Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวใหม่ Nova 7i ในประเทศมาเลเซีย (ขยับตัวเลขของซีรีส์ Nova จาก 5 ไป 7 เลย)

สเปกเท่าที่เปิดเผยคือ กล้องหลัง 4 ตัว 48MP พร้อมโหมดถ่ายกลางคืน Super Night Mode 2.0, หน่วยประมวลผล Kirin 810, ระบบชาร์จเร็ว 40 วัตต์, หน้าจอ 6.4" FHD+ แบบเจาะรู, แรม 8GB, สตอเรจ 128GB, แบตเตอรี่ 4200 mAh

ราคาเปิดพรีออเดอร์ในมาเลเซียอยู่ที่ 1,099 ริงกิต (ประมาณ 8,300 บาท) โดยจะแถม Huawei Band 4 ด้วย

เว็บไซต์ Huawei Central ระบุว่ามือถือตัวนี้คือการนำ Nova 6 SE เวอร์ชันจีนมารีแบรนด์ใหม่

Vodafone ประกาศแผนเริ่มย้ายอุปกรณ์เครือข่ายของ Huawei ออกจากโครงข่ายหลัก (core network) ในยุโรป ซึ่งต้องใช้เวลา 5 ปีถึงจะเสร็จสิ้น

เหตุผลที่ Vodafone ย้ายระบบเกิดจากกฎใหม่ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์ของ Huawei กับโครงข่ายหลัก ส่วนโครงข่ายที่เป็น non-core ก็ไม่ให้ใช้อุปกรณ์เครือข่ายยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเกิน 35% ของเครือข่าย 5G ทั้งประเทศเพื่อป้องกันการผูกขาด

แผนการนี้จะใช้กับธุรกิจทั้งหมดของ Vodafone ในยุโรป โดย Nick Read ซีอีโอของ Vodafone ให้สัมภาษณ์ว่าต้องใช้เวลานานถึง 5 ปีเพราะระบบมีความซับซ้อนสูงมาก แถมยังทำให้การให้บริการ 5G ต้องช้าออกไปอีก

งบประมาณทั้งหมดที่ Vodafone ใช้ย้ายระบบคือ 200 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 8 พันล้านบาท

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน ระบุว่า Huawei จะเข้าร่วมกับค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจีนรายอื่น ในการเปิดตัว Global Developer Service Alliance (GDSA) ที่จะสร้างแอปสโตร์ร่วมกัน

สมาชิกของ GDSA ตอนนี้มี Xiaomi, Oppo, และ Vivo (สองรายหลังมีเจ้าของเดียวกัน) หาก Huawei เข้าร่วมจริงก็จะมีส่วนแบ่งตลาดรวมสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตามสมาชิกทั้งสามรายยังไม่มีใครออกมายืนยันว่า Huawei จะเข้าร่วมจริง

Huawei ประเทศไทยเปิดตัว Huawei MateBook D15 โน้ตบุ๊กราคาถูก แต่บอดี้และดีไซน์ยังมีความพรีเมียมจากวัสดุโลหะ หน้าจอ IPS ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด FHD ซีพียู Ryzen 5 3500U การ์ดจอ Radeon Vega 8 แรม 8GB หน่วยความจำ PCIe SSD 256GB + 1TB HDD มาพร้อม Windows 10 Home และระบบ Huawei Share

แบตเตอรี่ขนาด 42Wh ชาร์จผ่าน USB-C พร้อมพอร์ตอย่าง USB-A, HDMI และ 3.5 มม. กล้องหน้า 1 ล้านพิกเซล ถูกซ่อนเอาไว้ที่ปุ่ม F6 มีสี Mystic Silver และ Space Grey ราคา 17,990 บาท เปิดจอง 6-14 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมของแถมมูลค่า 6,960 บาท แบ่งเป็นกระเป๋าเป้, Wireless Mouse, Huawei Freelace และ Huawei Power Bank

และหากจองผ่าน JD Central จะได้รับคูปองส่วนลดเพิ่มอีก 3,000 บาท พร้อมตัวเลือกผ่อน 0% 10 เดือน

บริษัทวิจัยตลาด Canalys ประกาศยอดขายสมาร์ทโฟนตลอดปี 2019 ผลคือ Huawei สามารถแซงแอปเปิลขึ้นมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสองของโลกได้สำเร็จ

ซัมซุงยังครองแชมป์ที่ส่วนแบ่งตลาด 21.8% (เพิ่มขึ้นจากปี 2018 เล็กน้อย) ยอดขาย 298.2 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 2%

Huawei ผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์สองที่ส่วนแบ่ง 17.6% ยอดขาย 240.6 ล้านเครื่อง เติบโต 17% มากที่สุดในบรรดาผู้เล่นทั้งหมด

งานเข้า Huawei อีกคำรบแล้วเมื่อสำนักข่าว Handelsblatt ของเยอรมนีอ้างว่าตัวเองได้เอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีที่ส่งมาจากสหรัฐเมื่อปลายปี 2019 ซึ่งเอกสารระบุว่า Huawei ร่วมมือและสมรู้ร่วมคิดกับหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลจีน

ล่าสุด Huawei ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นข้อกล่าวหาเดิม ๆ ที่ไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานใด ๆ รองรับเลย และยืนยันอีกครั้ง (รอบที่ร้อย) ว่า Huawei ไม่เคยและไม่มีวันเปิดให้ใครเข้าถึงเครือข่ายและข้อมูลของลูกค้าได้

Galaxy Fold ของซัมซุงเป็นมือถือจอพับรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาด ก่อนจะพบปัญหาหน้าจอบริเวณข้อพับจนต้องเลื่อนวันวางขาย ซึ่ง Huawei Mate X ก็เลื่อนวันขายไปเช่นกันเพื่อนป้องกันปัญหาลักษณะเดียวกันก่อนจะวางขายเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาในจีน ซึ่ง Huawei ก็ระบุด้วยว่ายอดขายดีมาก

ล่าสุดมีรายงานว่าลูกค้าที่ซื้อ Mate X พบปัญหาบริเวณหน้าจอตรงข้อพับคล้าย ๆ กับที่เกิดใน Galaxy Fold ขณะที่ค่าซ่อมหน้าจออยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท หรือเกือบครึ่งหนึ่งของราคาเต็มในจีนที่ราว 73,000 บาท

ทั้งนี้มีแอคเคาท์ YouTube ชื่อ Fold Universe รวบรวมคลิปที่ Mate X พบปัญหาหน้าจอเอาไว้ด้วย

หลังจากทดสอบรอมรุ่นเบต้ามาสักระยะ Huawei ก็ประกาศแผนการปล่อยอัพเดตรอม EMUI 10 ที่ใช้ Android 10

สมาร์ทโฟนกลุ่มแรกที่จะได้อัพเดตคือ P30, P30 Pro, Mate 20, Mate 20 Pro, Mate 20 X, Nova 5T ภายในเดือนมกราคมนี้

สมาร์ทโฟนกลุ่มต่อไปที่จะได้อัพเดตตามมาคือ Mate 20 RS, Mate 20 X 5G, P30 Lite, Nova 4e, P20, P20 Pro, Mate 10, Mate 10 Pro, Mate 20 Lite, Nova 4, Nova Lite 3 และแบรนด์ Huawei P Smart ที่ทำตลาดในบางประเทศ

ฟีเจอร์ใหม่ของ EMUI 10 คืออินเทอร์เฟซปรับปรุงใหม่ ปรับเปลี่ยนไอคอน, รองรับ Dark Mode เต็มรูปแบบ เป็นต้น

ที่มา - 9to5google

ตัวแทนของ TomTom บริษัทแผนที่สัญชาติเนเธอร์แลนด์ เผยกับ Reuters ว่าเซ็นสัญญากับ Huawei เพื่อให้นำข้อมูลแผนที่ไปใช้ในแอพบนสมาร์ทโฟนแล้ว

TomTom บอกว่าเซ็นสัญญานี้มาสักพักแล้ว แต่เพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ ถึงแม้ TomTom ไม่เปิดเผยรายละเอียดของสัญญา ก็เดากันได้ไม่ยากว่า Huawei ซื้อข้อมูลแผนที่ไปใช้แทน Google Maps ใน Google Mobile Services (GMS) ที่มีปัญหาโดนแบน (TomTom เป็นบริษัทนอกสหรัฐ ไม่มีปัญหานี้)

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Blognone ได้รับเชิญจาก Huawei ให้เข้าร่วมงาน Huawei Developer Day APAC 2019 ที่สิงคโปร์ ซึ่งเดโมตัวบริการ Huawei Mobile Services (HMS) บนเวทีก็โชว์ว่าใช้ข้อมูลแผนที่ของ TomTom แล้ว

หัวเว่ยประกาศยอดขายสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ตลอดปี 2019 ว่ามีจำนวนมากกว่า 6.9 ล้านเครื่อง ซึ่งสูงกว่า 6.7 ล้านเครื่องที่ซัมซุงออกมาประกาศก่อนหน้านี้

สมาร์ทโฟน 5G รุ่นเด่นที่หัวเว่ยจำหน่ายในปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ Mate 20 X 5G ส่วนปลายปีมี Mate 30, Mate 30 Pro และ Nova 6 5G รวมทั้งสมาร์ทโฟนพับได้ Mate X

หัวเว่ยเป็นอีกบริษัทที่วางกลยุทธ์ออกสมาร์ทโฟนรองรับ 5G เพิ่มขึ้นในปี 2020 นี้

เทรนด์การรักษาสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ผู้ใช้หันมาสนใจสมาร์ทว็อชมากขึ้น และถ้าสังเกตจะเห็นว่าแบรนด์นาฬิกาชั้นนำหลายแบรนด์ก็ผลิตนาฬิกาประเภทนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึง Huawei Watch GT 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมก็เป็นสมาร์ทว็อชอีกรุ่นที่มาพร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพ

รีวิวนี้ผู้เขียนนำ Huawei Watch GT 2 ไปใช้งานมาหนึ่งสัปดาห์แบบผู้ใช้ทั่วไป ไม่ได้เข้าฟิตเนส ว่ามีจุดไหนน่าสนใจและมีจุดแตกต่างจาก Apple Watch ที่เคยใช้งานมาก่อนแค่ไหน

Huawei ประกาศผลประกอบการตลอดทั้งปี 2019 รายได้รวม 8.5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท) เติบโตขึ้น 18% จากปี 2018 แม้โดนมรสุมการแบนจากรัฐบาลสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ถือว่าโตน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และน้อยกว่าอัตราการเติบโตของปี 2018 (ทำไว้ 19.5%) แสดงให้เห็นว่าการแบนของรัฐบาลสหรัฐมีผลกระทบต่อ Huawei อยู่บ้าง

ส่วนตัวเลขยอดขายมือถือของ Huawei อยู่ที่ 240 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้นจากปี 2018 ที่ขายได้ 206 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของ Huawei ในปี 2020 จะเริ่มประสบปัญหาไม่มี Google Mobile Services ซึ่งย่อมส่งผลระทบต่อยอดขายเช่นกัน

ยุทธศาสตร์ด้านมือถือของ Huawei หลังโดนรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแบน คือการสร้าง Huawei Mobile Services (HMS) ขึ้นมาแทน Google Mobile Services (GMS) ของกูเกิล

Huawei ใช้วิธีเชิญชวนนักพัฒนาแอพดังๆ ให้นำแอพมาลง App Gallery อีกช่องทางหนึ่ง ก่อนหน้านี้เราเห็นแอพไทยยอดนิยมอย่าง K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย ลง App Gallery กันมาแล้ว

Taiyo Yuden บริษัทผู้ผลิตตัวเก็บประจุในชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนคาดการณ์ว่า ปีหน้าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะสั่งซื้อชิ้นส่วนสำหรับสมาร์ทโฟน 5G มากขึ้น หลังบริษัทเริ่มได้รับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนเพื่อใช้ในสถานีฐาน 5G จาก Huawei และ ZTE เพิ่มขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ CEO ของ Taiyo Yuden คาดว่า Huawei จะขายสมาร์ทโฟน 5G ในประเทศจีนได้กว่า 100 ล้านเครื่อง และถ้า Apple เปิดตัว iPhone ที่รองรับ 5G อย่างที่คาดกัน บริษัทก็มีความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนให้เพียงพอต่อความต้องการอยู่แล้ว

ที่มา: Bloomberg

Richard Yu ซีอีโอ Huawei ฝ่ายสินค้าคอมซูมเมอร์เผยในงานประชุมที่เชินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าตอนนี้ทางบริษัทมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกเป็นอันดับที่ 2 และครองอันดับหนึ่งภายในประเทศจีน มียอดขายชนะ Apple ทั้งในและนอกประเทศ

Yu คาดว่าปี 2019 นี้ ยอดขายมือถือ Huawei ทั่วโลกจะแตะ 230 ล้านเครื่อง นับว่าเติบโตกว่าปีก่อน 12% และนอกจากมือถือแล้ว Huawei ก็เป็นผู้ผลิตสมาร์ทว็อชและหูฟังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ตลาดแท็บเล็ตในประเทศจีน Huawei ก็ได้รับความนิยมมากกว่าแท็บเล็ตของ Apple แล้ว และคาดว่าโน้ตบุ๊กของ Huawei ก็จะได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน

Huawei Thailand ประกาศเปิดบริการ Huawei Mobile Cloud พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์กับลูกค้า Huawei ในไทยแล้ว โดยผู้ใช้ทุกคนที่ใช้ EMUI 5.1 ได้พื้นที่ฟรี 5GB (ต้องล็อกอิน Huawei ID ก่อน)

• โปรโมชั่นอัพเกรดพื้นที่เป็น 50GB ในราคา 1 บาท/เดือน (จากปกติ 35 บาท/เดือน) เป็นเวลานาน 1 เดือน
• ผู้ใช้ Huawei Mate 30 Pro ได้พื้นที่ 50GB ฟรี 3 เดือน

Huawei ระบุว่าการเปิดบริการ Huawei Mobile Cloud ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ลูกค้าของตัวเองคุ้นเคยกับ Huawei Mobile Service (HMS) มากขึ้น

หลังจาก Huawei Mate 30 Pro ที่ได้คะแนน DXOMARK 121 คะแนน และยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่กล้องดีเป็นอันดับหนึ่งไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ทางเว็บก็นำ Mate 30 Pro 5G ไปทดสอบถ่ายภาพได้ผลสรุปที่ 123 คะแนน เหนือกว่า Mate 30 Pro รุ่นธรรมดาไป 2 คะแนน แบ่งเป็นคะแนนภาพนิ่ง 134 คะแนนและถ่ายวิดีโอได้ที่ 102 คะแนน

DXOMARK กล่าวว่าฮาร์ดแวร์กล้องของ Mate 30 Pro รุ่นธรรมดาและ 5G เหมือนกันทั้งหมด ภาพที่ได้จึงได้รายละเอียดที่ดี สีภาพถ่ายเข้ม, เก็บรายละเอียดในภาพและคุม noise ดีเหมือนกัน แต่รุ่น 5G เหนือกว่าจากการที่ Huawei ปรับแต่งซอฟท์แวร์ถ่ายภาพให้ดีขึ้น โหมดที่ DXOMARK กล่าวถึง ได้แก่โหมดซูมที่วัดแสงได้ดีขึ้นและแก้ปัญหาซูมแล้วถ่ายภาพเกิดโฟกัสหลุด

หลังเลื่อนมาหลายรอบ ในที่สุด Huawei ก็วางขายมือถือพับได้ Mate X ในประเทศจีนด้วยราคา 16,999 หยวน (ประมาณ 73,000 บาท)

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ Huawei ใช้โอกาสนี้เปิดตัวมือถือพับได้รุ่นที่สองทันที มันคือ Huawei Mate Xs ที่หน้าตาเหมือน Mate X แต่อัพเกรดหน่วยประมวลผลเป็น Kirin 990 5G รุ่นใหม่ล่าสุด แทน Kirin 980 ที่ใช้ใน Mate X รุ่นแรก

Huawei ระบุเวลาคร่าวๆ ว่าจะวางขาย Mate Xs ในช่วงเดือนมีนาคม 2020

Telenor บริษัทแม่ของ dtac ประกาศเลือก Ericsson เป็นอุปกรณ์เครือข่าย 5G สำหรับการวางเครือข่ายในประเทศนอร์เวย์

Sigve Brekke ซีอีโอของ Telenor ระบุว่าทดสอบอุปกรณ์จากผู้ผลิตทุกราย พิจารณาปัจจัยด้านต่างๆ อย่างละเอียด และตัดสินใจเลือก Ericsson เป็นพาร์ทเนอร์สำหรับเครือข่ายยุค 5G ในนอร์เวย์

Telenor ใช้อุปกรณ์จาก Huawei กับเครือข่าย 4G ซึ่งจะยังใช้งานอุปกรณ์เดิมต่อไปอีกประมาณ 4-5 ปี ระหว่างรออัพเกรดเป็นเครือข่าย 5G ให้ทั่วนอร์เวย์

เว็บไซต์ MyDrivers ของจีน รายงานข่าวว่าในงานแถลงข่าวของ Huawei ที่เมืองเซินเจิ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Dr. Wang Chenglu ประธานฝ่ายธุรกิจคอนซูเมอร์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการของระบบปฏิบัติการ HarmonyOS หรือ Hongmeng ดังนี้

ความขัดแย้งระหว่าง Huawei และรัฐบาลสหรัฐน่าจะยังคงลากยาวต่อไปอีกทั้งปี ล่าสุด Huawei ได้ยื่นฟ้อง FCC หรือ กสทช. ของสหรัฐ หลังหน่วยงานกำกับดูแลผ่านข้อบังคับห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการเครือข่ายขอเงินสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อซื้ออุปกรณ์โครงข่ายจาก Huawei และ ZTE แม้ก่อนหน้านี้จะเพิ่งขยายเวลาอนุญาตให้ผู้ให้บริการในชนบทใช้งานอุปกรณ์ Huawei ต่อไปอีก 90 วันก็ตาม

หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Huawei อ้างว่ากฎดังกล่าวของ FCC ละเมิดรัฐธรรมนูญและไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า Huawei เป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างไร โดยก่อนหน้านี้ Huawei เคยยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐมาแล้วด้วย

Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแคนาดา The Globe and Mail ว่าจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ทาง Huawei จะย้ายศูนย์วิจัยเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาไปอยู่ที่ประเทศแคนาดาแทน

ที่ผ่านมา Huawei ลงทุนกับศูนย์วิจัยเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาไปกว่า 510 ล้านดอลลาร์ พอเกิดสงครามการค้า พนักงานในสหรัฐอเมริกาก็ถูกห้ามติดต่อกับพนักงานในจีน จากสงครามการค้าครั้งนี้ทางบริษัทก็ลดพนักงานประจำศูนย์วิจัยในสหรัฐจาก 600 เหลือ 250 คน

Fomalhaut Techno Solutions ห้องแล็บด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่นได้จับ Mate 30 Pro มาวิเคราะห์ชิ้นส่วนภายในก่อนจะพบว่า ชิ้นส่วนทั้งหมดบนเรือธงล่าสุดของ Huawei ไม่มีเทคโนโลยีของสหรัฐเลยแม้แต่ชิ้นเดียว

แม้ในแง่การตลาดและประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้อาจมีปัญหา จากการไม่มีบริการของ Google และไม่สามารถใช้ Google Mobile Services ได้ แต่ในแง่ฮาร์ดแวร์แล้วยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า Huawei สามารถอยู่ได้โดยไม่จำเป็นง้อเทคโนโลยีจากสหรัฐเลย

ที่มา - Market Watch

วิธีการของ Huawei เพื่อรับมือปัญหาไม่สามารถใช้งาน Google Mobile Services (GMS) หลังโดนรัฐบาลสหรัฐแบน คือการสร้าง Huawei Mobile Services (HMS) ขึ้นมาทดแทน

แต่ถ้าลงลึกในรายละเอียด คำว่า HMS ถือเป็น "แบรนด์" ที่มีส่วนประกอบย่อยๆ มากมาย สามารถจัดเป็นกลุ่มได้ 3 แบบคือ HMS Core (แกน API หลัก), HMS Capabilities (API เสริม) และ HMS Connect (พวกร้านขายแอพ ช่องทางจัดจำหน่าย) ซึ่งบทความนี้เราจะมารู้จัก HMS Core ในฐานะตัวตายตัวแทนของ Google Play Services นั่นเอง

Huawei เปิดตัว MatePad Pro แท็บเล็ตขนาด 10.8" ทำงานร่วมกับ keyboard cover และปากกา M-Pen ใช้ชิปรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Kirin 990 และรองรับการชาร์จไร้สาย หน้าจอเป็นแบบเจาะรูเพื่อฝังกล้องหน้าเอาไว้ ตัว MatePad Pro ขายในประเทศจีนเท่านั้นจึงไม่มี Google Mobile Service

สเปกของ Huawei MatePad Pro จะมีดังนี้: