ไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะไม่ทำ Virtual PC for Mac ต่อ ด้วยเหตุผลสองประการ อย่างแรกไมโครซอฟท์บอกว่าการสร้าง Virtual PC สำหรับ Intel Mac นั้นเหมือนกับการเขียนขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ส่วนอย่างที่สองก็คือคู่แข่งในเรื่อง Virtualization บนเครื่องแมค ที่มีทั้ง Parallels, VMWare (เพิ่งประกาศใน WWDC) และรวมถึง Boot Camp ของแอปเปิลเอง
ออราเคิลได้ปล่อยเครื่องมือพัฒนาสำหรับชาว .NET ออกมาใหม่ 2 ตัวครับ ประกอบด้วย
แม้ว่าออราเคิลจะหากินกับ Java มายาวนาน แต่ด้วยจำนวนนักพัฒนา .NET ที่มากขึ้น ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีกว่าเปิดรับทั้ง 2 ฝ่าย ให้ใช้ Oracle 10g กันเยอะๆ ครับ
หลังจากไมโครซอฟท์ได้ทำการประกาศชื่อของ IE ในวินโดวส์วิสต้าว่า "Internet Explorer 7+" เพื่อที่จะให้แตกต่างจาก "Internet Explorer 7" บนวินโดวส์เอ็กซ์พีมาได้พักนึงแล้ว
แต่เนื่องจากว่าคงจะแยกแยะได้ไม่ชัดเจนพอไมโครซอฟท์จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อของ Internet Explorer 7 ทั้งสองเวอร์ชันบนวินโดวส์วิสต้าและวินโดวส์เอ็กซ์พีให้เป็น
ในวินโดวส์ XP ที่ฟีเจอร์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือการทำ Volume Shadow ไว้ที่ไดรฟ์อื่นๆ เพื่อให้ไฟล์ของเราได้ไม่เสียหายจากการทำงานผิดพลาด ข้อเสียของระบบนี้คือเซ็ตอัพค่อนข้างยากและวุ่นวาย แต่ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เื่มื่อวิสต้าจะมีการรวมเอาการเก็บเวอร์ชั่นของไฟล์เข้าไว้ในตัว ให้ผู้ใช้สามารถเรียกเอาเวอร์ชั่นของไฟล์เก่าๆ ที่ได้แก้ไขไว้ก่อนหน้ากลับมาได้เรื่อยๆ
ระบบที่ว่านี้ไม่ได้เข้ามาแทนที่ระบบอย่างพวก Version Control แต่อย่างใด แต่การใช้งานที่ง่าย อาจจะทำให้เหล่าโปรแกรมเมอร์ขี้เกียจใช้ Version Control กันเพิ่มขึ้น
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้จัดงานสาธิตระบบจดจำเสียง (Voice Recognition) ของวินโดวส์ วิสต้า แต่แล้วงานก็ล่มไม่เป็นท่า เพราะโปรแกรมเจ้ากรรม ได้ทำงานผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย อย่างเช่น คำว่า "Dear Mom (comma)" โปรแกรมได้แปลเป็น "Dear Aunt,"
ทางไมโครซอฟท์ได้ออกมาอ้างว่าสาเหตุที่ระบบมันไม่ทำงานนั้น ก็เพราะเสียงรบกวนในห้อง แต่ก็อย่างที่เห็น เมื่อผู้สาธิตพูดว่า "Select All" โปรแกรมก็ได้ยินถูกต้อง "Select All" แต่แทนที่จะเป็นการเลือกตัวอักษรทั้งหมด ตัวโปรแกรมก็เขียนคำว่า "Select All" ลงไป
ในเมื่อ OLPC (ชื่อโครงการแล็ปท็อปร้อยเหรียญ) ใช้ชิปเอเอ็มดีและลินุกซ์ การที่อินเทลกับไมโครซอฟท์จะออกมาบอกว่าโครงการนี้ต้องเจ๊ง จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก และทั้งสองบริษัทก็นำเสนอตัวแทน "ที่ดีกว่า" กันทั้งคู่ ทางอินเทลเปิดตัวโน้ตบุ๊คราคาถูก (ที่เอาเข้าจริงราคาประมาณ 400 เหรียญ) ส่วนไมโครซอฟท์ก็มี UMPC (Origami) และ FonePlus นี้
แฟนๆ จาวาอย่าเพิ่งมาโกรธผมนะครับ อันนี้เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ Bob Muglia รองประธานฝ่าย Server and Tools business ของไมโครซอฟท์เอง จะออกมาแนวๆ นี้คงไม่น่าแปลกใจมากนัก
Muglia พูดถึงแผนด้านซอฟต์แวร์สายนักพัฒนาของบริษัทในอนาคต เขาบอกว่า .NET ใช้เวลา 5 ปีที่ผ่านมาเอาชนะ Java EE และกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ตลาดองค์กรเลือก โดยช่วงแรกๆ .NET มีส่วนแบ่ง 25% แต่ตอนนี้มีถึง 60% แล้ว
หลังจากได้มีการเขียนถึง 5 สิ่งที่ลินุกซ์ควรเรียนรู้จากไมโครซอพท์ ไปแล้ว คุณ Steven J. Vaughan-Nichols ก็ได้เขียนใน Linux-Watch เกี่ยวกับ 5 สิ่งที่ไมโครซอฟท์ควรจะเรียนรู้จากลินุกซ์ครับ
มาอีกแล้วครับของฟรีจากไมโครซอฟท์ หลังจากที่ได้ค่อยๆ ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวโหลดผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้ฟรี ครานี้ถึงคีลของ Library ของนักพัฒนาที่หลายๆ ท่านใน Blognone ยืนยันว่าเป็น Library ที่ดีที่สุดสำหรับนักพัฒนา ซึ่งก็คือ MSDN Library
โดยทางไมโครซอฟท์ได้แจ้งว่า MSDN Library ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2549 เป็นต้นไปจะสามารถโหลดได้ฟรี โดยจะประกอบด้วยไฟล์ .iso 3 ไฟล์ ไฟล์ละประมาณ 700 MB (ซีดี 3 แผ่น)
ดาวโหลดกันได้ตั้งแต่วันนี้ ที่นี่
สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์บอกว่าจะพยายามออกวินโดวส์รุ่นถัดๆ ไปให้เร็วขึ้น หลังจากที่ต้องใช้เวลาถึง 5 ปีในการออก Vista ถ้านับจากการออก XP ในปี 2001
บอลเมอร์ยังไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไรของวินโดวส์ตัวถัดไปที่ชื่อเล่นว่า "Vienna" แต่ถึงแม้จะบอกว่าอยากออกเร็วขึ้น เขาก็ยังระบุว่าระยะเวลาย่อมต้องมีหลักเป็นปีเช่นเดิม
Gary Schare หัวหน้าฝ่าย IE ของไมโครซอฟท์ออกมาประกาศว่า ไมโครซอฟท์จะส่ง IE7 ให้กับผู้ใช้ผ่านทาง Windows Update โดยมีระดับความสำคัญระดับ "high priority" เลยทีเดียว สำหรับผู้ใช้ในบริษัทที่ยังไม่ต้องการอัพเดต IE ก็มีโปรแกรมเสริม Internet Explorer 7 Blocker Toolkit มาใช้บล็อกเพื่อให้ฝ่ายไอทีทำการอัพเดตเองได้
การจัดให้ผ่าน Windows Update นี้ถูกคาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้จำนวนมากอัพเป็น IE7 ทันทีเมื่อได้รับการแจ้งเตือน ฉะนั้นใครทำเว็บไซต์ที่เข้าด้วยเบราว์เซอร์อื่น ๆ ไม่ได้ นอกจาก IE6 ก็ควรจะเตรียมตัว
ถึงจะดูเงียบๆ ในบ้านเรา แต่หลังวางจำหน่ายได้ 3 ไตรมาส ตัวเลขยอดขาย Xbox 360 ขึ้นไปแตะ 5 ล้านเครื่องเรียบร้อย
โดยไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 06 (นับถึงสิ้นเดือนกรกฎา) ไมโครซอฟท์ขายไปได้อีก 1.8 ล้านเครื่อง ถือว่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 1.5 ล้านเครื่องในไตรมาสที่เริ่มขาย และ 1.7 ล้านในไตรมาสถัดมา (แต่ต้องอย่าลืมว่าตอนแรกเครื่องขาดตลาด) ถ้าแบ่งตามภูมิภาคแล้ว 1.8 ล้านเครื่องมาจากอเมริกา 9 แสนเครื่อง, ยุโรป 5 แสน และญี่ปุ่นแสนเดียว
ไมโครซอฟท์ตั้งเป้าว่าจะขายให้ได้ 10 ล้านเครื่องก่อน PS3 จะวางขายในวันที่ 17 พ.ย. นี้ ซึ่งออกจะยากไปซักนิด
คุณ Paul Thurrot กับคุณ Steven J. Vaughan-Nichols เขียนใน Linux-Watch ถึง 5 สิ่งที่ Linux ควรเรียนรู้จากไมโครซอพท์และนำมาปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นดังนี้ครับ
กระแส Virtualization ยังแรงจนหยุดไม่อยู่ หลังจากที่ไมโครซอฟท์ประกาศก่อนหน้านี้ว่า Windows Longhorn จะอนุญาตให้ติดตั้งได้ถึง 4 virtual machine ในการซื้อครั้งเดียว ในตอนนี้ไมโครซอฟท์ก็สร้างความประหลาดใจอีกครั้ง ด้วยการจับมือกับ XenSource ที่เป็นเป็นจ้าวเทคโนโลยี Virtualization บนลินุกซ์อยู่ในตอนนี้
ไม่มีการแถลงการแน่ชัดว่าการจับมือกันครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอะไรกันบ้าง แต่ที่คาดการกันคือ Longhorn อาจจะรองรับลินุกซ์ได้ในตัว โดยก่อนหน้านี้ ทางด้าน Xen นั้นสามารถรันวินโดวส์และลินุกซ์ได้อยู่ก่อนแล้ว
สำหรับผู้ใช้ Eclipse และต้องการใช้ระบบควบคุมเวอร์ชั่นของ Microsoft Visual Studio 2005 Team Foundation Server ตอนนี้มีปลั๊กอิน Teamprise Client Suite ออกมารองรับแ้ล้วครับ
ที่มาของปลั๊กอินตัวนีืก็คือปัจจุบันหลายๆ บริษัทนั้นมีทั้งพัฒนาด้วย .NET และ Java กันทั้งคู่ จึงทำปลั้๊กอินนี้ออกมาขาย เพื่อที่จะใช้ Team Foundation Server จัดการตัวเดียวเลย ไม่ต้องแยกระบบกัน โดยเขียนปลั๊กอินด้วย Java(ใช้ SWT) สนับสนุน Eclipse 3.0 และ 3.1 สนนราคาอยู่ที่ $499 ต่อ 1 ผู้ใช้ครับ
ช่วงนี้ทั้ง Office 2007 และ Vista เริ่มเข้าสู่สถานะสุดท้ายใกล้ออก ข่าวเล็กๆ น้อยๆ เลยออกมาเยอะตาม คราวนี้เป็นเรื่องของ artwork ที่ใช้ในทั้งสองโปรแกรมครับ
Office 2007 จะมีไอคอนชุดใหม่ คอนเซปต์หลักและสียังคล้ายกับของ Office 2003 แต่รูปแบบเปลี่ยนไปนิดหน่อย ผมว่าสวยดีนะ (ลิงก์) นอกจากนี้ยังมีธีมสีเพิ่มเป็น 3 แบบ จากที่เคยมีสีฟ้าเพียงอันเดียว จะมีสีดำกับสีเท่าเพิ่มเข้ามาด้วย (ลิงก์)
ไมโครซอฟท์คงทนไม่ได้ที่เครื่องเล่นเพลงพกพายี่ห้อต่างๆ ที่ใช้ระบบ DRM แบบ PlayForSure ของตัวเอง ไม่สามารถต่อกรกับ iPod/FairPlay ได้ ทางออกก็คือออกเครื่องยี่ห้อไมโครซอฟท์เองซะเลย
Project Argo หรือชื่อจริง "Zune" ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่ข่าวลือที่ออกมามากมายระบุว่า มันจะใช้ซีพียู 400MHz บนระบบปฏิบัติการ Windows Mobile, ฮาร์ดดิสก์ 30GB และมี WiFi ในตัว มีปุ่มควบคุมคล้ายๆ กับ Click Wheel ของ iPod และสามารถเล่นเกมระบบของ BREW (แบบเดียวกับ Hutch บ้านเรา) ได้
ไมโครซอฟท์ออกวินโดวส์ตัวใหม่สำหรับ thin-client ชื่อเต็มๆ ของมันคือ "Windows Fundamentals for Legacy PCs" (อาจเรียกย่อเป็น WinFLP หรือ Windows Fundamentals ก็ได้)
WinFLP เป็น XP เวอร์ชันตัดความสามารถให้เหลือแต่ส่วนที่จำเป็นในการบูตฮาร์ดแวร์ขึ้นมา (และการจัดการอีกเล็กน้อย เช่น Windows Update หรือ Firewall) ส่วนการทำงานต่างๆ จะใช้ผ่าน Remote Desktop ไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นหลัก กลุ่มเป้าหมายของ WinFLP คือองค์กรที่มีฮาร์ดแวร์เก่า และไม่มีแผนจะอัพเกรดเครื่องเหล่านี้
หลังๆ มานี้ความร้อนแรงของสงครามระหว่างไมโครซอฟท์และกูเกิลดูเหมือนจะระอุขึ้นทุกวินาที แม้บิล เกตต์จะเคยระบุว่าคู่แข่งหลักที่แท้จริงของไมโครซอฟท์คือไอบีเอ็มก็ตาม เมื่อวานนี้ Kevin Turner, COO ของไมโครซอฟท์ ก็ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่า ตลาดการค้นหาเอกสารในองค์กรนั้นเป็นตลาดของไมโครซอฟท์ และไมโครซอฟท์จะไม่ยอมให้กูเกิลมาช่วงชิงเอาไป
พร้อมกับการพูดนี้ Kevin ยังระบุว่าไมโครซอฟท์กำลังเตรียมวางตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อการค้นหาเอกสารในองค์กรในไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนทางด้านกูเกิลนั้นวางตลาด Google Search Appilance มาค่อนข้างนานแล้ว
การแข่งขันในเทคโนโลยี Virtualization เริ่มระอุขึ้นเรื่อยๆ โดยในตอนนี้ผู้แข่งขันหลักๆ สามเจ้าคงเป็นเป็น VMware, ไมโครซอฟท์ และ Xen ทางด้าน Xen นั้นฟรีอยู่แล้วเนื่องจากเป็นโอเพนซอร์ส งานนี้ไมโครซอฟท์และ VMware เลยยอมไม่ได้ ในวันเดียวกันเลยมีสองเทคโนโลยีออกมาให้เราใช้กันฟรีๆ คือ VMware Server และ Virtual PC 2004
VMware Server นั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นตัวเพิ่มความสามารถจาก VMware Player ที่ฟรีไปก่อนหน้านี้แล้ว ความสามารถที่เพิ่มมาก็เช่นการรองรับ SMP ทำให้ัตัว guest OS มองเห็นซีพียูได้หลายชุด หรือจะเป็นการจัดการผ่านเว็บ
จากบล็อกของทีมงาน MSN Spaces ได้ประกาศถึงการมาของ Windows Live Spaces โดยมีความสามารถที่เปลี่ยนไปหลายอย่าง เช่น Friends Explorer สำหรับแสดงรายชื่อเพื่อน โดยได้รวมเอา Windows Live Messenger เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังสามารถตกแต่ง Spaces ด้วยอ็อบเจ็กต่างๆ จาก Windows Live Gadgets อีกด้วย ตัวอย่าง
ที่มา - The official Spaces Team blog
หลังจากโดนเรียกร้องในต่างประเทศที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ไมโครซอฟท์ยอมถอยอีกก้าว ด้วยการประกาศให้การสนับสนุนโครงการโปรแกรมแปลงจาก Open XML ของไมโครซอฟท์ไปยังไฟล์ ODF
โปรแกรมดังกล่้าวพัฒนาขึ้นโดยบริษัทพันธมิตรของไมโครซอฟท์ที่เคยเป็นข่าวลือเมื่อนานมาแล้ว โดยตัวโปรแกรมจะอยู่บน SourceForge และใช้ไลเซนส์แบบ BSD
อย่างไรก็ตามไมโครซอฟท์ปฏิเสธที่จะรองรับไฟล์ ODF จากตัวโปรแกรมโดยตรง โดยระบุว่าความต้องการของลูกค้าไม่มากพอ พร้อมกับระบุว่าเนื่องจากความแตกต่างระหว่างฟอร์แมต โปรแกรมแปลงที่ว่านี้จึงยังขาดความสมบูรณ์ไปบ้าง
Microsoft Pre-Release Software Microsoft .NET Framework 3.0 CTP ออกมาให้นักพัฒนาได้ดาวน์โหลดไปลองเล่นและทดสอบกันดูแล้วครับ
หลังจากเป็นเรื่องเป็นราวกัน ไมโครซอฟท์ก็ออกมาก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือก่อนหน้านี้ว่า ผู้ใช้ที่ไม่ยอมลง WGA อาจจะเข้าวินโดวส์ไม่ได้ในอนาคต พร้่อมกับระบุว่าในวินโดวส์วิสต้า ความปลอดภัยจะสูงขึ้นกว่าในเวลานี้
WGA เป็นโปรแกรมตรวจสอบว่าวินโดวส์ในเครื่องที่ลงโปรแกรมนี้ เป็นวินโดวส์ที่ถูกลิขสิทธิ์หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามโปรแกรมนี้มักทำงานผิดพลาดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากในปัจจุบันไมโครซอฟท์ยอมให้ลูกค้าระดับองค์กรใช้ ไลเซนส์เดียวกันทั้งองค์กรได้
ตั้งแต่ปีที่แล้ว เวลาเราจะโหลดโปรแกรมใหม่ๆ จากไมโครซอฟท์ เราคงได้เห็นตรา WGA หรืือ Windows Genuine Advantage กันมาบ้าง โดยหลักๆ มันคือโปรแกรมที่ไมโครซอฟท์ขอลงที่เครื่องของเรา เพื่อตรวจสอบว่าวินโดวส์ที่เราใช้นั้นเป็นของแท้จากทางไมโครซอฟท์