ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า LG จะเปิดตัว G4 ปลายเดือนเมษายน ตอนนี้เข้าเดือนเมษายนแล้ว และ LG ก็ทยอยเปิดตัวชิ้นส่วนของ G4 มาทีละส่วน เช่น หน้าจอ QHD รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะใช้กับ G4 ส่วนวันนี้เป็นคิวของ LG UX 4.0 ที่ดูเลขเวอร์ชันแล้วทุกคนคงเดากันได้ว่าใช้กับ G4 เช่นกัน
วิดีโอนี้เป็นภาษาเกาหลีล้วนๆ แต่ดูแค่รูปอย่างเดียวก็น่าจะพอรู้เรื่อง ครึ่งแรกของวิดีโอเป็นการเล่าประวัติ LG UX 1.0-3.0 ที่มีฟีเจอร์นวัตกรรมอย่างการเคาะหน้าจอเพื่อปลดล็อคเครื่อง ส่วนฟีเจอร์ใหม่ของ LG UX 4.0 ที่นำมาโชว์ได้แก่
ก่อนเปิดตัว LG G4 ไม่นาน LG ก็เปิดตัวหน้าจอความละเอียดสูงรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะนำมาใช้กับ LG G4 ซึ่งมาพร้อมกับสามฟีเจอร์ชูโรงที่ให้สีสันสดใสขึ้น และสว่างกว่าหน้าจอความละเอียดสูงอื่นๆ
โดยหน้าจอรุ่นใหม่นี้จะมีขนาด 5.5" ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล มีฟีเจอร์หลักสามอย่าง อันแรกคือรองรับการแสดงผลสีที่กว้างขึ้นถึง 120% ของ sRGB พร้อมกับเทคโนโลยี In-Cell Touch ตัวใหม่ที่ยังไม่บอกว่าเหนือกว่ารุ่นเดิมอย่างไร ปิดท้ายด้วยการเรียงเม็ดคริสตัลในหน้าจอแบบใหม่ที่ป้องกันแสงลอด ทำให้ได้คอนทราสต์สูงกว่าเดิม
ใกล้ถึงคราวเปิดตัวของ LG G4 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของ LG ก็เริ่มมีรายละเอียดสเปคของรุ่นนี้ออกมาบ้างแล้ว โดยหลุดมาจากผลทดสอบใน GFXBench
ผลทดสอบของ LG G4 ที่มาในรหัส LG-F500 (G3 รุ่นขายในเกาหลีใต้ใช้รหัส LG-F400) เผยสเปคของ G4 ซึ่งต่างจากที่คาดการณ์ไว้ โดยใช้ Snapdragon 808 ที่ใช้ซีพียูหกคอร์ (เป็น ARM Cortex-A57 สองคอร์ และ Cortex-A53 สี่คอร์) รวมถึงจีพียู Adreno 418 ที่ประสิทธิภาพระดับใกล้เคียงกับ Adreno 420 ใน Snapdragon 805
สเปคอื่นๆ คือหน่วยความจำภายใน 32GB, แรม 3GB พร้อมหน้าจอความละเอียด 2560x1440 พิกเซล (ไม่ระบุขนาดหน้าจอ) กล้องหลังความละเอียด 16 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 8 เมกะพิกเซล
LG G4 ยังไม่ทันเปิดตัว แต่ Cho Jun-ho ซีอีโอฝ่ายธุรกิจมือถือของ LG ก็ออกมาให้ข้อมูลว่าจะออกมือถือใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปีที่ "เหนือกว่า G series" - Korea Herald
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Korea Herald รายงานข้อมูลวงในว่า LG จะออก phablet จอใหญ่ที่เรียกว่า G4 Note (ชื่อนี้ขอจดเครื่องหมายการค้าในเกาหลีใต้แล้ว) ซึ่งน่าจะหมายถึงมือถือตัวใหม่ที่ Cho Jun-ho พูดถึง - Korea Herald
ที่มา - CNET
หนังสือพิมพ์ The Korea Times รายงานข่าวโดยอ้าง "ผู้บริหารคนหนึ่ง" ของ LG ว่าบริษัทตั้งเป้ายอดขายสมาร์ทโฟน LG G4 ในปีนี้ที่ 10 ล้านเครื่อง และจะเปิดตัวในเดือนเมษายน
ตามข่าวบอกว่า LG นำเสนอข้อมูลและสเปกของ G4 ให้บรรดาโอเปอเรเตอร์ทั่วโลกที่งาน MWC 2015 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แผนการตลาดของ LG จะโหมโปรโมท G4 ในยุโรป เกาหลีใต้ สหรัฐ แต่จะยังไม่เจาะเข้าตลาดจีน อย่างไรก็ตาม บริษัททราบดีว่าจะต้องแข่งกับ Xiaomi อย่างหนัก และพยายามเต็มที่ในการรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้
อินเทลได้เปิดตัว McAfee Mobile Security สำหรับสมาร์ทวอทช์ โดยจะถูกพรีโหลดกับ LG Watch Urbane LTE ตั้งแต่แรก
เมื่อเว็บไซต์ The Verge ถาม Brian Krzanich ซีอีโอของอินเทลว่าทำไมต้องมีซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสำหรับนาฬิกาข้อมือด้วย เขาก็ตอบว่าอุปกรณ์ใดก็ตามที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายก็ควรต้องหวังให้มันได้รับการปกป้องอยู่ตลอดเวลา
ที่มา: The Verge
แหล่งข่าวในจีน GizmoChina รายงานว่า Google อาจร่วมมือผลิต Nexus Phone รุ่นต่อไปกับผู้ผลิตในจีนรายหนึ่ง (GizmoChina คาดว่าจะเป็น Huawei) ซึ่งอาจจะเปิดตัวปลายปีนี้
แหล่งข่าวบอกว่าปีนี้จะมี Nexus สองตัว ตัวแรกผลิตโดย LG ส่วนตัวที่สองบอกเพียงว่าเป็นผู้ผลิตจากจีน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าจะเป็น Huawei และเป็นไปได้ว่ารุ่นที่ผลิตโดยผู้ผลิตจากจีนอาจจะใช้ชิปเซ็ตของตนแทนของ Qualcomm
เว็บไซต์ SlashGear ยังได้รับภาพเครื่อง mock up ของ Huawei Honor 6 Plus มาเป็นจำนวนมาก โดยที่ตัวเครื่องมีการสกรีนแบรนด์ Nexus ไว้บนฝาหลัง อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันจาก Google และ Huawei แต่อย่างใด
หลังจากที่ LG เปิดตัว G Watch Urbane ไปไม่นาน ล่าสุดได้เปิดตัวรุ่นอัพเกรด Urbane LTE แล้ว โดยถึงแม้สเปครวมๆ จะไม่แตกต่างจาก G Watch Urbane แต่ทางด้านฟีเจอร์เรียกได้ว่าอัพเกรดได้ค่อนข้างน่าสนใจเลยครับ
นอกเหนือไปจากฟีเจอร์ของ G Watch Urbane แล้ว รุ่น LTE สามารถโทรออกและรับสายผ่าน VoLTE (Voice over LTE), ระบุตำแหน่งผู้ใช้ผ่าน GPS รวมไปถึงทำธุรกรรมผ่าน NFC ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นทาง LG ยังเปลี่ยนเม็ดมะยมตรงกลางเม็ดเดียว เป็นปุ่ม 3 ปุ่ม ปุ่มบนสำหรับเข้าหน้า Quick Setting ปุ่มกลางสำหรับสลับหน้านาฬิกาและแอพ ปุ่มล่างสุดเป็นปุ่มย้อนกลับ
ไม่ต้องรอให้ถึง MWC ฝั่ง LG ก็จัดการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มารวดเดียว 4 รุ่นรวดสำหรับจับตลาดกลางโดยเฉพาะ อันได้แก่ LG Magna, Spirit, Leon และ Joy ซึ่งมาพร้อมกับ Lollipop ทุกรุ่น
เริ่มกันด้วยรุ่นสเปคสูงสุด Magna มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5" ความละเอียด 720p ซีพียูควอดคอร์ 1.2GHz ไม่ระบุรุ่น (น่าจะเป็น Snapdragon 410) หน่วยความจำภายใน 8GB แรม 1GB โดยการออกแบบจะมาแนวเรียบๆ ใช้ปุ่มบนหน้าจอ และปุ่มเปิดเครื่องด้านหลัง
Ken Hong ผู้บริหารฝ่ายสื่อสารองค์กรของ LG ให้สัมภาษณ์กับเว็บ TrustedReviews ถึงแนวโน้มการออกแบบรูปทรงมือถือว่าคงไม่สามารถเปลี่ยนไปจากนี้ได้มากนัก
ถึงแม้ LG จะมีมือถือที่ใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าอย่าง G Flex 2 มือถือจอโค้ง แต่ Hong ก็บอกว่าการผลิต G Flex 2 มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ ทำให้บริษัทไม่สามารถผลิต G Flex 2 ได้มากนัก ส่วนเทคโนโลยีที่ล้ำไปกว่าปัจจุบันอย่างจอโปร่งใส หรือจอภาพยืดหยุ่นได้ ถือเป็นอนาคตที่น่าสนใจ แต่ตอนนี้มันยังไม่เหมาะสมสำหรับการนำมาผลิตมือถือขายเชิงพาณิชย์
เขาบอกว่าปีนี้เราจะยังไม่ได้เห็นมือถือรูปทรงใหม่ๆ อย่างมือถือที่ดัดงอได้ แต่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าก็น่าจะเป็นไปได้บ้างแล้ว
คู่แข่งร่วมประเทศอย่างแอลจี และซัมซุงยังคงเร่งเครื่องกันแบบหายใจรดต้นคอ หลังจากซัมซุงเพิ่งเปิดตัวชิป Exynos รุ่นใหม่ที่รองรับ 64 บิตไปได้ไม่กี่วัน ทางแอลจีก็ออกมายอมรับแล้วว่ากำลังพัฒนาชิปสำหรับอุปกรณ์พกพาอยู่จริง และจะรองรับ 64 บิตด้วย
ชิปของแอลจีตัวนี้จะมาแทนรุ่นก่อนหน้าที่เคยจะใช้กับ LG G3 ด้วยการจับคู่ซีพียู ARM Cortex-A57 ควอดคอร์ กับ Cortex-A53 ควอดคอร์เข้าด้วยกัน ซึ่งถูกโละแผนไปแล้ว เปลี่ยนเป็นการใช้ซีพียูรุ่นใหม่ Cortex-A72 จับคู่กับ Cortex-A53 แทน โดยเคลมว่าประสิทธิภาพจะเหนือกว่าชิปทั่วไปถึง 50 เท่าด้วยกัน ส่วนฝั่งจีพียูจะใช้ Mali-T800 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่เช่นกัน
หนังสือพิมพ์ Korea Times ของเกาหลีใต้ รายงานข่าววงในค่าย LG ว่าบริษัทตัดสินใจเปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่ LG G4 ในเดือนเมษายน เพื่อหลบคู่แข่ง Galaxy S6 ที่จะเปิดตัวในงาน Mobile World Congress ต้นเดือนมีนาคมนี้
แหล่งข่าวบอกว่าซัมซุงมักเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงในไตรมาสแรกของปี ส่วนแอปเปิลนิยมเปิดตัวในไตรมาสที่สอง ซึ่ง LG ก็พยายามเลือกเปิดตัวมือถือของตัวเองระหว่างนั้นเพื่ออาศัยจังหวะเวลาให้คนสนใจมากขึ้น (LG G3 เปิดตัวเดือนพฤษภาคม)
ส่วนเรื่องซีพียูนั้น ตามข่าวบอกว่า LG ยังเลือกใช้ Qualcomm และถ้าหาก Snapdragon มีปัญหาต้องเลื่อน ก็อาจส่งผลให้ LG ต้องเลื่อนแผนเปิดตัวสินค้าตามไปด้วย
ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ที่เน้นความหรูหราในในชื่อรุ่น LG Watch Urbane อันมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวเรือนทำด้วยโลหะทั้งชิ้น รูปลักษณ์เรียบหรูในสีเงิน และทอง (ดูแล้วน่าจะเป็น Rose Gold) พร้อมกับสายหนังขนาด 22 มม.
G Watch Urbane ใช้สเปคใกล้เคียงกับ G Watch R ทั้งหน้าจอกลม P-OLED ขนาด 1.3" ความละเอียดสูงขึ้นเป็น 320x320 พิกเซล, ซีพียู Snapdragon 400 ความถี่ 1.2GHz, หน่วยความจำภายใน 4GB และแรม 512MB, มีเซนเซอร์จับชีพจร, กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67, แบตเตอรี่จุ 410 mAh และแน่นอนว่ารัน Android Wear ครับ
นอกจากแบรนด์ร่วมสัญชาติอย่างซัมซุงที่ได้นำ Galaxy Note Edge มาโชว์และขายเป็นครั้งแรก (แถมเป็นพระเอกของงาน TME 2015 ซะด้วย) ภายในงาน TME 2015 ค่ายร่วมสัญชาติอย่าง LG ก็ได้นำมือถือใหม่มาโชว์ด้วยเช่นกันสองตัว คือ LG AKA และ LG G Flex 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน CES 2015 ที่ผ่านมาหมาดๆ โดยข่าวนี้ผมจะพูดถึง LG G Flex 2 กันก่อนนะครับ
หลังจากที่คู่แข่งอย่างซัมซุงเปิดตัวอุปกรณ์แว่นตาโลกเสมือนจริงสำหรับใช้ควบคู่กับ Galaxy Note 4 อย่าง Gear VR ไปหมาดๆ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา วันนี้ทาง LG ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เปิดตัว VR for G3 ออกมาแข่งกันบ้าง
จากข่าวลือก่อนหน้าที่ระบุ Snapdragon 810 มีปัญหาความร้อน Galaxy S6 จะใช้ Exynos แทนทั้งหมด ซึ่งทางตัวแทน LG ได้ระบุไว้เมื่อครั้งก่อนว่าไม่มีปัญหานี้ ล่าสุดในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 4 ประจำปี 2014 ที่จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ LG นั้น ทาง LG ได้ออกมายอมรับว่าตัว Snapdragon 810 มีปัญหาความร้อนจริง แต่แก้ไขด้วยการออกแบบให้เย็นลงแล้ว
ขณะที่คู่แข่งร่วมชาติอย่างซัมซุงกำลังอยู่ในช่วงขาลง LG กลับตรงกันข้าม โดยรายได้สุทธิรวมทุกธุรกิจอยู่ที่ 501.4 แสนล้านวอน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 125% กำไรจากการดำเนินการเพิ่มขึ้น 46% ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากฝั่งสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น 16% โดยมียอดส่งมอบสมาร์ทโฟนที่ 59.1 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา
ด้านธุรกิจโทรทัศน์มีกำไรจากการดำเนินการเพิ่มขึ้น 31% ซึ่งเกิดจากความต้องการโทรทัศน์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในยุโรป เครือจักรภพและอเมริกาเหนือ โดย LG ยังคาดว่าโทรทัศน์ไฮเอนด์อย่าง OLED และ Ultra HD จะยังคงเติบโตได้อีก ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
จากข่าวลือเรื่อง LG ขู่ฟ้อง Qualcomm ถ้าทำชิป Snapdragon 810 รุ่นพิเศษให้ซัมซุง ซึ่งมีต้นทางมาจากเว็บไซต์ The Korea Times ล่าสุดทาง LG ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว
Ken Hong ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารของ LG เปิดเผยกรณีดังกล่าว ผ่านทางเว็บไซต์ GSM Arena และ TechRadar ว่า "ข่าวลือที่ว่า LG จะดำเนินการทางกฎหมายกับ Qualcomm นั้นเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นอย่างไม่มีมูลความจริง, ยิ่งเมื่อเห็นแหล่งที่มาของข่าวลือแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากที่คนเชื่อกันอย่างจริงจัง"
ต่อเนื่องจากข่าวที่ว่า Qualcomm จะปรับแต่ง Snapdragon 810 ให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของซัมซุงอย่าง Galaxy S6 ที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันกับชิปรุ่นปกติที่ดูจะมีปัญหาด้านความร้อน ซึ่งเจ้าที่ประกาศใช้ไปก่อนอย่าง LG ดูเหมือนจะไม่พอใจเสียแล้ว
ในงาน CES ที่ผ่านมา LG ได้เปิดตัว G Flex 2 สมาร์ทโฟนจอโค้งที่ใช้ชิป Snapdragon 810 เป็นรุ่นแรกของโลก ซึ่งทางผู้บริหารของ LG ได้ออกมาบอกว่าชิปรุ่นดังกล่าวไม่มีปัญหากับ G Flex 2 แต่อย่างใด ซึ่งถ้าหากว่า Qualcomm ทำชิปรุ่นใหม่ให้กับซัมซุงจริงตามข่าวที่ออกมา LG คงต้องฟ้อง เนื่องจากจะเปิดช่องให้ซัมซุงสามารถเล่นงาน G Flex 2 โดยบอกว่าใช้ชิปรุ่นใหม่กว่าที่ไม่มีปัญหาแล้ว
เกิดอุบัติเหตุในโรงงานผลิตจอภาพของ LG ที่ประเทศเกาหลีใต้ ทำให้ไนโตรเจนรั่วไหลคร่าชีวิตพนักงาน 2 ราย และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงที่กำลังปฏิบัติงานในห้องซึ่งมีไนโตรเจนรั่วไหลเข้ามา โดยไนโตรเจนดังกล่าวเป็นสารที่ใช้เพื่อทำความสะอาดจอภาพในกระบวนการผลิต
โรงงานดังกล่าวถูกเรียกว่า "P8" ตั้งอยู่ในเมือง Paju อยู่ทางเหนือของ Seoul ทำหน้าที่ผลิตหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่สำหรับ TV ซึ่งว่ากันว่านี่เป็นสายการผลิตหน้าจอที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดในโลก
LG กำลังทำการสืบสวนเรื่องอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยถึงตอนนี้ยังไม่มีการประเมินผลกระทบต่อกำลังการผลิตทีวีออกมา
บนเวทีของ Audi ในงาน CES 2015 มีการใช้สมาร์ทวอทช์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการโชว์เทคโนโลยีอย่างการปลดล็อกด้วยนาฬิกาด้วย ซึ่งหลังการเปิดตัวเสร็จสิ้นได้มีนักข่าวไปขอลองเล่นเจ้าสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ และพบว่ามีอะไรมากกว่าที่คิด
อย่างแรกคือสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ผลิตโดย LG และไม่ได้เป็น Android Wear อย่างที่สันนิษฐานกันตอนแรก แต่ใช้ webOS เป็นแกนหลัก จะเรียกว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ตัวแรกที่รัน webOS ก็ว่าได้
เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครสำหรับคู่แข่งร่วมชาติอย่างแอลจี และซัมซุง ที่รายแรกเพิ่งออกมาโชว์สมาร์ทโฟนต้นแบบตัวใหม่ในงาน CES 2015 โดยมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอขอบโค้งได้ทั้งสองด้าน ข่ม Galaxy Note Edge ที่โค้งได้ข้างเดียวกันเห็นๆ
สมาร์ทโฟนรุ่นที่ว่านี้ทำมาเพื่อโชว์ผลงานของหน้าจอ Active Bending OLED ขนาด 6" ที่สเปคอาจยังไม่โดนใจหลายๆ คน เพราะความละเอียดเพียงแค่ 1280x720 พิกเซล แต่ก็ได้ความบางของพาเนลเพียง 0.7 มม. สว่างสูงสุด 300 nits และคอนทราสต์สูงถึง 100,000:1 ตามประสาหน้าจอ OLED
การใช้งานของหน้าจอตัวนี้บนสมาร์ทโฟนรุ่นต้นแบบไม่ต่างจาก Galaxy Note Edge มากนัก หลักๆ คือเอาไว้แสดงผลข้อมูล และเป็นตัวบังคับเสริม ส่วนจะขายจริงเมื่อไร ยังไม่ได้แจ้งมาครับ
ต้อนรับช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา LG ตัดสินใจปรับโลโก้ของตัวเองเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟนเพิ่งเปิดตัวอย่าง LG G Flex 2 ในงาน CES 2015 ครั้งนี้
สำหรับความเปลี่ยนแปลงของโลโก้ใหม่นั้น จุดใหญ่ๆ คือการเปลี่ยนฟอนต์คำว่า LG ไปเป็นฟอนต์ที่ทันสมัยขึ้น และเสียเดือย (spur) ไปแล้ว ในขณะเดียวกันตัวฟอนต์ก็ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ส่วนรูปหน้ายิ้มยังคงอยู่ดังเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
โฆษกของ LG เกาหลีใต้บอกว่าการเปลี่ยนโลโก้ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มการจดจำของตัวแบรนด์ และนำไปใช้ได้มากขึ้น โดยจะเริ่มนำโลโก้ใหม่ไปใส่กับทุกผลิตภัณฑ์ ทุกป้าย นามบัตร รวมถึงอาคารต่างๆ ของ LG ในอนาคต
นอกจาก webOS 2.0 แล้ว ภายในงาน CES 2015 LG ยังมีของใหญ่อีกหลายๆ ชิ้น รวมถึง LG G Flex 2 สมาร์ทโฟนจอโค้งตัวใหม่ที่มีข่าวออกมาเมื่อวันก่อนด้วยครับ
ในแง่การพัฒนา G Flex 2 เดินตามรอยรุ่นเก่าอย่างชัดเจน แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นก็คือ G Flex 2 จะเน้นความโค้งในทุกๆ มุม นอกจากเรื่องจอโค้งอีกด้วย นอกจากนั้น G Flex 2 ยังรองรับแรงกดที่เพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 20% ซึ่งแน่นอนว่าไม่ก่อความเสียหายให้กับตัวเครื่องเหมือนรุ่นเดิมอีกด้วย
สำหรับสเปค LG G Flex 2 ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิป Snapdragon 810 แบบ Octa Core 64 บิต ส่วนลูกเล่นอื่นๆ เรียกได้ว่ายกของ LG G3 มาทั้งหมด ทำให้ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก โดยสเปคละเอียดมีดังต่อไปนี้ครับ
ในงานแถลงข่าวของ LG ที่งาน CES 2015 เช้านี้ LG ประกาศเปิดตัว LG webOS 2.0 รุ่นที่สองของ webOS ที่อยู่ในมือของ LG เป็นรายการแรกของงาน โดยที่ LG ได้ประกาศว่าจะนำ webOS 2.0 มาใช้งานกับสมาร์ททีวีของ LG ในปี 2015 นี้ทั้งหมด ตั้งแต่ตระกูล Smart TV ทั่วไป ไปจนถึงตระกูล OLED TV ครับ
ความสามารถใหม่ของ webOS 2.0 มีเพิ่มเข้ามาไม่กี่อย่าง ซึ่งแบ่งได้ดังนี้ครับ