Google Play เปิดให้นักพัฒนาทดสอบแอพของตัวเองแบบ closed beta โดยสมัครผ่าน Google Groups มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ล่าสุดกูเกิลเปิดให้นักพัฒนาสามารถทดสอบเพิ่มได้อีก 2 รูปแบบคือ

• open beta เปิดให้ใครก็ได้เข้ามาทดสอบแอพ แต่นักพัฒนาสามารถจำกัดจำนวนผู้ทดสอบได้
• closed beta แบบจำกัดตามอีเมล สามารถเจาะจงได้ว่าให้ใครทดสอบบ้าง วิธีการใช้งานคืออัพโหลดไฟล์อีเมลเป็น .csv หรือจะไล่เพิ่มทีละเมลก็ได้ จากนั้นนักพัฒนาจะได้ลิงก์เฉพาะสำหรับแจกผู้ใช้แต่ละคนให้เข้าไปดาวน์โหลดแอพ

ที่มา - Android Developers Blog

กูเกิลเคยประกาศไว้ในงาน Google I/O 2015 ว่าแอพใน Google Play สามารถลงโฆษณาเพื่อให้แอพของตัวเองเด่นๆ ในหน้าแสดงรายการแอพได้ วันนี้มันมาแล้วครับ

หน้าตาของโฆษณาใน Google Play จะคล้ายกับ AdWords ของกูเกิล นั่นคือแสดงเป็นอันดับแรกในผลการค้นหา และมีคำว่า Ad แปะอยู่เพื่อให้รู้ว่าเป็นโฆษณา (ดูภาพประกอบ)

สำหรับคนที่อยากลงโฆษณาใน Google Play ก็สามารถใช้งานได้จากหน้า AdWords โดยเลือกประเภทเป็น Search Ads on Google Play

ที่มา - Inside AdWords

Chrome for Android กลายเป็นแอพล่าสุดบน Google Play Store ที่มียอดติดตั้งเกิน 1 พันล้านครั้ง เข้าทำเนียบ "แอพพันล้าน" ตามหลังแอพรุ่นพี่ๆ อย่าง Gmail, Google Maps, YouTube, Facebook, Messenger, WhatsApp ไปเรียบร้อยแล้ว

แอพชุดต่อไปที่มีโอกาสแตะหลักพันล้านได้คือ Google Street View และ Google Play Music ที่มียอดดาวน์โหลดเกิน 500 ล้านครั้งแล้ว แต่ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งกว่าจะเข้าสู่หลักพันล้านได้ครับ

ที่มา - Talk Android

ภาพจากงาน Google I/O 2015

Google ทยอยแยกแอพพื้นฐานจากระบบปฏิบัติการ Android ของตนเอง ให้เป็นแอพเดี่ยวเพื่อปล่อยให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมาใช้งานได้อย่างอิสระเพิ่มมากขึ้นหลายตัว และล่าสุดก็เป็นแอพนาฬิกา Google Clock

ตัวแอพ Clock ของ Google นี้ก็เป็นแอพนาฬิกาที่ได้รับการปรับแต่งหน้าตาตามแบบฉบับ material Design ของ Google ซึ่งนอกเหนือจากหน้าที่ใช้เพื่อบอกเวลาท้องถิ่นแล้ว ก็ยังสามารถบอกเวลาเมืองต่างๆ ของโลก รวมทั้งฟังก์ชั่นเพื่อใช้เป็นนาฬิกาจับเวลา และนาฬิกาปลุกด้วย โดยในส่วนการใช้งานตั้งเวลาปลุก ผู้ใช้ยังสามารถจับคู่กับอุปกรณ์ Android Wear เพื่อปิดเสียงนาฬิกาปลุกหรือเลื่อนเวลาปลุกได้ด้วย

แอปเปิลและกูเกิลมักจะรายงานสถิติของสโตร์ในงานสำหรับนักพัฒนาช่วงกลางปีเสมอ แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบได้อย่างแม่นยำ แต่ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงระหว่างผู้ใช้งานและผู้ให้บริการ

ในปี 2014 แอปเปิลจ่ายเงินให้กับนักพัฒนาแอพ 1 หมื่นล้านเหรียญ และกูเกิลจ่ายไป 5 พันล้านเหรียญ และผู้ใช้ Android มากกว่า iOS ถึงเท่าตัว เท่ากับว่าผู้ใช้ iOS ใช้เงินบนสโตร์มากกว่าผู้ใช้ Android ประมาณ 4 เท่า

Cyanogen ยังเดินหน้าแผนเป็นแพลตฟอร์มมือถือขั้วที่สาม อย่างต่อเนื่อง เพิ่งประกาศบุกอินโดนีเซียไปได้ไม่นาน วันนี้จับมือกับ Playphone แอพสโตร์ทางเลือกสำหรับแอนดรอยด์แล้ว

Playphone เป็นแอพสโตร์แอนดรอยด์ที่เน้นคอนเทนต์จำพวกเกม (มีแอพจากรายใหญ่อย่าง Square Enix อยู่ด้วย) โดยเน้นไปที่การให้บริการครบวงจรในส่วนของเกมทั้งฟีเจอร์เชื่อมต่อกับเพื่อน ผังคะแนน แนะนำเกม และฟีเจอร์โซเชียลอื่นๆ รวมถึงจุดเด่นอีกอย่างคือการให้บริการในประเทศที่ Play Store เข้าไม่ถึง

บริษัท Google ได้เจรจาเพื่อนำบริการเข้าไปใช้ในประเทศจีน จากแหล่งที่มากล่าวว่า 3 ใน 6 ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือหลักของประเทศจีน คือ ZTE, Huawei, Coolpad, Lenovo, Vivo และ Oppo จะรับพิจารณาข้อเสนอนั้น ซึ่งทาง Google จะจ่าย 1 ดอลลาร์ให้สำหรับโทรศัพท์ 1 เครื่องมีการติดตั้ง Google Play

หากกล่าวถึงผู้นำทางด้านตลาดโทรศัพท์ของจีน อย่าง Xiaomi ที่ขายโทรศัพท์ได้ 80 ล้านเครื่องในปี 2015 นั้น คุณ Wang Yanhui ผู้อำนวยการพันธมิตรไชน่าโมบายล์ ได้กล่าวว่า Google อาจจะต้องจ่ายเงินเกือบ 500 ล้านหยวน (81,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน

กูเกิลอัพเดตแอพ Play Store ของแพลตฟอร์ม Android TV แบบเงียบๆ โดยมีจำนวนแอพบน Play Store ที่รองรับ Android TV มากกว่า 600 ตัวแล้ว

นอกจากนี้กูเกิลยังประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้ Android TV ในงาน Google I/O 2015 ชื่อว่า Android TV Channels มันคือการสร้าง "ช่องรายการสด" แบบเดียวกับทีวีทั่วไป แต่เปิดให้ผู้ให้บริการวิดีโอออนไลน์บางแห่ง (เช่น TED, Vevo, Bloomberg) สามารถจัดเรียงเพื่อสร้างช่องรายการสดของตัวเองได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานกดสลับช่องได้เหมือนกับการดูทีวีจริงๆ แถมยังสามารถใส่โฆษณาแทรกลงไประหว่างรายการได้อีกด้วย

นอกจากตัวระบบปฏิบัติการ Android และเครื่องมืออื่นๆ สำหรับนักพัฒนาแล้ว กูเกิลยังเพิ่มความสามารถให้ Google Play Developer Console เพื่อสนับสนุนแอพของนักพัฒนาให้ทำรายได้-มีผู้ใช้งานมากขึ้น

ฟีเจอร์แรกคือกูเกิลผนวกเอาระบบโฆษณาของตัวเอง มาอยู่ใน Google Play Developer Console เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นนักพัฒนาสามารถซื้อโฆษณาแบบ install ads ได้จาก Google Play Developer Console เลย การใช้งานก็เพียงแค่ตั้งงบประมาณที่ต้องการจ่ายเท่านั้น ที่เหลือกูเกิลจะกระจายโฆษณาไปยัง AdWords, AdMob, YouTube รวมถึง search ads บนหน้า Google Play ที่จะเริ่มใช้ในเร็วๆ นี้ด้วย

หลังจาก Google Play เริ่มเปิดรับแอพสำหรับเด็กและครอบครัว มาได้ระยะหนึ่ง กูเกิลก็ใช้เวที Google I/O 2015 เปิดเซคชั่น Family ใน Google Play Store แล้วทั้งเว็บและแอพ (ผมลองกับ Play Store ของไทยก็ใช้ได้แล้วนะครับ)

สื่อที่มีเนื้อหาหมวด Family ได้แก่ Apps, Games, Movies & TV จะมีปุ่ม Family เพิ่มเข้ามา ส่วน Books จะเป็นหมวดชื่อ Children's Books แทน โดยเนื้อหาในหมวด Family จะถูกคัดกรองแล้วว่าไม่เป็นพิษเป็นภัยสำหรับเด็กๆ

เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 2299410 ได้ออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึงวิธีการโกงเหรียญใน LINE for Android ที่ใช้ช่องโหว่ของ Google Play Carrier Billing และซิมเติมเงินที่ไม่ได้ลงทะเบียนในการดำเนินการ เรื่องนี้เป็นกระแสใหญ่ในสังคมออนไลน์อยู่ระยะหนึ่งจนกระทั่งมีความคืบหน้าจากทั้งสามฝ่ายในวันนี้

ในอัพเดตของ Google Play Store 5.4 ที่เพิ่งหลุดมาไม่กี่วันก่อน เพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้ที่ชอบของใหม่ไม่พลาดแอพที่กำลังเล็งไว้ โดยไม่ต้องมาจดๆ จ้องๆ รอกันอีกต่อไป

โดยฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือการเปิดให้นักพัฒนาสามารถตั้งค่าให้ผู้ใช้สั่งจองแอพที่ต้องการได้ก่อนจะปล่อยให้ดาวน์โหลดจริง โดยแอพที่เปิดให้จองได้จะขึ้นคำว่า Coming Soon พร้อมกับปุ่ม pre-register ที่จะขึ้นมาแทนปุ่มติดตั้ง โดยการจองจะไม่มีค่าใช้จ่ายจนกว่าตัวเกมจะปล่อยให้ดาวน์โหลดจริง ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้ใช้อีกครั้ง

สำหรับเกมแรกที่เห็นใช้ฟีเจอร์นี้แล้วคือ Terminator Genisys: Revolution จากค่าย Glu ครับ

กูเกิลออก YouTube Kids แอพดูวิดีโอที่คัดเฉพาะเนื้อหาสำหรับเด็กๆ มาก่อนแล้ว คราวนี้เป็นคิวของ Google Play ที่จะทำแบบเดียวกัน ภายใต้โครงการแอพสำหรับเด็กและครอบครัวชื่อ Designed for Families

ตอนนี้หน้ารวมแอพแบบใหม่ยังไม่เปิดให้บริการ แต่กูเกิลเปิดให้นักพัฒนาที่คิดว่าแอพของตัวเองเข้าข่าย สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Designed for Families ได้แล้ว เท่าที่ผมลองอ่านเงื่อนไขพบว่าเข้มงวดพอสมควร เช่น ต้องมีระบบเรตติ้ง และต้องคุมเนื้อหาของโฆษณาที่จะแสดงบนแอพด้วย

ใครที่ตามข่าวแอพมือถือคงเคยเจอกับประสบการณ์อัพเดตแอพแล้วแอพเด้ง หรือใช้งานไม่ได้กันอยู่บ้าง (แม้แต่แอพของกูเกิลเองก็เคยเป็น) โดยเฉพาะกับ Play Store ของแอนดรอยด์ที่กระบวนการอัพโหลดแอพไปสู่ผู้ใช้ที่ค่อนข้างเร็วกว่าที่อื่นๆ แม้ว่าจะมีระบบให้ทดสอบในวงจำกัด ก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดกูเกิลออกมาเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Play Store เพื่อลดปัญหานี้แล้ว

ฟีเจอร์ใหม่ที่ว่านี้คือการอนุญาตให้นักพัฒนาสามารถระงับการดาวน์โหลดแอพที่มีปัญหาได้ทันที ซึ่งจะสามารถใช้ได้กับแอพที่เปิดให้ดาวน์โหลดเป็นวงกว้างแล้ว (staged rollout) โดยเมื่อกดระงับ ตัว Play Store จะยกเลิกการให้ดาวน์โหลดแอพเวอร์ชันล่าสุด และให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเวอร์ชันก่อนหน้าแทน

Google Play ปรับนโยบายเกี่ยวกับการส่งแอพขึ้นสโตร์ใหม่ 2 ด้าน ดังนี้

หลังจากขายฮาร์ดแวร์ผ่านหน้าเว็บ Google Play มานาน วันนี้กูเกิลใช้โอกาสเปิดตัว Chromebook Pixel 2 เปิดร้าน Google Store อย่างเป็นทางการ

หน้าร้านออนไลน์ Google Store มีสินค้าของกูเกิลตั้งแต่ Chromebook Pixel, Nexus, Chromecast, Android Wear รวมถึงสินค้าจากบริษัทในเครืออย่าง Nest และอุปกรณ์เสริมสำหรับ Nexus ทั้งหลาย

กูเกิลปล่อยแอพ AdWords ขึ้นบน Play Store โดยตัวแอพมีคุณสมบัติดังนี้

• ดูสถิติของแคมเปญจน์
• ดูข้อมูลอัพเดต Bids และ Budgets
• Real-time notification
• ติดต่อ Google Expert

และสำหรับผู้ใช้งาน AdWords Express ก็สามารถดาวน์โหลดแอพ AdWords Express App ได้บน Play Store เช่นกัน

ที่มา - AdWords App on Play Store, Inside AdWords

กูเกิลเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับนักพัฒนาเกมบน Google Play เตรียมรับงาน Game Developers Conference (GDC) สัปดาห์นี้

ถ้าหากคุณคือนักพัฒนาแอพ Android ที่หนักอกหนักใจว่าทำอย่างไรคนที่เข้า Google Play จะหาแอพของคุณเจอเพราะดันมีแอพคล้ายๆ กันเป็นกระบุงอยู่ล่ะก็ Google กำลังเสนอทางออกให้คุณจ่ายเงินเพื่อโปรโมตแอพของคุณในหน้าค้นหา

ระบบนี้กำลังอยู่ในช่วงทดสอบเพื่อหยั่งผลตอบรับ โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ผู้ใช้ที่ค้นหาแอพใน Google Play จะเห็นโฆษณาแอพในหน้าแสดงผลการค้นหาด้วย โดยแอพที่ได้รับการโฆษณาเป็นกลุ่มแรกๆ นั้นก็คือแอพของผู้ที่ซื้อโฆษณาจาก Google Ads อยู่ก่อนแล้ว จากนั้นในเดือนถัดไป Google Play จะเริ่มขยายงานโฆษณาสำหรับนักพัฒนารายอื่นเพิ่มมากขึ้นพร้อมสำรวจความเห็นจากทั้งกลุ่มนักพัฒนาเองและจากผู้ใช้ที่ค้นหาแอพใน Google Play

นักพัฒนาแอพ Android ก็โปรดติดตามข่าวคราวกันให้ดี

ดูเหมือนกูเกิลจะใจดี สุ่มแจกเงินจำนวนหกดอลลาร์สหรัฐให้ผู้ใช้ Chromecast เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจบน Google Play ให้ผู้ใช้เช่าหนังรักโรแมนติกไปดูในวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยการแจกเงินในครั้งนี้ กูเกิลจะให้เป็น Google Play credit สำหรับนำไปเช่าซื้อเนื้อหาบน Google Play ได้อย่างอิสระ

ในการตรวจสอบการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ผู้ใช้ Chromecast สามารถตรวจสอบได้ดังนี้ครับ

Simon Pang ผู้สร้างบริการ TapCase บริการสร้างแอพพลิเคชั่นต้นแบบ ทวีตภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งทำงานหน้าโทรศัพท์มือถือหลายสิบเครื่อง พร้อมกับระบุว่า "กระบวนการให้คะแนนของ App Store เป็นแบบนี้ ขอต้อนรับสู่โลกความเป็นจริง"

หลังจากนั้น Barry Meade ผู้ร่วมก่อตั้ง Fireproof Games ก็ทวีตภาพนี้อีกครั้งระบุว่า ผู้พัฒนาที่ได้รับความเคารพหลายรายใช้ระบบแบบนี้ทุกวัน

บริษัทความปลอดภัย Avast รายงานพฤติกรรมของเกมไพ่ Durak บน Google Play ที่มีคนดาวน์โหลดไปแล้ว 5-10 ล้านครั้ง (ตามสถิติของกูเกิล)

เกมนี้ฉากหน้าเป็นเกมไพ่ธรรมดา เล่นได้ปกติ แต่เมื่อลงเกมผ่านไปหลายๆ วัน (เช่น 7 วัน) แล้วบูตเครื่องใหม่จะพบข้อความแจ้งเตือนว่าเครื่องเราโดนแฮ็ก ติดไวรัส หรือไม่อัพเดต (ข้อความแตกต่างกันออกไปแบบสุ่ม) ข้อความเหล่านี้เป็นข้อความหลอกให้เรากดอัพเดต ซึ่งจะพาเราไปยังเว็บเพจที่หลอกให้ดาวน์โหลดแอพหรือสมัคร SMS แบบเสียเงินราคาแพงอีกชั้นหนึ่ง

Avast พบพฤติกรรมแบบนี้กับแอพหลายตัวบน Google Play นอกจาก Durak แล้วยังมีแอพชื่อ IQ Test และ History (แต่ Durak มีคนดาวน์โหลดมากที่สุด)

หลังจากแทบจะไม่มีสมาร์ทโฟนติดตรา Google Play Edition หรือสมาร์ทโฟนจากบรรดาผู้ผลิตที่หยิบมาใส่ Android แบบ stock ในปี 2014 ข้ามมาถึงปี 2015 โครงการนี้ดูเหมือนจะถึงจุดจบเสียแล้ว เมื่อรุ่นสุดท้ายที่ยังเป็น Google Play Edition อย่าง HTC One (M8) เลิกขายอย่างเป็นทางการ

โครงการ Google Play Edition นี้เริ่มต้นในงาน Google I/O ปี 2013 โดยมี Galaxy S4 เป็นรุ่นแรก ตามมาด้วย HTC One (M7) ที่เปิดตัวตามมาติดๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนๆ กูเกิลที่ต้องการ Andriod แบบเพียวๆ ไม่ใช่น้อย ก่อนจะเริ่มมีรุ่นเข้าโครงการนี้น้อยลงในปี 2014 (มีเรือธงรุ่นเดียวคือ HTC One M8) จนมาถึงการเลิกขายในวันนี้

ใครที่เคยนั่งค้นหาแอพใหม่ๆ น่าจะคุ้นเคยกับบรรดานักพัฒนาแอพที่ใช้คำชื่นชมจากผู้ใช้งานที่ถูกยกขึ้นมาไว้รวมกับหน้ารายละเอียดของแอพเพื่อดึงดูดผู้ใช้มากขึ้น โดยเราไม่เคยรู้ว่าผู้ใช้ที่ว่านี้มีตัวตนจริงหรือไม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่คงไม่ใช่สำหรับกูเกิลในวันนี้เสียแล้วครับ

กูเกิลเพิ่งประกาศเปลี่ยนแปลงไกด์ไลน์สำหรับแอพที่ลงบน Play Store เล็กน้อย โดยเพิ่มกฎไม่ให้ใส่ความเห็นชื่นชมของผู้ใช้เข้าไปในรายละเอียดแอพ โดยเหตุผลที่ห้ามก็มาจากนักพัฒนาส่วนใหญ่ที่ใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อใส่คีย์เวิร์ดซ้ำซ้อนเกินความจำเป็น จนทำให้ผลการค้นหาของแอพดังกล่าวอันดับดีขึ้น รวมถึงการใช้คีย์เวิร์ดที่ไม่เกี่ยวข้องกับแอพเพื่อดึงดูดให้ดาวน์โหลดมาใช้งาน

Amazon ถอดแอพช็อปปิ้ง Amazon App for Android Phones ของตัวเองออกจาก Google Play หลังจากกูเกิลปรับนโยบายแอพในเดือนกันยายน ทำให้แอพของ Amazon ที่มีลิงก์ไปยังร้านขายแอพของตัวเอง Amazon Appstore กลายเป็นผิดกฎของ Google Play

กฎใหม่ของกูเกิลห้ามไม่ให้แอพใดๆ สนับสนุนหรือส่งเสริมให้ใช้ร้านขายแอพอื่นที่ไม่ใช่ Play Store ซึ่งแอพของ Amazon มีขายสินค้าและเนื้อหาดิจิทัลของตัวเองผ่าน Amazon Appstore จึงถือว่าผิดกฎข้อนี้