เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Facebook เปลี่ยนมาใช้หน้า Profile รูปแบบใหม่ ซึ่งเน้นรูปภาพและความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมากขึ้น ตอนนี้มันมาถึง Fan Page (หรือปัจจุบันชื่ออย่างเป็นทางการคือ Facebook Pages) แล้ว
Page แบบใหม่มีหน้าตาเหมือนกับ Profile มีพื้นที่ให้ใส่รูปภาพด้านบน และปรับเอารายชื่อแฟนมาไว้ด้านขวาแทนด้านซ้าย ดูรูปประกอบท้ายข่าว
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอยู่ที่การใช้งานมากกว่าหน้าตา เพราะต่อจากนี้ไป Page จะทำตัวเหมือนกับ Profile นั่นคือเจ้าของ Page สามารถคอมเมนต์หรือกด Like ข้อความของคนอื่นได้ แต่จะแสดงชื่อเป็น Page นั้นๆ แทน (เช่น Blognone Page สามารถกด Like ให้กับ Jusci Page ได้)
ปีที่แล้วมีข่าวลือ "Facebook Phone" ซึ่งระบุว่าบริษัท INQ จากอังกฤษเป็นคนผลิตเครื่องให้ และชื่อของมันคือ INQ Cloud Touch ตอนนี้มีคนถ่ายวิดีโอของมันมาได้แล้ว
เว็บไซต์ TechCrunch สามารถคุยกับผู้บริหารของ INQ ให้ยอมถ่ายเจ้า Cloud Touch ออกมาโชว์ต่อชาวโลก พื้นฐานของมันคือ Android แต่ INQ ก็ปรับแต่งมันไปอีกมาก จากวิดีโอเราจะเห็นหน้าจอ homescreen ที่มี widget ของ Facebook ซึ่งมีความสามารถมากกว่า Facebook App อยู่พอสมควร
Facebook เพิ่มฟีเจอร์ Live Comment ทำให้เราสามารถเห็นข้อความของคนที่มาคอมเมนต์ต่อจากเราได้ โดยไม่ต้องรีโหลดหน้าใหม่แบบที่เป็นมา
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้การสนทนาบน Facebook มีลักษณะคล้าย instant messaging มากขึ้น เท่าที่ผมลองตอนนี้ใช้ฟีเจอร์นี้ได้แล้วครับ
สำหรับคนที่สนใจเรื่องโครงสร้างทางเทคนิค อาจตามไปอ่าน Facebook Engineering's Notes เขียนเรื่องนี้ไว้ละเอียด ทั้งการเลือกสถาปัตยกรรม pushing vs polling และวิธีการ read/write คอมเมนต์
ที่มา - InsideFacebook
เรื่องนี้ต้องย้อนไปถึงข่าว Facebook อนุญาตให้แอพขอดูที่อยู่บ้านเราได้ ซึ่งก่อให้เกิดข้อถกเถียงมากมาย แม้ Facebook จะขอหยุดฟีเจอร์ไว้ชั่วคราว แต่รัฐสภาสหรัฐก็เริ่มเข้ามาดูแลเรื่องนี้แล้ว
คณะกรรมาธิการด้านความเป็นส่วนตัวของรัฐสภา (Congressional Privacy Caucus) นำโดยประธานร่วม ส.ส. Edward Markey และ ส.ส. Joe Barton ได้ส่งจดหมายถึง Mark Zuckerberg พร้อมคำถาม 11 ข้อ ขอให้ Facebook ชี้แจงว่าถ้าเปิดฟีเจอร์นี้อีกครั้ง จะมีลักษณะอย่างไร และผู้ใช้จะเปิดเผยข้อมูลส่วนใดบ้าง
สายการบินในสหรัฐ 7 สาย ได้แก่ Virgin America, United Airlines, American Airlines, Delta, AirTran, US Airways และ Alaska Airlines เริ่มเปิดให้ผู้โดยสารเล่น Facebook บนเครื่องบินในวันนี้
สายการบินเหล่านี้ให้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบินอยู่แล้ว โดยเป็นบริการของบริษัท Gogo อีกที (Gogo บริษัทเดียวกันนี้ เคยจับมือกับกูเกิลให้บริการ Wi-Fi ฟรีบนเครื่องบินอยู่พักหนึ่ง) การเปิดให้เล่น Facebook ฟรีเป็นการโปรโมทบริการของ Gogo นั่นเอง เพราะถ้าผู้โดยสารอยากเปิดเว็บอื่นด้วยก็ต้องเสียเงินเพิ่มเติม 4.95 ดอลลาร์สำหรับเที่ยวบินระยะสั้น หรือ 12.95 ดอลลาร์สำหรับเที่ยวบินที่ยาวขึ้น
หลังจากที่ Facebook ส่งปุ่ม Connect with Facebook และปุ่ม Like ออกมายังโลกอินเทอร์เน็ตภายนอกและระบาดไปทั่ว ก็มีข่าวว่า Facebook จะส่ง "ระบบคอมเมนต์" มาให้เว็บไซต์และเว็บบล็อกอื่นๆ ใช้บริการเช่นกัน
ระบบคอมเมนต์ที่ว่านี้มีลักษณะเหมือนกับ Disqus หรือ Intense Debate เพียงแต่เป็นของ Facebook ทำเอง และมีข้อได้เปรียบกว่ามากตรงฐานผู้ใช้ Facebook จำนวนมหาศาลที่มีอยู่แล้ว
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาเจสซี่ ไอเซนเบิร์กนักแสดงผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากการมารับบทเป็นมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กในหนังเรื่อง The Social Network ได้รับเชิญมาพูดเปิดรายการ Saturday Night Live ทาง NBC ระหว่างนั้นก็มีแอนดี้ แซมเบิร์กนักแสดงตลกเข้ามาร่วมเล่นมุขว่าตัวเองนี่แหล่ะคือมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กเช่นเดียวกัน
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเล่นมุขกันอย่างสนุกสนานนั้น ปรากฏว่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์กตัวจริงได้โผล่เข้ามาในรายการ เล่นเอาไอเซนเบิร์กถึงกับเหวอไปเลยทีเดียว แต่ทั้งคู่ก็ยังร่วมรับส่งมุขกันอย่างสนุกสนานต่อไป
กระแส HTML5 เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ Facebook ซึ่งทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากเกมที่สร้างด้วย Flash ก็ออกมากระตุ้นให้นักพัฒนาใช้ HTML5 สร้างเกมมากขึ้น
แต่เนื่องจาก HTML5 ยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ และยังไม่ค่อยมีใครนำไปใช้สร้างเกมกันมากนัก Facebook เลยออกเครื่องมือช่วยทดสอบประสิทธิภาพว่าเกมที่สร้างด้วย HTML5 ใช้งานได้ดีแค่ไหน
เครื่องมือของ Facebook เป็นเครื่องมือแบบคอมมานด์ไลน์ ใช้ชื่อว่า JSGameBench ในเวอร์ชันแรก 0.1 ยังทดสอบได้แค่อัตราการแสดงภาพ (animating sprite) ว่าเบราว์เซอร์แต่ละตัวสามารถแสดงภาพได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าถ้าเอาเกม HTML5 ไปรันแล้วจะลื่น-กระตุกเพียงใด
จากข่าว ข่าวลือ Facebook Phone ระลอกใหม่ คราวนี้บอก HTC เป็นคนผลิตให้ ทาง Facebook ก็ออกมาปฏิเสธข่าวนี้อย่างรวดเร็ว
Dan Rose หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Facebook ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ฟีเจอร์ Facebook บนมือถือ HTC เป็นการพัฒนาของ HTC เอง โดยเชื่อมต่อผ่าน Public API ของ Facebook เท่านั้น และมือถือรุ่นนี้จะไม่ได้แปะแบรนด์ Facebook อย่างแน่นอน
ที่มา - รอยเตอร์
Joe Sullivan หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Facebook เปิดเผยว่าในช่วงที่มีการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดี Zine El Abidine Ben Ali ของประเทศตูนิเซียเมื่อปลายปีที่แล้ว ทีมรักษาความปลอดภัยของเขาพบว่ารัฐบาลตูนิเซียกำลังดักจับรหัสผ่านเข้า Facebook ของคนทั้งประเทศผ่าน ISP และไล่ลบบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับการประท้วง เนื่องจาก Facebook เป็นเครื่องมือสำคัญของชาวตูนิเซียเพื่อสนับสนุนการประท้วง ทั้งการส่งข่าวในกลุ่มผู้ประท้วง การนัดหมายชุมนุม แ
Facebook เตรียมนำกิจกรรมของผู้ใช้ไปทำเป็นโฆษณาแบบเรื่องเล่าที่เรียกว่า Sponsored Story
สถานการณ์ตัวอย่างที่ Facebook ยกมาคือ ผู้ใช้ A "เช็คอิน" ที่ร้าน Starbucks ด้วยบริการ Facebook Places จากนั้น Starbucks สามารถนำ "สถานะ" ของผู้ใช้ A อันนี้ ไปโฆษณาให้ผู้ใช้ B ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ใช้ A ได้ (ดูภาพประกอบเข้าใจง่ายกว่าครับ) พูดง่ายๆ ว่าอนุญาตให้บริษัท ร้านค้า แบรนด์ต่างๆ นำข้อมูลสถานะไปทำโฆษณานั่นเอง
แผนการนี้ก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงเรื่องความเป็นส่วนตัวอย่างมาก ที่สำคัญถ้าหากผู้ใช้ต้องการ "ปิด" ไม่ให้นำสถานะของตัวเองไปโฆษณา (opt-out) กลับไม่สามารถทำได้
จากที่เคยเป็นข่าวอยู่ช่วงหนึ่งว่า Facebook กำลังทำโทรศัพท์มือถือของตัวเอง จนผู้บริหารระดับสูงรวมทั้ง Mark Zuckerberg ต้องออกมาสยบข่าวนี้ด้วยตัวเอง คราวนี้มีข่าวระลอกใหม่มาอีกแล้วว่า Facebook Phone จะเปิดตัวที่งาน Mobile World Congress เดือนกุมภานี้
ตามข่าวบอกว่ามือถือตัวนี้จะแปะแบรนด์ Facebook มาเลย ส่วนผู้ผลิตคือ HTC และใช้ระบบปฏิบัติการ Android
ที่มา - City A.M., VentureBeat
มาดู Charles Arthur นักข่าวจาก The Guardian หนังสือพิมพ์อังกฤษชื่อดัง แกะรอยตามหาคนแฮ็ก fan page ของ Mark Zuckerberg กันครับ ต้นฉบับอ่านสนุกดี มีลุ้นตอนท้าย
เริ่มจากที่ข้อความที่คนที่สวมรอยเป็น Zuckerberg เขียนทิ้งไว้ดู
"Let the hacking begin: if facebook needs money, instead of going to the banks, why doesn't Facebook let its user invest in Facebook in a social way? Why not transform Facebook into a 'social business' the way Nobel Price winner Muhammad Yunus described it? http://bit.ly/fs6rT3 What do you think? #hackercup2011"
หลังจากที่ fan page ของ Mark Zuckerberg ถูกแฮ็ก ทาง Facebook ก็เพิ่มระดับความปลอดภัยของเว็บไซต์ ด้วยการเปิดให้ผู้ใช้เลือกใช้งานผ่านโปรโตคอล HTTPS ได้ตลอดเวลาครับ
ก่อนหน้านี้โดยปกติแล้ว Facebook จะใช้โปรโตคอล HTTPS แค่ตอน log in เท่านั้น ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการ "ไฮแจ็ก" session cookie ได้ อย่างที่ซอฟต์แวร์ Firesheep แสดงให้เห็นมาแล้วว่ามันอันตรายแค่ไหน
หลังจากทดสอบระบบในวงจำกัดมาเกือบหนึ่งปี Facebook ก็ประกาศนโยบายให้ผู้พัฒนาแอพบน Facebook จำเป็นต้องใช้สกุลเงิน Facebook Credits แล้ว (Facebook จะหักค่าหัวคิว 30% จาก Facebook Credits)
Facebook บังคับว่าการเปลี่ยนเงินจริงเป็นเงินเสมือนจะต้องใช้สกุลเงิน Facebook Credits เท่านั้น ส่วนที่เหลือถ้าผู้พัฒนาแอพอยากมีระบบเครดิตของตัวเอง ค่อยแปลงจาก Facebook Credits อีกทีหนึ่ง ในอนาคต Facebook จะพยายามออกแคมเปญชักชวนให้ผู้ใช้ซื้อ Facebook Credits มากขึ้น เช่น แคมเปญชักชวนเพื่อนซื้อไอเทมในเกมเป็นคู่ถูกกว่า เป็นต้น
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อตอนสายๆ ของเมื่อวาน อยู่ๆ บนแฟนเพจของ Mark Zuckerberg ได้ปรากฎข้อความหนึ่งขึ้น ดังนี้
Let the hacking begin: If facebook needs money, instead of going to the banks, why doesn’t Facebook let its users invest in Facebook in a social way? Why not transform Facebook into a ‘social business’ the way Nobel Price winner Muhammad Yunus described it? http://bit.ly/fs6rT3 What do you think? #hackercup2011
ซึ่งไม่นานข้อความนี้ก็ถูกลบไป พร้อมกับการถูกอุ้มหายไปของแฟนเพจ ซึ่ง ณ เวลาที่มันถูกลบ ข้อความนี้ก็ถูกกด like ไปกว่า 1800 ครั้ง และมีข้อคิดเห็นอีกเกือบๆ 500 ข้อความ
Martin Essl ตัวแทนจาก Sony Ericsson ประกาศในงาน Inside Social Apps ว่ามือถือแอนดรอยด์ที่จะวางขายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะรวมเอาฟีเจอร์ Facebook Single Sign On และพรีโหลด Facebook App มาให้ทุกรุ่น
นี่แปลว่าต่อจากนี้ไป ถ้าซื้อมือถือจาก Sony Ericsson เราอาจต้องใส่รหัสผ่าน 2 ชุดคือ Google/Facebook จากนั้นก็จะล็อกอินแอพหลายๆ ตัวได้อัตโนมัติทันที
ใกล้เคียงกับคำว่า "Facebook Phone" เข้าไปทุกทีแล้วสินะ
ที่มา - TechCrunch
ในสหรัฐอเมริกามีธรรมเนียมว่า ประธานาธิบดีต้องแถลงผลงานและนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในเดือนมกราคมทุกๆ ปี ซึ่งแถลงการณ์นี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า State of the Union
ตามปกติแล้ว State of the Union จะถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์พร้อมกันทุกช่อง แต่ประธานาธิบดีรุ่นใหม่อย่างบารัค โอบามา ที่ชนะการเลือกตั้งมาด้วยอินเทอร์เน็ต ก็ใช้เครื่องมือออนไลน์หลายชนิดเพื่อชักชวนให้ประชาชนสหรัฐมีส่วนร่วมกับการแถลงนโยบายประจำปีมากขึ้น ดังนี้
Bret Taylor ซึ่งเป็น CTO ของ Facebook (เขาเป็นผู้ก่อตั้ง FriendFeed และเข้ามาทำงานกับ Facebook หลังถูกซื้อกิจการยกบริษัท) ขึ้นเวทีงานสัมมนา Inside Social Apps บอกว่า Facebook จะให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มมือถือมากเป็นอันดับหนึ่งในปีนี้
Taylor บอกว่ามือถือเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับ social เป็นอย่างมาก เพราะเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล และมีข้อมูลของเพื่อนๆ อยู่ตั้งแต่แรกใน Contacts ของมือถือ แถมมือถือรุ่นใหม่ๆ ยังใช้ประโยชน์จากพิกัดและข้อมูลสถานที่ได้อีกด้วย
ช่วงหลังปีใหม่มีข่าว Facebook มีมูลค่าหุ้น 5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากการลงทุนรอบล่าสุดโดย Goldman Sachs วันนี้ Facebook ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว
การเพิ่มทุนของ Facebook โดยการขายหุ้นรอบล่าสุดแบ่งเป็น 2 ส่วน
FUSE Labs ได้อัพเดท Docs.com (บริการที่ให้ผู้ใช้สร้าง แก้ไข และแบ่งบันไฟล์ผ่าน Facebook) โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและความเสถียรของระบบหลังบ้าน (backend) นอกจากนั้นยังเพิ่มการสนับสนุนการพิมพ์ข้อความอีก 30 ภาษาเพิ่มฟีเจอร์ตรวจการสะกดคำ (spell checking) ลักษณะเดียวกับชุด Office ให้กับ Word Web App บนบริการ Docs.com อีกด้วย ลองดูตัวอย่างหน้าจอได้ที่ท้ายข่าว
ที่มา: Docs.com Blog ผ่าน LiveSide.net
จากที่ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ Flickr ได้เปิดให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินด้วยบัญชีของ Google และสัญญาว่าจะมีการเพิ่มพันธมิตรอีก ล่าสุดในบล็อกของ Flickr ประกาศว่าได้เพิ่มพันธมิตรรายใหม่นั่นคือ Facebook
ผู้ใช้ Flickr เดิมสามารถปรับค่าการล็อกอินด้วย Google หรือ Facebook ร่วมกับบัญชีของ Yahoo!
และสำหรับผู้ใช้ Facebook หรือ Google ก็สามารถล็อกอิน Flickr เพื่อแบ่งปันรูปภาพไปยัง Facebook โดยเข้าไปปรับค่าได้จากหัวข้อ account setting
ที่มา: Flickr Blog
หมายเหตุ: ข่าวนี้เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และการจัดการโครงการซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ เพราะมีบทเรียนของ Facebook ให้เรียนรู้ แนะนำอย่างยิ่งให้อ่านต้นฉบับ (ซึ่งยาวมาก) ครับ
ทีมวิศวกรของ Facebook ใหญ่มาก คิดเป็นครึ่งหนึ่งของพนักงานทั้งบริษัท 2,000 คน โดยแบ่งเป็นทีมซอฟต์แวร์ และทีมดูแลระบบอย่างละครึ่ง (ประมาณทีมละ 400-500 คน) เพื่อให้เข้าใจง่าย ผมแบ่งเนื้อหาเป็น 2 ส่วนตาม 2 ทีมนี้นะครับ
ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์
หลังจากมีข่าวใหญ่โตว่า Facebook อนุญาตให้แอพขอดูที่อยู่บ้านเราได้ และเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ทาง Facebook ก็ออกมาประกาศแล้วว่าจะ "หยุดฟีเจอร์นี้ชั่วคราว"
แต่มันจะกลับมาแน่นอนครับ เพราะ Facebook บอกว่า "ฟังเสียงผู้ใช้" แล้วต้องการปรับปรุงให้กระบวนการที่แอพขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลที่อยู่จากเราชัดเจนมากขึ้น โดยให้ผู้ใช้อนุญาตเท่าที่จำเป็นเท่านั้น การปรับปรุงจะใช้เวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ และฟีเจอร์นี้จะกลับมาอีกครั้ง
ที่มา - Facebook Blog, The Register
ปกติแล้วเวลาติดตั้งแอพบน Facebook เราจะต้องอนุญาตก่อนว่าจะให้แอพเข้าถึงข้อมูลอะไรได้บ้าง ล่าสุดมีรายงานว่า Facebook ได้อนุญาตให้แอพสามารถ "ร้องขอ" ข้อมูลที่อยู่ของเราได้
ในทางทฤษฎี ผู้ใช้จะต้องตรวจสอบและอนุญาตด้วยตัวเองก่อน แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ใช้ส่วนมากก็กดปุ่ม Allow โดยไม่ได้ตรวจสอบอะไรมาก นั่นแปลว่าการสร้างแอพหลอกๆ ขึ้นมาขโมยข้อมูลที่อยู่บน Facebook ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย
ใครที่โพสต์ข้อมูลเหล่านี้ลงบน Facebook ควรลบออกโดยด่วนครับ
ที่มา - All Facebook