แฟนๆ จาวาอย่าเพิ่งมาโกรธผมนะครับ อันนี้เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ Bob Muglia รองประธานฝ่าย Server and Tools business ของไมโครซอฟท์เอง จะออกมาแนวๆ นี้คงไม่น่าแปลกใจมากนัก
Muglia พูดถึงแผนด้านซอฟต์แวร์สายนักพัฒนาของบริษัทในอนาคต เขาบอกว่า .NET ใช้เวลา 5 ปีที่ผ่านมาเอาชนะ Java EE และกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ตลาดองค์กรเลือก โดยช่วงแรกๆ .NET มีส่วนแบ่ง 25% แต่ตอนนี้มีถึง 60% แล้ว
BlueJ IDE ที่เน้นสำหรับใช้ในการเรียนรู้และการสอนภาษา Java เป็นหลัก ตอนนี้ได้ออกเวอร์ชั่นที่รวมเข้ากับ Netbeans แล้วครับ
การออกเวอร์ชั่นนี้เกิดขึ้นจากการที่นักศึกษาที่หัดภาษา Java ด้วย BlueJ นั้นเวลาจะข้ามไปใช้ IDE ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าตัวอื่นๆ ต้องมีการเรียนรู้การใช้ IDE อีกตัวใหม่ ก็เลยจับรวมกันซะเลย ใช้ทั้งเรียนและใช้ทำงานจริงได้ทันที
ที่มา - Edu.Netbeans.BlueJ (ดาวน์โหลดได้ที่นี่เช่นกัน)
มันมาแล้วครับสำหรับมัสแตงเบต้า 2 ออกมาทั้ง JDK และ JRE ให้ลองกัน จากที่ลองเบต้า 1 ไปสักพักก็ถือว่าทำงานปกติลื่นไหลได้ดี แต่ผมก็ยังไม่ได้ลองเล่นกับความสามารถใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในมัสแตงแบบเจาะลึกเลยนะครับ ก็เลยอาจจะยังไม่พบปัญหาอะไร
พูดถึงเรื่องความสามารถใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้อย่างการใส่ฐานข้อมูลขนาดเล็กอย่าง Derby ลงมาใน JVM ร่วมทั้งการสนับสนุนภาษาสคริปต์ต่างๆ มากยิ่งขึ้น (jsr-223) สองเรื่องนี้อาจทำให้เกิดแนวความคิดและวิธีการเขียนโปรแกรมภาษาจาวาแบบใหม่ๆ ได้เลยทีเดียว
เบต้านี้คงเป็นเบต้าสุดท้ายแล้ว ก่อนที่เราจะได้ใช้ตัว 5.5 เต็มๆ ซะที รุ่นนี้เองถูกปรับปรุงไปจากเบต้า 1 โดยแก้บั๊กไปมากกว่า 500 จุดด้วยกัน โดยรุ่นนี้สนับสนุน Java EE 5 เต็มตัว รวมเรื่อง EJB 3, Java Persistence API และ JAX-WS 2.0 ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ๆ ทั้งนั้น
นอกจากนี้ NetBeans ยังส่งทั้งชุดเสริมอย่าง Profiler, Mobile Pack รุ่นที่เป็นเบต้า 2 ออกมาพร้อมกันอีกด้วย ที่น่าแปลกใจก็คือ แล้วชุด Enterprise ละ หายไปไหน ไม่ยักกะคลอดตามกันมาเหมือนเพื่อน โดยข่าวนี้ทาง NetBeans บอกว่า ขอเวลาอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วจะตามมาติดๆ
เพิ่งจะออกใหม่มาหมาดๆ ในเดือน กรกฏา 2549 นี่แหละครับ สำหรับหนังสือติดอันดับขายดี Mastering EJB ที่ตอนนี้มาไกลถึง 4th Edition ..และที่สำคัญอัพเดทเป็น EJB 3.0 เรียบร้อยแล้ว
เนื้อหาถูกขัดสีฉวีวรรณในหลายๆ บทในเรื่อง session-beans, message-driven beans, EJB - Java EE integration และ advanced persistence concepts รวมทั้งยังเพิ่มเนื้อหาให้ครอบคลุม Java Persistence API และการใช้งาน POJO ร่วมกับ EJB ในระดับลึกด้วยเช่นกัน
มีอะไรใหม่ๆ มากมาย ใน Mastering EJB 3.0:
สำหรับผู้ใช้ Eclipse และต้องการใช้ระบบควบคุมเวอร์ชั่นของ Microsoft Visual Studio 2005 Team Foundation Server ตอนนี้มีปลั๊กอิน Teamprise Client Suite ออกมารองรับแ้ล้วครับ
ที่มาของปลั๊กอินตัวนีืก็คือปัจจุบันหลายๆ บริษัทนั้นมีทั้งพัฒนาด้วย .NET และ Java กันทั้งคู่ จึงทำปลั้๊กอินนี้ออกมาขาย เพื่อที่จะใช้ Team Foundation Server จัดการตัวเดียวเลย ไม่ต้องแยกระบบกัน โดยเขียนปลั๊กอินด้วย Java(ใช้ SWT) สนับสนุน Eclipse 3.0 และ 3.1 สนนราคาอยู่ที่ $499 ต่อ 1 ผู้ใช้ครับ
รายงานจากเวบ Search Webservies กล่าวว่า Java EE จะไปไม่รอดไม่ตลาด SOA โดยจะเริ่มส่อลางที่เวอร์ชั่น 5 นี่แหละครับ และจะตายสนิทสำหรับ SOA ในอีก 5 ปีข้างหน้า
งาน JavaOne ซึ่งถือเป็นงานระดับช้างของชาว Java ที่จัดต่อเนื่องกันมาทุกปีตั้งแต่ปี 1996 โดยปีนี้จัดที่ San Francisco ไปแล้วนั้น ตอนนี้เอกสารประกอบงานมีมาให้ดาวน์โหลดแล้วครับ ที่ JavaOne Online ถ้าสนใจก็ไปตามโหลดกันได้ตามสะดวกนะครับ
ที่มา - Charles Ditzel Netbeans Blog
หลังจากที่ทำกันมานมนานมาก ในที่สุด JSR 220 EJB 3.0 ก็เดินทางมาถึงฝั่งฝันเสียที รุ่น Final Release ออกมาแล้วหลังจากออกรุ่นเค้าโครงร่างมาตลอด
ผมยังไม่สามารถหารายละเอียดว่ารุ่นนี้แตกต่างกับรุ่นเค้าโครงร่างสุดท้ายหรือไม่ แต่คาดไว้ว่าคงไม่ต่างกัน EJB3.0 มาพร้อมกับความสามารถที่น่าใช้กว่ารุ่น 2.0 มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
ตอนนี้มีข่าวให้แฟนๆ Borland และ JBuilder ได้ชื่นใจกันบ้างแล้วครับ
ข่าวแรกคือ JBuilder 2006 นั้นมีให้ดาวน์โหลดเวอร์ชั่น Foundation ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นลดความสามารถลงแต่ฟรี(แม้จะนำไปใช้งานทางการค้า)
ข่าวถัดมาคือ JBuilder 2006 จะออกอัพเดตภายในปีนี้เพื่อสนับสนุน Java SE 6 และ JBuilder 2007 (Peloton) จะออกภายในปลายปีนี้ครับ ซึ่งจุดเด่นของตัวนี้คือใช้ฐานเป็น Eclipse นั่นเอง!!! โดยจะสนับสนุน Java EE 5, Java SE 6 ,Swing/SWT และสนับสนุนปลั้กอินต่างๆ ของ Eclipse ด้วย โดยจะใช้งานได้เหมือน JBuilder ทุกประการ
เมื่อก่อนใครเคยเจอปัญหาลง Eclipse แล้วอยากลงปลั๊กอินเสริมตัวอื่น เช่น WTP, VE แล้วพบว่าระบบต้องการไลบรารีเพิ่มเติมมากมาย อย่างไลบรารีด้านการแสดงผล GEF, GMF เป็นต้น ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากช่วงเวลาของการออกโปรเจ็คแต่ละตัวไม่ตรงกัน ทำให้บางทีผู้ใช้จำเป็นต้องลงเลขรุ่นที่รับกันได้เท่านั้นอีกถึงจะทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา
Callisto ออกมาเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยมันได้รวม Eclipse โปรเจ็คหลักๆ ที่รับประกันความเข้ากันได้ 10 ตัวเข้าด้วยกัน
ซํนออก Java SE 6 (ชื่อเดิม Mustang) Beta 2 โดยมีของใหม่หลายอย่าง
ของใหม่เฉพาะที่ข่าวบอกได้แก่ สนับสนุน Windows Vista, มาตรฐานเว็บเซอร์วิสใหม่ๆ JAX-WS 2.0 และ JAXB 2.0, Java DB (Apache Derby เวอร์ชันซัน), GroupLayout component จาก NetBeans เป็นต้น รอคอ Java มาเสริมข้อมูลแบบละเอียดๆ ละกัน
ดาวน์โหลดได้ที่ Sun Developer Network มีบน 3 ระบบปฏิบัติการ Linux, Windows, Solaris และทั้งสามตัวมีเวอร์ชัน AMD64
ที่มา - BetaNews
ซันแสดงจุดยืนในเทคโนโลยีแห่งอนาคต AJAX โดยซันประกาศเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาของสองค่ายใหญ่อย่าง OpenAJAX และ Dojo
นอกจากนี้ซันยังเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ต่างๆ และโปรเจ็คใหม่อย่าง JMaki ที่เป็นทั้งเฟรมเวิร์กที่ห่อหุ้มชุดคำสั่ง AJAX จากหลายค่ายทั้ง Yahoo Widget, Dojo, DHTML Google เป็นต้น และยังเป็นทั้งปลั๊กอินตัวใหม่ของ NetBeans และ Sun Studio Creator 2 สำหรับพัฒนา AJAX ร่วมกับจาวาอีกด้วย ดู https://ajax.dev.java.net/screencast/jMakiDemo.html">คลิปตัวอย่างได้ที่นี่
นาย Alfred Chuang ซึ่งเป็น Systems chief executive ของ BEA ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคู่แข่งอย่าง JBoss และ Sun ดังนี้ครับ
เค้าวิจารณ์ JBoss ว่าจริงๆแล้ว JBoss นั้นไม่ใช่โอเพนซอร์สที่แท้จริงสักหน่อย เพราะว่าการแก้ไขโค้ดนั้นทำกันเพียงภายใน JBoss เองเท่านั้น กระบวนการพัฒนาไม่ได้เปิดเผยสู่ภายนอกด้วย เป็นการรวมศูนย์กลางเท่านั้น ซึ่งการพัฒนาแบบนี้ก็ใช้กันในโอเพนซอร์สอื่นที่ดังๆ เช่น Firefox, BSD ด้วย
Websites as graphs ใส่ URL ลงไปแล้วมันก็วาดรูปให้ มีจาวาซอร์สโค้ดที่นี่
อย่าลองกับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ หรือเว็บที่ไม่ใช่ของคุณ
ที่มา - zdnet blog
เพิ่มเติม - โครงสร้างที่เห็นเป็นโครงสร้างของตัวไฟล์ XHTML ของหน้าเว็บ ไม่ใ่ช่โครงสร้างของตัวเว็บ (งงมั๊ยเนี่ย)
หลังจากซันได้เปลี่ยนไลเซนส์ในการเผยแพร่ JRE และ JDK (เฉพาะรุ่น Java SE นะครับ) ให้สามารถแจกไปกับลินุกซ์ดิสโทรได้ ในชื่อใหม่ว่า Sun's Distro License for Java (DLJ) เพื่อปูทางไปสู่การโอเพนซอร์สจาวาในอนาคต
Brian Stevens CTO ของ Red Hat ให้ความเห็นว่าแค่นี้ยังไม่พอ โดยเฉพาะการนำจาวาไปใช้ในโครงการแล็ปท็อป 100 เหรียญที่ต้องเป็นโอเพนซอร์สทั้งหมด และออกมากระตุ้นในซันเริ่มการโอเพนซอร์สจาวาอย่างจริงจังมากขึ้น
DLJ ได้รับการสนับสนุนจาก Ubuntu, Debian และ Gentoo เป็นอย่างดี Mark Shuttleworth แห่ง Ubuntu บอกว่าเป็นสัญญาณที่ดี และคาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างในเร็วๆ นี้
หลังจากยาฮูออกมาเปิดไลรารี AJAX UI ไปก่อนหน้า และได้รับคำชมค่อนข้างมาก กูเกิลยังคงรักษาคะแนนนิยมจากกลุ่มนักพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว Google Web Toolkit เฟรมเวิร์คตัวล่าสุดที่ให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาเว็บได้โดยไม่ต้องเรียนรู้เทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Javascript แต่ด้วยการเขียนจาวาอย่างเดียวก็เพียงพอให้ทำงานไ้ด้
ตอนแรกกะว่าจะรวมข่าวไว้เป็นอันเดียวกันกับอันข้างล่าง แต่เปลี่ยนใจแยกดีกว่า
สำหรับกลุ่ม NetBeans เองก็ได้พ่วงงาน NetBeans day ไว้วันที่ 15 พค. ก่อนงาน JavaOne หนึ่งวัน ในงานนี้แฟนๆ NetBeans ได้ดีใจกันถ้วนหน้าเมื่อซันประกาศว่า Sun Creator เครื่องมือสำหรับพัฒนาเว็บแบบวิชวลด้วยภาษาจาวา ที่เปิดให้โหลดไปใช้กันฟรีๆ มาได้สักพักใหญ่ๆ ขณะนี้เตรียมจะเปลี่ยนไลเซนส์เป็นโอเพ่นซอร์ส นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออื่นๆ ของซันที่เตรียมทะยอยเปิดโอเพ่นซอร์สตามมาอีกหลายตัว
หนึ่งในงานสัมมนาประจำปีที่มีผู้คนรอคอยและเข้าร่วมมากที่สุดได้เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ งานสัมมนานี้จะจัดกันต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16 - 19 พค. นี้ ข่าวสารและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็มักจะใช้งานนี้เพื่อเป็นการเบิกฤกษ์แถลงการณ์
สำหรับประเด็นร้อนว่าเมื่อไหร่จาวาจะโอเพ่นซอร์สสักที วันนี้ CEO คนใหม่ของซัน Jonathan Schwartz และรองประธาน Rich Green ก็ออกมาสัญญาว่า จาวานั้นจะถูกโอเพ่นซอร์สแน่ แต่คำถามจริงๆ ไม่ใช่ "เมื่อไหร่" แต่เป็น "อย่างไร" ต่างหาก ซึ่งประเด็นนี้ก็คงจะต้องเป็นที่ถกกันต่อไปจนกว่าจะได้ข้อยุติที่น่ายินดีทั้งสองฝ่ายระหว่างซันกับผู้ใช้ที่อยากให้ซันโอเพ่นซอร์ส
คุณ Danny Coward ได้สร้างปลั๊กอินสำหรับ NetBeans ชื่่อ net2java ขึ้นมาครับ โดยเจ้าตัวนี้ถือเป็นการเอาคืน Microsoft's Java Language Conversion Assistant เพราะมันแปลงโค้ดจาก .NET มาเป็น Java นั่นเอง!!!
ความสามารถหลักๆ ของเจ้าตัวนี้คือ แปลง VB.NET และ C# ทั้งเวอร์ชั่น 2003 และ 2005 มาเป็น Java ที่"อ่านรู้เรื่อง", แปลง API มาตราฐานของ .NET ให้เป็น Java API และยังสามารถ import โปรเจค .NET มาบน NetBeans ได้ตรงๆด้วย
ออกมาแล้วนะครับสำหรับ Java Studio Creator 2 Update 1 IDE ที่มีพื้นฐานจาก NetBeans สำหรับสร้างเว็บด้วย JSF ที่สนับสนุน Drag & Drop โดยเฉพาะ
ในเวอร์ชั่นนี้มีการปรับปรุงหลักๆ 2 จุดคือ มีดาตาเบสแบบเปิดเผยซอร์สโค้ดอย่าง Apache Derby มาแทน PointBase ตัวเก่าและ Sun Java Application Server ก็เป็น 8.2 แทน สำหรับแฟน Java และชอบ JSF น่าลองไปเล่นดูนะครับ
นาย Geertjan Wielenga ซึ่งเป็นพนักงานซันได้แสดงให้เห็นความสามารถใหม่ของ NetBeans 5.5 ที่สร้าง Entity Class และ JSF จากดาตาเบสได้โดยไม่ต้องโค๊ด!!!! โดยดูได้ที่บล๊อคของเค้า ซึ่งมี2 ตอนครับ
แม้ในทุกวันนี้ซันจะเป็นผู้แสดงตัวว่าสนับสนุนการโอเพนซอร์สอย่างเต็มตัว แต่เทคโนโลยีจาวานั้นก็ยังห่างไกลจากคำว่าโอเพนซอร์สอยู่มาก ปัญหาหลักๆ ในทุกวันนี้คือไม่มีลินุกซ์ตัวไหนยอมใส่ JRE เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดิสโทร เพราะกลัวปัญหาด้านไลเซนส์ที่เรื้อรังมายาวนาน
เมื่อวานนี้เองทางซันก็จัดงานแถลงข่าวทางไกลขึ้น เพื่อแถลงว่าซันกำลังจะลดข้อจำกัดในไลเซนส์ของจาวาลง เพื่อให้ลินุกซ์ดิสโทรต่างๆ สามารถพ่วงเอา JRE เข้าไปในดิสโทรได้ทันที
สำหรับแฟนๆ Java บนเครื่อง Intel Mac คงได้ดีใจกันถ้วนหน้าเมื่อ Mailing List ของ แอปเปิล ได้ประกาศออกว่าได้ปล่อย Java SE 6.0 Release 1 Developer Preview 1 ออกมาให้ลองเล่นกันแล้ว โดยในตอนนี้ทำของ Intel Mac ออกมาก่อนครับ ส่วนผู้ใช้ Mac ตัวเก่าไม่ต้องน้อยใจครับสำหรับ PowerPC จะออกมาเร็วๆนี้เช่นกัน
แม้ว่าจะช้ากว่าทาง PC อยู่นานโขหน่อย แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาครับ ดาวน์โหลดได้ที่ Connect.Apple.com ครับ