รวมข่าว Browser ทั้ง Mac, Linux, และ Windows พร้อมแนะนำ Browser มี Update ใหม่อะไรบ้าง
กูเกิลและโซนี่ได้เปิดเผยข้อตกลงที่ยังไม่มีการบอกมูลค่า โดยทางโซนี่ตกลงที่จะติดตั้ง Google Chrome ลงบนเครื่อง Vaio ทุกเครื่องจากโรงงาน กูเกิลประกาศตัวแน่ชัดว่าต้องการใช้แผนการนี้ต่อไป และบริษัทพร้อมจะพูดคุยข้อตกลงแบบเดียวกันนี้กับบริษัทผู้ผลิตอื่นๆ
Chrome นั้นครองตลาดอยู่ร้อยละ 2 อาจจะไม่มากนักแต่มันเป็นหนึ่งในอาวุธที่กูเกิลใช้ผลักดันมาตรฐานต่างๆ ให้ไมโครซอฟท์และผู้ผลิตเบราเซอร์ค่ายอื่นๆ ต้องเร่งพัฒนาเบราเซอร์ให้เร็วขึ้น เช่นการทำคอมไพลเลอร์ของ Javascript นั้นทุกค่ายต่างเร่งพัฒนากันอย่างหนัก เมื่อคอมไพล์เลอร์ V8 ของกูเกิลทำให้ Chrome ทำความเร็วเหนือเบราเซอร์อื่นๆ ไปได้ไกล จนถูกตีตื้นมาได้ในช่วงหลัง
มีผลการทดสอบการทำงานของเบราว์เซอร์บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (ใช้ Internet Explorer 7 เป็นฐานในการทดสอบ) พบว่าเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะทำงานบน Windows XP SP3 เร็วกว่า Windows 7 ถึง 13% และเร็วกว่า Windows Vista SP2 ถึง 29% นอกจากนั้น Chrome 3 ยังทำงานบน Windows XP ที่ติดตั้ง SP3 เร็วกว่า Internet Explorer 7 บนระบบปฏิบัติการเดียวกันถึงเกือบ 19 เท่าอีกด้วย
สำหรับผลการทดสอบอื่นๆ มีดังนี้ (ยกมาบางส่วน):
ไม่ใช้ Forward Mail ครับ แต่ไมโครซอฟท์ได้เข้าร่วมโครงการ Hunger Action Month ที่จัดแคมเปญในชื่อว่า Give a Little, Feed a Lot โดยรณรงค์ให้คนทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้บริษัทห้างร้านต่างๆ บริจาคอาหารเพื่อชาวอเมริกันไม่ขาดอาหารจำนวน 36 ล้านคน ที่น่าสนใจคือไมโครซอฟท์นั้นเข้าร่วมในชื่อโครงการว่า Browser for the better
โครงการนี้ได้บริจาคอาหาร 8 มื้อทุกครั้งที่มีการดาวน์โหลด IE8 ผ่านทางเว็บ และในช่วงโครงการ Give a Little, Feed a Lot นี้ไมโครซอฟต์ก็ได้เพิ่มการบริจาคขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้ทุกๆ การดาวน์โหลด IE8 ทางโครงการนี้ ไมโครซอฟท์จะบริจาคอาหารถึง 16 มื้อด้วยกัน
Research in Motion เจ้าของมือถือตระกูล BlackBerry เข้าซื้อกิจการของ Torch Mobile ผู้สร้างเว็บเบราว์เซอร์ Iris
Iris เป็นเว็บเบราว์เซอร์บนมือถือที่ใช้ WebKit ทำงานบน Windows Mobile และ Qtopia การซื้อกิจการครั้งนี้ชัดเจนว่า RIM ต้องการเว็บเบราว์เซอร์บน BlackBerry ที่สมน้ำสมเนื้อกับคู่แข่งอย่าง Mobile Safari อีกไม่นานเราคงเห็น Iris บน BlackBerry สมรภูมิเริ่มระอุอีกแล้ว
ที่มา - Boy Genius Report
กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ Bookmark Sync ลงใน Chrome 4.0 รุ่นสำหรับนักพัฒนาแล้ว โดย Chrome จะเก็บรายการที่คั่นหน้าของเราไว้ในพื้นที่ของ profile เราบนกูเกิล เช่นเดียวกับ Google Docs ส่วนการ sync จะทำผ่านโปรโทคอล XMPP/Jabber อันเดียวกับที่ใช้ใน Google Talk
ถ้าใครอยากทดสอบตอนนี้ ต้องดาวน์โหลด Chromium รุ่นใหม่ๆ หน่อย แล้วรันด้วยคำสั่ง --enable-sync เพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ด้วย
Safari มีฟีเจอร์นี้ในตัว แต่ต้องมีบัญชีของ MobileMe ด้วย (เสียเงิน) ส่วน Firefox/IE สามารถใช้ผ่าน Xmarks ได้ฟรี (Xmarks รองรับ Safari ด้วยเช่นกัน)
สงครามความเร็วของ HTML+JavaScript ดูเหมือนจะเป็นสมรภูมิหลักของเบราเซอร์ในยุคต่อไป โดยเมื่อกูเกิลปล่อย Chrome และ Chromium นั้นก็มีการประกาศมาเสมอว่าสามารถทำความเร็วได้ดีที่สุด แต่ในอนาคตก็อาจจะไม่จริงอีกต่อไป เพราะ WebKit+Nitro รุ่นล่าสุดของวันนี้สามารถทำความเร็วได้ดีกว่า Chromium แล้ว
ผลการทดสอบนี้ทาง ArsTechnica ใช้ชุดทดสอบ SunSpider 0.9 ทดสอบสามครั้งบนเบราเซอร์หลักหลายตัวด้วย แต่ที่พอจะแข่งกันได้นั้นคงมีเพียง Chromium และ WebKit+Nitro เท่านั้น ส่วน Firefox นั้นแม้จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังช้ากว่าเกือบเท่าตัว
Chromium นั้นเป็นเบราเซอร์ที่ประกอบขึ้นมาจากชุดเรนเดอร์เว็บ WebKit แต่ใช้คอมไพล์เลอร์ V8 ของกูเกิล ส่วน WebKit+Nitro นั้นเป็นชุดประกอบมาตรฐานของ Safari
แม้ว่าจะมีเรียกร้องให้ผู้ใช้งานเว็บเลิกใช้ IE6 เพื่อลดภาระให้กับนักพัฒนาเว็บอย่างต่อเนื่อง แต่จากมุมมองของไมโครซอฟท์ที่เป็นผู้พัฒนานั้นการปรับเปลี่ยนนี้ไม่ง่ายเท่าที่เราหวังนัก เพราะยังมีผู้ใช้จำนวนมากยังต้องอิงกับ IE6 โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ภายในองค์กรใหญ่ๆ ที่พัฒนามาแล้วเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อ IE6 นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Windows XP แล้ว อายุการซัพพอร์ตจึงจะหมดลงพร้อมๆ กันคือปี 2014
ทางไมโครซอฟท์ให้ความเห็นว่าแม้ว่าไมโครซอฟท์จะอยากให้ผู้ใช้อัพเกรดซอฟต์แวร์ไปยังรุ่นล่าสุดมากเพียงไรแต่ก็ยังเป็นหน้าที่ของไมโครซอฟท์ที่ให้การสนับสนุนซอฟต์แวร์ของตนไปตลอดอายุการใช้งาน
Marc Andreessen ได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้าง Mosaic และ Netscape เขาเป็นตำนานอีกคนหนึ่งของซิลิคอนวัลเลย์ แม้ว่าตอนหลัง Netscape จะพ่ายแพ้แต่ Andreessen ก็หันเหไปเป็นนักลงทุนในกิจการหน้าใหม่แทน เขาเป็นบอร์ดของ Facebook คนที่ 4 ถัดจากผู้ก่อตั้ง, ลงทุนใน Ning.com และขายบริษัท Opsware ให้ HP ไปด้วยมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์
ตอนนี้ Andresssen และทีมของเขาที่ Opsware (ซึ่งเคยทำงานกับ Netscape เช่นกัน) กำลังจะกลับมาอีกครั้งกับบริษัท RockMelt ที่มีข่าวรั่วออกมาว่า "กำลังทำเว็บเบราว์เซอร์"
NetworkWorld.com ได้รายงานผลการทดสอบเว็บเบราว์เซอร์หลักทั้ง 5 ตัว คือ Internet Explorer 8, Apple Safari 4, Google Chrome 2, Mozilla Firefox 3 และ Opera 10 Beta
จากการทดสอบกับเว็บ phishing จำนวน 593 เว็บที่ได้รับการยืนยันแล้ว ผลการทดสอบออกมาว่า IE8 สามารถตรวจจับเว็บ phishing ได้ถึง 83% ในขณะที่ Apple Safari 4 สามารถตรวจจับได้เพียง 2% เท่านั้น ซึ่งผลการทดสอบทั้งหมดเป็นดังนี้
ปล.การทดสอบนี้สนับสนุนโดยไมโครซอฟท์ครับ
นิตยสาร Forbes ได้ออกมาแนะนำกับผู้ใช้งานว่าหากผู้ใช้ต้องการความปลอดภัย ก็หันไปใช้ Opera แทน เนื่องจากว่าบรรดาแฮกเกอร์จะมุ่งโจมตี Windows Internet Explorer และ Mozilla Firefox เสียมากกว่า เนื่องจากว่าทั้งสองเบราว์เซอร์นี้มีส่วนแบ่งการตลาดจำนวนมาก (IE อยู่ที่ราวๆ 60% และ Firefox อยู่ที่ราวๆ 30% - Forbes อ้างอิงด้วย Statcounter)
Forbes ยังยกเรื่องการตรวจพบข้อบบกพร่องของเบราว์เซอร์แต่ละตัวขึ้นมาด้วย ซึ่ง IE มี 31 จุด, Safari มี 32 จุด ส่วน Firefox มี 115 จุด ในขณะที่ Opera มีเพียง 30 จุด ในขณะเดียวกัน ก็พบว่าแฮกเกอร์จำนวนมากนิยมใช้ Opera เช่นกัน (อยู่ที่ราวๆ 27% แต่ก็ยังตาม Firefox ที่ 33%)
แม้ไมโครซอฟท์จะไม่เลิกซัพพอร์ต IE6 แต่กูเกิลก็ประกาศยกเลิกการรองรับ IE6 ใน Orkut อย่างเป็นทางการแล้ว ตามหลัง Youtube ที่ประกาศแบบเดียวกันไปเมื่อเดือนที่แล้ว
ตัวเลือกที่กูเกิลแนะนำผู้ใช้นั้นได้แก่ Chrome, IE8, และ Firefox ที่ไม่ระบุรุ่น ต่างจากประกาศใน YouTube ที่ระบุ Firefox 3.5
ไม่มี Opera ในรายการเช่นเดิม
ที่มา - ArsTechnica
แม้ว่าไมโครซอฟท์เองจะอยากทิ้ง IE6 มากแค่ไหน แต่ในทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์แล้ว ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องสนับสนุน IE6 ต่อไปเรื่อยๆ เนื่องจากมันเป็นส่วนหนึ่งของ Windows XP และคนที่จะตัดสินใจว่าจะอัพเกรดหรือไม่คือเจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์เอง
คำว่า "เจ้าของ" อาจหมายถึงตัวปัจเจกบุคคลหรือองค์กรก็ได้ ไมโครซอฟท์มองตัวเองว่าเป็น "ผู้สร้างระบบปฏิบัติการ" (operating systems supplier) และไม่สามารถทิ้ง IE6 ได้เพราะมีพันธะหน้าที่ที่จะต้องสนับสนุน Windows XP ไปจนครบอายุขัยที่ระบุเอาไว้
เคยเบื่อหน้าตาของเบราว์เซอร์กันไหมครับ? หลายๆ คนที่ใช้ Firefox คงจะมีธีมลงไว้สำหรับเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ ทำให้ผู้ใช้เบราว์เซอร์อื่นอิจฉาเล่น วันนี้ Chrome เองก็สามารถเปลี่ยนหน้าตาของโปรแกรม แทนที่หน้าฟ้าๆ ที่น่าเบื่อได้แล้วครับ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Mozilla Foundation ได้เผยว่าเว็บเบราว์เซอร์ Firefox นั้นได้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วถึงหนึ่งพันล้านครั้งแล้ว และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองก้าวที่สำคัญของ Firefox ในครั้งนี้ทาง Mozilla ก็ได้เปิดตัวเว็บไซต์ฉลองจำนวนดาวน์โหลดนี้เป็นทางการที่ OneBillionPlusYou.com
Mike Beltzner ผู้จัดการของ Mozilla เผยว่าการดาวน์โหลดครั้งที่หนึ่งพันล้านนี้เกิดขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 ในเวลาประมาณ 7.47 น. ตามเวลาแปซิฟิก (ในบ้านเราก็เวลาประมาณ 21.47 น. ของวันเดียวกัน) โดยที่อัตราการดาวน์โหลดในขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 24 ครั้งต่อวินาที
วานนี้ (24 ก.ค.) European Commission (EC) ได้ประกาศรับข้อเสนอจากทางไมโครซอฟท์ที่ยอมให้มี ballot-screen ให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถเลือกเบราว์เซอร์ได้ แทนที่วินโดวส์ 7 E ที่ไม่ติดตั้งเบราว์เซอร์ใดๆ เลย (ดูประกาศฉบับเต็มได้จาก EU ที่นี่) (ดูข่าวก่อนหน้าโดยคุณ toandthen)
หลังจากที่ตอนแรกไมโครซอฟท์ได้ตัดสินใจที่จะทำวินโดวส์เวอร์ชั่นพิเศษสำหรับตลาดในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปที่จะไม่มีเบราว์เซอร์ใด ๆ ติดตั้งมาให้เลย ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้ตัดสินใจที่ให้ผู้ใช้สามารถที่จะเลือกใช้เว็บเบราว์เซอร์หลักชนิดใดก็ได้ โดยจะมีหน้าเลือกเบราว์เซอร์ให้เมื่อทำการบูทเครื่องครั้งแรก
แม้ว่าวินโดวส์เวอร์ชั่นนี้จะมี IE ติดตั้งให้อยู่แล้วก็ตาม แต่ผู้ใช้เองจะสามารถที่จะเลือกระงับการใช้งานได้ ส่วนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เองก็จะสามารถเลือกที่จะติดตั้งเว็บเบราว์เซอร์อื่น ๆ ใดก็ได้ตามที่คิดว่าเหมาะสม
วันนี้มอซิลลาผู้ผลิตไฟร์ฟอกซ์ เว็บเบราว์เซอร์อันเลื่องลือได้เปิดเผยหน้าตาใหม่ที่ "คาดว่า" จะใส่ลงในไฟร์ฟอกซ์ 3.7 (หน้าตาใหม่นี้ยังไม่ใช่การตัดสินใจที่เป็นที่สิ้นสุด อาจเปลี่ยนแปลงไปได้อีก)
โดยการเปลี่ยนแปลงในขณะนี้เฉพาะไฟร์ฟอกซ์บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์เท่านั้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมีดังนี้:
ไมโครซอฟท์จะออกอัปเดตของ IE8 จากเดิมที่เราติดตั้ง IE8 แล้วมันจะกลายเป็น default browser ของวินโดวส์โดยอัตโนมัติ แต่ตอนนี้มันจะถามก่อนหนึ่งครั้ง
ขั้นตอนการทำงานคือ เมื่อเรียกตัวติดตั้ง IE8 จะพบหน้าจอถามว่าต้องการลงอัปเดตหรือไม่ ถ้าผู้ใช้เลือกอัปเดต (ซึ่งไมโครซอฟท์บอกว่าผู้ใช้ 90% เลือกให้อัปเดต) ตัวติดตั้ง IE8 จะดาวน์โหลดอัปเดตที่ว่ามาจากอินเทอร์เน็ต ก่อนเริ่มขั้นตอนติดตั้ง IE8 ตามปกติต่อไป
Microsoft ได้ออก IE8 มาให้ผู้ใช้งานสามารถปรับรุ่นกันได้เป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว ตอนนี้มีหลายเว็บไซต์เริ่มประกาศว่าตนจะเลิกสนับสนุนการใช้งานเว็บไซต์บน IE6 กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากข่าวเก่า Digg จะเลิกสนับสนุน IE6? และตามมาด้วย YouTube ออกข้อความเตือนผู้ใช้ IE6 ให้อัพเกรด ข่าวล่าสุดกับ Mashable: ต้องเลิกใช้ IE6 เพื่อให้เว็บก้าวหน้าต่อไป
เป็นบทความจาก Mashable พูดถึงกรณี Digg จะเลิกสนับสนุน IE6? และ YouTube ออกข้อความเตือนผู้ใช้ IE6 ให้อัพเกรด โดยขยายต่อว่า Facebook จะขึ้นข้อความเตือนถ้าเข้าใช้งานด้วย IE6 และบริษัท 37signals ผู้สร้าง Basecamp ก็ประกาศหยุดสนับสนุน IE6 บนทุกบริการของ 37signals ในเดือนตุลาคมนี้
หลายๆ เว็บไซต์นั้นเริ่มที่จะเลิกการสนับสนุนเบราว์เซอร์เก่าแบบ IE6 แล้ว (เช่น Digg ในข่าวเก่า) มาวันนี้ YouTube เว็บไซต์ดูวิดีโอยอดนิยมก็ได้เริ่มออกข้อความเตือนให้ผู้ใช้ IE6 นั้นอัพเกรดไปใช้เบราว์เซอร์รุ่นใหม่กว่าเดิมแล้วครับ
โดยเมื่อผู้ใช้เปิดเว็บไซต์ YouTube ด้วย IE6 นั้นจะมีข้อความอยู่ในกรอบเล็กๆ ด้านบนหน้าจอเตือนว่า YouTube นั้นกำลังจะเลิกสนับสนุนเบราว์เซอร์เก่าๆ และให้ผู้ใช้นั้นดาวน์โหลดเบราว์เซอร์ตัวใหม่มาใช้แทน และยังมีลิงค์ไปยังเว็บไซต์ดาวน์โหลดของ Firefox 3.5, IE8 และ Chrome อีกด้วย (ลองดูภาพหน้าจอประกอบ)
Digg เปิดสถิติการใช้งาน IE6 ลงใน Digg the Blog พบว่าผู้ใช้ IE6 เข้า Digg มีน้อยลงทุกเดือน
Digg จึงเริ่มซาวเสียงว่าจะเลิกสนับสนุน IE6 สำหรับกิจกรรมที่ทำบน Digg เช่น ส่งเรื่องและโหวต เพื่อให้วิศวกรของ Digg ดูแลเว็บได้ง่ายขึ้น ส่วนการเข้าชมเว็บเฉยๆ อ่านอย่างเดียวยังทำได้เหมือนเดิม
หลังจากออกมาได้ซักพักแล้ว สำหรับ Chrome บน Linux และ Mac แต่ว่ายังมีปัญหาอยู่ที่ไม่สามารถแสดงผลภาษาไทยได้ ซึ่งตอนนี้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว [รุ่นที่ทดสอบ 3.0.193.0 (20219) ] สามารถโหลดมาลองได้จาก ที่นี่สำหรับ Linux และ ที่นี่สำหรับ Mac(ผมไม่ได้ทดสอบ) สำหรับรุ่น Beta ที่เป็น Google Chrome คงจะออกตามมาเร็วๆ นี้
หลังจากที่กูเกิลออกมาประกาศระบบปฏิบัติการของกูเกิลในชื่อ Chrome OS (ดูข่าวเก่า โดยคุณ bankkung) ก็ดูเหมือนไมโครซอฟท์เตรียมที่จะออกมาโต้ตอบให้ทันควันในสัปดาห์หน้า
InfoWorld ได้รายงานกูเกิลกำลังพัฒนา O3D API เพื่อเพิ่มความสามารถในการแสดงผลแบบ 3 มิติผ่านเบราว์เซอร์ที่ทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันได้ โดย O3D ได้รับการพูดถึงในงานสัมมนา Google I/O ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยรุ่นล่าสุดของ O3D API ได้รับอัพเดตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 มิ.ย.) สำหรับฟีเจอร์ใน O3D API โดยสรุปมีดังนี้: