เว็บ iFixit ได้นำ Nintendo Switch โมเดลใหม่ที่มีการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ภายในบางรายการมาแกะดูชิ้นส่วน พบการเปลี่ยนแปลงดังนี้
ทั้งนี้วิธีสังเกต Nintendo Switch ว่าเป็นรุ่นอัพเกรดหรือไม่นั้น ดูได้หลายวิธี ตั้งแต่กล่องแบบใหม่ (ไม่มีมือ), เลขซีเรียลหน้ากล่องขึ้นต้นด้วย XKW และเลขโมเดลที่พิมพ์บนเครื่องคือ HAC-001(-01) ขณะที่รุ่นเดิมจะชื่อ HAC-001 ไม่มี (-01)
iFixit ได้ทำการแกะ MacBook Pro รุ่นใหม่ปี 2019 ที่เพิ่งเปิดตัวไป แม้รายละเอียดสำคัญของ MacBook Pro รอบนี้ จะเป็นการอัพเกรดซีพียู แต่เนื่องจากแอปเปิลก็ระบุเองว่ามีการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ในคีย์บอร์ดแบบ butterfly ซึ่งคาดว่าเพื่อแก้ไขปัญหาคีย์บอร์ดที่มีรายงานมาเป็นระยะ
ผลของการแกะนั้น iFixit พบสองรายการสำคัญที่น่าสนใจ อย่างแรกคือแผ่นยางซิลิโคนกันฝุ่น มีการเปลี่ยนวัสดุซึ่งจากเดิมซิลิโคนดูกึ่งทึบแสง มาเป็นแบบโปร่งแสง เบื้องต้น iFixit คาดว่าจะเป็นไนลอน
iFixit จับเอา Google Pixel 3a สมาร์ทโฟนระดับกลางของ Google มางัดแงะแล้วเรียบร้อย โดยภาพรวมคือ Pixel 3a ค่อนข้างแกะง่าย อย่างหน้าจขอก็ไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อน (ซึ่งนับว่าไม่ค่อยพบแล้วในสมาร์ทโฟนปัจจุบัน) ทว่าปัญหาคือหน้าจอจะค่อนข้างบอบบาง (เป็นจอซัมซุง) รวมถึงยิ่งทำให้น้ำเข้าง่ายมากขึ้น เมื่อหน้าจอถูกแกะออกมาแล้วครั้งหนึ่ง
ชิ้นส่วนภายในส่วนใหญ่เป็นแบบโมดูลาร์ ถอดเปลี่ยนง่าย อาจต้องระวังสายเคเบิลที่รกไปบ้าง โดย iFixit ยืนยันอีกครั้งว่าไม่พบ Pixel Visual Core บนแผงเมนบอร์ด โมดูลกล้องเดียวกับ Pixel 3 และยังคงมาพร้อมชิปความปลอดภัย Titan M
หลังเว็บไซต์ iFixit เผยแพร่บทความแกะเครื่อง Galaxy Fold ได้ไม่นาน ก็นำบทความนี้ออกจากหน้าเว็บแล้ว
iFixit อธิบายว่าได้รับฮาร์ดแวร์ Galaxy Fold เครื่องนี้มาจาก "พาร์ทเนอร์รายหนึ่ง" (คาดกันว่าน่าจะเป็นโรงงานรับจ้างผลิต) และซัมซุงก็ได้ร้องขอผ่านพาร์ทเนอร์รายนี้ให้ iFixit นำบทความลง
iFixit บอกว่ากรณีนี้ไม่เคยมีข้อตกลงผูกมัดใดๆ กับซัมซุงในการนำบทความออกจากเว็บ แต่ก็ไม่ต้องการให้พาร์ทเนอร์ลำบากใจ จึงตัดสินใจนำบทความออก ไปจนกว่า iFixit จะสามารถซื้อ Galaxy Fold มาแกะเองได้อีกครั้ง
ที่มา - iFixit
เว็บไซต์จอมแกะ iFixit มีโอกาสได้แกะอุปกรณ์ที่น่าจับตาที่สุดในตอนนี้อย่าง Galaxy Fold ที่กำลังมีปัญหาเรื่องจอพังเป็นบางเครื่อง โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
เมื่อวานนี้เป็น iPad mini 5 คราวนี้ก็ถึงคราวที่ iFixit จะแกะ iPad Air ตัวใหม่ (iFixit เรียก iPad Air 3) โดยข้อสรุปของ iFixit ก็คือ iPad Air รุ่นนี้ ไม่ใช่ iPad Air รุ่นเดิมที่อัพเกรด แต่เป็น iPad Pro รุ่นจอ 10.5 นิ้ว ที่เลิกขายไปแล้วมาเปลี่ยนชื่อใหม่มากกว่า
เพราะผลการแกะนั้น iFixit พบว่าการจัดวางตำแหน่งชิ้นส่วนแตกต่างจาก iPad Air รุ่นก่อนหน้า แต่คล้ายคลึงกับ iPad Pro มากกว่า แบตเตอรี่เป็นแบบ dual-cell ความจุ 30.8Wh ซึ่งใหญ่กว่าทั้ง iPad Pro จอ 10.5 นิ้ว และ iPad Air 2 รวมทั้งชิปต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามา เพื่อให้รองรับ Apple Pencil และคีย์บอร์ดเสริม ก็วางตำแหน่งเหมือนกับ iPad Pro
iFixit ได้แกะ iPad mini 5 รุ่นล่าสุดที่เพิ่งวางจำหน่าย โดยให้ข้อสรุปว่า iPad mini 5 ไม่ใช่ iPad Air รุ่นย่อส่วน (เนื่องจากแอปเปิลออกสองรุ่นนี้พร้อมกัน) แต่น่าจะเรียกว่า iPad mini 4 ที่อัพเกรดชิ้นส่วนจาก iPad รุ่นนั้นรุ่นนี้มามากกว่า
โดยแบตเตอรี่ของ iPad mini 5 มีขนาด 19.32Wh เท่ากับรุ่นที่ 4 ส่วนกล้องหน้าเพิ่มเป็น 7MP และมีเซ็นเซอร์ ambient light สำหรับการแสดงผลจอทรูโทน
iFixit ได้แกะหูฟังไร้สาย AirPods 2 รุ่นใหม่ของแอปเปิลซึ่งเริ่มส่งมอบสินค้าแล้ว ผลลัพธ์คือคะแนนการซ่อมยังคงเท่าเดิมที่ 0 เต็ม 10 เหมือนกับรุ่นแรก เนื่องจากโครงสร้างการประกอบยังคงเดิมคือเป็นกาวติดแน่น ไม่สามารถแกะเพื่อซ่อมชิ้นส่วนบางตัวได้เลย
ในขั้นตอนการแกะนั้น iFixit ยังคงพบปัญหาเหมือนเดิม คือชุดอุปกรณ์พื้นฐานที่ iFixit จำหน่าย ไม่เพียงพอสำหรับการแกะ ต้องใช้คัตเตอร์กรีด เป่าลมร้อน ไปจนถึงใช้อุปกรณ์ทำฟันในการแยกชิ้นส่วนขนาดเล็ก
iFixit จัดการงัดแงะ Galaxy Buds ก่อนจะพบว่าแกะค่อนข้างง่าย ไม่ต้องมีการทำลายส่วนประกอบเพื่อเข้าถึงภายใน ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
ถึงแม้ Galaxy Buds จะถูกเชื่อมเอาไว้ด้วยกาว แต่การแงะ Galaxy Buds แค่ใช้แรงเพื่อคลายจุดเชื่อมกาวและอุปกรณ์พลาสติกบางๆ เพื่อแงะเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์มีคมเหมือนกรณีของ AirPods โดยแบตเตอรี่เป็นแบบกระดุม (button cell) ที่มีความหนากว่าปกติทั่วไป ความจุ 200 มิลลิวัตต์ชั่วโมง
ขณะที่ตัวเคสก็ใช้แค่พลาสติกบางแงะออกมาไม่ต่างกัน แบตเตอรี่ของเคสอยู่ที่ 1.03 วัตต์ชั่วโมง iFixit ให้คะแนนความแกะง่ายที่ 6/10 (ยิ่งมากยิ่งง่าย)
เว็บไซต์ iFixit เผยแพร่บทความลองแกะสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากซัมซุงคือ Galaxy S10, S10+ และ S10e ปรากฎว่าทั้งสามรุ่นได้คะแนนซ่อมง่ายเท่ากันที่ 3/10 คะแนน ด้วยเหตุผลหลักคือจอซ่อมยากมาก แบตเตอรี่ถอดยาก และกระจกทั้งหน้าและหลังถูกเชื่อมกันด้วยกาว ที่ทำให้การซ่อมนั้นยากตั้งแต่ขั้นแรก
iFixit บอกว่าการวางตัวสแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอ ทำให้การซ่อมจอ (ซึ่งพบได้บ่อยมากเป็นอันดับต้นๆ) เปรียบเป็นฝันร้าย แถมราคาแพงเพราะว่าถ้าจอแตก ต้องเปลี่ยนสแกนลายนิ้วมือด้วยทั้งชุด
ส่วนการเพิ่มระบบชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่น (Power Share) ทำให้ S10 ต้องออกแบบเรื่องการระบายความร้อน และอาจมีผลต่ออายุของแบตเตอรี่ ซึ่งก็เชื่อมติดกับฝาหลังด้วยกาว
เว็บไซต์ iFixit ได้แกะ iPad Pro รุ่นใหม่ขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ให้คะแนนความง่ายในการซ่อมเพียง 3/10 โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
นอกเหนือจากตัวไอแพดเองแล้ว iFixit ก็ได้ลองแกะ Apple Pencil รุ่นที่ 2 อีกด้วย ซึ่งมีแนวโน้มคล้ายกับของเดิม ที่แทบแกะอะไรไม่ได้เลย แต่ว่ามีโมดูลชาร์จไร้สาย, แม่เหล็ก และโมดูลตรวจจับการแตะเพิ่มขึ้นมา
เว็บไซต์ iFixit ลองแกะ iPhone XR รุ่นรองท็อปของปีนี้ ให้คะแนนซ่อมง่าย 6/10 (เท่ากับ iPhone XS) โดยมีประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆ ดังนี้
iFixit ผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือซ่อมและแกะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในมุมหนึ่งก็น่าจะถือเป็นผู้อยู่ตรงข้ามกับบรรดาผู้ผลิตทั้งหลาย ที่ต้องการให้ส่งซ่อมอุปกรณ์กับศูนย์มากกว่า แต่วันนี้ iFixit ประกาศความร่วมมือกับโมโตโรลา โดยจะเป็นผู้จัดจำหน่ายชุดอุปกรณ์ซ่อมแซม ที่มีอะไหล่ทางการจากโมโตโรลาเลย
ชุดอุปกรณ์ซ่อมเองตอนนี้มีทั้งหมด 8 รุ่น ได้แก่ Moto Z, Moto X, Droid Turbo 2, Moto Z Play, Moto G5, Z Force, X Pure และ G4 Plus โดยเน้นไปที่สองชิ้นส่วนคือแบตเตอรี่ (ราว $40) และหน้าจอ (ราว $100-$200) ซึ่งในชุดมาพร้อมอุปกรณ์แกะงัดแงะครบถ้วน
น่าสนใจว่าจะมีผู้ผลิตรายอื่นมาร่วมวงกับ iFixit ด้วยหรือไม่
หลังจากปีที่แล้วหน้าจอของ Pixel 2 XL ที่ถูกผลิตโดย LG เจอสารพัดปัญหา กว่าจะแก้ได้คือต้องรอล็อต 2 หรือ 3 เป็นต้นไป ทำให้ปีนี้คำถามที่หลายๆ คนน่าจะสงสัยคือแล้วใครเป็นผู้ผลิตจอให้ Pixel 3 และ 3 XL
iFixit นักงัดแงะมืออาชีพได้จับเรือธงตัวใหม่ของ Google มาถอดร่างแล้วก่อนจะพบว่าแพแนลหน้าจอ OLED ที่ใช้บน 3 XL ถูกผลิตโดยซัมซุง ส่วน Pixel 3 ผลิตโดย LG ซึ่งคะแนนรีวิวหน้าจอก็ออกมาถึงระดับ A+
อุปกรณ์ตระกูล Surface ของไมโครซอฟท์ขึ้นชื่อมาตลอดเรื่องแกะซ่อมไม่ได้ ตั้งแต่ Surface Pro 2 ที่ได้คะแนนจาก iFixit ไป 2/10, Surface Laptop ที่ได้ 0, Surface Pro 5 ได้ 1 และ Surface Book 2 ที่ได้ 1 เท่ารุ่นแรก
ล่าสุดมรดกนี้ยังคงตกทอดมาให้กับน้องเล็กอย่าง Surface Go ที่ได้คะแนนไป 1 เท่านั้น โดย iFixit ระบุว่าภายในไม่แตกต่างจาก Surface Pro เพียงแค่ขนาดและอุปกรณ์ระบายความร้อนที่เล็กลงเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังเหมือนเดิม อย่างการแกะเครื่องมีสิทธิทำให้ชิ้นส่วนหรือตัวเครื่องเสียหาย โดยเฉพาะการถอดจอ, ไม่มีชิ้นส่วนที่เป็นโมดูลถอนออกมาได้ และทุกชิ้นส่วนเชื่อมกันด้วยกาว
นักซ่อมและนักงัดแงะมืออาชีพ iFixit จับเรือธงตัวใหม่ของ Huawei อย่าง P20 Pro มาแงะแล้ว ก่อนจะให้คะแนนความง่ายในการซ่อมอยู่ที่ 4 เต็ม 10 (ยิ่งมากยิ่งง่าย) โดยข้อดีของ Huawei P20 Pro คือหลายๆ ชิ้นส่วนภายในเป็นแบบโมดูลา สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้หากเสียหาย
ทว่ากว่าจะเข้าไปถึงชิ้นส่วนภายในต้องผ่านด่านยากอย่างฝาหน้าและฝาหลังที่เป็นกระจก รวมถึงหน้าจอที่มีการใช้กาวและเชื่อมต่อกับโมดูลอื่นๆ ต้องใช้ความประณีตในการแงะ ส่วนการวางกล้อง 3 ตัว iFixit พบว่าเกิดจากการออกแบบเมนบอร์ดของ Huawei ที่เล็ก ซึ่งทำให้สามารถใส่แบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นด้วย
สมาร์ทโฟนเรือธงประจำปีจากซัมซุงอย่าง Galaxy S9+ กำลังจะวางตลาดในไม่กี่วันข้างหน้า และเว็บไซต์จอมแงะ iFixit ก็ได้เครื่องไปก่อนแล้ว พร้อมแยกชิ้นส่วนให้ดูกันเช่นเคย
การแกะเครื่องเริ่มโดยใช้ปืนความร้อนเป่าฝาหลังให้กาวละลายและใช้เครื่องมือแซะฝาหลุดออกมา จากนั้นมาถึงการแกะแบตเตอรี่ ซึ่ง iFixit ระบุว่าต้องใช้ความพยายามอย่างสูง เพราะกาวที่ติดแบตเตอรี่ไว้นั้นแน่นหนามาก โดยเริ่มที่การฉีดน้ำยาละลายกาว พร้อมใช้ปืนความร้อนเป่าเป็นเวลานานกว่าแบตเตอรี่จะหลุดออก
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษ ชิ้นส่วนต่างๆ เช่นกล้อง, แจ็คหูฟัง รวมถึงเมนบอร์ดก็สามารถนำออกมาได้อย่างไม่ยากเย็น และสุดท้ายการเอาหน้าจอออกจากเฟรมก็ยากเช่นกัน เพราะต้องใช้ปืนความร้อนเป่าและใช้เครื่องมือแงะถึงเอาออกมาได้
รีวิว HomePod ออกมาอย่างต่อเนื่องและล่าสุดก็หนีไม่พ้นคิวของนักงัดแงะอย่าง iFixit ที่จับลำโพงไร้สายของแอปเปิลมาแงะ ก่อนจะให้คะแนนรีวิวต่ำเตี้ยที่ 1/10 หรือเท่ากับว่าไม่สามารถซ่อมเองได้เลย(ยิ่งมากยิ่งซ่อมง่าย)
การแกะภายนอกยังไม่ยากเท่าไหร่ ที่อาศัยแค่การแงะและขันน็อตบริเวณฐานด้านบนและด้านล่างออก จนกระทั่งถอดเอาตาข่ายผ้าที่หุ้มเครื่องออก เมื่อเหลือทรงกระบอกเปลือยเปล่า ทาง iFixit ไม่สามารถใช้วิธีเดิมๆ ได้ จนต้องใช้เลื่อยและเครื่องตัดระบบอัลตร้าโซนิคจึงจะนำวูฟเฟอร์ออกมาได้และตามด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ด้านใน ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าแปลกใจที่แอปเปิลคิดค่าซ่อมเกือบเท่าค่าเครื่องใหม่
หลังจากเมื่อวานนี้แอปเปิลออกประกาศขอโทษที่ลดประสิทธิภาพเครื่องโดยไม่ได้แจ้งผู้ใช้ตอนนี้ราคาแบตเตอรี่ในไทยก็ประกาศแล้วที่ 1,000 บาท โดยแอปเปิลระบุว่าราคาเดิมคือ 2,900 บาท ราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่จริงอยู่ที่ 3,800 บาทเป็นไปได้ว่าอีก 900 บาทคือค่าบริการ
ตามธรรมเนียมของการออกฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ทาง iFixit จะนำมางัดแงะให้ดู ซึ่งล่าสุดเป็นคิวของ Surface Book 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว และด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ต่างจากรุ่นแรก คะแนนความซ่อมง่ายจาก iFixit ก็ไม่ต่างจากรุ่นแรกด้วยที่ 1 เต็ม 10
เหตุผยังคงไม่ต่างจากรุ่นแรก คือไมโครซอฟท์ติดกาวเชื่อมอุปกรณ์ต่างๆ มาค่อนข้างหนาแน่น หน้าจอเสี่ยงที่จะเสียหาย แรมและซีพียูเชื่อมอยู่กับเมนบอร์ด ที่ว่างตัวหันหลังออก ทำให้การเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ ต้องถอดออกมาทั้งเมนบอร์ด ส่วนที่เปลี่ยนได้ก็ยังคงเป็น SSD ซึ่งก็เปลี่ยนค่อนข้างลำบากเช่นเดิม
สิ้นสุดการรอคอยอันยาวนาน? มา "Say Hello to (the inside of) the Future" กับ iFixit หลังจากเครื่องออกวางจำหน่ายเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทาง iFixit ได้นำ iPhone X ไปแกะดูภายในเป็นที่เรียบร้อย พบรายละเอียด ดังนี้
หลังเปิดตัวและเลื่อนวันส่งมอบมาหลายรอบ ตอนนี้ Essential Phone ของ Andy Rubin ไปถึงมือผู้เชี่ยวชาญนักแกะนักแงะอย่าง iFixit แล้ว ก่อนที่คะแนนความซ่อมง่ายจะต่ำที่สุดที่ 1/10 หรือแทบจะแกะซ่อมเองโดยไม่สร้างความเสียหายกับโทรศัพท์ไม่ได้เลย
ทาง iFixit ระบุว่า Essential Phone ไม่มีช่องหรือจุดให้แงะเครื่องออกได้เลย จึงตัดสินใจใช้ความเย็นกับด้านหลังของตัวเครื่องจนกระทั่งสามารถแงะฝาหลังของเครื่องออกมาได้ ก่อนจะพบว่าสิ่งที่อยู่ด้านในฝาหลังคือฝาหลังด้านในของตัวเครื่องอีกที ที่ประกับกันด้วยกาวแผ่นใหญ่ ดังนั้นทางเดียวที่เหลือในการแงะเครื่องคือจากหน้าจอ
มือถือใหม่ที่น่าสนใจในช่วงนี้คือ Samsung Galaxy Note FE (Fan Edition) ที่ซัมซุงทำมาเอาใจกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่อยากให้ทำลายชิ้นส่วนของ Note 7 ทั้งหมด โดยปัจจุบันยังมีขายในเกาหลีใต้เพียงประเทศเดียว
เว็บไซต์ iFixit มีโอกาสแกะเครื่อง Galaxy Note FE โดยประเด็นที่ทุกคนสนใจคงหนีไม่พ้นเรื่องแบตเตอรี่ ผลคือ iFixit พบว่า Note FE ใช้แบตเตอรี่ล็อตใหม่ที่ผลิตในเดือนมิถุนายน 2017 แทน และลดความจุจาก 13.48 Wh เหลือ 12.32 Wh, น้ำหนักแบตเตอรี่ลดลง 2.3 กรัมและขนาดลดลงเล็กน้อย
ในโอกาสที่ Surface Laptop และ Surface Pro ตัวใหม่เริ่มวางขาย เว็บไซต์ iFixit ก็ลองแกะและให้คะแนนการซ่อมง่ายระดับ 0/10 (ซ่อมเองไม่ได้เลย)
Surface Laptop รับคะแนน 0/10 เพราะทุกอย่างถูกเชื่อมต่อกันด้วยกาว ไม่สามารถแกะโดยไม่ทำอุปกรณ์เสียหาย ส่วนฮาร์ดแวร์ภายในก็เชื่อมบนบอร์ดฝังแน่น แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนยาก และไม่รู้จะเป็นอย่างไรถ้าแบตเสื่อมในอนาคต โดย iFixit สรุปว่าถ้าให้คะแนน -1/10 ได้ก็ทำไปแล้ว
iFixit เปิดตัวชุดซ่อมอุปกรณ์ใหม่ Micro Tech Toolkit เนื่องจากอุปกรณ์สมัยใหม่มีขนาดเล็กลงมา และคงจะเล็กลงเรื่อยๆ iFixit จึงมองเห็นอนาคต พัฒนาชุดอุปกรณ์แกะซ่อมแซมที่เล็กยิ่งกว่า เรียกว่าอุปกรณ์จะเล็กแค่ไหนก็ซ่อมได้
ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 19.95 ดอลลาร์ ในชุดมีเครื่องมือ 3 ชิ้น แต่ตอนนี้สินค้าขาดตลาดอยู่
ที่มา: iFixit