั่นเอง
ไหนๆ Firefox ก็ออก beta 5 มาแล้ว Opera จะอยู่เฉยได้อย่างไร ก็เลยขอแจมออก Beta มั่ง!!
สำหรับคออินเทอร์เน็ต ผู้คลั่งไคล้การเยี่ยมชมเว็บบนโทรศัพท์มือถือ คิดว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Opera Mini โปรแกรมเบราว์เซอร์บนโทรศัพท์แบบจาวา สามารถรันได้บนโทรศัพท์ได้แทบทุกรุ่น ที่รองรับ J2ME
ปัจจุบัน Opera Mini ได้ออกมาถึงรุ่น 4.0 แล้ว โดยมีข้อแตกต่างหลักๆ จาก Micro-browser บนโทรศัพท์เป็นความสามารถในการแสดงผล และขนาดของการดาวน์โหลดข้อมูล ซึ่ง Opera Mini ใช้เทคนิค remote transcoder ทำให้ข้อมูลที่ต้องส่งผ่านมีขนาดเล็กกว่าปกติ และไม่ต้องอาศัยพลังในการปะมวลผลที่ฝั่งโทรศัพท์มากนัก
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่าน (12.45 น. 29 มีนาคม 2551) ได้ไปมีส่วนร่วม มหกรรมหา Bugs บน Firefox แห่งชาติ (ชื่อตั้งเอง) หรือ BugAThon ที่ร้าน Coffee World สาขาสีลม (ร้านตั้งอยู่ข้างร้านไอศครีม Häagen-Dazs® เลยรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดงมา 200 เมตร ตรงข้ามตึก CP Tower พอดี)
ทีมงานของ Opera ได้เปิดเผยผ่านบล็อก ว่าหลังจากที่ทีมงานทำงานอย่างหนัก ตอนนี้ Opera สามารถผ่านการทดสอบ Acid3 ได้ 100% เป็นเจ้าแรกแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และอาจจะปล่อยเวอร์ชัน Technical preview ในสัปดาห์หน้า
ส่วน Safari ตามมาติด ๆ ที่ 98% และ Firefox 3 beta 4 อยู่ที่ 71% แต่ยังไม่เห็นชื่อของ IE ในข่าวเลยแฮะ
ที่มา - my.opera.com , SlashDot
Firefox ตัวใหม่จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดาว์นโหลดไปใช้แล้วหลังจากแก้ปัญหา ด้านความปลอดภัยและอาการกินแรมไปได้
นักพัฒนา Firefox ได้กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า ตัว Firefox 3 ใหม่นี้พร้อมที่จะให้ดาว์นโหลดแล้วหลังจากผ่านการพัฒนามาร่วมเดือน โดยมีการปรับปรุงที่ดีกว่า Firefox 2 ตรงที่มีความสเถียรมากกว่า และคาดว่าจะออก Firefox 3 ได้ในเดือนมิถุนายนปีนี้
ผู้ใช้ทั่วไปใช้สามารถโหลด Firefox 3 beta 4 มาลองใช้ได้แล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นการแนะนำให้โหลดเฉพาะนักพัฒนาเท่านั้น เพราะเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้ทดสอบเท่านั้น
ที่มา - reuters.com
แอปเปิลได้ประกาศปล่อย Safari เวอร์ชั่น 3.1 แล้ววันนี้ โดยได้อ้างไว้ว่าด้วยพลังของ WebKit ตัวล่าสุด ทำให้ Safari นั้นเป็นเว็บบราวเซอร์ที่เร็วที่สุดในโลกทั้งบนแมคและพีซีที่ใช้วินโดวส์
จากตัวเลขที่แอปเปิลได้อ้างไว้นั้น Safari สามารถโหลดหน้าเว็บได้เร็วกว่า IE7 ถึง 1.9 เท่าและเร็วกว่า Firefox 2 ถึง 1.7 แต่ถ้าหากให้โหลดจาวาสคริปแล้ว Safari สามารถทำได้เร็วกว่าเว็บบราวเซอร์อื่น ๆ ทั่วไปกว่าหกเท่าเลยทีเดียว!
Safari 3.1 สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บแอปเปิล สำหรับผู้ใช้แมคสามารถทำผ่าน Software Update ได้
ที่มา - MacRumors
Backbase ผู้พัฒนา Rich Internet Application ด้วย Ajax ได้ประกาศผลทดสอบความเร็วของ JavaScript ในเบราเซอร์รุ่นใหม่ๆ รวมทั้งรุ่น beta และบรรดา nightly build
ผลโดยรวมออกมาเป็น Safari, Firefox 3, Opera, Firefox2 ท้ายสุดเป็น IE แต่จากผลทดสอบนี้ Opera ทำไม่ได้ดีในส่วนของ Core JavaScript performance
ตัวเลขอ้างอิง ยิ่งต่ำยิ่งดี หน่วยวัดเป็นมิลลิวินาที
ที่มา: Backbase Developer Network
ไมโครซอฟท์ออก Internet Explorer 8 Beta 1 ให้ดาวน์โหลดแล้ว โดยบอกว่ารุ่นนี้มีเป้าหมายคือนักพัฒนาและเว็บมาสเตอร์ ที่จะทดสอบเว็บของตนว่าใช้งานกับ IE8 ได้
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ IE8 คือสนับสนุนมาตรฐานเว็บอย่างจริงจัง (ข่าวเก่า) ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ มีดังนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศว่า IE8 จะใช้โหมดเรนเดอร์ HTML ตามมาตรฐานของ W3C เป็นค่า default
โดยปกติแล้ว การแสดงผล HTML ในเว็บเบราว์เซอร์จะมีสองโหมดหลักๆ คือ Quirk (สำหรับเว็บเพจที่เขียนไม่ตรงตามมาตรฐาน) และ Standard (อันนี้ตามชื่อ) แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ IE7 นั้นคือ Standard mode ของ IE7 มันไม่ตรงตามมาตรฐานเว็บจริง เนื่องจากทีมพัฒนา IE ต้องการรักษาความเข้ากันได้กับ IE6 เอาไว้
Cybernet รายงานผลการเปรียบเทียบความเร็วของ JavaScript engine ในเบราเซอร์ต่างๆ ด้วย SunSpider JavaScript Benchmark ของ WebKit.org ซึ่งทดสอบเฉพาะการทำงานของ JavaScript engine ไม่รวม DOM ได้ผลดังนี้
หลังจากที่เว็บเบราว์เซอร์หลักทั้ง 4 ค่ายต่างผ่านชุดทดสอบ ACID2 กันหมด การพัฒนาชุดทดสอบเวอร์ชันใหม่ ACID3 ก็เริ่มต้นขึ้น โดย ACID2 ที่เน้นทดสอบด้าน CSS แต่ใน ACID3 จะหันมาทดสอบ ECMAScript (JavaScript) และ DOM level 3 แทน
ชุดทดสอบ ACID3 ยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ก็เปิดให้คนทั่วไปได้ลองเล่นแล้ว (ที่นี่) ผมใช้ Firefox 3 Nightly ได้มา 63% แต่ดูจากความเห็นใน Slashdot บอกว่าคะแนนสูงสุดตอนนี้คือ Opera 9.5 อยู่ที่ 65% ครับ น่าเสียดายว่า ACID3 ไม่มีหน้ายิ้มที่เป็นเอกลักษณ์เสียแล้ว กลายเป็นกล่องสีธรรมดาแทน
ถ้าใครยังจำกันได้ อดีตเบราว์เซอร์เจ้าตลาดอย่าง Netscape ซึ่งถูก AOL ซื้อไป ได้ถูกยุบไปหลัง Netscape 7.0 (ซึ่งเป็นเวอร์ชันแปลงร่างของ Mozilla Suite 1.0) ก่อนที่ AOL จะฟื้นแบรนด์ Netscape มาอีกครั้งในเวอร์ชัน 8.0 โดยจ้างทีมพัฒนาภายนอก ซึ่งเวอร์ชันล่าสุดคือ 9.0 ที่เพิ่งออกไปในปีนี้
แต่ล่าสุดทาง AOL ได้ประกาศหยุดพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ใต้ยี่ห้อ Netscape อีกครั้งแล้ว โดยระยะเวลาสนับสนุน Netscape 9.0 จะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2008 นี้ ส่วนเว็บพอร์ทัล Netscape.com และบริการอื่นๆ จะยังให้บริการต่อไป
บริษัท Opera ยื่นเอกสารร้องเรียนต่อคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ว่าไมโครซอฟท์ผูกขาดเว็บเบราว์เซอร์ และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานเว็บ
สิ่งที่ Opera เรียกร้องมี 2 ประการ
จากการสำรวจจากเว็บไซต์รายงานสถิติหลายแห่ง พบว่าแนวโน้มการใช้งานของ Firefox ยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันกำลังแตะระดับ 15% ในตารางสถิติของ Net Application สำหรับผู้นำตลาดอย่าง Internet Explorer นั้นลดลงมาอยู่ที่ 77.86% ส่วน Safari นั้นมีสัดส่วนส่วนแบ่งอยู่ที่ 5% สำหรับตารางสถิติจากเว็บต่างประเทศอื่นๆ ก็มีแนวโน้มไปในทิศทางใกล้เคียงกัน
แคมเปญ Why Firefox is Blocked รณรงค์เว็บไซต์ให้ต่อต้าน Firefox (โดยการเช็ค user-agent) โดยมีเหตุผลว่า Firefox มี Adblock Plus ซึ่งทำให้รายได้เข้าเว็บจากโฆษณาสูญหายไป แถม Adblock Plus ยังไม่สามารถให้เจ้าของเว็บไซต์เลือกบล็อคโปรแกรมบล็อคโฆษณาได้ (เค้าเขียนอย่างนี้จริงๆ "the real problem is Ad Block Plus's unwillingness to allow individual site owners the freedom to block people using their plug-in. ") ทางออกจึงมีอย่างเดียวคือบล็อค Firefox เสียเลย
มีนักบล็อกจากญี่ปุ่นชื่อ Hamachiya2 ค้นพบโค้ด HTML กับ CSS ที่จะทำให้ Internet Explorer 6 เกิด Error จนต้องปิดโปรแกรมไป
โดยโค้ดตัวที่ว่านี้มันแค่นี้เอง:
<style>*{position:relative}</style><table><input></table>
เบราเซอร์ตัวอื่นๆอย่าง Firefox, Opera หรือ Safari ก็สามารถแสดงโค้ดได้อย่างถูกต้อง
ผมลอง IE 7 แล้ว ผลคือไม่ล่ม แต่มันแสดงผลไม่สมบูรณ์ (พิมพ์ในกล่องไม่ได้) มีผู้กล้าคนไหนอยากเอา IE 6 ไปลองมั่ง ผมว่าเอามาใส่ Blognone ก็ดีนะ ห้ามใช้ IE 6 เข้า
ถึงแม้เราจะเห็นตัวเลขดาวน์โหลด Firefox จำนวนมหาศาล (ตอนที่เขียน 385 ล้านครั้ง) แต่ข้อมูลจากทาง Mozilla บอกว่ามีเพียงครึ่งหนึ่งของคนที่ดาวน์โหลดไปที่ติดตั้งลงในเครื่อง และครึ่งหนึ่งของคนจำนวนนี้เท่านั้นที่ลองแล้ว หันมาใช้ Firefox เป็นเบราว์เซอร์หลัก
นี่จึงเป็นที่มาของแผน Retention ของ Mozilla โดยขอไอเดียจากผู้ใช้ Spread Firefox ได้ออกมาเป็นแผนการ 12 ข้อที่ช่วยดึงดูดให้คนใช้ Firefox มากขึ้น
เอนจิน KHTML ที่ใช้ใน Konqueror ถือเป็นเอนจินที่ฮิตมาก นอกจากจะเป็นโอเพนซอร์สแล้วยังมีขนาดเล็ก พัฒนาต่อได้ง่าย (เมื่อเทียบกับ Gecko ของ Mozilla) ทำให้มีคนนำ KHTML ไปพัฒนาต่อกันเป็นแถว ตัวอย่างที่ดังที่สุดคงไม่มีอะไรเกิน Safari ซึ่งแอปเปิลนำ KHTML ไปพัฒนาต่อในชื่อ WebKit (จริงๆ แล้วมันคือ KHTML + KJS)
ผลการสำรวจจากบริษัท XiTiMonitor สัญชาติฝรั่งเศส โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 96,000 เว็บไซต์ในรอบ 4 เดือนล่าสุด พบว่าช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ Firefox มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 27.8% (อันนี้ยุโรปทั้งทวีป) เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมประมาณ 3.7% ส่วน IE มี 66.5% และเบราว์เซอร์อื่นๆ รวมกันได้ประมาณ 5.7%
ในบางประเทศ Firefox มีส่วนแบ่งตลาดสูงมาก เช่น สโลวีเนีย (47.9%) ฟินแลนด์ (45.4%) สำหรับตัวเลขของประเทศอื่นๆ เข้าไปดูกันเองตามลิงก์
ผลการสำรวจอีกอันหนึ่งของบริษัทเดียวกัน พบว่าผู้ใช้ IE6 เปลี่ยนไปใช้ IE7 กันน้อย คือประมาณหนึ่งในสามเท่านั้น เทียบกับผู้ใช้ Firefox 85% ใช้เวอร์ชันล่าสุด