จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ Mark Zuckerberg ได้พูดกับนักข่าวว่า Facebook มีแผนที่จะเปิดตัวบริการใหม่ที่ "เจ๋ง" มากสัปดาห์หน้า โดยบริการดังกล่าวนั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นในแคมปัสใหญ่ของ Facebook ที่เมืองซีแอทเทิล ซึ่งอาจจะเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่คุณสมบัติเว็บใหม่ ไปจนถึงแอพใหม่สำหรับแพลตฟอร์มต่าง ๆ
ทางเว็บ 9to5Mac ได้ออกมาบอกว่าสิ่งที่เป็นไปได้เหล่านี้ได้แก่
Facebook ออกอัพเดทเวอร์ชั่น 3.4.3 บน iOS โดยมีคุณสมบัติที่แจ้งไว้คือ แก้ไขบั๊ก และปรับปรุงระบบความปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอีกหลายอย่าง เช่น สามารถกดเซฟรูปที่แสดงใน albums ต่างๆ ได้, หน้าแรกสามารถแสดงผลในแนวนอนได้เสียที, แสดงสถานะการส่งเมื่อโพสต์ข้อความได้, ปรับปรุงหน้า Profile ให้มีปุ่ม Share Photo และ Write Post เหมือนหน้า News Feed
การออกอัพเดทนี้ไล่หลังไม่กี่วันจากอัพเดทบน Android กันเลย ผู้ใช้งาน iOS สามารถอัพเดทได้ที่ App Store ครับ
ค่าย Firaxis ปล่อยวิดีโอสองตัวที่แสดงระบบการเล่นของเกม Civilization World (หรือชื่อเดิม Civilization Network) เกมตระกูล Civilization ภาคบนเฟซบุ๊กที่หลายๆ คนรอคอยกันอยู่ (ผมด้วย)
จากวิดีโอเราจะเห็นว่า Civ World ได้อิทธิพลจาก social games มาพอสมควร เช่น มีการเก็บเกี่ยว (harvest) หรือการแลกไอเทมระหว่างกัน ส่วนฟีเจอร์เด่นที่เพิ่มเข้ามาคือระบบการ "รวมชาติ" กับเพื่อนๆ บน social network ซึ่งชาติจะมีกษัตริย์ได้องค์เดียว (ต้องแย่งกันเป็น) ส่วนคนที่เหลือจะได้ตำแหน่งลดหลั่นกันลงมา
หลังจาก geohot เคลียร์คดีกับโซนี่ได้ เขาก็เงียบหายไปจากวงการ แต่ล่าสุดมีคนไปเจอว่าเขาเข้าทำงานกับ Facebook ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม และบอกข่าวนี้กับเพื่อนๆ บางคนของเขาในเดือนมิถุนายนนี้เอง
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า geohot ไปทำอะไรที่ Facebook แต่ในหน้า profile ของเขา (ซึ่งเปิดต่อสาธารณะ) ได้โพสต์ข้อความว่า
is Facebook is really an amazing place to work...first hackathon over.
ตามข่าวบอกว่า geohot ไม่ต้องการให้คนรู้มากนักว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เพราะตอนที่เขาโดนฟ้องและเป็นจุดสนใจจากสื่อ ก็มีผลกระทบต่องานประจำวันของเขามาก
หลังจากเฟซบุ๊กได้ประกาศว่ามีผู้ใช้ที่ active อยู่ในระบบถึง 500 ล้านบัญชีผู้ใช้ไปเดือนปลายเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ล่าสุดมีแหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนามได้ให้ข้อมูลกับ TechCrunch ว่าขณะนี้เฟซบุ๊กมีบัญชีผู้ใช้ที่ active อยู่ในระบบต่อเดือนสูงถึง 750 ล้านบัญชีแล้ว
เช่นเคย โฆษกของบริษัทยังไม่ได้ออกมายอมรับกับข่าวนี้แต่อย่างไร ซึ่งทาง TechCrunch ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะเฟซบุ๊กก็ไม่ได้ประกาศตัวเลขจำนวนผู้ใช้อีกเลยนับตั้งแต่คราวก่อน คาดกันว่าเฟซบุ๊กอาจรอให้ถึง 1,000 ล้านบัญชีผู้ใช้ก่อนถึงค่อยประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ที่มา: TechCrunch
Facebook for Android ออกรุ่น 1.6 พร้อมความสามารถใหม่ 3 อย่าง
Facebook for Android มีอัตราการเติบโตของผู้ใช้สูงกว่า Facebook for iPhone เสียอีก แต่เนื่องจากขาดฟีเจอร์ที่สำคัญหลายอย่าง ทำให้อัตราการใช้งานจริงกลับไม่เยอะนัก การออกรุ่นใหม่พร้อมเพิ่มฟีเจอร์สำคัญลักษณะนี้ น่าจะช่วยให้ Facebook for Android ได้รับความนิยมมากขึ้น
หนึ่งในคดีในโลกออนไลน์ที่โด่งดังที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมาคงต้องรวมคดีที่สองฝาแฝด Winklevoss ฟ้อง Mark Zuckerberg เอาไว้ด้วย โดยสองฝาแฝดนี้เคยได้รับเงินชดเชยไปแล้ว 65 ล้านดอลลาร์เพื่อจบคดี แต่อยู่ๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทั้งสองก็ตัดสินใจรื้อคดีขึ้นมาใหม่โดยอ้างว่าไม่ได้รู้ข้อมูลบางส่วน แต่ศาลอุทธรณ์ก็ยกฟ้องโดยระบุว่าเงินชดเชย 65 ล้านดอลลาร์นั้นเหมาะสมดีแล้ว โอกาสสุดท้ายของสองพี่น้องคือศาลฏีกา (U.S. Supreme Court) แต่สองฝาแฝดก็ออกมาให้ข่าวว่าได้ตัดสินใจจะไม่สู้คดีนี้ต่อไปอีกแล้วหลังจากได้พิจารณาอย่างรอบคอบ
ทางฝั่ง Facebook นั้นระบุว่าบริษัทมองว่าคดีนี้เป็นคดีที่จบไปนานแล้ว และยินดีที่คู่กรณีจะมองเหมือนๆ กัน
Skype ออกรุ่น 5.5 Beta (เฉพาะบนวินโดวส์) โดยมีฟีเจอร์สำคัญคือเชื่อมต่อกับ Facebook ตามสมัยนิยม
ใครสนใจทดสอบก็ดาวน์โหลด Skype 5.5 Beta กันตามสะดวก
ที่มา - Skype Blog
ข่าวลือสองข่าวของแอพ Facebook บนแพลตฟอร์มต่างๆ ครับ
ข่าวแรกคือ Facebook for iPad ที่หลายคนรอคอยกันมานาน หนังสือพิมพ์ New York Times รายงานว่ามันเสร็จแล้ว และจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ตามข่าวบอกว่ามันใช้เวลาพัฒนาหนึ่งปี และออกแบบมาอย่างดีสำหรับหน้าจอแท็บเล็ต แถม Mark Zuckerberg ยังลงมาคุมงานอย่างใกล้ชิดด้วย
แอพถ่ายภาพแล้วแชร์ผ่านเครือข่ายสังคมอย่าง Instagram หรือ Picplz (รวมถึงของนักพัฒนาไทยทั้ง Playground และ MOLOME) ต้องเจอคู่แข่งที่น่ากลัวเสียแล้ว เพราะมี "ภาพหลุด" ของแอพสำหรับถ่ายภาพแล้วแชร์ที่ Facebook ทำเอง (ภาพแอพบางส่วนดูได้ท้ายข่าว แบบเต็มๆ ดูได้จากที่มา)
เว็บไซต์ TechCrunch ได้ภาพหลุดของแอพอย่างเป็นทางการของ Facebook บนแพลตฟอร์ม iOS ซึ่งมีฟีเจอร์แบบเดียวกับแอพถ่ายภาพแล้วแชร์ทั้งหลาย (จากภาพยังไม่เห็นว่ามีฟิลเตอร์ให้ด้วยหรือไม่) รวมถึงมีฟีเจอร์เฉพาะของ Facebook อย่างการแท็กเพื่อนในภาพได้โดยตรง, การแชร์หลายภาพพร้อมกันเป็นอัลบั้ม, การถ่ายวิดีโอแล้วแชร์ ฯลฯ
ปัจจุบันมีคนอัพโหลดภาพขึ้น Facebook เดือนละ 6 พันล้านภาพครับ
RockMelt เว็บเบราว์เซอร์สำหรับ social network ออกรุ่นใหม่ Beta 3 (ข่าวเก่า Beta 1, Beta 2)
ของใหม่ใน Beta 3 ได้แก่
Facebook คงถึงเวลาที่ต้องเข้าตลาดหุ้นแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่ Mark Zuckerberg เคยบอกไว้ ทั้งนี้การเข้าตลาดหุ้นของ Facebook ก็เป็นเพราะเงื่อนไขที่บริษัทมีผู้ถือหุ้นเกิน 500 คน ทำให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินตามระเบียบข้อบังคับในอเมริกา โดยสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว Facebook ก็ควรเลือกเข้าตลาดหุ้นไปเลยดีกว่าซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่ที่กูเกิลเลือกเข้าตลาดหุ้นในอดีต
Facebook งานเข้าเสียแล้ว เพราะฟีเจอร์ Facial Recognition ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกเมื่อวาน กลายเป็นประเด็นถูกเพ่งเล็งด้านข้อมูลส่วนบุคคล
หลังเปิดตัวฟีเจอร์นี้ ก็มีองค์กรในยุโรป 3 องค์กรเข้ามาสนใจเรื่องนี้ โดยคณะกรรมการด้านข้อมูลข่าวสารของอังกฤษและไอร์แลนด์ เข้ามาหาข้อมูลว่าละเมิดกฎหมายด้านข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ ประเด็นปัญหาคือการตั้งค่าของ Facebook เองที่ค่า default อนุญาตให้ผู้ใช้ถูกแท็กอัตโนมัติได้
องค์กรที่สามเป็นกลุ่ม NGO ด้านข้อมูลส่วนบุคคลของยุโรปชื่อ Article 29 Data Protection Working Party ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจาก 27 ประเทศ และมีอิทธิพลต่อการออกกฎเกณฑ์ด้านข้อมูลส่วนตัวในยุโรปมาก
EA ประกาศเกม The Sims Social โดยจะลงเฟซบุ๊กก่อน แล้วตามมาด้วยมือถือในภายหลัง
รูปแบบการเล่นของ The Sims Social จะเหมือนกับ The Sims ปกติ แค่เพิ่มฟีเจอร์ด้าน social กับเพื่อนๆ ของเราเข้ามา (ซึ่ง The Sims เดิมก็ social ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว) จุดที่น่าสนใจคือเกมนี้เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างทีม The Sims เดิม กับค่าย Playfish ผู้เชี่ยวชาญด้านเกมบนเฟซบุ๊กที่ถูก EA ซื้อกิจการมาก่อนหน้านี้
ตอนนี้ EA ยังไม่ประกาศว่า The Sims Social จะเปิดให้เล่นเมื่อไร ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก Facebook Page ครับ
เมื่อปลายปีที่แล้ว Facebook เพิ่มฟีเจอร์ Facial Recognition ช่วยแนะนำว่าในรูปภาพที่อัพโหลดขึ้นไป มีเพื่อนเราคนไหนบ้าง ซึ่งก็มีประโยชน์อย่างมากในการแท็กภาพจำนวนมากๆ แต่ข้อเสียก็ชัดเจนว่าเป็นโอกาสทองของสแปม และช่วยให้เราโดนแท็กภาพโดยไม่รู้ตัวเยอะขึ้น
วันนี้ Facebook ประกาศว่าเพิ่มฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้ทุกคนแล้ว และนี่คือวิธีปิดครับ (แบบมีภาพประกอบดูตามลิงก์)
อ่านพาดหัวข่าวไม่ผิดครับและมันเกิดขึ้นในฝรั่งเศสด้วย โดยหน่วยงานที่ดูแลด้านสื่อของฝรั่งเศสออกคำสั่งห้ามผู้ประกาศในรายการโทรทัศน์และวิทยุพูดคำว่า Facebook และ Twitter เว้นเสียแต่ว่าเนื้อหาที่นำเสนออยู่เกี่ยวข้องกับสองเว็บไซต์ดังกล่าว ทั้งนี้หน่วยงานของรัฐบาลได้อ้างถึงบทบัญญัติเมื่อปี 1992 ซึ่งห้ามไม่ให้มีการโฆษณาแฝงโดยวิธีการเอ่ยชื่อสินค้า ซึ่งในการออกมาห้ามครั้งนี้ก็คือสินค้าที่ชื่อ Facebook และ Twitter
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Facebook เพิ่งเปิดให้ผู้ใช้เลือกใช้ HTTPS ตลอดเวลาได้จากความเสี่ยงที่เริ่มมีซอฟต์แวร์สำหรับแฮกออมาเป็นการเฉพาะ หากวันนี้ผู้อ่าน Blognone คนไหนยังไม่ได้เลือกตัวเลือกนี้ก็คงได้เวลาแล้วครับ เพราะมีแอพลิเคชั่นสำหรับ Android ชื่อ FaceNiff ออกมาดักจับ session ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าดูหน้า Facebook ได้เหมือนเจ้าของ
FaceNiff รองรับทั้ง Twitter และ Facebook มันสามารถทำงานบนเครือข่ายที่ไร้สายได้รับการเข้ารหัสได้แม้ยกเว้นเพียงการเข้ารหัสแบบ EAP เท่านั้น และหากซื้อรุ่นปลดล็อก จะมีซอฟต์แวร์สำหรับโอนบัญชีที่ดักจับได้ผ่านทาง Android เข้ามาเปิดในพีซีได้
บทความจาก The New York Times เปิดเผยว่าการที่ Facebook ซื้อ Drop.io ของ Sam Lessin ไปเมื่อปีที่แล้วในราคาเืกือบ 10 ล้านเหรียญ แล้วก็ปิดบริการไปแทบจะทันที ด้วยเหตุผลเดียวก็คือพวกเขาไม่ได้ต้องการ Drop.io แต่พวกเขาต้องการ Sam Lessin ผู้ก่อตั้งบริษัท
หลายคนเรียกสิ่งนี้ว่า "Acqhired" ซึ่งเป็นสิ่งที่กูเกิล, Facebook และ Zynga กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตอนนี้ เฉพาะปีที่แล้ว Facebook ได้ทำการซื้อบริษัทหน้าใหม่ไปกว่า 20 บริษัท จากนั้นก็ปิดบริการเหล่านั้นไปในแทบจะทันที ยกตัวอย่างเช่น Parakey, Hot Potato และ Octazen
นอกจากกระแสแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลังๆ แล้วอีกกระแสหนึ่งคือการสร้างแอพลิเคชั่นบนเว็บเครือข่ายสังคม เราได้เห็นบริษัทต่างประเทศจำนวนมากที่ทำธุรกิจจากการทำแอพลิเคชั่นบนเว็บเช่น Facebook อย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่สำหรับแอพลิเคชั่นของไทย ผมเชื่อว่าคนจำนวนมากรู้จักกับ "เซียมซีเพนกวิน" ที่แสดงคำทำนายให้กดกันแทบทุกวัน มันเป็นแอพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนกระทั่งหลายบริษัทใช้แนวคิดเดียวกันในการทำตลาดบน Facebook และวันนี้เราจะมาสัมภาษณ์ผู้สร้างเซียมซีเพนกวินกัน โดยไม่ใช่ใครอื่นไกล คุณกษมนั้นใช้ชื่อผู้ใช้บน Blognone ว่า e.p.
เมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าว Facebook เตรียมฟ้อง Lamebook.com ข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้า มาถึงตอนนี้ Lamebook.com ก็ยังคงเปิดตามปกติ
ล่าสุด Royal Pingdom ไปพบว่าทาง Facebook กำลังไล่จดโดเมนเนมที่มีความหมายโจมตีบริการและผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้เสียหาย เอาไว้เอง อาทิเช่น
(ทั้งหมดนี้นอกจาก .com แล้ว ยังรวมไปถึงโดเมนในสกุลอื่นๆ อย่าง .org, .net, .biz อีกด้วย)
Facebook ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Spotify ผู้ให้บริการ music streaming จากสวีเดนเพื่อเปิดตัวบริการ music streaming บน Facebook ซึ่งจะเปิดให้บริการแก่ผู้ใช้งานทั่วไปภายใน 2 สัปดาห์นี้ โดยในขณะนี้บริการดังกล่าวอยู่ในช่วงของการทดสอบระบบ
สำหรับการใช้งานนั้นผู้ใช้งาน Facebook จะเห็นไอคอนของ Spotify อยู่ด้านซ้ายของหน้า News Feed เช่นเดียวกันไอคอน Photo และ Events หากผู้ใช้งานคลิกที่ไอคอนของ Spotify โปรแกรมจะติดตั้งไปยัง desktop ของผู้ใช้งานโดยทำงานแบบ background บริการนี้จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเพลงที่อยู่บน Spotify ได้ร่วมกันกับผู้ใช้งาน Facebook คนอื่นๆ
ทั้ง Bing และกูเกิลต่างผนวกรวมข้อมูลจาก Twitter เข้ามาอยู่ในผลการค้นหาของตัวเองแล้ว แต่ในกรณีของข้อมูลจาก Facebook ซึ่งมีความสัมพันธ์กับกูเกิลในฐานะ "คู่แข่ง" ก็มีเพียง Bing เจ้าเดียวที่ได้มา
เมื่อปลายปีที่แล้ว Bing ได้ประกาศว่าจะรวมผลการกด Like ของเพื่อนๆ เข้ามาในผลการค้นหาของเราด้วย
วันนี้ Bing ประกาศเพิ่มเติมว่าจะนำข้อมูลอื่นๆ จาก Facebook เข้ามารวมในผลการค้นหาของตัวเองอีกชุดใหญ่
สิ่งที่ประกาศวันนี้มีดังนี้
เว็บไซต์ Inside Facebook เก็บสถิติผู้ใช้งานในแต่ละประเทศ และพบว่าอัตราการเติบโตของผู้ใช้ในบางประเทศเริ่มลดลง แถมบางประเทศกลับมีจำนวนสมาชิกลดลงด้วยซ้ำ
ประเทศกลุ่มนี้มีลักษณะร่วมกันคือเป็นประเทศแรกๆ ที่ Facebook ฮิตในประเทศนั้นๆ ตามสถิติที่ Inside Facebook นำมาเสนอมี 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ตุรกี สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย กลุ่มประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตน้อยกว่า 5% ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา
นี่อาจเป็นสัญญาณว่า Facebook เริ่มอิ่มตัวแล้ว (คนที่น่าจะเป็นสมาชิกก็เป็นกันเกือบหมดแล้ว)
ที่มา - Inside Facebook
เมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมา ทาง Facebook ได้ออก "Promotions Guidelines" ซึ่งเป็นเหมือนกฏเกณฑ์สำหรับการประกาศ โปรโมท หรือทำกิจกรรมต่างๆ บน Facebook (เช่น การแข่งขัน ประกวด ฯลฯ) โดยกฏตัวล่าสุดนี้ ได้เพิ่มข้อจำกัดในการทำกิจกรรมขึ้นมาก มีสาระสำคัญ เช่น
ก่อนหน้านี้ Facebook เคยประกาศไปแล้วว่าจะเพิ่มระบบล็อกอิน 2 ชั้น วันนี้มันมาแล้วในชื่อ "Login Approvals"
การทำงานของ Login Approvals ก็ตรงไปตรงมาคือหลังจากใส่รหัสผ่านเสร็จแล้ว Facebook จะส่งโค้ดอีกชุดมาให้เราผ่าน SMS และเราต้องป้อนโค้ดชุดนี้เพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้งหนึ่ง (กระบวนการนี้จะต้องทำเฉพาะล็อกอินในคอมพิวเตอร์เครื่องที่ไม่เคยเล่น Facebook มาก่อนเท่านั้น)
ตอนนี้ Facebook ยังให้ผู้ใช้เป็นคนเลือกเปิดฟีเจอร์ Login Approvals เอาเอง (opt-in) ผมดูในหน้า Settings > Security ตอนนี้ก็มีให้เลือกแล้วครับ ถ้าใครกังวลว่าจะโดนขโมยบัญชี ก็ควรเปิดตัวเลือกนี้เอาไว้