จากข่าวเก่า MySpace, Facebook, Google แข่งเปิด API สำหรับ Social Network ผ่านไปไม่กี่วัน สมรภูมิใหม่นี้ก็ร้อนแรงเต็มที่เมื่อ Facebook สั่งแบน Google Friend Connect ไม่ให้เชื่อมต่อเข้ากับข้อมูลผู้ใช้ใน Facebook โดยให้เหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว
เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร (ผมอ่านตอนแรกก็งงๆ) ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า Google Friend Connect คืออะไร
หลังจาก Facebook ได้เปิดตัว Facebook Chat ไปแล้วในเน็ตเวิร์กส่วนใหญ่แล้ว ล่าสุด David Reiss พนักงานภายใน Facebook ได้ออกมากล่าวว่า Facebook จะทำการอัพเกรด Facebook Chat ขึ้นอีกระดับหนึ่ง
โดยการอัพเกรดในครั้งนี้นั้น Facebook Chat จะสามารถใช้งานได้ผ่าน Extensible Messaging and Presence Protocal (XMPP) หรือที่รู้จักกันดีในนาม Jabber ซึ่งหมายความว่า IM Clients หลาย ๆ ตัวจะสามารถใช้ Facebook Chat ได้
ในขณะนี้ Digsby (บนพีซี) และ Adium (บนแมค) ได้เริ่มพัฒนาโปรแกรมของตนให้สามารถใช้งานได้กับ Facebook Chat แล้ว
ในตอนนี้ Facebook Chat สามารถใช้งานได้ผ่านเว็บ Facebook เท่านั้น
ข่าวออกมาไล่เลี่ยกัน ผมรวบเป็นข่าวเดียวเลยนะครับ
หลังจากถอนตัวจากการซื้อยาฮู เริ่มมีข่าวมาจากนักวิเคราะห์ภาคการเงินว่า ไมโครซอฟท์กำลังหันไปมองทางเลือกอื่นอย่าง Facebook แทน
เรื่องการซื้อบริษัทอินเทอร์เน็ตอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันมานานแล้ว เพราะถ้าไมโครซอฟท์ยังต้องการจะเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ และแข่งขันกับกูเกิลอย่างสูสี การซื้อกิจการเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ขึ้นอยู่แค่ว่าจะออกมาเป็นบริษัทไหนเท่านั้น
ตำรวจของเมืองแมนเชสเตอร์สร้างแอพพลิเคชันบน Facebook เพื่อแจ้งข่าวอาชญากรรมในพื้นที่ และเปิดให้ประชาชนสามารถส่งแจ้งความ หรือส่งรายละเอียดของคดีที่ตัวเองทราบ (เช่น เห็นเหตุการณ์นั้นพอดี) ผ่าน Facebook ได้
นอกจากนี้ยังมีลิงก์ไป YouTube ซึ่งมีวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของคดีต่างๆ ให้ดูอีกด้วย ใครอยากลองเล่นดูก็เข้าไปที่ GMP Updates
Facebook ได้เลือกเปิดตัวบริการ IM บนเว็บของตัวเองแล้วเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ในเวลาสหรัฐฯ
โดย Facebook IM นี้จะทำหน้าที่เหมือนกับ IM ทั่วไป เพียงแต่จะอยู่บนหน้าเว็บของ Facebook เอง โดยที่ผู้ใช้จะสามารถเห็นเพื่อน ๆ ของตัวเองที่กำลังออนไลน์อยู่ โดยเราสามารถเลือกเข้าไปคุยได้ทันที
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ผู้ใช้ Facebook หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่สามารถใช้บริการนี้ได้ในขณะนี้ โดย Facebook ได้ออกมาประกาศก่อนหน้านี้แล้วว่าการที่จะทำให้ผู้ใช้เกือบ 70 ล้านคนพร้อม ๆ กันนั้นมันยากอยู่ ทำให้ผู้ใช้มากกว่าครึ่งยังไม่สามารถใช้ Facebook IM ได้ขณะนี้
Facebook กำลังทดสอบระบบ IM เป็นการภายใน และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้
ระบบ IM นี้จะใช้โพรโทคอล Jabber/XMPP เหมือนกับ GTalk และคาดว่า Facebook จะเปิดให้เราคุยกับเพื่อนใน Facebook ผ่านทางหน้าเว็บได้โดยตรง การใช้โปรโตคอล Jabber ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถคุยผ่าน IM client อย่าง Pidgin, Trillian หรือเว็บไซต์อย่าง Meebo ได้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ social network คู่แข่งอย่าง MySpace ได้เปิดบริการ IM ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว (ข่าวเก่า) เพียงแต่ใช้โพรโทคอลของตัวเอง ไม่ได้อิงบน Jabber
ในงาน SXSW ที่เท็กซัส Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Facebook (ซึ่งอายุแค่ 23 ขวบ) ขึ้นเวทีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ Facebook
เขายอมรับว่าแผนโฆษณา Social Ads หรือโค้ดเนม Baecon (ข่าวเก่า) นั้นเป็นนโยบายที่ผิดพลาด เพราะว่าหลังจากนั้น Facebook โดนรุมถล่มจากผู้ใช้อย่างหนักว่าละเมิดความเป็นส่วนตัว (โดยการเอาข้อมูลบางส่วนไปใช้กับการโฆษณา) Zuckerberg บอกว่าบทเรียนที่สำคัญคือ ต้องให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลส่วนตัวของตัวเองอย่างเต็มที่
Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ไม่เดินตามรอย Google และ Yahoo ที่จ้างคนอื่น มาทำงานเป็นหัวหน้าผู้บริหาร เขาทำตาม Bill Gates โดยทำหน้าที่เป็นผู้บริหารใหญ่เอง และจ้าง Sheryl Sandberg ซึ่งเป็นผู้บริหารจาก Google มาเป็น Chief Operations Officer (COO) เป็นรองเพียง Zuckerberg เท่านั้น
Ms. Sandberg ทำงานเป็นรองผู้บริหารการจัดการตลาดออนไลน์ ให้กับ Google เข้าทำงานกับ Google ในปี คศ. 2001 เธอช่วยพัฒนาระบบโฆษณา เช่นโปรแกรม AdWords และ Adsense ซึ่งสร้างรายได้ให้กับ Google อย่างมหาศาล
หลาย ๆ ผู้ใช้ Facebook ถ้าอ่านข่าวนี้อาจจะเข้าใจในทันที ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับหลาย ๆ คน ที่ต่อไปนี้ Facebook จะเริ่มทำการ "แบน" Apps ที่บังคับให้ผู้ใช้ต้อง Invite ผู้ใช้คนอื่นก่อนใช้งาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวก Vampire, Jedi, Zombie, Personality Quiz
โดย Facebook บอกว่าในหน้า Invite นั้นหากไม่มีการใส่ปุ่ม "Skip This Step" หรือ "Cancel" หรือ "Skip" หรือปุ่มอื่น ๆ ที่สามารถทำให้ผู้ใช้ข้ามหน้านั้นออกมาได้แล้วล่ะก็ ทาง Facebook จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ที่มา - C|net
นายบิล เกตส์ยอมเลิกใช้ Facebook แล้ว
นิตยสาร The Sun แห่งเกาะอังกฤษรายงานว่าบิล เกตส์นั้นได้รับ Friend Request กว่า 8,000 คนต่อวันจนเขาทนไม่ได้ ทำให้เขาต้องเลิกใช้มันในที่สุด
The Sun อ้างว่าก่อนหน้านี้ว่ามีช่วงหนึ่งที่เขาได้ใช้เวลาบน Facebook กว่าครึ่งชั่วโมงต่อวัน
แม้ว่า Facebook ตอนนี้ไม่มีบิล เกตส์เป็นผู้ใช้เป็นประจำแล้วก็ตาม แต่ Facebook ยังมีเงินของไมโครซอฟท์หลายล้านดอลลาร์อยู่ในบัญชีบริษัท
ศาสดาของเรามีไหมเนี่ย ต้องหาซะละ
ที่มา - C|net
ตอนนี้ Facebook ได้เปิดเว็บเวอร์ชั่นภาษาสเปนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความคาดหวังว่าจะได้กลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามาใช้ในเว็บ
โดย Facebook กล่าวว่ายังมีแผนที่จะเพิ่มภาษาฝรั่งเศสและเยอรมันเข้าไปในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่า Facebook มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม แต่ตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่สูงในกลุ่มเว็บ Social Networking ด้วยกันเอง
Facebook มีความต้องการที่จะเพิ่มภาษาต่าง ๆ เพิ่มเข้าไปเรื่อย ๆ เนื่องจากผู้ใช้กว่า 60% ของ Facebook มาจากนอกสหรัฐ
ผู้ใช้เว็บที่สามารถใช้ภาษาสเปนได้กว่า 1,500 คนนั้นได้มีส่วนร่วมในการช่วยแปลเว็บ Facebook จากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาสเปนในเวลาเพียงแค่ 4 สัปดาห์เท่านั้น
เจ้าของเกมต่อคำยอดฮิต Scrabble ได้ขอให้ Facebook ถอด Scrabulous ออกเพราะละเมิดลิขสิทธิ์
บริษัท Hasbro Inc. บริษัทของเล่นเกมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเจ้าของลิขสิทธิ์เกม Scrabble ได้ส่งจดหมายไปยัง Facebook ในสหรัฐอเมริกา ในการร้องเรียน Scrabulous เพื่อปกป้องชื่อเสียงและเครื่องหมายการค้าของตนเอง เพราะ โปรแกรมนี้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งบริษัท Hasbro Inc. เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา
ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบใดๆจากทาง Facebook
ที่มา - Reuters.com
ตัวแทนจาก Google, Facebook และ Plaxo (บริการแชร์สมุดที่อยู่ระหว่าง social network) ได้ประกาศร่วมโครงการ DataPortability Workgroup ซึ่งมีเป้าหมายจะสร้างชุดมาตรฐานกลางสำหรับข้อมูลใน social network หรือเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานข้ามกันได้
บนเว็บไซต์ของ DataPortability บอกว่าจะไม่พัฒนามาตรฐานใหม่ แต่จะใช้มาตรฐานเดิมที่มีอยู่แล้วอย่าง OpenID, RSS, OPML, Microformats มาพัฒนาต่อ และรวมเข้าเป็นชุดเดียวกัน ซึ่งจะต่างออกไปจากโครงการ OpenSocial (ข่าวเก่า) ซึ่งเป็นการสร้าง API กลางระหว่าง social network
มีรายงานเข้ามาที่ Slashdot ว่ามี Facebook App ตัวหนึ่งที่กำลังกระจายสปายแวร์ "Zango" ที่เคยระบาดมาแล้วช่วงหนึ่ง โดย App ตัวนี้มี Widget ที่ดึงข้อมูลมาจากเว็บอื่น โดยทำมีการยิงหน้าต่างถามผู้ใช้เรื่อย ๆ ว่าต้องการลง Zango หรือไม่
ด้วยจำนวนผู้ใช้มหาศาลทำให้ Facebook เป็นที่ดึงดูดนักพัฒนาทุกแขนงให้มาพัฒนา Apps ที่ใช้งานได้ แต่ดูเหมือนกับว่า Facebook ก็เป็นที่ดึงดูดของเหล่าผู้ไม่ประสงค์ดีเช่นกัน
หลังจากโดนกูเกิลเปิดตัว OpenSocial ตัดหน้าไปหนึ่งสัปดาห์ (ข่าวเก่า) ทาง Facebook ก็ไม่ย่อท้อ ออกแพลตฟอร์มโฆษณาแบบใหม่โดยใช้ social network ให้เป็นประโยชน์ โดยใช้ชื่อตรงไปตรงมาว่า Facebook Ads
Facebook Ads ประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้
เป็นที่ทราบกันดีว่า สังเวียน Social Networking ของโลกกำลังร้อนระอุ จากการโต้ตอบกันระหว่างสองยักษ์ คือ Google ยักษ์ใหญ่โลกออนไลน์ กับ Facebook ผู้นำหมายเลขสองของตลาด Social Networking
Jim Breyer หนึ่งในผู้ลงทุนและหนึ่งในกรรมการบริหารของ Facebook นั้นได้ออกมาพูดเป็นนัยเมื่อออกไปพูดคุยกับ Peter Kafka หนึ่งใน Editor ของ Silicon Alley Insider ในงานค็อกเทลว่า Facebook นั้นไม่ได้มีปรัชญาที่จะอยู่ตรงข้ามกับสิ่งที่กูเกิลกำลังทำในตอนนี้
Breyer ยังได้บอกอีกว่าแผนธุรกิจของ Facebook นั้นไม่ได้หมายถึงว่า Facebook จะต้องปิดตัวเองออกจากโลกภายนอกแต่อย่างใด เนื่องจากว่าบริษัทนั้นรู้ดีว่าผู้ใช้ต่างก็ต้องการที่จะโพสข้อมูลและคอนเนคชั่นในกลุ่มเพื่อนฝูงไม่ว่าพวกเขาจะใช้ Facebook หรือ Online Social Network อื่น ๆ ก็ตาม และเขาคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นได้ในปีหน้า
หลังจากข่าวที่แล้วที่กูเกิลได้เตรียมตัวเปิดตัว API ที่จะลิงค์ Online Social Network ของ Hi5, Orkut, LinkedIn, Friendster, Ning, Salesforce, Flixster, Engage, Plaxo, Oracle, Imeem, Viadeo, iLike, RockYou และ Slide
ล่าสุดเว็บรุ่นพี่ใหญ่อย่าง MySpace ของ News Corp ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ด้วย ถึงแม้ว่า MySpace จะไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแต่กูเกิลก็มั่นใจว่า MySpace จะเป็นแรงผลักดันที่ใหญ่ที่สุดของการรวมทีมกันในครั้งนี้อย่างแน่นอน
ประกาศตัวไปไม่ทันไร ก็ screenshot ออกมาให้ดูกันแล้วครับ ว่า หน้าตาของ Google Open Social เวลาเค้าทำกันจริงๆ จะออกมาเป็นรูปแบบไหนกันได้บ้าง ตามลิงค์ข้างล่างนี้เลย
อันนี้เป็น Screencast เห็นภาพมากๆ
Open Social: screencast and screenshots
รูปอย่างเดียว
อ่าน ข่าว Google ได้เตรียมจะเปิดตัว Open Social API ซี่งเป็นการเปิด API เพื่อลิงค์กัน ระหว่าง Social Networking ยักษ์ใหญ่ของโลก คือ Hi5.com (คนไทยรู้จักกันดี) , Orkut (ของ Google เอง), LinkedIn (สำหรับหางาน หรือหาธุรกิจ) , Friendster, Ning (ของอดีคผู้ก่อตั้ง Netscape) , Salesforce.com (Online Service เก็บเงินที่ประสบความสำเร็จที่สุดตัวหนึ่ง) ,Flixster, iLike, RockYou และสุดท้าย คือ Slide (ที่มักเห็นอยู่บน Hi5.com ประจำ)
วันนี้บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ได้เข้าซื้อส่วนหนึ่งของเว็บ Social Network ชื่อดัง "Facebook" ในราคา 240 ล้านดอลลาร์ (น่าตกใจที่ราคา 240 ล้านดอลลาร์นี้มากกว่ารายรับทั้งหมดของ Facebook เมื่อเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว)
โดยการเข้าซื้อส่วนของ Facebook ในครั้งนี้นั้นเป็นเพียงแค่การให้สิทธิไมโครซอฟท์ในการควบคุมพื้นที่โฆษณาของ Facebook ทั้งหมดสำหรับกลุ่มลูกค้าที่อยู่นอกสหรัฐซึ่งก็คือกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ Facebook ในขณะนี้ เมื่อรวมกับการเข้าตกลงเจรจากับ Facebook ในครั้งก่อนแล้วหมายความว่าตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้สิทธิในการควบคุมพื้นที่โฆษณาทั้งหมดใน Facebook จนถึงปี 2011
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่การเข้าซื้อในครั้งนี้ไม่รวมสิทธิในการหากินกับ Web Search ของ Facebook
วันก่อนได้ข่าวว่าไมโครซอฟท์กับกูเกิลกำลังแย่งกันซื้อหุ้นของ Facebook ซึ่งใครๆ ก็เชื่อว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะ Facebook มาแรงแซงทุกโค้ง สาเหตุที่ Facebook เนื้อหอมขึ้นมาคงเป็นเพราะมีโปรแกรมเสริมบน Facebook เพิ่มขึ้นเรื่อยแบบมีนัยสำคัญจนหลายคนคิดว่านี่อาจจะเป็นระบบปฏิบัติการบนเว็บในอนาคตอันใกล้ ในที่สุดการตกลงครั้งนี้ก็สรุปเรียบร้อย ไมโครซอฟท์เป็นผู้ชนะด้วยเงิน 240 ล้านเหรียญแลกกับหุ้น 1.6% และสิทธิในการแสดงโฆษณาสำหรับผู้ชมนอกอเมริกาทั้งหมด คำนวณคร่าวๆ Facebook มีค่ามากถึง 15 พันล้านเหรียญในสายตาของไมโครซอฟท์
ทางด้าน Sergey Brin แห่งกูเกิลกล่าวสั้นๆ
เบนจามิน หลิง (Benjamin Ling) วิศวกรใหญ่ในกูเกิลประกาศลาออกไปอีกหนึ่งคนแล้ว ซึ่งจะย้ายไปร่วมงานกับเฟซบุ้ก เว็บไซต์เครือข่ายสังคมขนาดใหญ่ เบนจามิน หลิง นักศึกษาปริญญาเอก Com Sci จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ผู้คิดค้นและดูแล กูเกิลเช็กเอาต์ (Google Checkout) และ กูเกิลเอสเอ็มเอส (Google SMS)
โดยก่อนหน้านี้ จีดอน หยู (Gideon Yu) หัวหน้างานใหญ่จากกูเกิลก็ได้ลาออกและไปเข้าเฟซบุ้ก
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เว็บ Facebook เวอร์ชั่นสำหรับ iPhone นั้นก็ได้เปิดตัวตามกระแสข่าวลือตามเว็บต่าง ๆ แล้ว โดยตัวเว็บนั้นจะมีความสามารถมากกว่าเวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือทั่วไป แต่น้อยกว่าเวอร์ชั่นที่ใช้กันบนคอมพิวเตอร์
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ผู้ใช้ iPhone ยังสามารถเข้า Facebook เวอร์ชั่นสำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไปบน iPhone ได้อยู่ดี แต่ว่าคุณสมบัติต่าง ๆ ที่มีการใช้ Flash ยังไม่สามารถใช้งานได้อยู่ดี