หลังจากมือถือระเบิดกันไปหลายเครื่อง ผู้ใช้ @dourvaris ได้รายงานใน Medium ของเขาว่า 2015 MacBook Pro Retina ของเขาเกิดระเบิดขึ้น โดยขณะที่เขากำลังนอนเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่บนเตียง ก็พบว่ามีควันและไฟเกิดขึ้นด้านหลังเครื่อง ต้องทิ้งไว้กว่า 1 ชั่วโมงเครื่องจึงจะหายร้อน

เมื่อแกะเครื่องดูก็พบว่าแบตเตอรี่ก้อนหนึ่งบวมและเกิดไฟลุก ทำให้บอร์ดด้านขวาเสียหายทั้งหมดรวมถึง SSD ของเครื่องด้วย

ที่มา: @dourvaris

Google Chrome ได้เริ่มทดสอบการรองรับ Touch Bar บน MacBook Pro แล้ว ใน Chrome 58 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงทดสอบแบบ Canary เวอร์ชัน 58.0.3020.0

เครื่องมือต่าง ๆ ที่ Chrome นำมาลง Touch Bar นั้นยังคงเป็นเพียงแค่ฟีเจอร์พื้นฐานเท่านั้น เช่น ปุ่มย้อนกลับ, ไปข้างหน้า, รีเฟรช, หยุดการโหลด, ช่องพิมพ์ค้นหาหรือ URL, แท็บใหม่ และปุ่มเพิ่มลงบุ๊คมาร์ก ฯลฯ ซึ่งคาดว่าฟีเจอร์นี้น่าจะเปิดใช้งานใน Chrome 58 เวอร์ชันจริงที่มีกำหนดออกในช่วงปลายเดือนเมษายน ส่วนใครที่ต้องการทดสอบก่อน สามารถดาวน์โหลด Chrome Canary มาทดสอบได้ทันที

Microsoft ได้ออกอัพเดต Office for Mac เวอร์ชันใหม่ โดยรอบนี้มาพร้อมกับการรองรับ Touch Bar บน MacBook Pro รุ่นล่าสุด หลังจากที่ได้ประกาศรองรับอย่างเป็นทางการตั้งแต่ตอนเปิดตัว MacBook Pro ใหม่ ๆ และออกรุ่นพรีวิวให้ผู้ใช้ทดสอบกันมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน โดยมีฟีเจอร์คร่าว ๆ เช่น

จอภาพ LG UltraFine 5K ที่เปิดตัวพร้อมกับ MacBook Pro Retina รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อนานนี้ มีการรายงานปัญหาว่าไม่สามารถใช้งานได้เมื่อมีไวไฟเราท์เตอร์ทำงานใกล้กันในระยะ 6.6 ฟุต อาการคือจอจะกระพริบดับมืดไปราววินาทีถึงติดมาใหม่ หรือเมื่อขยับเราท์เตอร์ไปใกล้ จอภาพดับทันที

คำแก้ไขต่อกรณีนี้ล่าสุดจากทาง LG เบื้องต้นระบุว่าให้วางเราท์เตอร์ให้ห่างจากจอเท่านั้น และไม่มีผลกับอาการนี้ในจอรุ่นอื่นครับ

หลัง Consumer Reports นิตยสารรีวิวผลิตภัณฑ์ชื่อดัง ออกผลการทดสอบ MacBook Pro รุ่นว่าไม่แนะนำ เนื่องจากปัญหาแบตเตอรี่ ล่าสุดแอปเปิลเปิดเผยแล้วว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากบั๊กของ Safari ในโหมดนักพัฒนา อย่างเช่นการปิดการเก็บแคชของเบราเซอร์

แอปเปิลระบุว่าวิธีการทดสอบของ Consumer Reports ไม่ได้เป็นวิธีการปกติของการใช้งานทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบจะไม่มีทางเจอบั๊กในลักษณะ โดยหลังเจอปัญหาแล้ว แอปเปิลได้ติดต่อให้ทาง Consumer Reports รันการทดสอบอีกรอบ ก่อนจะพบว่าการใช้งานแบตเตอรีกลับมาเป็นปกติเหมือนที่แอปเปิลอ้าง

ด้าน Consumer Reports ระบุว่าจะทดสอบแบตเตอรีอีกครั้งและพร้อมจะแก้ไขคำแนะนำให้หลังอัพเดตแพทช์

จากกรณี Consumer Reports ไม่แนะนำ MacBook Pro จากปัญหาชั่วโมงแบตเตอรี่ไม่สม่ำเสมอ จนเกิดเสียงวิจารณ์อย่างมาก ทาง Consumer Reports ระบุว่าติดต่อไปยังแอปเปิลเพื่อสอบถามสาเหตุของปัญหา แต่แอปเปิลบอกว่ายังไม่ตอบอะไรจนกว่าจะเข้าใจปัญหาดีก่อน

ล่าสุด Phil Schiller ผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิล โพสต์ข้อมูลผ่านทวิตเตอร์ของเขาเองว่าผลการทดสอบของ Consumer Reports ต่างไปจากข้อมูลการทดสอบที่แอปเปิลมี แต่ก็ระบุว่าแอปเปิลกำลังทำงานร่วมกับ Consumer Reports เพื่อค้นหาสาเหตุของปัญหานี้

Consumer Reports เป็นนิตยสารเพื่อผู้บริโภคที่มีความน่าเชื่อถือสูงมาก ตัวองค์กรไม่หวังผลกำไร และนิตยสารก็ไม่รับโฆษณาใดๆ เพื่อความเป็นกลางของผลการทดสอบ

ถึงแม้เสียงตอบรับต่อ MacBook Pro รุ่นใหม่ของแอปเปิลจะแตกต่างและคละกันไปทั้งแง่บวกแง่ลบ ซึ่งนิตยสารรีวิวผลิตภัณฑ์ชื่อดังอย่าง Consumer Reports ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้า ที่เปิดเผยผลการทดสอบการใช้งาน MacBook Pro ว่าอยู่ในเกณฑ์ไม่ได้รับการแนะนำ เนื่องจากชั่วโมงการใช้งานแบตเตอรี่ไม่สม่ำเสมอ

ระยะหลังเริ่มมีกระแสการตั้งคำถามถึงอนาคตของอุปกรณ์สาย Mac ของแอปเปิลออกมามากมาย จน Tim Cook ต้องออกมายืนยันว่ายังให้ความสำคัญ อย่างน้อยๆ ก็กับ iMac ล่าสุดมีข้อมูลวงในเพิ่มเติมจาก Bloomberg ว่าแท้จริงแล้ว แอปเปิลได้ปรับทิศทางของบริษัท และลดความสำคัญในการพัฒนาอุปกรณ์แมคมาแล้วระยะหนึ่ง

Adobe ได้ออกอัพเดตโปรแกรมแต่งภาพ Photoshop ใหม่ โดยรองรับการใช้งานผ่าน Touch Bar ของ MacBook Pro รุ่นปี 2016 เพื่อช่วยให้การทำงานกับ Photoshop ง่ายขึ้น โดยมีกลุ่มฟังก์ชัน 3 แบบบน Touch Bar ดังนี้

• Layer Properties สามารถเข้าถึงเครื่องมือประเภทจัดการเลเยอร์หรือเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง
• Brush สามารถเข้าถึงเครื่องมือประเภท brush, paint
• Favourite โหมดที่ผู้ใช้ปรับแต่งได้เอง สามารถเลือกนำเครื่องมือที่ต้องการมาใส่ได้

รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน Touch Bar ของ Photoshop สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก Adobe Support

Microsoft ได้ออกรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ Surface ฉบับล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน โดยเผยว่าเป็นช่วงที่มียอดขาย Surface สูงที่สุด

สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งในการประกาศรอบนี้คือ Microsoft บอกว่าผู้ใช้ “ผิดหวัง” กับแลปท็อประดับโปรของ Apple (ซึ่งก็คือ MacBook Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุด) เป็นเหตุจูงใจให้คนหันมาเปลี่ยนเป็น Surface โดยในเดือนพฤศจิกายน ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Mac มาใช้ Surface มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และโครงการ MacBook trade-in program มียอดสูงขึ้นมาก แต่ Microsoft ก็ไม่ได้เผยตัวเลขที่แท้จริงของยอดขาย Surface รวมถึงจำนวน MacBook ที่ถูกนำมาเข้าโครงการดังกล่าว

ในปีนี้ Macbook Pro ได้รับคำวิจารณ์อย่างถล่มทลายในเรื่องของราคาที่เปิดมาค่อนข้างสูง ในขณะที่สเปคที่ไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อนเท่าใดนัก และความแรงของหน่วยเก็บข้อมูลที่เคลมว่าแรงที่สุดในโลก ณ ตอนนี้

ไม่กี่วันก่อนทาง iFixit ได้ถอดเครื่องออกมาแล้วพบว่า MacBook Pro with Touch Bar รุ่น 13 นิ้ว ได้ฝังหน่วยเก็บข้อมูลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดแล้ว ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้จะไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ในอนาคต และได้ให้คะแนนความง่ายในการซ่อมไว้ที่ 1/10

MacBook Pro รุ่นที่มาพร้อม Touch Bar เริ่มส่งมอบให้ผู้ที่สั่งจองแล้ว ขณะที่สื่อไอทีในสหรัฐก็เริ่มปล่อยรีวิวของ MacBook Pro รุ่นใหม่นี้ออกมาบ้างแล้ว

หลายรีวิวชมเป็นเสียงเดียวกัน ถืงดีไซน์ใหม่ของ MacBook Pro ที่แอปเปิลยังคงทำออกมาได้ดีเช่นเคย และที่ดีกว่าเดิมในแง่ของน้ำหนักและความบาง ขณะที่เสียงบ่นก็หนีไม่พ้นพอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) ที่แอปเปิล (บังคับ) ให้มาเร็วเกินความพร้อมของตลาด

สัปดาห์ที่แล้วแอปเปิลเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ที่ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในหลายๆ เรื่อง เช่นการตัดพอร์ต USB แบบปกติออกหมดและแทนด้วย USB-C รวมถึงเอาปุ่ม ESC ออกและให้ใช้ Touch Bar แทน นอกจากนี้ยังตัดช่องเสียบ SD Card ออกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่วงการช่างภาพต้องใช้งานเป็นประจำ

ล่าสุด Phil Schiller ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Independent ว่าแอปเปิลตัดช่องเสียบ SD Card ทิ้งเพราะเวลาเสียบการ์ดเข้าไปแล้วจะมีส่วนท้ายของการ์ดยื่นออกมา ซึ่งแอปเปิลเห็นว่ามันรุงรัง (cumbersome) เขายังยกตัวอย่างสมัยที่ CompactFlash (CF Card) ยังได้รับความนิยมและเป็นช่วงที่ SD Card เริ่มเข้ามามีบทบาท ว่าตอนนั้นแอปเปิลก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง และแอปเปิลก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่ขณะนี้ทุกคนสามารถใช้การ์ดได้ทั้งสองแบบด้วยเครื่องอ่านการ์ดที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สายผลิตภัณฑ์แอปเปิลชื่อดังจาก KGI Securities วิเคราะห์ว่าปีหน้า แอปเปิลน่าจะออก MacBook Pro รุ่น minor change ในช่วงครึ่งหลังของปี 2017

Kuo ระบุว่าแอปเปิลจะเพิ่มตัวเลือกแรม LPDDR4 ขนาด 32GB หากชิปซีพียูโค้ดเนม Canonlake ของ Intel (Kaby Lake ที่ปรับขนาดสถาปัตยกรรมลงเหลือ 10 นาโนเมตร) ออกสู่ตลาดทัน แต่หากไม่ทัน ตัวเลือกแรมของ MacBook Pro ก็น่าจะสูงสุดที่ 16GB เท่าเดิม

ผู้ใช้แมคคงคุ้นเคยกับเสียงดนตรีตอนเปิดเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์มายาวนาน (ใครไม่เคยได้ยิน ฟังได้จากคลิปท้ายข่าว เสียงบูตเครื่องนี้ เป็นสัญญาณว่าการตรวจเช็คระบบหลังเปิดเครื่องผ่านไปด้วยดี และกำลังจะเข้าสู่กระบวนการบูตระบบปฏิบัติการ ) แต่เสียงนี้หายไปแล้วใน MacBook Pro รุ่นใหม่ กลายเป็นความเงียบที่ไม่มีเสียงใดๆ

ของใหม่อีกอย่างที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน MacBook Pro คือมันจะเปิดเครื่องเองทันทีเมื่อเปิดฝาเครื่อง (แม้จะอยู่ในสถานะปิดแบบ shutdown ก็ตาม) ดังนั้นการตัดเสียงบูตออก น่าจะช่วยลดความรำคาญลงได้จากการเปลี่ยนแปลงนี้

ที่มา - Gizmodo, 9to5mac

การเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ล่าสุด ถือเป็นการยุติช่วงเวลาอันยาวนานที่แอปเปิลไม่ได้อัพเดตฮาร์แวร์มานาน 4 ปี 4 เดือน คำถามที่หลายคนสงสัยคือทำไมแอปเปิลถึงทิ้งระยะนานขนาดนี้ ซึ่งเรื่องนี้ Phil Schiller ผู้บริหารด้านการตลาดของแอปเปิล อธิบายไว้ในบทสัมภาษณ์กับ CNET

Schiller บอกว่าแอปเปิลไม่ได้มีเป้าหมายเรื่องกรอบเวลา แนวทางของแอปเปิลคือกระตุ้นให้ทีมสร้างสรรค์ผลงานอันยอดเยี่ยม (do great work) ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้เวลานานถึง 3 ปีด้วยซ้ำ สิ่งที่แอปเปิลแคร์คือสร้างนวัตกรรมให้เครื่องแมค และก็เป็นสิ่งที่แอปเปิลทำมาโดยตลอด

ส่วน Jonathan Ive ก็ให้ข้อมูลว่าทีมของเขาใช้เวลาพัฒนา Touch Bar อยู่นาน 2 ปี และเขายังยืนยันว่าแอปเปิลเลือกจะไม่ทำเครื่องแมคจอสัมผัส เพราะไม่มีประโยชน์มากพอกับผู้ใช้

ช่วงนี้เริ่มมีรายละเอียดของแถบ Touch Bar บน MacBook Pro ตัวใหม่ ออกมามากขึ้น ดังนี้

• แอปเปิลใส่ซีพียูแยกเฉพาะมาสำหรับ Touch Bar และ Touch ID โดยเป็นซีพียู Apple T1 ตัวเดียวกับชิป S2 ใน Apple Watch รุ่นที่สอง
• การเรนเดอร์ภาพบน Touch Bar และการจับอีเวนต์การสัมผัสจอ ทำโดยซีพียูหลักของ MacBook Pro แต่การเรนเดอร์หน้าจอ Apple Pay ทำโดยซีพียู T1
• ตัว Touch Bar รันอยู่บนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันพิเศษที่ดัดแปลงจาก watchOS อีกที
• แนวทางการใช้ซีพียูออกแบบเฉพาะ เป็นแนวทางที่แอปเปิลเริ่มใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เราก็เห็นแอปเปิลใส่ตัว motion coprocessor เข้ามาใน iPhone บ้างแล้ว

ที่มา - TechCrunch

หลังจากที่เมื่อวานมีงานเปิดตัว MacBook Pro ที่มาพร้อมแถบ Touch Bar ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามแอพต่างๆ ที่ใช้ในขณะนั้น ล่าสุด ทางไมโครซอฟท์ออกมาเผยถึงฟีเจอร์ใหม่ของซอฟต์แวร์ Office for Mac ที่จะออกมาเพื่อตอบรับกับ Touch Bar ดังนี้

Touch Bar หรือแถบหน้าจอสัมผัสที่มาแทนที่ปุ่มฟังก์ชัน เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของ MacBook Pro ที่เปิดตัวเมื่อคืน ซึ่งก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า แล้วถ้าเอา MacBook Pro มารันวินโดวส์ผ่าน Boot Camp แถบ Touch Bar จะเป็นอย่างไร

คำถามนี้มีคนส่งอีเมลปถาม Craig Federighi รองประธานฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิลว่า Touch Bar จะกลายเป็นแถบฟังก์ชันตามปกติ หากรัน MacBook Pro ด้วยวินโดวส์ถูกหรือไม่ ซึ่ง Federighi ก็ตอบว่าใช่ อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ MacRumors ระบุว่าไม่กล้าจะยืนยันว่าอีเมลนี้ถูกตอบกลับโดย Federighi จริง 100% แต่ดูจากหัวของอีเมลแล้วก็น่าจะเป็นอีเมลจากแอปเปิลจริง

แอปเปิลเปิดตัว MacBook Pro ใหม่ตามนัด ซึ่งไม่แตกต่างจากที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ พร้อมกับดีไซน์ใหม่ ขนาดที่บางลงและน้ำหนักที่ลดลงกว่าเดิมทั้งรุ่น 13 นิ้วและ 15 นิ้ว

MacBook Pro รุ่นใหม่มาพร้อมหน้าจอกับ Force Touch TrackPad ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 2 เท่า พร้อมด้วยคีย์บอร์ดแบบ butterfly รุ่นที่ 2 ที่แอปเปิลระบุว่ามีการตอบสนองที่ดีกว่าเดิม ส่วนหน้าจอ Retina Display สว่างมากกว่าเดิม 67% มีค่า Contrast Ratio สูงกว่าเดิม 67% รองรับสีมากกว่าเดิม 25% รวมถึงระบบระบายความร้อนและลำโพงก็ได้รับการออกแบบใหม่ด้วย

เว็บไซต์ MacRumors ค้นพบไฟล์ภาพของโน้ตบุ๊ก MacBook Pro รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ถูกเก็บอยู่ในระบบปฏิบัติการ macOS Sierra 10.12.1 รุ่นล่าสุด

ภาพที่เห็นนั้นตรงตามข่าวลือว่าแอปเปิลถอดปุ่ม F1-F12 แถวบนสุดออกไป และเปลี่ยนมันเป็นแถบ OLED จอสัมผัสแทน แถมมันยังรองรับการแสกนนิ้วมือ Touch ID เพื่อจ่ายเงินหรือทำธุรกรรมออนไลน์ได้ด้วย

ส่วนหน้าตาของตัวเครื่องในส่วนอื่นๆ แทบไม่แตกต่างจาก MacBook Pro รุ่นปัจจุบันมากนัก เพียงแต่ยังไม่มีภาพให้เห็นว่าพอร์ตต่างๆ ของเครื่องเป็นอย่างไรบ้าง

ลือกันมาซักพักว่าแอปเปิลจะจัดงานเปิดตัว MacBook Pro ใหม่ในช่วงปลายเดือนนี้ ล่าสุดเว็บไซต์ Recode รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวไม่เปิดเผย ซึ่งได้ยืนยันกับเว็บไซต์ว่าแอปเปิลจะจัดงานในวันที่ 27 ตุลาคมนี้

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถูกคาดกันว่าจะต้องมาแน่ๆ คือ MacBook Pro รุ่นใหม่ที่มี Touch ID และแถวฟังก์ชันด้านบนถูกเปลี่ยนเป็นแถบ touch bar แบบจอ OLED แทน รวมถึง MacBook Air รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมพอร์ต USB-C และ iMac ที่ได้รับการปรับสเปคใหม่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ 2 ตัวหลังนี้ไม่แน่ว่าจะเปิดตัวในวันที่ 27 นี้พร้อมกันเลยหรือไม่ ต้องติดตามต่อไปครับ

ที่มา - Recode

ยังมีข่าวลือออกมาเรื่อยๆ ของ MacBook Pro รุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอยกันอยู่ (เห็นเปลี่ยนใจไปซื้อยี่ห้ออื่นก็เยอะแล้วเหมือนกัน) ล่าสุดเว็บไซต์ MacRumors อ้างข้อมูลวงในว่าแอปเปิลอาจเลือกเปิดตัว MacBook Pro ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้

ตามข่าวบอกว่า MacBook Pro รุ่นใหม่จะใช้จีพียู AMD "Polaris" ในรุ่น 15 นิ้วตัวสเปกสูง, มีตัวสแกนนิ้วมือ Touch ID และตัดแถว Function บนคีย์บอร์ดออก เปลี่ยนมาเป็นแถบ "touch bar" ที่เป็นจอ OLED ตามข่าวลือก่อนหน้านี้

MacRumors บอกว่าตอนนี้แอปเปิลกำลังทดสอบ macOS Sierra 10.12.1 เพื่อให้รองรับฮาร์ดแวร์ของ MacBook Pro และคาดว่าจะออกรุ่น public beta ได้ในสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมให้เป็นระบบปฏิบัติการที่จะโหลดมาพร้อมกับฮาร์ดแวร์จากโรงงาน

สำนักข่าว Bloomberg รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่าแอปเปิลกำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ให้ iPad Pro อย่างเร็วที่สุดปีหน้า ขณะเดียวกันก็เตรียมออกอุปกรณ์ในไลน์ Mac ใหม่ทั้ง iMac, MacBook Air และ MacBook Pro ภายในสิ้นปีนี้

แหล่งข่าวเผยว่า หนึ่งในการอัพเกรด iPad Pro คือฟังก์ชันของ Apple Pencil ที่จะขยายการรองรับการใช้งานกับแอพอื่นๆ มากยิ่งขึ้นในลักษณะเดียวกับบน Galaxy Note ของซัมซุง ซึ่งอาจจะมาพร้อมกับ iOS 10 ที่จะประกาศในงานวันที่ 7 นี้ หรือไม่รอเพิ่มใน iOS รุ่นถัดไป

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวลือของ MacBook Pro รุ่นใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

• ขนาดบางลงจากเดิมเล็กน้อย แต่ก็ไม่บางถึงขนาด MacBook Air
• แทร็คแพดมีขนาดกว้างขึ้นเล็กน้อย
• มีจอที่สอง เป็นจอ OLED ทัชสกรีนใช้แทนปุ่ม function ของคีย์บอร์ด (เหมือนกับ ThinkPad X1 Carbon รุ่นปี 2014) และเป็นปุ่มลัดอย่างกดฟังเพลง หรือ Cut/Paste ได้ด้วย
• มีตัวเลือกใช้จีพียูแรงขึ้น ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มโปรและเกมเมอร์ ตามข่าวบอกเป็น Radeon แต่ไม่ระบุรุ่น
• ปุ่ม Touch ID สแกนนิ้วที่ปุ่ม Power สามารถใช้จ่ายเงินผ่าน Apple Pay ได้
• ใช้พอร์ต USB-C และคาดว่าใช้สีเทา ทอง เงิน เหมือนกับที่ใช้ใน iPhone