เรารู้กันตั้งแต่งาน Google I/O เดือนพฤษภาคม ว่ากูเกิลจะเปิด Chrome Web Store สำหรับขายเว็บแอพพลิเคชันและส่วนเสริมของ Chrome วันนี้มันมาแล้วครับ
เพื่อให้เห็นภาพ ผมแนะนำให้กดเข้าไปเล่นกันก่อนที่ Chrome Web Store
Chrome Web Store มี "สินค้า" ทั้งหมด 3 อย่าง
แม้ว่า Chrome จะเป็นผู้นำในตลาดจาวาสคริปต์ด้วยเอนจิน V8 มาตั้งแต่เปิดตัว แต่เมื่อคู่แข่งเริ่มไล่กวดมาใกล้ทันในช่วงหลัง ทางกูเกิลก็ต้องหนีโดยออก "Crankshaft" ซึ่งกูเกิลบอกว่ามันคือ compilation infrastructure สำหรับ V8 ที่ประมวลผลจาวาสคริปต์เร็วกว่าเดิมหนึ่งเท่าตัว (วัดจากเบนช์มาร์คของ V8 เอง)
Crankshaft เป็นชื่อเรียกขององค์ประกอบย่อย 4 อย่างสำหรับการประมวลผลจาวาสคริปต์ ได้แก่ base compiler, runtime profiler, optimizing compiler, deoptimization support รายละเอียดอ่านได้จากที่มา
แอพพลิเคชันที่ได้ประโยชน์จาก Crankshaft คือแอพพลิเคชันที่มีการประมวลผลจาวาสคริปต์หนักๆ ส่วนเร็วขึ้นแค่ไหนก็ดูกันเองตามกราฟ
กูเกิลได้ส่งบัตรเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมอีเวนต์ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ที่เมืองซานฟรานซิสโก
ประมาณเดือนกว่าหลัง Chrome 7 กูเกิลก็ออก Chrome 8 มาแบบเงียบๆ
ฟีเจอร์ใหญ่มีอย่างเดียวคือ ตัวอ่าน PDF ที่รวมมาในเบราว์เซอร์ ซึ่งคนที่ใช้ Beta Channel ก็คงใช้กันหมดแล้ว ตัวอ่าน PDF นี้ทำงานแบบ sandbox ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรง กรณีมีช่องโหว่ของไฟล์ PDF
อย่างอื่นคือเพิ่มเฟรมเวิร์คสำหรับ Chrome Web Store ที่จะตามมาทีหลัง และแก้บั๊กด้านความปลอดภัยอีก 800 ตัว เลขเวอร์ชันของรุ่นจริงคือ 8.0.552.215 ครับ
กูเกิลประกาศแผนนี้ไว้ตั้งแต่ต้นปี เมื่อบอกว่าจะรวม Flash Player มากับ Chrome ตอนนี้มันเริ่มแล้ว
Chrome รุ่น Dev Channel บนวินโดวส์จะรัน Flash Player ในโหมด sandbox เพื่อจำกัดความเสียหาย ในกรณีที่มีช่องโหว่ใน Flash และมีโค้ดประสงค์ร้ายเจาะเข้ามา อ่านหลักการทำงานได้จาก Chromium Blog
วินโดวส์ในที่นี้หมายถึง XP, Vista และ 7 ซึ่งกูเกิลระบุว่าผู้ใช้ XP จะได้ประโยชน์สูงสุด เพราะ Chrome จะเป็นเบราว์เซอร์ตัวเดียวบน XP ที่รัน Flash แบบ sandbox
สองข่าวที่มีความเกี่ยวเนื่องกันครับ
ข่าวแรก กูเกิลออกหนังสือไกด์บุ๊คแนะนำแนวคิดของอินเทอร์เน็ต เว็บ และเบราว์เซอร์ ใช้ชื่อว่า “20 Things I Learned about Browsers and the Web” หนังสือเล่มนี้ทำเลียนแบบหนังสือภาพ โดยจับกลุ่มผู้ใช้ที่ยังไม่มีความรู้ทางเทคนิคมากนัก ซึ่งจุดหมายที่แท้จริงของหนังสือเล่มนี้คืออธิบายแนวคิดและฟีเจอร์ของ Chrome นั่นเอง
เทคนิคการสร้างยังเป็น HTML5 ทั้งหมด เช่นเดียวกับเดโม HTML5Rocks และ The Wilderness Downtown ที่กูเกิลเคยออกมาก่อนหน้านี้
บริษัทผู้พัฒนาโซลูชั่นด้านความปลอดภัย Bit9 ได้เผย "Dirty Dozen" หรือรายชื่อแอพพลิเคชันที่มีช่องโหว่ที่มีความร้ายแรงสูง (high severity) มากที่สุด โดยอาศัยข้อมูลจากฐานข้อมูล National Vulnerability Database ของสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Institute of Standards and Technology) ระหว่าง 1 ม.ค.-21 ต.ค. โดยระบุว่า Google Chrome ที่มีช่องโหว่มากถึง 76 รายการ มาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วย Apple Safari และ Microsoft Office มาเป็นสองและสามตามลำดับ ส่วน Microsoft Internet Explorer นั้นอยู่ที่อันดับ 8 (อย่างไม่น่าเชื่อ!) โดยพบช่องโหว่ลักษณะข้างต้นเพียง 32 รายการเท่านั้น
สำหรับรายชื่อทั้งหมดใน Dirty Dozen มีดังนี้
กูเกิลออก Chrome Extesion สำหรับเสริมการทำงานกับบริการของตัวเอง 3 ตัว ได้แก่
เราเห็นข่าว Chrome เพิ่มฟีเจอร์อ่าน PDF แบบไม่ต้องลงปลั๊กอิน กันมาก่อนแล้ว ข่าวนี้สั้นๆ แค่ว่ากูเกิลรวมฟีเจอร์นี้เข้ามายัง Beta Channel แล้ว อีกไม่ช้าก็คงเข้ามาอยู่ในรุ่นจริงกันต่อไป
แถวนี้น่าจะใช้ Beta Channel กันหลายคน ใช้แล้วเป็นยังไงมาแลกเปลี่ยนกันบ้างนะครับ
ที่มา - Chrome Blog
ต้องบอกก่อนว่าข่าวนี้เป็นการคาดการณ์หลายต่อ แต่ก็มีรายงานเข้าไปยังเว็บ The Consumerist ว่าบริษัท Capital One ผู้ให้บริการสินเชื่อในสหรัฐฯ เสนอดอกเบื้ยซื้อรถยนต์แปรผันไปตามเบราเซอร์ที่ผู้ใช้เข้าใช้งาน โดยจากการทดสอบเมื่อใช้ Chrome นั้นจะได้ดอกเบื้ยต่ำที่สุดเมื่อเข้าเว็บกู้ซื้อรถ
จากการทดลองเข้าเว็บด้วยเบราเซอร์ต่างๆ กันผู้ใช้ Chrome จะได้รับดอกเบื้อซื้อรถที่อัตรา 2.3% ขณะที่เมื่อใช้ Safari จะได้รับดอกเบื้ย 2.7%, Opera ได้รับดอกเบื้อ 3.1%, และไฟร์ฟอกซ์นั้นแย่ที่สุดคือได้รับดอกเบี้ย 3.5%
ผู้ใช้อีกรายหนึ่งได้ให้ความเห็นว่าเขาได้ทดสอบด้วย Internet Explorer ได้รับดอกเบี้ย 2.7%
ตามสัญญาที่บอกว่า Chrome จะออกทุก 6 สัปดาห์ ตอนนี้ Chrome 7.0 มาแล้วครับ
ในแง่ผู้ใช้งานคงไม่มีความแตกต่างอะไรมากนัก เพราะการเปลี่ยนแปลงของ Chrome 7.0 เกิดขึ้นในฉากหลังทั้งสิ้น ของใหม่ได้แก่ รองรับ AppleScript สำหรับแมค, รองรับ File API และการอัพโหลดแบบทั้งไดเรคทอรี, ปรับวิธีการทำงานของ HTML5 parser และแก้บั๊กย่อยๆ อีกเป็นจำนวนมาก
คนที่ใช้ Chrome stable ควรจะได้เลขเวอร์ชันเป็น 7.0.517.41 ครับ
ที่มา - Chrome Blog, Chrome Releases
เว็บไซต์ Ars Technica ทดสอบเบราว์เซอร์ 5 ยี่ห้อหลักบนวินโดวส์ ทั้งเวอร์ชันที่ออกแล้ว (stable) และยังอยู่ระหว่างการพัฒนา (beta) ผลก็คือ Chrome 6/7 กวาดเรียบแทบทุกการทดสอบ
อันดับสองและสามตามมาห่างๆ คือ Opera 10.60 กับ Safari 5 ส่วน Firefox 3.6 อยู่ที่สี่ และ IE8 ถูกทิ้งไกล
สำหรับเบราว์เซอร์ที่ยังไม่ออก ก็น่าสนใจว่า IE9 พัฒนาขึ้นจาก IE8 มาก และชนะ Firefox 4 ในหลายๆ การทดสอบด้วยซ้ำ (เผลอๆ Firefox 4 จะกลายเป็นเบราว์เซอร์ที่ได้คะแนนเบนช์มาร์คน้อยที่สุด) อย่างไรก็ตาม IE9 รุ่น 64 บิตยังมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพอยู่มาก ดูกราฟผลการทดสอบแต่ละชนิดได้จากที่มาครับ
หลายคนแถวนี้อาจปันใจไปเรียบร้อยแล้ว
เว็บไซต์ Lifehacker มีบทวิเคราะห์สงครามเว็บเบราว์เซอร์ที่น่าสนใจ ว่าในกลุ่ม power user ซึ่งนิยม Firefox มาโดยตลอด กำลังเริ่มเปลี่ยนไปใช้ Chrome มากขึ้นเรื่อยๆ โดยโพลล่าสุดของ Lifehacker ซึ่งมีผู้ตอบกว่า 40,000 คน ปรากฏว่า Chrome ชนะ Firefox ด้วยซ้ำ (Chrome ได้ 42% ส่วน Firefox ได้ 33% ดูกราฟประกอบ)
Chrome Frame เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว วันนี้มันได้ฤกษ์ออกตัวจริงเรียบร้อย โดยกูเกิลโฆษณาว่ารุ่นจริงเปิดโปรแกรมได้เร็วขึ้นบน Vista/7 และจากการเปิดตัวมาหนึ่งปีทำให้เว็บไซต์หลายแห่งรวมถึงบริการของกูเกิลเอง รองรับ Chrome Frame มากขึ้น
Chrome Frame คือการเอาเอนจินแสดงผลของ Chrome ไปยัดใส่ใน IE6-8 เพื่อให้แสดงผลเว็บใหม่ๆ ที่เป็น HTML5 ได้ ลูกค้าหลักของ Chrome Frame คือกลุ่มองค์กรที่ยังต้องใช้ IE เวอร์ชันเก่าอยู่ ส่วนผู้ใช้ที่สามารถอัพเกรดเบราว์เซอร์เองได้ เหมาะกับการใช้เบราว์เซอร์รุ่นใหม่เต็มรูปแบบมากกว่า
ที่มา - Chromium Blog
ฟีเจอร์เล็กๆ แต่สำคัญมากของ Chrome ครับ กูเกิลได้แก้ปัญหาที่หลายๆ คนเจอบ่อยเวลาก็อปปี้ข้อความจากเว็บมา paste ลงในตัวแก้ไขข้อความแบบ rich text แล้วมันจะติดสไตล์มาด้วย ทำให้ต้องใช้วิธีเอาไปใส่ Notepad ก่อนแล้วค่อยเอามาลงเบราว์เซอร์อีกครั้ง
กูเกิลแก้ปัญหานี้ง่ายๆ โดยเพิ่มปุ่มลัด Ctrl+Shift+V เข้ามาสำหรับการ paste ข้อความธรรมดาแบบไม่ติดสไตล์ (สำหรับแมคก็เป็น Cmd+Shift+V) ช่วยประหยัดเวลาได้มากมายถ้ารู้ว่ามีปุ่มลัดนี้
ผมลองบน Chrome 6 Stable พบว่าใช้ปุ่มลัดนี้ได้แล้ว
ที่มา - Chrome Blog
วงการเบราว์เซอร์กำลังเริ่มย้ายสมรภูมิ จากที่ปีก่อนๆ แข่งกันเรื่องจาวาสคริปต์ ตอนนี้กำลังเปลี่ยนมาแข่งกันด้านกราฟิกโดยใช้ GPU ช่วยประมวลผลแทน
ในส่วนของ Chrome จากที่มีข่าวไม่นานนี้ว่า Chrome 7 ใช้ GPU ช่วยประมวลผลกราฟิก ทางนักพัฒนาของกูเกิลได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการแล้ว
โค้ดส่วนเร่งความเร็ว 2D ได้เข้าใน trunk แล้ว และจะเข้าสู่ Chrome Canary Build ในเร็วๆ นี้ จากการรันทดสอบกับเดโมของ IE9 กูเกิลสามารถเร่งความเร็วของ Chrome ได้ถึง 60 เท่าในบางชุดการทดสอบ (รายละเอียดตามกราฟ)
Chrome เริ่มเพิ่มฟีเจอร์ Google Instant เข้ามาในซอฟต์แวร์รุ่นทดสอบ (Dev Channel และ Canary Build) โดยเราสามารถค้นหาผ่าน Omnibox ของ Chrome แล้วจะขึ้นผลการค้นหาอัตโนมัติจากหน้าเว็บของกูเกิลมาให้เลย
ตอนนี้ฟีเจอร์ยังไม่ถูกเปิดใช้มาตั้งแต่ต้น ผู้สนใจทดลองใช้ต้องเพิ่ม -enable-match-preview เข้าไปตอนรันโปรแกรมด้วย
ที่มา - Google Operating System
Firefox เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์จัดกลุ่มแท็บ Tab Candy (หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Panorama) เข้ามาใน Firefox 4 Beta 4 ทางฝั่ง Chrome ก็มีคนทำส่วนเสริมลักษณะเดียวกันออกมาแล้วชื่อ Tab Sugar
การทำงานของ Tab Sugar นั้นเหมือนกับ Tab Candy/Panorama ทุกประการ แม้แต่ Aza Raskin ผู้พัฒนา Tab Candy ยังแสดงความประทับใจในเรื่องนี้
ที่มา - The Next Web
เมื่อสองปีที่แล้ว กูเกิลได้เปิดตัว Chrome รุ่นเบต้าแรก และได้สร้างความฮือฮาให้วงการเบราว์เซอร์อย่างมาก ความเร็วของ Chrome เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามจาวาสคริปต์ที่เบราว์เซอร์ทุกตัวต้องลงมาเล่น ทำให้เบราว์เซอร์พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในรอบสองปีให้หลังนี้
ในโอกาสครบรอบสองปี กูเกิลได้ออก Chrome 6 รุ่นจริง (ตามรอบการออกรุ่นที่เร็วขึ้น) ส่วนรายการฟีเจอร์ใหม่อ่านได้จากข่าวเก่า มีอะไรใหม่ใน Chrome 6 และ Chrome 6 เข้าสู่สถานะ Beta
ที่มา - Chrome Blog
Google มีอะไรเจ๋งๆ มาให้เล่นกันอีกแล้วครับ คราวนี้เป็นการแสดงภาพ และเสียง เสียงเพลงโดยวง Arcade Fire อินดี้ร็อคจากแคนาดา ไม่รู้เหมือนกันว่าบ้านเรามีคนรู้จักกันมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับคออินดี้น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ส่วนภาพก็ได้แสดงถึงศักยภาพของ HTML 5 โดยใช้พื้นที่ของ Chrome เ็ป็นเวทีหลัก (ผมลองใช้ Firefox แล้วไม่ได้) เข้าไปที่ thewildernessdowntown.com พร้อมกันป้อนสถานที่เกิด (ผมลอง Bangkok เว็บบอกว่าไม่มี street view ตอนแรกก็งง) จากนั้นเว็บก็จะเล่นตัวมิวสิควิดีโอ เปิด-ปิดหน้าต่างสลับไปมา พร้อมๆ กับภาพ และเสียง รวมถึงภาพใน Google Street View แล้วก็ระบบ interactive อีกนิดหน่อย แนะนำให้ไปเล่นเองครับ หลังๆ ทำได้สวยดี
หลังมีข่าวว่า Chrome 7 จะเริ่มใช้ GPU ช่วยประมวลผล แนวทางการใช้งานแรกก็เริ่มเข้ามาด้วยหน้าจอ Tab Overview ที่ช่วยให้ผู้ใช้เลือกแท็บโดยเห็นภาพย่อส่วนของที่หน้าเว็บพร้อมๆ กันแบบเดียวกับ Exposé ของ Mac OS X
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือใน Chrome 7 นั้นจะเพิ่มหน้าจอใหม่คือ about:labs มาให้ผู้ใช้เลือกเปิดฟีเจอร์ที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์ขึ้นมาใช้งานได้ โดยแนวทางนี้เป็นไปในรูปแบบเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของกูเกิลเช่น Gmail, Google Calendar เป็นต้น ดังนั้นเราคงได้เห็นฟีเจอร์แปลกๆ อีกมาที่จะถูกส่งเข้ามาอยู่ในหน้าจอนี้ เพื่อคัดเอาบางฟีเจอร์ให้เป็นฟีเจอร์หลักของ Chrome และบางฟีเจอร์ที่จะถูกคัดออกไป
ไม่ต้องรอนาน อีกเดือนกว่ามันก็ออกตัวจริง
คนที่ทดลองใช้ Chrome 7 รุ่นทดสอบค้นพบว่า กูเกิลได้เปิดฟีเจอร์ GPU acceleration สำหรับกราฟิกสองมิติ โดยใช้เทคนิคแยกเลเยอร์ของเว็บเพจ เช่น ภาพ ข้อความ วิดีโอ CSS WebGL ฯลฯ แล้วใช้ GPU ช่วยคำนวณในบางเลเยอร์ (ข้อความและรูปภาพยังอยู่ใน CPU) รายละเอียดอ่านได้ใน GPU Accelerated Compositing in Chrome
วิธีการทำงานคือ Chrome จะแยกโพรเซสของ GPU ออกมาอีกตัว เป็นคนละส่วนกับตัวเบราว์เซอร์หลักและแท็บแต่ละแท็บ
หลังจากมีข่าวว่ากูเกิลจะเปิดให้บริการ Chrome Web Store หรือ "App Store สำหรับเว็บ" ตั้งแต่งาน Google I/O ล่าสุดกูเกิลก็เปิดให้ลองเข้าใช้ได้ในโหมดนักพัฒนาได้เแล้วในช่วงสัปดาห์นี้
โดยนักพัฒนาสามารถลองอัพโหลดแอพฯ ขึ้นไปบน Web Store ได้แต่ผู้ใช้คนอื่นจะยังไม่สามารถเข้าถึงได้ คาดว่าน่าจะเข้าถึงได้พร้อมกับเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้เช้าใช้งานกัน และกูเกิลก็จะทำการรวม Extension Gallery ของ Chrome เข้ามาไว้ใน Chrome Web Store เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแจกจ่ายซื้อขายแอพฯ ส่วนขยายและธีมของ Chrome แบบเบ็ดเสร็จครบวงจรด้วย
กูเกิลปรับสถานะของ Chrome 6 จาก Dev เป็น Beta เรียบร้อย ปรับช่วงการออกให้เร็วขึ้นเป็นทุก 6 สัปดาห์
ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญได้แก่
ที่เหลืออ่านใน มีอะไรใหม่ใน Chrome 6 (และอะไรถูกโยกไปไว้ใน Chrome 7)
ที่มา - Ars Technica
หลังจากที่ไมโครซอฟท์ปล่อย Hotmail Wave 4 ให้กับผู้ใช้ทั้งหมด 350 ล้านคน ก็มีผู้ใช้จำนวนมากรายงานปัญหาเข้ามาว่า ไม่สามารถเข้าใช้งาน Hotmail ของตัวเองได้ ทั้งแบบเข้าไม่ได้เลย หรือใช้งานบางฟังก์ชันไม่ได้
เหตุผลส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ Hotmail Wave 4 รองรับ Firefox 3 และ Safari 4 ขึ้นไป ทำให้ผู้ใช้บางส่วนที่ใช้ Firefox 2/Safari 3 อาจมีปัญหาในการใช้งาน
แต่ผู้ใช้ส่วนหนึ่งได้รายงานเข้ามาว่า ไม่พบปัญหาที่เคยเจอ หากว่าเปลี่ยนมาใช้ Chrome เข้าเว็บแทน ซึ่งตัวแทนของไมโครซอฟท์ก็นำไปเป็นข้อแนะนำให้กับผู้ใช้ใน Hotmail Forums ว่า "ลองใช้ Chrome ดูก่อน อาจแก้ปัญหาของคุณได้"