เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว JetBrains เปิดตัวโลโก้ใหม่ของ Kotlin ที่ยังเป็นตัว K แบบของเดิม แต่เปลี่ยนจากสีส้ม-น้ำเงิน มาเป็นการไล่สีม่วง-น้ำเงินแทน พร้อมปรับรูปแบบฟอนต์ (typeface) มาใช้ฟอนต์ JetBrains Sans ให้เข้าชุดกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัท
JetBrains ให้เหตุผลว่าคู่สีเดิมดูล้าสมัย และการใช้แถบสี (stripe) ก็ดูไม่เป็นเอกลักษณ์ จึงตัดสินใจเปลี่ยนสีให้เหมือน Facebook Messengerให้ดูสว่างและสดใสขึ้น กลายเป็นการไล่สี (gradient) แบบที่เห็น
JetBrains เจ้าพ่อแห่งวงการ IDE เติบโตมาจากสาย Java โดยผลิตภัณฑ์เรือธงคือ IntelliJ แต่ภายหลังก็ขยายมาทำ IDE สำหรับภาษาอื่นๆ ด้วย
หลายคนอาจไม่รู้ว่า JetBrains ทำ IDE สาย .NET กับเขาด้วยในชื่อว่า Rider ที่ออกครั้งแรกในปี 2017 เน้นใช้เขียน C#, ASP.NET, Xamain, WinForms และเทคโนโลยีสายไมโครซอฟท์
อย่างไรก็ตาม การที่โลกของเกมนิยมใช้ภาษา C# จาก Unity ทำให้ JetBrains ออก Rider for Unity มาจับตลาดนักพัฒนาเกมด้วย และเมื่อไปได้ดีกับ Unity ก็ตามมาด้วย Rider for Unreal Engine ที่เป็นภาษา C++ ส่งผลให้ Rider กลายเป็น IDE ที่รองรับเอนจินเกมยอดนิยมทั้งสองค่าย
บริษัท JetBrains สร้างชื่อมาจาก IntelliJ ซอฟต์แวร์ IDE สำหรับภาษา Java แต่ภายหลังก็ใช้วิธีวางตัว IntelliJ Platform เป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับพัฒนา IDE เฉพาะทาง ต่อยอดเป็น IDE ตัวอื่นๆ ของตัวเองอีกที เช่น PyCharm (Python), PhpStorm (PHP), GoLand (Go), RubyMine (Ruby)
ล่าสุด JetBrains เปิดตัว IDE ใหม่ (อีกแล้ว) ชื่อ DataSpell สำหรับงานสาย data science โดยเฉพาะ ลักษณะเดียวกับ RStudio ของสายภาษา R แต่ในระยะแรกเน้นที่ภาษา Python เป็นหลัก
นอกจาก ผลสำรวจโปรแกรมเมอร์ปี 2021 ของ JetBrains ยังมีการสำรวจเครื่องมือทำงานร่วมกันออนไลน์ (Best Collaboration Tools 2021) ที่มีผู้ตอบแบบสำรวจมากถึง 47,000 คน (ส่วนหนึ่งคือโปรแกรมเมอร์ 31,743 คนที่ตอบแบบสำรวจแรก)
แบบสำรวจนี้แยกเป็นเครื่องมือทั่วไป (online collaboration tools) และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ (software development collaboration tools)
เครื่องมือทำงานทั่วไป
JetBrains ออกรายงานสำรวจข้อมูลนักพัฒนาประจำปี 2021 จากผู้ตอบแบบสอบถาม 31,743 คนใน 183 ประเทศ มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
ตลาดซอฟต์แวร์ CI/CD เป็นอีกตลาดที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงหลัง มีผู้เล่นหลายรายเข้ามาในตลาดนี้ เช่น GitLab, CircleCI, Travis CI, Atlassian Bamboo รวมถึงซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอย่าง Jenkins และ Tekton
ทิศทางช่วงหลังของ CI/CD คือเราเริ่มเห็นบริการผ่านคลาวด์ (managed service) กันมากขึ้น เช่น GitLab ที่มีเวอร์ชันคลาวด์มานาน หรือสายคลาวด์มาทำเองอย่าง Google Cloud Build กับ GitHub Actions
JetBrains เจ้าของ IDE ชื่อดังตระกูล IntelliJ ก็มีซอฟต์แวร์ด้านนี้คือ TeamCity มานานแล้ว แต่ที่ผ่านมามีเฉพาะเวอร์ชัน on premise ตอนนี้ก็ต้านกระแสไม่อยู่ ต้องออก TeamCity Cloud มาบ้าง
JetBrains ประกาศหยุดรองรับระบบปฏิบัติการ 32 บิต (ทั้งลินุกซ์และวินโดวส์) กับ IDE ทุกตัวของบริษัท ได้แก่ AppCode, Clion, DataGrip, GoLand, IntelliJ IDEA, PhpStorm, PyCharm, Rider, RubyMine, WebStorm
IDE ที่อิงอยู่บน IntelliJ เวอร์ชัน 2021.1 ถือเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่ยังรองรับระบบปฏิบัติการ 32 บิต ถัดจากนี้ไปคือเวอร์ชัน 2021.2 จะใช้งานไม่ได้แล้ว
JetBrains บอกว่าระบบปฏิบัติการ 32 บิตมีคนใช้งานน้อยลงมากแล้ว จึงตัดสินใจหยุดรองรับ เพื่อนำทรัพยากรไปรองรับสถาปัตยกรรมใหม่ๆ เช่น AArch64 (ARM64) แทน
กลายเป็นธรรมเนียมของซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ๆ ไปแล้ว ที่เปลี่ยนมาออกรุ่นใหม่ตามระยะเวลาที่แน่นอน แทนการอิงฟีเจอร์ใหญ่ๆ ที่อาจไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหนถึงพร้อม ตัวอย่างของภาษาโปรแกรมที่เปลี่ยนมาใช้ระบบนี้คือ Java (ทุก 6 เดือน), .NET (ทุก 1 ปี), Python (ทุก 1 ปี)
JetBrains ออก Kotlin เวอร์ชัน 1.4 ซึ่งทิ้งช่วงห่างจากเวอร์ชัน 1.3 เกือบ 2 ปี ธีมหลักของเวอร์ชันนี้คือการปรับปรุงคุณภาพ และแก้บั๊กด้านประสิทธิภาพของ Kotlin กว่า 60 ตัว ทำให้การเปิดโปรเจค Kotlin ขนาดใหญ่ หรือการไฮไลท์ซอร์สโค้ดรวดเร็วขึ้นมาก (ต้องใช้กับ IntelliJ IDEA 2020.1+ หรือ Android Studio 4.1+ ขึ้นไป)
JetBrains ผู้พัฒนา IDE และสร้างภาษา Kotlin เปิดเผยผลสำรวจ The State of Developer Ecosystem ประจำปี 2020 ซึ่งเป็นการรายงานปีที่ 4 จากการสอบถามนักพัฒนา 19,696 คน ใน 18 ประเทศ มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
ชุมชนโปรแกรมเมอร์ภาษา Go เผยผลสำรวจข้อมูลของนักพัฒนาสาย Go ประจำปี 2019 ซึ่งมีผู้ตอบมา 10,975 คน ทำให้เราเห็นทิศทางของ Go ว่าใครใช้ทำอะไรกันบ้าง
JetBrains ผู้พัฒนา IDE ชื่อดังหลายตัว เปิดตัวฟอนต์ใหม่ JetBrains Mono ที่ออกแบบมาเพื่อการเขียนโค้ดโดยเฉพาะ
ฟอนต์ตัวนี้เป็นฟอนต์ความกว้างคงที่ (monospace) ตามชื่อ จุดเด่นที่ต่างจากฟอนต์อื่นคือปรับขนาดความสูงของตัวพิมพ์เล็ก (lowercase) ให้สูงกว่าปกติ เพื่อให้โปรแกรมเมอร์อ่านโค้ดได้ง่ายขึ้น
JetBrains ประกาศออกแพลตฟอร์มการพัฒนาด้วยภาษา Kotlin เวอร์ชัน 1.3 มีของใหม่ดังนี้
การผลักดันภาษา Kotlin กับแพลตฟอร์ม Android ดูจะจุดกระแสติดและสร้างความนิยมให้กับ Kotlin เพิ่มจากเดิมมาก (สถิติของกูเกิลคือ 27% ของแอพ Android ยอดนิยม 1,000 อันดับแรกใช้ Kotlin)
ล่าสุดกูเกิลจึงจับมือกับ JetBrains ผู้ประดิษฐ์ภาษา Kotlin ตั้งมูลนิธิ Kotlin Foundation ขึ้นมาเป็นองค์กรกลางในการพัฒนาแล้ว
Kotlin Foundation มีหน้าที่หลัก 3 อย่างคือ
ภาษา Kotlin ได้รับความสนใจอย่างมากในปีนี้ หลังจาก Android ประกาศซัพพอร์ตเป็นภาษาที่สองถัดจาก Java
Kotlin เป็นภาษาที่สร้างโดยบริษัท JetBrains โดยเริ่มแรกมันถูกออกแบบมาเป็นภาษาที่ทำงานบน Java Platform (JVM) และถัดมาคือการทำงานบน Android เป็นแพลตฟอร์มที่สอง ทั้งสองแพลตฟอร์มยังเป็นการคอมไพล์แบบไบต์โค้ดที่รันบน virtual machine อีกทีหนึ่ง
ล่าสุด JetBrains เปิดตัว Kotlin/Native ที่สามารถคอมไพล์ Kotlin เป็นไบนารีโดยตรง โดยยังมีสถานะเป็นรุ่นพรีวิว
ทีมงาน JetBrains ส่งอีเมลถึงผู้ที่ใช้งานให้รีบอัพเดต IDE สาย IntelliJ ของ JetBrains โดยเร็ว แม้ยังไม่มีรายงานการถูกโจมตีผ่านทางช่องโหว่ระดับรุนแรงที่เป็นที่มาของการอัพเดตครั้งนี้ก็ตาม
ช่องโหว่นี้พบในเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มาพร้อม IDE สามารถเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้เทคนิค CSRF (cross-site request forgery) เพื่อเข้าถึงแฟ้มข้อมูลระบบได้ รวมถึงช่องโหว่ในส่วนควบคุม CORS ทำให้เข้าถึง API ภายใน หรือแม้แต่ข้อมูลที่จัดเก็บโดย IDE ได้