Intel Core
สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อฮาร์ดแวร์หลายรายออกรีวิว Intel Core 13th Gen "Raptor Lake" ซึ่งรอบนี้ออกมาชนกับ AMD Ryzen 7000 พอดี ทำให้เราได้เห็นการเปรียบเทียบกันตรงๆ ของซีพียูเดสก์ท็อปจากทั้งสองค่าย
รีวิวที่ออกมา ส่วนใหญ่เป็นของ Core i9-13900K รุ่นบนสุด และ Intel Core i5-13600K ซีพียูระดับกลาง แล้วนำไปรันเบนช์มาร์คเทียบกับ Ryzen 9 7950X และ Ryzen 5 7600K ที่ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกัน
อินเทลเปิดตัวซีพียู Intel Core รุ่นที่ 13 สำหรับกลุ่มเดสก์ทอป ชื่อรหัส Raptor Lake สามารถใช้งานกับชิปเซ็ต Intel 600 เดิมหรือใช้ชิปเซ็ตใหม่ Intel 700 ก็ได้ โดยรวมแล้วนับว่าคล้ายกับ Intel Core รุ่นที่ 12 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ยังไม่หักดิบบังคับใช้แรม DDR5 แต่อย่างใด และเทคโนโลยีการผลิตยังเป็น Intel 7 เหมือนเดิม
ซีพียูยังคงแบ่งเป็น 6 รุ่น มีรุ่นมาพร้อมส่วนกราฟิกเป็นตระกูล K ใช้ Intel UHD 770 เช่นเดิม ส่วนตระกูล KF ไม่มีส่วนกราฟิกในตัว
อินเทลจัดงาน Technology Tour 2022 ที่อิสราเอล และเผยข้อมูลของซีพียูรุ่นใหม่ Core 13th Gen Raptor Lake ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้
ข้อมูลสเปกเบื้องต้นของ Raptor Lake ชุดแรก 3 รุ่นย่อย ไม่ต่างจากข่าวหลุดก่อนหน้านี้
เริ่มมีข่าวลือของ Raptor Lake ซีพียูรุ่นใหม่ของอินเทล (นับเป็น 13th Gen) ตามกำหนดวางขายช่วงปลายปีนี้
ECSM_Official นักปล่อยข่าวหลุดฮาร์ดแวร์จากฝั่งจีน ออกมาให้ข้อมูลว่าอินเทลจะเปิดตัว Raptor Lake ชุดแรกเป็นซีพียูเดสก์ท็อปตัวแรงรหัส K อย่างเป็นทางการในงาน Intel Innovation 2022 วันที่ 28 กันยายน 2022 และสินค้าจะวางขายจริง 17 ตุลาคม หลังจากนั้นจะเปิดตัวซีพียูชุดที่สองในงาน CES 2023 หลังปีใหม่
ซีพียู Raptor Lake ชุดแรกมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อยคือ
ตามแผนการของอินเทล เราจะได้เห็น Core 13th Gen "Raptor Lake" เปิดตัวช่วงปลายปีนี้ โดยยังใช้สถาปัตยกรรมลักษณะเดียวกับ Core 12th Gen "Alder Lake" และกระบวนการผลิต Intel 7 (10nm) เหมือนกัน แต่มีประสิทธิภาพดีขึ้นจากการปรับสถาปัตยกรรมเล็กน้อย และการใช้กระบวนการผลิตรุ่นที่สองที่ปรับปรุงขึ้นจากเดิม จากนั้นถึงค่อยเปลี่ยนใหญ่ตอน 14th Gen "Meteor Lake" ในปี 2023
ล่าสุดมีเบนช์มาร์คของ Core i9-13900 โผล่ขึ้นมาในฐานข้อมูลของ SiSoftware เจ้าของโปรแกรมเบนช์มาร์คชื่อดัง Sandra ทำให้เราพอเห็นภาพว่าประสิทธิภาพของ Raptor Lake ดีขึ้นจริง เมื่อเทียบกับ Core i9-12900 ในปัจจุบัน ในบางการทดสอบดีกว่ากันถึง 50% เลยทีเดียว
อินเทลออกซีพียู Core i9-12900KS รุ่นย่อยตัวใหม่ของ 12th Gen Alder Lake บนเดสก์ท็อป ซึ่งอินเทลโฆษณาว่าเป็นซีพียูเดสก์ท็อปที่เร็วที่สุดในโลก (the world’s fastest desktop processor)
12900KS เป็นรุ่นอัพเกรดขึ้นมาอีกนิดของ 12900K (ไม่มี S) ซีพียูตัวแรงที่สุดของเดิม โดยยังคงสเปก 16 คอร์ (สูตร P 8 + E8) 24 เธร็ดเหมือนเดิม ที่เพิ่มเข้ามาคือปรับคล็อคสูงสุด (max turbo frequency) จาก 5.2GHz เป็น 5.5GHz โดยต้องแลกกับอัตราการใช้พลังงาน (base power) 125W เพิ่มเป็น 150W
ราคาขายปลีกที่แนะนำคือ 739 ดอลลาร์ (ประมาณ 25,000 บาท) เริ่มวางขาย 5 เมษายน 2022
ที่ผ่านมา อินเทลเปิดตัวซีพียู Core 12th Gen "Alder Lake" ไปแล้วทั้งหมด 3 ชุด ได้แก่ เดสก์ท็อประดับบน, เดสก์ท็อประดับล่าง, โน้ตบุ๊ก โดยกรณีของโน้ตบุ๊กแยกเป็นซีรีส์ H พลังสูง, P ระดับกลาง และ U ประหยัดไฟ
โน้ตบุ๊กที่ใช้ซีพียู Alder Lake ซีรีส์ H (95-115 วัตต์) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกมมิ่ง-เวิร์คสเตชัน เริ่มวางขายไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้อินเทลประกาศเริ่มขายซีรีส์ P (28 วัตต์) และ U (9-15 วัตต์) อย่างเป็นทางการ ทำให้ Alder Lake เปิดตัวสินค้าครบทุกไลน์แล้ว
ในงาน CES 2022 นอกจาก Alder Lake สำหรับโน้ตบุ๊ก อินเทลยังเปิดตัวซีพียู Alder Lake สำหรับเดสก์ท็อปเพิ่มเติม จากรอบแรกที่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2021
Alder Lake สำหรับเดสก์ท็อปรอบแรกเปิดตัวมา 6 รุ่นย่อย (i5, i7, i9) เป็นซีรีส์ K/KF ที่ไม่ล็อคสัญญาณนาฬิกา เน้นตลาดลูกค้ากลุ่ม enthusiast นำไปประกอบเครื่องและโอเวอร์คล็อคเป็นหลัก
การเปิดตัวชุดที่สองนี้เป็นชุดใหญ่ 22 รุ่นย่อย เน้นลูกค้า mainstream ใช้งานทั่วไป มีตั้งแต่ระดับบน i9 ไล่ไปจนถึง Pentium/Celeron ซึ่งอินเทลบอกว่าเป็นการเปิดตัว Core 12th Gen เดสก์ท็อปครบทั้งไลน์แล้ว
อินเทลเปิดตัวซีพียู 12th Gen Intel Core "Alder Lake" สำหรับโน้ตบุ๊ก ต่อเนื่องจาก Alder Lake สำหรับเดสก์ท็อป ที่ออกไปเมื่อเดือนตุลาคม 2021
Alder Lake สำหรับโน้ตบุ๊กยังใช้สถาปัตยกรรมเดียวกับเดสก์ท็อป มีคอร์ใหญ่ (P-core) และคอร์เล็ก (E-core) แบ่งโหลดงานด้วย Thread Director, ผลิตที่กระบวนการระดับ Intel 7 (10nm แบบอัพเกรด) ฟีเจอร์อื่นเหมือนกันคือ รองรับแรม DDR5/LPDDR5, PCIe 4.0, Wi-Fi 6E และ Thunderbolt 4
ซีพียูทุกรุ่นที่เปิดตัวรอบนี้มีจีพียู Intel UHD เวอร์ชันใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Xe มีจำนวนคอร์ตั้งแต่ 48-96 คอร์ (EU)
เว็บไซต์ AnandTech มีบทความอธิบายสถาปัตยกรรมของ Core 12th Gen Alder Lake ที่ค่อนข้างละเอียด ของใหม่ที่สำคัญใน Alder Lake คือการมีคอร์สองขนาดคือ คอร์ใหญ่ Performance Core (P-Core) และคอร์เล็ก Efficiency Core (E-Core)
การมีคอร์ 2 ระดับ (แถม P-Core มี hyperthreading) ทำให้การเลือกว่าจะจ่ายงานให้คอร์ไหนมีความซับซ้อนขึ้นมาก เพราะในอดีต ซีพียู x86 มีคอร์แบบเดียวเท่ากันหมด การจ่ายงานเป็นหน้าที่ของ OS ที่เลือกจัดคิว (scheduler) ตามความเหมาะสม แต่ OS เองก็ไม่มีข้อมูลว่าคอร์ไหนมีสถานะอย่างไร ทำงานอะไรอยู่บ้าง
อินเทลเปิดตัว 11th Gen Core สำหรับเดสก์ท็อป (โค้ดเนม Rocket Lake-S) อย่างเป็นทางการ หลังมีซีพียูหลุดมาวางขายก่อน และ AnandTech ซื้อมารีวิวก่อนเป็นสัปดาห์
Rocket Lake-S ที่เปิดตัวชุดแรกมีทั้งหมด 11 รุ่นย่อย ตั้งแต่ Core i5 (6 คอร์ 12 เธร็ด) ไปจนถึง Core i9 (8 คอร์ 16 เธร็ด)
อินเทลมีกำหนดเปิดตัว ซีพียู Core 11th Gen ฝั่งเดสก์ท็อป "Rocket Lake" เริ่มวางขายวันที่ 30 มีนาคมนี้ แต่กลับมีสินค้าหลุดออกมาขายก่อนแล้ว และเว็บไซต์ AnandTech ได้สินค้าชุดแรกนี้มารีวิวก่อนกำหนด (ไม่ได้มาจากตัวอย่างที่อินเทลส่งให้)
ซีพียูรุ่นที่ได้มาคือ Core i7-11700K จำนวน 8 คอร์ 16 เธร็ด ถือเป็นรุ่นรองจาก Core i9-11900K ที่อินเทลนำเบนช์มาร์คมาโชว์ก่อนหน้านี้ (ซึ่งเป็น 8 คอร์ 16 เธร็ดเหมือนกัน น่าจะต่างกันแค่คล็อค) จีพียูเป็น Xe-LP และยังใช้การผลิตที่ 14 นาโนเมตร
ปีที่แล้วเราเห็น อินเทลเริ่มต้นซีพียู Gen 11 ด้วยซีพียูโน้ตบุ๊ก Tiger Lake รุ่นกินไฟต่ำรหัส U และเริ่มมีสินค้าโน้ตบุ๊กออกทำตลาดกันแล้ว
อินเทลเริ่มปี 2021 ด้วยการเปิดตัวซีพียู Gen 11 สำหรับโน้ตบุ๊กรหัส H แต่ก็ถือเป็น H รุ่นพิเศษที่อินเทลเรียกว่า "H35 Series" กินไฟ 35 วัตต์ จับตลาดเซกเมนต์โน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นบางเบา (Ultraportable Gaming) ส่วนรุ่น H เต็มรูปแบบจริงๆ จะเปิดตัวตามมาภายในไตรมาส 1/2021
สัปดาห์ที่แล้ว เว็บไซต์ฮาร์ดแวร์ต่างประเทศหลายรายเริ่มได้ Intel Core 11th Gen รหัส "Tiger Lake" ไปทดสอบกันแล้ว จุดที่น่าสนใจคือตัวจีพียู Iris Xe (อ่านว่า "เอ็กซ์อี") ที่อิงจากสถาปัตยกรรมใหม่ Xe-LP ให้ผลการทดสอบออกมาดี ชนะจีพียูแบบออนบอร์ดของคู่แข่งคือ Radeon Vega ใน Ryzen ซีรีส์ 4000U ได้แบบทิ้งห่าง
หน่วยประมวลผลรุ่นที่นำไปทดสอบคือ Core i7-1185G7 ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของ Tiger Lake ที่เปิดตัวมาในขณะนี้ ตัวจีพียู Iris Xe มีคอร์ (execution unit หรือ EU) จำนวน 96 คอร์ โดยโน้ตบุ๊กที่ทดสอบเป็นโน้ตบุ๊กตัวอย่าง (reference design) ของอินเทลเอง ยังไม่ใช่สินค้าที่วางขายจริง
อินเทลเปิดตัวซีพียู Core รุ่นที่ 11 สำหรับโน้ตบุ๊กบางเบา พร้อมส่วนกราฟิกใหม่ Iris Xe หรือชื่อรหัส Tiger Lake ผลิตด้วยกระบวนการผลิต SuperFin 10 นาโนเมตร ตัวชิปรองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt 4 และ PCIe Gen 4 ใช้แรม LPDDR4X พร้อมระบุว่าตัวควบคุมรองรับแรมแบบอื่นในอนาคตได้
อินเทลทดสอบซีพียูรุ่นใหม่เทียบกับ AMD Ryzen 7 4800U เป็นหลักเพื่อยืนยันว่าผลการทดสอบการใช้งานประสิทธิภาพดีกว่าทุกประเภท ด้านกราฟิกอินเทลระบุว่า Iris Xe สามารถคอนฟิกจำนวนคอร์ได้สูงสุด 96 EU ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการเล่นเกมยุคใหม่ เช่น Borderlands 3, Far Cry New Dawn, และ Hitman 2 ที่ระดับ 1080p รองรับข้อมูลแบบ INT8 ในตัวสำหรับการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์
หลังจากเปิดตัว Core 10th Gen สำหรับเดสก์ท็อปได้ประมาณ 2 สัปดาห์ อินเทลก็เติมสินค้าให้ครบไลน์ด้วยการเปิดตัวซีพียู Core 10th Gen กลุ่ม vPro สำหรับโน้ตบุ๊ก-เดสก์ท็อปฝั่งธุรกิจตามมา
Core 10th Gen vPro ที่เปิดตัวชุดนี้ มีทั้งซีพียูกลุ่มโน้ตบุ๊ก (รหัส H และ U) และซีพียูกลุ่มเดสก์ท็อป (Comet Lake-S) ซึ่งรวมถึงซีพียูกลุ่ม Xeon Workstation (รหัส W) ด้วย
หลัง Intel เปิดตัวซีพียูเดสก์ท็อป 10th Gen ไป ทำให้ปัจจุบันซีพียูในท้องตลาดมีมากมายหลายรุ่นไปหมด ตัวเลขก็เยอะขึ้นจนอาจทำให้ผู้บริโภคปวดหัวกันได้ วันนี้ผู้เขียนจึงอยากนำเสนอการเปรียบเทียบสเปกเบื้องต้นซีพียูของทั้งสองค่าย ในระดับต่างๆ ที่ใกล้เคียงกัน เพื่อช่วยผู้บริโภคอีกแรงในการเลือกซื้อซีพียูที่มีขายในท้องตลาดปัจจุบัน
Intel เปิดตัวซีพียู Core รุ่นใหม่ที่ก็ยังคงนับเป็นรุ่นที่ 10 ในตระกูล Comet Lake-S (14 นาโนเมตร) สำหรับเดสก์ท็อปหลังเปิดตัว Comet Lake-H สำหรับโน้ตบุ๊กไปก่อนหน้านี้
การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ คือการเพิ่มจำนวนคอร์และเธรด รวมถึงทุกรุ่นตั้งแต่ Core i3 จะได้เทคโนโลยี hyper-threading แล้ว ไล่ไปตั้งแต่ Core i9 ได้ 10 คอร์ 20 เธรด Core i7 ได้ 8 คอร์ 16 เธรด, Core i5 ได้ 6 คอร์ 12 เธรดและ Core i3 ได้ 4 Core 8 เธรด รหัสย่อยแบ่งเป็น F ไม่มีชิปกราฟิคและ K ที่เป็นโอเวอร์คล็อกเช่นเดิม
หลังจากปล่อยให้ AMD ทำคะแนนนำไปก่อนกับซีรีส์ Ryzen 4000 วันนี้ Intel ไม่ยอมแพ้ กลับมาท้าชนด้วยซีพียูโน้ตบุ๊ก Core 10th Gen สถาปัตยกรรม Comet Lake H (14nm) รหัส H ที่พุ่งเป้าไปที่เหล่าเกมเมอร์ และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ มีตัวท็อป Core i9-10980HK 8 คอร์ 16 เธรด ที่บูสต์ได้สูงสุดถึง 5.3GHz โดยรวมที่เปิดตัวในซีรีส์ดังนี้
กลางปีที่แล้ว อินเทลเปิดตัวซีพียูแบรนด์ Core 10th Gen สถาปัตยกรรม Ice Lake/10 นาโนเมตร โดยยังมีเฉพาะซีพียูกินไฟต่ำรหัส U (15 วัตต์) และ Y (9 วัตต์) เท่านั้น
วัฏจักรของ Ice Lake ไม่น่าอยู่กับเรานานนัก เพราะอินเทลเพิ่งเปิดตัว Tiger Lake ที่เป็นภาคต่อของซีพียู 10 นาโนเมตร แต่อัพเกรดจีพียูเป็น Xe ที่คุยว่าแรงกว่าของเดิมมาก กำหนดการออก Tiger Lake ระบุคร่าวๆ ว่า "ภายในปีนี้"
ปีที่แล้ว เราเห็นอินเทลออกซีพียู Core 10th Gen มาสองชุดคือ Ice Lake-U แบบ 10 นาโนเมตร และ Comet Lake-U แบบ 14 นาโนเมตร ทั้งสองชุดเป็นซีพียูรหัส U กินไฟต่ำ เหมาะสำหรับโน้ตบุ๊กสายบางเบา
ปีนี้ อินเทลเริ่มโชว์ข้อมูลของ Comet Lake-H ซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงขึ้น (อัตรา TDP ที่ 45 วัตต์) สำหรับโน้ตบุ๊กเวิร์คสเตชันและเกมมิ่งบ้าง รวมถึงพีซีแบบ NUC ตัวใหม่รหัส Ghost Canyon แล้ว
ตอนนี้ยังมีข้อมูลของ Comet Lake-H ไม่เยอะนัก บอกเพียงว่า Core i7 จะมีคล็อคแตะ 5GHz และ Core i9 จะไปไกลกว่า 5GHz ด้วย
การแข่งขันจาก AMD บีบให้อินเทลต้องเปิดตัวซีพียูใหม่ในราคาที่ถูกลงครึ่งหนึ่งจากรุ่นก่อน ทั้ง ซีพียูกลุ่ม Core X (Cascade Lake-X หรือ Core i9 รุ่นห้อยท้าย X) และ Xeon W-2200 ซีรีส์ใหม่ล่าสุด
แต่เท่านั้นยังไม่พอ อินเทลยังประกาศหั่นราคา Core 9th Gen รุ่นเก่าด้วยเช่นกัน โดยรุ่นที่เข้าข่ายคือ Core 9th Gen สำหรับเดสก์ท็อป รุ่นที่ไม่มีจีพียูออนบอร์ดในตัว (รหัสห้อยท้าย F) ที่เคยเปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 และตั้งราคาเท่ากับรุ่นมีจีพียู
เมื่อต้นเดือนนี้ อินเทลเปิดตัวซีพียู Core 10th Gen โค้ดเนม "Ice Lake" ที่เป็น 10 นาโนเมตร ออกมาชุดแรก 11 ตัว วันนี้อินเทลเปิดตัวซีพียูอีกชุดที่ใช้แบรนด์ Core 10th Gen เหมือนกัน แต่ใช้สถาปัตยกรรมคนละตัวกันคือ "Comet Lake" แถมยังเป็น 14 นาโนเมตร ออกมาอีก 8 ตัว (สับสนแน่ๆ)
หลังจากอินเทลเปิดตัวซีพียู Core 10th Gen ที่ผลิตแบบ 10 นาโนเมตรอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนนี้ ก็เริ่มได้เวลาที่สินค้าจริงจะวางขาย
Core 10th Gen ชุดแรกเป็นซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กสายบางเบา (รหัส U และ Y เดิม) และโน้ตบุ๊กตัวแรกที่ใช้ Core 10th Gen คือ Dell XPS 13 2-in-1 (7390) ที่เปิดตัวไปแล้ว และเริ่มวางขายจริงแล้วในสหรัฐอเมริกา
หลังจากเปิดตัว สถาปัตยกรรมซีพียู Core 10th Gen "Ice Lake" เมื่อเดือนพฤษภาคม ล่าสุดอินเทลเปิดตัวสินค้าชุดแรกออกมาแล้ว โดยเป็นซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กและอุปกรณ์พกพา ที่เรารู้จักกันในชื่อซีพียูรหัส U (โน้ตบุ๊กทั่วไป) และ Y (โน้ตบุ๊กกินไฟต่ำ) รวมทั้งหมด 11 รุ่นย่อย
วิธีการเรียกชื่อรุ่นของ Ice Lake ตรงตามข่าวก่อนหน้านี้ นั่นคือใช้เลขรหัส 4 ตัวเหมือนเดิม (ไม่ได้ขยับขึ้นเป็น 5 ตัว) โดยเลข 2 หลักแรกจะเป็น "10" แต่จะมีพิเศษจากระบบตั้งชื่อปกติของอินเทล โดยมีตัว G ห้อยท้ายเข้ามา เช่น G1, G3, G4, G7 ซึ่งตัวเลขนี้จะบ่งบอกถึงระดับประสิทธิภาพของจีพียูด้วยนั่นเอง