กูเกิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 รายได้เพิ่มขึ้น 36% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 6.92 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งก็สูงกว่าถึง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ ด้านกำไรก็สอดคล้องกัน โดยมีกำไรสุทธิ 2.51 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมาจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 1.84 ล้านดอลลาร์
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่สูงขึ้นจนน่าตกใจในไตรมาสที่แล้วก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสนี้แต่อัตราการเพิ่มขึ้นนั้นลดลง โดยไตรมาสนี้กูเกิลมีพนักงานเพิ่มขึ้นอีก 2,452 คนโดย 450 คนมาจากการซื้อกิจการ ITA
ในช่วงการชี้แจงข้อมูลกับนักวิเคราะห์ซีอีโอ Larry Page ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญดังนี้
StatCounter รายงานส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์โลกประจำเดือนมิถุนายน 2011 พบว่า Chrome มีส่วนแบ่งตลาด 20.65% แล้ว
ตามรายงานของ StatCounter ระบุว่า Chrome เป็นเบราว์เซอร์รายเดียวที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น โดยผู้นำคือ IE และ Firefox ลดลงทั้งคู่ (อยู่ที่ 43.58% และ 28.34% ตามลำดับ) ส่วน Safari และ Opera ค่อนข้างคงตัวที่ 5.07% และ 1.74% ตามลำดับ
ที่มา - StatCounter, GigaOm
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงฝันอยากได้ Skype แบบที่คุยได้ผ่านหน้าเว็บ ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมให้เสียเวลา แต่ข้อจำกัดของเทคโนโลยีเว็บทำให้ความฝันนี้ยังไม่เกิด (ส่วน Gmail Video Chat นั้นคุยผ่านหน้าเว็บได้ แต่ต้องลงปลั๊กอินอยู่ดี)
แต่ความฝันนี้อาจเป็นไปได้ ถ้าหากการผลักดันเทคโนโลยี WebRTC ในเว็บเบราว์เซอร์ได้รับแรงสนับสนุนมากพอ
หลังจากที่ Google Chrome ปรับเลขเวอร์ชันเป็นรุ่น 11 ไปเมื่อ 27 เมษายน ที่ผ่านมา ตอนนี้ทาง Google Chrome รุ่น Stable ก็ได้อัพเดทเป็นเวอร์ชัน 12 แล้ว ซึ่งเลขรุ่นก็คือ 12.0.742.91 เป็นตัวเดียวกับรุ่น beta ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 6 นี้เอง
รายการที่เพิ่มเติมปรับปรุงในรุ่นนี้
Chrome ขึ้นชื่อในเรื่องประสิทธิภาพในเรื่องของ JavaScript ตามเว็บไซต์ทั่วๆ ไป แต่การประมวลผลงานที่ต้องใช้ JavaScript หนักๆ นั้น Chrome กลับมีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างต่ำ
Fabrice Bellard ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Linux บน JavaScript ได้ระบุว่า V8 นั้นทำงานช้ากว่า JaegerMonkey ถึง 2 เท่า และ Erik Möller ซึ่งเป็นนักพัฒนาของ Opera ได้ทดสอบใช้ JavaScripts มาแตกไฟล์ zip พบว่า Chrome ทำงานช้ากว่า Opera ร่วม 60 เท่าตัวทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ทางทีมพัฒนา V8 ได้ทราบปัญหานี้มานานพอสมควรแล้ว และกำลังปรับปรุงประสิทธิภาพในการประมวลผล JavaScript อยู่เช่นกัน
จากที่กูเกิลเริ่มโฆษณา Chrome ทางทีวี และออกคลิปไปสองตัวแล้ว ตอนนี้กูเกิลได้นักร้องหญิงที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค Lady Gaga มาเล่นโฆษณาในคลิปที่สามด้วย
โฆษณาชิ้นนี้นำเสนอการสื่อสารระหว่าง Lady Gaga กับแฟนๆ ทั่วโลก (ซึ่งเธอเรียกว่า little monsters) ที่ส่งคลิปร้อง-เต้นเข้ามาใน YouTube โดย Gaga ใช้ Chrome + YouTube extension เข้าช่วยติดตามคลิปของแฟนๆ
ที่มา - Engadget
WebP เป็นฟอร์แมตรูปภาพแบบใหม่ที่กูเกิลนำเสนอ มันเป็นฟอร์แมตแบบ lossy ที่มาแข่งกับ JPG โดยใช้เทคนิคการบีบอัดข้อมูลจาก WebM (ข่าวเก่า)
แน่นอนว่ากูเกิลพยายามดัน WebP สุดตัว ล่าสุดกูเกิลประกาศว่าผลิตภัณฑ์ของตัวเองหลายอย่างเริ่มรองรับ WebP แล้ว ได้แก่ Chrome, Gmail, Picasa และกำลังจะตามมาด้วย App Engine กับ Google Instant Previews (พรีวิวหน้าเว็บในผลการค้นหา เก็บภาพหน้าจอเป็น WebP)
ส่วนซอฟต์แวร์ที่ไม่ใช่ของกูเกิลก็เริ่มรองรับ WebP มากขึ้น ฝั่งเบราว์เซอร์มี Opera ประกาศตัวแล้ว ฝั่งซอฟต์แวร์เกี่ยวกับรูปภาพมี ImageMagick, Pixelmator และมีคนออกปลั๊กอินสำหรับ Photoshop ด้วยเช่นกัน
เมื่อเดือน ก.พ. เคยมีข่าว Chrome กำลังออกแบบ UI ใหม่ อาจจะไม่มี URL Bar อีกต่อไป? วันนี้มันมาแล้วครับ
ใน Chrome 13 รุ่นทดสอบ (Nightly/Canary และต้องเปิดใช้เองผ่าน flag) เราสามารถสั่งให้ Chrome ทำงานในโหมด Compact ซึ่งจะแสดงแต่แท็บ ไม่แสดงทูลบาร์ โดยปุ่ม Back และปุ่ม Tools จะถูกย้ายไปอยู่ด้านซ้ายและขวามือของแท็บ (แถวบนสุด)
ส่วน URL Bar จะหายไปเลยในการทำงานปกติ ถ้าต้องการเปิด URL Bar ต้องดับเบิลคลิกที่แท็บเพื่อเปิดกล่อง URL Bar ขึ้นมาชั่วคราว
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้พื้นที่แสดงผลแนวตั้งเพิ่มขึ้น แต่ก็อาจมีปัญหาด้านความปลอดภัยเพราะผู้ท่องเว็บจะไม่เห็น URL และอาจโดนหลอกเมื่อเจอเว็บปลอม
เก็บตกงาน Google I/O วันที่สอง ช่วงตอบคำถามจากสื่อมวลชน ทีมผู้บริหารของกูเกิลก็ให้ข้อมูลของ Chrome และ Chrome OS เพิ่มเติม ดังนี้
นอกจาก Chromebook และ Chrome OS กูเกิลก็ยังแถลงข่าวถึงส่วนประกอบที่เหลือในโลกของ Chrome อันได้แก่ตัวเบราว์เซอร์ Chrome เอง และ Chrome Web Store
Chrome
ส่วนตัวเบราว์เซอร์ Chrome ไม่มีอะไรใหม่มากนัก (เพราะเราเห็นการข่าวพัฒนาในรุ่น Dev/Canary กันมาตลอด) ที่กูเกิลสาธิตในงานคือประสิทธิภาพของ JavaScript และ WebGL ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยกูเกิลโชว์การรันเดโม FishTank ระดับปลา 10,000 ตัวที่ไม่กระตุกให้ดู
นอกจากนี้กูเกิลก็เผยสถิติว่า Chrome มีคนใช้ 160 ล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวจาก 70 ล้านคนที่งาน Google I/O ปีที่แล้ว
ข่าวสั้นๆ ครับ ทาง Rovio Mobile ได้ประกาศผ่านทางเฟซบุ๊คว่าได้ออก Angry Birds รุ่น beta บน Chrome Web Store แล้ว และยังเป็นครั้งแรกที่ออกรุ่นสำหรับเล่นบนเว็บเบราว์เซอร์ด้วย
ใครที่ยังไม่เบื่อเกมนี้ก็สามารถเข้าไปติดตั้งและเล่นได้เลยผ่านทาง Chrome Web Store ครับ
บริษัทวิจัยด้านความปลอดภัย VUPEN อ้างว่าประสบความสำเร็จในการทะลวง sandbox ของ Chrome เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ต้องอาศัยบั๊กของตัววินโดวส์เองแต่อย่างใด
ทาง VUPEN ยืนยันช่องโหว่นี้ด้วยการแสดงวิดีโอสาธิตการเจาะเบราเซอร์แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมโดยระบุว่างานวิจัยนี้เป็นการว่าจ้างจากรัฐบาล (วิดีโออยู่ท้ายข่าว)
ที่มา - VUPEN
กูเกิลยังพยายามดัน Chrome เต็มที่ โดยออกโฆษณาฉายทางโทรทัศน์เพิ่มเติม เพื่อดึงผู้ใช้กลุ่มใหม่ๆ ที่อาจจะยังไม่รู้ว่าดาวน์โหลดเว็บเบราว์เซอร์ตัวอื่นมาติดตั้งในเครื่องได้
โฆษณาชุดใหม่ของกูเกิลนี้ชื่อว่า The web is what you make of it แสดงการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่เป็นประโยชน์ในด้านต่างๆ ทั้งหมดแสดงผ่านการใช้งาน Chrome โดยไม่มีนักแสดงชัดเจน (รูปแบบของโฆษณาชิ้นนี้จะเหมือนกับ Parisian Lover ที่กูเกิลออกอากาศช่วง Super Bowl ปีที่แล้ว)
เมื่อกลางปีที่แล้ว กูเกิลได้เปิดตัว Chrome Canary Build ซึ่งเป็น Chrome รุ่นที่เสถียรน้อยที่สุด (แต่ก็ใหม่ที่สุด) สำหรับผู้ที่รับได้กับความเสี่ยง และต้องการทดสอบฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด อย่างไรก็ตาม Canary Build มีเฉพาะบนวินโดวส์แพลตฟอร์มเดียว ข่าวของแมคและลินุกซ์ก็เงียบหายไปเกือบปี
วันนี้กูเกิลประกาศว่า Chrome Canary Build มีให้ทดสอบบนแมคแล้ว (ดาวน์โหลด) โดยจะแยกเป็นอีกโปรแกรมหนึ่ง ไม่ปนกับ Chrome รุ่นปกติ เพราะมีโอกาสจะพังบ่อยมากนั่นเอง กูเกิลยังเผยสถิติว่า ถึงแม้ Chrome Canary Build จะไม่เสถียร แต่ก็มีผู้ใช้นับเป็น "หลักแสน" เฉพาะรุ่นของวินโดวส์
พบกันทุก 6 สัปดาห์ คราวนี้ Chrome เดินทางมาถึงเวอร์ชัน 11 แล้ว
ของใหม่ที่สำคัญนอกจากไอคอนใหม่ของ Chrome ก็คือฟีเจอร์ speech input ผ่าน HTML (คือพูดผ่านหน้าเว็บได้เลย) ซึ่งกูเกิลได้นำมาใช้ประโยชน์ผ่าน Google Translate ครับ ถ้าเข้า Google Translate ด้วย Chrome 11 จะเห็นไอคอนไมโครโฟน (แบบเดียวกับบน Android) และกดเพื่อพูดผ่านไมโครโฟนได้เลย ตอนนี้ยังรับเฉพาะเสียงพูดภาษาอังกฤษแปลเป็นข้อความในภาษาอื่น
ที่เหลือเป็นการแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยอีกจำนวนหนึ่ง อ่านรายละเอียดใน Chrome Stable Update
ในโอกาสเดียวกัน กูเกิลก็เพิ่มเลขเวอร์ชันของ Chrome Canary Build มาเป็น 13 แล้ว
คนที่ใช้ Firefox/Chrome/Safari อาจเคยเข้าเว็บไซต์บางแห่ง และพบคำเตือนจากเบราว์เซอร์ว่า "เว็บนี้เป็นอันตราย" ขึ้นเป็นจอสีแดงๆ กระบวนการตรวจสอบเว็บไซต์เหล่านี้ทำผ่าน Google Safe Browsing API ซึ่งเปิดให้นักพัฒนาภายนอกเรียกใช้ได้ด้วย
ล่าสุดกูเกิลกำลังขยาย Safe Browsing API ให้ครอบคลุมไปถึง "ไฟล์" ที่ดาวน์โหลดผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย โดยเบื้องต้นจะเริ่มจากไฟล์ .exe ของวินโดวส์ และแน่นอนว่าเบราว์เซอร์ตัวแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้ย่อมหนีไม่พ้น Chrome ซึ่งตอนนี้เข้ามาใน Dev Channel แล้ว
ฟีเจอร์นี้มีครั้งแรกใน IE9 เพียงแต่ไมโครซอฟท์ใช้ระบบตรวจจับของตัวเอง
เทคโนโลยีการพิมพ์ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องใช้ไดร์เวอร์นั้นในตอนนี้มีสองค่ายคือ HP ePrint และ Google Cloud Print โดยทางเอชพีนั้นวางแผนจะให้เครื่องพิมพ์ของเอชพีซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดรองรับแทบทุกตัว ขณะที่ Cloud Print นั้นเปิดให้เครื่องพิมพ์ทุกแบรนด์เข้ามาตรฐานนี้ได้ รวมถึงการใช้พรินต์เตอร์ที่ไม่รองรับทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ได้ด้วย และวันนี้ทั้งสองค่ายก็ประกาศความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ โดยผู้ใช้สามารถใส่อีเมลเฉพาะของเครื่องพิมพ์ในระบบ ePrint ใน Google Account เพื่อให้เครื่องพิมพ์ทำงานผ่าน Google Cloud Print ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ทั้งกูเกิลและเอชพีเคยสาธิตการทำงานร่วมกันของทั้งสองระบบมาแล้ว แต่เป็นความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการ และแน่ใจว่าจะทำงานร่วมกันได้ทุกรุ่นหรือไม่
แม้ Chrome จะมีจุดขายเรื่องความเร็ว และเร็วขึ้นเรื่อยๆ มาโดยตลอด แต่ในมุมกลับกัน ขนาดโปรแกรมของ Chrome 10.0 ก็เพิ่มขึ้นมา 3 เท่านับจาก Chrome 1.0
ตอนนี้ Chrome 10 บนวินโดวส์มีขนาด 26.2MB เทียบกับ Firefox 4 ที่ขนาด 12MB
กูเกิลเองก็รับรู้ปัญหานี้ และในเมลกลุ่มของ Chromium ก็เริ่มคุยถึงปัญหานี้กันแล้ว ทีมพัฒนาของกูเกิลให้เหตุผลว่าขนาดไฟล์ที่ใหญ่ทำให้การดาวน์โหลดทำได้ยากขึ้น อาจขาดกลางทาง และกูเกิลได้แจก Chrome ผ่านวิธีอื่นๆ นอกจากการดาวน์โหลดด้วย (ของบ้านเราก็มีแถมกับ AIS Air Card) ขนาดไฟล์ใหญ่ก็อาจมีปัญหากับคู่ค้าของตัวเองเช่นกัน
เว็บไซต์ CNET จับเว็บเบราว์เซอร์ออกใหม่ 3 ตัวคือ Firefox 4, Chrome 10 และ IE9 มารันทดสอบ โดยใช้การทดสอบ 6 ประเภท ได้แก่
ผลคือ Firefox 4 ชนะในการทดสอบ 4 ประเภท คือ Kraken, JSGameBench, ความเร็วในการเปิดโปรแกรม, หน่วยความจำ
Chrome 10 ชนะหนึ่งการทดสอบคือ V8 ส่วน IE9 ชนะ SunSpider รายละเอียดตามตารางครับ
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ทาง Google ก็ได้ปรับเวอร์ชันของ Google Chrome รุ่นสำหรับนักพัฒนาให้เป็นเวอร์ชัน 12 แล้ว (เวอร์ชัน 12.0.712.0) หลังจากที่ได้ออกเวอร์ชัน 10 รุ่นเสถียรไปตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในรุ่นนี้ จะเป็นส่วนที่ทำงานอยู่เบื้องหลังซะมากกว่า หน้าตาอื่นๆ ไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปเท่าไรนัก โดยเน้นเรื่องของการปรับปรุงส่วนโค้ดของโปรแกรม และแก้ไขปัญหาเรื่องการทำงานผิดพลาดและไม่เสถียร
รายละเอียดการเปลี่ยนแปลงมีคร่าวๆ ดังนี้
กูเกิลเคยออก Page Speed ส่วนเสริมสำหรับวัดความเร็วการโหลดของเว็บไซต์ รุ่นของ Firefox (ต้องลงผ่าน Firebug อีกทีหนึ่ง) วันนี้รุ่นของ Chrome มาแล้ว
Page Speed for Chrome มีความสามารถเท่ากับรุ่นของ Firefox ทุกประการ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้คือปรับวิธีการเรียงคำแนะนำให้เว็บมาสเตอร์เสียใหม่ และรองรับ localization กว่า 40 ภาษา (ซึ่งจะตามเข้าไปอยู่ในรุ่น Firefox ทีหลัง)
วันเดียวกับที่ Firefox 4 ออกรุ่นจริง กูเกิลก็ดัน Chrome 11 มาใน Beta Channel แล้ว
ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
ที่มา - Google Chrome Release, Google Chrome Blog
เราเห็นโลโก้ใหม่ของ Chromium กันไปแล้ว วันนี้กูเกิลได้ประกาศโลโก้แบบเดียวกันแต่คนละสี สำหรับตัวเบราว์เซอร์ Chrome แล้วเช่นกัน
กูเกิลให้เหตุผลของการเปลี่ยนโลโก้ว่า ต้องการให้ความรู้สึก "ง่ายและไม่รก" ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่ Chrome ยึดถือเสมอมา
โลโก้นี้จะเริ่มเข้ามาใน Chrome รุ่นเบต้าในเร็วๆ นี้
ที่มา - Google Chrome Blog
กูเกิลปล่อย Google Chrome Frame ที่เอา WebKit และ VP8 เข้าไปสวมแทนเอนจินต์เดิมของ Firefox และ IE มาตั้งแต่หนึ่งปีครึ่งก่อนหน้านี้ แต่ก็ได้รับเสียงต่อต้าน (1, 2) จนดูจะเงียบๆ ไป แต่เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีการทดลอง Google Toolbar รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Google Toolbar 8 (Labs) ที่รวมเอา Google Chrome Frame เข้าไว้ในตัว
กูเกิลระบุว่าโครงการนี้เป็นโครงการทดลองที่จบลงไปแล้ว และแนะนำให้คนที่ดาวน์โหลดไปก่อนหน้านี้ได้ถอดปลั๊กอินตัวนี้ออกไป
แต่หากแผนนี้ยังคงอยู่ก็นับว่ากูเกิลกำลังพยายามดึงให้ทุกคนมาใช้ Chrome เป็น runtime ของเว็บแอพลิเคชั่นของตัวเองอย่างดุดัน และคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กูเกิลน่าถูกวิจารณ์อย่างหนักอย่างทำเช่นนี้จริง
Gears หรือ Google Gears เป็นซอฟต์แวร์ที่กูเกิลเคยพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับเว็บ (เช่น ทำงานออฟไลน์, รองรับ geolocation) แต่ภายหลังกูเกิลก็หยุดพัฒนา Gears ไป เพราะความสามารถทั้งหมดมีใน HTML5 แล้ว
อย่างไรก็ตาม Gears ยังมีชีวิตอยู่แบบเงียบๆ มาใน Chrome เพื่อความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์เก่าบางตัว แต่ล่าสุดกูเกิลประกาศถอด Gears ออกจาก Chrome แล้ว โดย Chrome 12 จะเป็นรุ่นแรกที่ไม่มีความสามารถของ Gears อยู่เลย
โค้ดของ Gears เปิดเป็นโอเพนซอร์ส ใครจะนำไปใช้ต่อก็ได้ แต่การพัฒนาต่างๆ จะหยุดหมด และหันไปสู่ HTML5 แทน