Eric Schmidt ซีอีโอของกูเกิลให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal และมีส่วนที่พูดถึงคู่แข่งของบริษัททั้งสามราย
Schmidt ยังบอกว่าเขาทำงานกับกูเกิลมา เหลือเวลาทำงานกับกูเกิลอีก 14 ปี ตอนนี้มีความสุขดี และจะดีกว่านี้ถ้ากูเกิลรุกเข้าไปในตลาด social network ได้มากขึ้น
ที่มา - Business Insider
Facebook มียุทธศาสตร์ที่ต้องการส่งเสริมให้คนติดตาม Page มากๆ (เพราะจะได้กินเงินค่าโฆษณาสำหรับ Page อีกต่อหนึ่ง) หนึ่งในมาตรการอันล่าสุดคือ Page Browser ซึ่งเป็นหน้ารวม Page ยอดนิยมให้เราเลือกกด Like
Page Browser จะคำนวณจากสถิติของเพื่อนๆ ของเราว่ากด Like หน้าไหนบ้าง ดังนั้นแต่ละคนคงเห็นไม่เหมือนกันเท่าไร นอกจากนี้ยังมีข้อมูลบอกด้วยว่าเพื่อนเราคนไหน Like เหมือนกับเราเยอะที่สุด
ที่มา - Facebook
GigaOm มีข้อมูลเพิ่มเติมของ Facebook Phone นอกเหนือจากที่เรารู้แล้วว่าจะร่วมมือกับ INQ
ผู้บริหารของ INQ เคยพูดไว้เมื่อปีที่แล้วว่า INQ กำลังพัฒนามือถือ Android
นอกจากข้อมูลข้างต้นแล้ว GigaOm ยังคาดการณ์ว่ามือถือ Facebook จะ
อันนี้เป็น "มุมมองอีกด้าน" ที่แย้งกับคำสัมภาษณ์ของ Mark Zuckerberg โดยสำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวลือวงในว่า Facebook กำลังร่วมมือกับ INQ ผู้ผลิตมือถือจากอังกฤษ สร้างสมาร์ทโฟน 2 รุ่น
มือถือ Facebook Phone ตามข่าวจะออกขายที่ยุโรปก่อนในครึ่งแรกของปี 2011 และจะตามไปขายที่สหรัฐในครึ่งหลังของปี คาดว่าจะขายกับเครือข่าย AT&T
INQ เป็นบริษัทลูกของ Hutchison Whampoa (บริษัทแม่ของ Hutch ที่ฮ่องกง) มีฐานสำคัญที่อังกฤษ เน้นทำมือถือสำหรับ social network โดยเฉพาะ ปัจจุบันมีมือถือวางขายแล้ว 3 รุ่น ทั้งหมดพัฒนาจากระบบปฏิบัติการ BREW อีกต่อหนึ่ง (รายละเอียดดูบนเว็บของ INQ)
หนึ่งในข่าวที่ร้อนแรงที่สุดในขณะนี้ (ของต่างประเทศ) ย่อมหนีไม่พ้นข่าว Facebook Phone (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2, ข่าวเก่า 3) ทางเว็บไซต์ TechCrunch เลยจับ Mark Zuckerberg มาสัมภาษณ์แบบเจาะลึก
จากบทสัมภาษณ์พอจับความได้ว่า Facebook กำลังทำอะไรบางอย่างกับ Android อยู่ มันอาจไม่ใช่มือถือเต็มรูปแบบ แต่ก็เป็นมากกว่า mobile app แน่นอน
บทสัมภาษณ์ค่อนข้างยาว แต่แนะนำให้อ่านฉบับเต็ม ผมคัดมาเฉพาะประเด็นสำคัญ
แม้สตีฟ จ็อบส์จะรวยเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นเศรษฐีอันดับ 42 ของสหรัฐ แต่ก็มีคนที่แรงกว่า ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล เขาคือ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook บริษัทที่ร้อนแรงที่สุดในขณะนี้
ในการจัดอันดับของ Forbes รอบนี้ Zuckerberg มี "มูลค่า" ทรัพย์สิน 6.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีอันดับ 35 ของสหรัฐทันที
หนังเรื่อง The Social Network ซึ่งสร้างจากเรื่องราวชีวิตจริงของ Mark Zuckerberg หลังจากที่เฟซบุ๊กได้ดูล่วงหน้าและแสดงอาการไม่พอใจสักเท่าใดนัก ตามรายละเอียดข่าวเก่า
ถึงแม้ Facebook จะออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ TechCrunch เปิดเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาโทรศัพท์มือถือของตนเอง แต่ล่าสุด CNET ก็ได้ออกมายืนยันข่าวลือดังกล่าว ซึ่งจากแหล่งข่าวของ CNET ระบุว่าในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา Facebook ได้มองหาผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อที่จะหยั่งเสียงว่าโทรศัพท์มือถือแบรนด์ของตนนั้นเป็นความเป็นไปได้เพียงใด โดยโทรศัพท์มือถือนั้นก็ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ แต่มันจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android ที่รวมฟีเจอร์ต่างๆ ของ Facebook "อย่างลึกซึ้ง" เข้าไป (คือไม่ได้เป็นเพียงแอพฯ ตัวหนึ่งบนแพลตฟอร์มนั้นแบบในปัจจุบัน)
Facebook ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ TechCrunch เปิดเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาโทรศัพท์มือถือของตนเอง โดยโฆษกกล่าวว่า สิ่งที่บริษัทดำเนินต่อเนื่องเสมอมาคือทำให้โทรศัพท์มือถือและแอพพลิเคชันเข้าถึงสังคมออนไลน์มากขึ้น (อาทิ การพอร์ตฟีเจอร์ทำงานบนเว็บไซต์เวอร์ชัน HTML5 ลงแอพฯ บนแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือต่างๆ) ซึ่งในมุมมองของบริษัทแล้วประสบการณ์ของผู้ใช้เกือบทั้งหมดจะดียิ่งกว่าหากพวกเขาเข้าถึงสังคมได้ ดังนั้นการรวมเข้ากับแพลตฟอร์มต่างๆ และระบบปฏิบัติการที่มีอยู่แล้วเป็นหนทางที่ดีที่จะทำให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นได้ แต่กระนั้นการสร้างโทรศัพท์ของตนเองก็ไม่ใช่สิ่งที่บริษัทจะทำ
มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลกับ TechCrunch ว่า Facebook กำลังทำโทรศัพท์มือถือของตนเอง หรือไม่ก็กำลังพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างเดียวแล้วให้บริษัทอื่นพัฒนาฮาร์ดแวร์ให้
แหล่งข่าวยังให้ข้อมูลอีกว่า Facebook เริ่มสนใจพัฒนาโทรศัพท์มือถือของตนเอง หลังจากที่เริ่มตระหนักถึงความเข้มแข็งของแพลตฟอร์ม iPhone และ Android และแอพพลิเคชัน Facebook บนแพลตฟอร์มเหล่านั้นอาจไม่มีกำลังเพียงพอที่จะต่อกรกับการแข่งขันในระยะยาว อีกประการหนึ่ง Facebook ก็มีเป้าหมายที่ต้องการรวมตัวเองเข้ากับรายชื่อผู้ติดต่อหรือฟังก์ชั่นหลักอื่นๆ ของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมันสามารถควบคุมระบบปฏิบัติการได้เท่านั้น
ตำรวจในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ของสหรัฐอเมริกาจับขโมยได้ 3 ราย ซึ่งขโมยระบุว่าใช้ social network (ในที่นี้คือ Facebook) ช่วยดูว่าบ้านใดบ้างที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ โดยดูจากข้อความสถานะของคนที่อยู่ในละแวก
ทาง Facebook ได้ยืนยันว่าฟีเจอร์ Facebook Place ไม่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมคดีนี้ อย่างไรก็ตามนี่เป็นตัวอย่างว่า แค่ข้อความสถานะก็พอเพียงสำหรับการโจรกรรม (อ่านวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Facebook)
คราวก่อนมีโจรใช้ ภาพถ่ายผ่านดาวเทียมบน Google Maps เพื่อขโมยหลังคา คราวนี้โจรใช้ Facebook เพื่องัดบ้าน
ตำรวจเมืองแนชัว นิวแฮมเชียร์ ได้เข้าจับกุมกลุ่มหัวขโมยที่ใช้ Facebook ช่วยในการลักขโมย โดยพวกเขาจะเข้าไปหาข้อมูลใน Facebook ว่ามีใครที่ออกไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งมักจะอัพเดทสถานะของตนลงไปใน Facebook แล้วเข้าไปงัดบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว
ทางตำรวจบอกว่า จากบ้านที่ถูกขโมย 50 หลังในเดือนสิงหาคม มี 18 หลังที่มีกลุ่มหัวขโมยอยู่ในรายชื่อเพื่อน โดยมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 1 - 2 แสนเหรียญสหรัฐ
ลองคิดถึงสถานการณ์ว่า เราเดินขึ้นรถ พูดว่า "กำลังจะออกเดินทางไปยัง..." แล้วข้อความสถานะไปปรากฎใน Facebook ดูสิครับ อาจฟังดูโอเวอร์แต่มันกำลังจะเป็นความจริง
เครือรถยนต์ขนาดใหญ่ของโลก GM กำลังจะรวมฟีเจอร์ Facebook เข้ากับระบบนำทางอัจฉริยะและสั่งงานด้วยเสียงภายในรถยนต์ที่ชื่อ OnStar การทำงานกับ Facebook จะใช้เสียงพูดเป็นหลัก ซึ่งผู้ขับขี่สามารถสั่งให้ OnStar "อ่าน" สถานะของเพื่อนๆ ให้ฟังได้ หรือจะ "พูด" สถานะของตัวเองเพื่อส่งไปยัง Facebook ได้เช่นกัน นอกจาก Facebook แล้ว OnStar ยังสามารถอ่านและตอบ SMS ได้ด้วย
คู่แข่งของ GM อย่าง Ford ก็มีระบบแบบเดียวกันชื่อ Ford Sync ซึ่งพัฒนาร่วมกับไมโครซอฟท์ อนาคตก็น่าจะทำได้แบบเดียวกัน
แม้ว่าจะมีการค้นพบหลักฐานต่างๆ มากมายบน iTunes ว่าอาจมีการทำงานบางอย่างร่วมกับ Facebook แต่หลังจากที่ iTunes Ping ได้เปิดตัวเมื่อคืนวาน สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกใจคือมันไม่สามารถทำงานร่วมกับ Facebook ได้อย่างที่หลายๆ คนคาดไว้
หลายปีก่อนกูเกิลเคยเป็นแหล่งดึงดูดวิศวกรระดับหัวกะทิจากบริษัทคู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์ และยาฮู ตลอดจนบริษัทไอทีอื่นๆ จำนวนมาก แต่วันนี้ที่หุ้นของกูเกิลเริ่มอยู่นิ่ง ค่าตอบแทนและโบนัสที่กูเกิลเสนอให้กับวิศวกรเหล่านี้ก็เริ่มน่าดึงดูดใจน้อยลงเรื่อยๆ แต่โลกไอทีก็มีเฟชบุ๊กเข้ามาแทนที่ ล่าสุดมีข่าวว่ากูเกิลทุ่มจ่ายเงินสดและหุ้นให้กับพนักงานที่กำลังจะลาออกหลายแสนดอลลาร์ต่อคนเพื่อให้อยู่ทำงานต่ออีกสักปี
ทาง TechCrunch รายงานข่าวนี้โดยระบุว่าพนักงานที่ได้รับข้อเสนอนี้ประมาณร้อยละ 80 จะตัดสินใจอยู่ทำงานกับกูเกิลต่อไป โดยพนักงานที่ไม่เปิดเผยชื่อคนหนึ่งระบุว่าเขาได้รับข้อเสนอมูลค่าถึง 500,000 ดอลลาร์เพื่อเซ็นสัญญาทำงานกับกูเกิลต่อไปอีกหนึ่งปี อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ตอบรับข้อเสนอนี้
MySpace ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Sync with Facebook โดยสามารถอัพเดตสถานะบน MySpace แล้วให้ไปโผล่บน Facebook ได้ (แต่จาก Facebook กลับมายัง MySpace ยังทำไม่ได้)
ก่อนหน้านี้ MySpace รองรับ Twitter อยู่แล้ว โดยสามารถอัพเดตได้แบบไป-กลับ
ฟีเจอร์นี้มีใน Yahoo!, AOL และ Windows Live มาก่อนแล้ว แต่สำหรับ MySpace ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Facebook มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่า "แพ้" ในศึก status update เรียบร้อยแล้ว
เว็บไซต์แห่งหนึ่งในอิสราเอลเปิดเผยว่า Facebook จะเปิดตัวฟีเจอร์แชตผ่านเสียง/วีดีโอในเวลาเดียวกับที่จะหยุดการสนับสนุน Internet Explorer 6 เว็บไซต์ดังกล่าวยังบอกอีกว่าฟีเจอร์แชต (ในข่าวต้นฉบับบอก chat เฉยๆ ไม่แน่ใจว่ารวมฟีเจอร์ IM ที่ Facebook มีอยู่แล้วหรือไม่) จะใช้งานไม่ได้บน Internet Explorer 6 ส่วนตัวเว็บไซต์ที่เหลือนั้นจะยังคงการสนับสนุนต่อไป
Neowin.net เสริมข้อคิดเห็นว่า การเกิดขึ้นของฟีเจอร์แชตผ่านเสียง/วีดีโอถือเป็นก้าวถัดไปของการพัฒนาบริการชุมชนออนไลน์ และก็มีความเป็นไปได้ที่บริการโทรศัพท์คล้ายกับ Skype จะได้รับการพัฒนาลงบริการชุมชนออนไลน์เช่นกัน
สงครามระหว่างเว็บมาสเตอร์หลายต่อหลายคนกับ Internet Explorer รุ่นดึกดำบรรพ์อย่าง IE6 นั้น มันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ จนถึงขั้นต้องรวมกลุ่มเพิ่อกดดันให้คนใช้ IE6 อยู่ทำการอัพเกรดขึ้นมา ไม่ก็เปลี่ยน Browser ซะ และทาง PC World ก็ได้ลงบทความว่า ถึงเวลาที่จะเลิกใช้ IE6 แล้ว เพื่อร่วมกดดันผู้ใช้บางส่วนอีกด้วย โดยล่าสุดเว็บที่เป็นลักษณะ Web 2.0 ก็เริ่มยกเลิกการทำให้หน้าเว็บรองรับ IE6 ไปทีละเว็บสองเว็บ และรายล่าสุดที่ประกาศยกเลิกการรองรับ IE6 ก็ดันเป็น Facebook เครือข่ายสังคมที่มีคนใช้เยอะอันดับต้นๆ ของโลกซะด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ Facebook มีการแสดงจำนวน Active User ต่อเดือน ที่ใช้แอพฯ บนมือถือ โดยสถิติที่แสดงพบว่าจำนวนผู้ใช้ Facebook for iPhone มีมากที่สุด 107 ล้านคน รองลงมาเป็น Facebook for BlackBerry smartphones มีจำนวน 62 ล้านคน และ Facebook for Android จำนวน 12 ล้านคน ซึ่งตัวเลขที่ Steve Jobs เคยประกาศไว้ในงาน WWDC เมื่อเดือนมิถุนายน 2553 คาดว่าจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้ iOS จะขายออกไปครบ 100 ล้านเครื่องในเดือนมิถุนายน 2553 อาจแปลว่าเกือบทุกเครื่องใช้ Facebook for iPhone ทุกเดือน? บางเครื่องอาจมีการ log in ผ่านแอพฯ ด้วยบัญชีผู้ใช้มากกว่า 1 คน (ปกติถ้าผมให้คนอื่นใช้ผมจะให้เข้าผ่านเว็บเพราะไม่ชอบ log in ใหม่)
ในโลกยุค social network เมื่อมีคนยื่นใบสมัครงาน ว่าที่นายจ้างอาจดูข้อมูลของบุคคลเหล่านี้ใน Facebook เพื่อพิจารณาคุณสมบัติ (ซึ่งนายจ้าง 45% เคยตอบแบบสอบถามว่าทำแบบนี้) และสิ่งที่พบอาจเป็นภาพเมาค้างหรือข้อความหยาบคาย จนเป็นผลให้ไม่รับบุคคลนั้นๆ เข้าทำงานในที่สุด (35% ไม่รับเข้าทำงานเพราะ social network)
แต่สถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไป อย่างน้อยๆ ก็ในประเทศเยอรมนี เพราะรัฐสภากำลังจะออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่านายจ้างสามารถเก็บข้อมูลของผู้สมัครงานได้จากไหนบ้าง กฎหมายฉบับนี้ห้ามเก็บข้อมูลจาก Facebook แต่ก็อนุญาตให้ใช้ LinkedIn และค้นข้อมูลจากกูเกิลได้
กฎหมายฉบับนี้ยังห้ามถ่ายวิดีโอหรือดักฟังพนักงานคุยกันในห้องน้ำหรือห้องแต่งตัว ซึ่งเคยเป็นคดีที่เกิดขึ้นในเยอรมนีมาแล้ว
The Social Network ภาพยนตร์เล่าตำนาน Facebook จะออกฉายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือ The Accidental Billionaires ซึ่งนำข้อมูลมาจาก Eduardo Saverin อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook อีกคนหนึ่ง ที่รู้สึกว่าส่วนแบ่งที่เขาได้รับไม่ยุติธรรมนัก โทนเรื่องจึงออกมาแนวให้ร้าย Mark Zuckerberg อยู่บ้าง
Facebook places คืออะไร? หากใคร เคยได้เล่น Foursqure ก็จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ทันที เพราะมันทำหน้าที่เหมือนกัน อย่างกับแกะ หลักการเบื้องต้นคือ ใคร? อะไร? อยู่ที่ไหน? เมื่อไหร่? facebook places ตอบได้ โดยใช้กับ มือถือ เป็นหลัก เมื่อคุณไปในที่ต่าง ๆ มือถือของคุณก็จะตรวจสอบว่าคุณอยู่ที่ไหน โดยหลักการ GPS, WiFi, และ เครือข่ายโทรศัพท์ จะแสดงให้คุณเห็นรายชื่อสถานที่คุณไป หรือสถานที่ใกล้เคียง หากว่า สถานที่ถูกต้อง คุณก็สมารถ check in ได้ โดยการ check in นี้ จะทำให้เพื่อน ๆ ของคุณสามารถเห็นได้ว่าคุณอยู่ที่ไหน และถ้าหากว่าสถานที่ ที่คุณไปยังไม่มีในรายการ คุณก็สามารถเพิ่มชื่อสถานที่ นั้น ๆ ได้ อันนี้ก็เป็นประโยชน์ คร่าว ๆ ของ facebook places ครับ
ผู้อ่าน Blognone คงรู้จักบริการตระกูล location-based service (LBS) อย่าง Google Latitude, Google Places, Foursquare หรือ Gowalla กันหมดแล้ว ไม่ต้องอธิบายซ้ำ
ล่าสุดหลังจากมี ข่าวลือ มาอย่างต่อเนื่อง ก็ถึงเวลาที่ Facebook จะลงมาลุยในตลาดนี้เสียที ด้วยบริการที่ชื่อว่า Facebook Places
ช่วงนี้มี scam ใหม่ระบาดในหมู่ผู้ใช้ Facebook โดยมีลักษณะที่เห็นได้ชัดเจนว่าจะหลอกเราให้กดเพื่อใช้งานปุ่ม Dislike ของ Facebook (ซึ่งไม่มีอยู่จริง ณ ขณะนี้)
เมื่อกดที่ลิงก์ในข้อความ scam เราจะพบหน้าติดตั้งแอพพลิเคชัน Dislike (ซึ่งเป็นหน้าเว็บปลอมๆ) ซึ่งจะหลอกให้ตอบแบบสอบถาม และส่งข้อความ scam ต่อเนื่องบน Facebook status ของเรา
Facebook ได้ทำการเข้าซื้อบริษัทเล็กๆ รายหนึ่งชื่อ Chai Labs ด้วยมูลค่าประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ความน่าสนใจของบริษัท Chai Labs อยู่ที่มีคณะกรรมการที่ปรึกษาอย่าง Marc Andreessen, Reid Hoffman (ประธานบริษัท LinkedIn) และ Joe Kraus จาก Google Ventures โดยที่ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดสำหรับการเข้าซื้อในครั้งนี้ของ Facebook